โคลงเคลงตามเพลง

บางครั้งได้ฟังเพลง แล้วอยากเขียนโคลงตามไป บ้างไหมคะ

Blog นี้ นอกจากจะเก็บโคลงที่เคยเขียนตามเพลงในอาศรมชาวโคลงแล้ว

ยังเชิญชวนให้เพื่อน ๆ ลองมาเขียนโคลงตามเพลงกันค่ะ



มองท้องฟ้าค่ำนี้...............ดารา งามเอย
จิตกระหวัดถึงขวัญตา............พักตร์พริ้ม
สารส่งผ่านจันทรา...............ตะวันอีก นาแม่
ขอแม่เพียงแย้มยิ้ม.............ชิดใกล้ยามฝัน ๚

[ 14 มิ.ย. 2547 22:06:18 น. ]



คิดถึงพี่ไหม

ประพันธ์: ครูไพบูลย์ บุตรขัน
ขับร้อง: ศรคีรี ศรีประจวบ

คิดถึงพี่หน่อย นะกลอยใจพี่
ห่างกันอย่างนี้ น้องคิดถึงพี่บ้างไหม

อย่าลืมอย่าลืม อย่าลืมสัจจา สัญญาที่ให้
ว่าตัวห่างไกล หัวใจชิดกัน

คิดถึงพี่ก่อน น้องนอนก็ได้
เมื่อยามหลับไหล น้องเจ้าจะได้นอนฝัน

ข้างขึ้นเมื่อใดแก้วใจโปรดมอง แสงของนวลจันทร์
เราสบตากัน ในแสงเรื่อเรือง

คืนไหนข้างแรม ฟ้าแซมดารา
น้องจงมองหา ดาวประจำเมือง

ทุกคืนเราจ้องดูเดือนดาว ทุกคราวเราฝันเห็นกันเนืองเนือง
ถึง สุดมุมเมือง ไม่ไกล

คิดถึงพี่หน่อย นะกลอยใจเจ้า
พี่ตรมพี่เหงา เพราะคิดถึงเจ้าเชื่อไหม

ฝากใจกับจันทร์ฝากฝันกับดาว ทุกคราวก็ได้
เราต่างสุขใจ เมื่อคิดถึงกัน





 

Create Date : 16 สิงหาคม 2548   
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2549 2:16:01 น.   
Counter : 1645 Pageviews.  

กลอน ๒

เนื่องจาก Blog กลอนอันข้างล่างนี้
มีความคิดเห็นใกล้จะเต็มร้อยแล้วค่ะ
จึงขอขึ้น Blog กลอนอันใหม่
โดยให้ชื่อว่า Blog กลอน ๒

โดยประเดิมกลอนที่เขียนเล่น ๆ ถึงเพื่อนก่อนเพื่อนค่ะ
ขอเชิญเพื่อน ๆ ร่วมวางกลอนกันได้ตามอัธยาศัยค่ะ



เขียนถึงเพื่อน

คำโบราณ ...

"เพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา
ดั่งเม็ดเกลือนิดน้อยด้อยราคา
ยังดีกว่าน้ำเค็มเต็มทะเล"

เพื่อนดีมีหนึ่งไม่ถึงร้อย
ดีกว่าคอยเพื่อนกินรินให้เป๋
เพื่อนเที่ยวชอบสนุกมุขฮาเฮ
เพื่อนเกเรหากไม่ดีอย่ามีเลย





 

Create Date : 11 สิงหาคม 2548   
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2549 2:16:17 น.   
Counter : 1094 Pageviews.  

เขียนถึงแม่

พระคุณแม่

คำโบราณ ...

"พระคุณแม่เลิศฟ้ามหาสมุทร
พระคุณแม่สูงสุดมหาศาล
พระคุณแม่เลิศฟ้าสุธาธาร
พระคุณแม่ไหนเปรียบปานเป็นไม่มี"

เพราะคุณแม่เลี้ยงแต่เด็กจนเติบใหญ่
เพราะแม่ให้ค่าน้ำนมสมศักดิ์ศรี
เพราะคุณแม่มากล้นท้นทวี
เพราะแม่นี้ให้ลูกหมดยากทดแทน

พระคุณแม่จุนค้ำเลิศล้ำค่า
พระคุณแม่เมตตาเกินหมื่นแสน
พระคุณแม่ยิ่งใหญ่ในสามแดน
พระคุณแม่สองแขนดุจดาวเดือน

เพราะคุณแม่ยากกลบทดแทนได้
เพราะคุณแม่หาใครใช่จะเหมือน
เพราะคุณแม่ตรึงใจยากลบเลือน
เพราะแม่เตือนสิ่งต่างต่างล้วนสร้างฅน





 

Create Date : 11 สิงหาคม 2548   
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2549 2:16:36 น.   
Counter : 1048 Pageviews.  

อาขยาน

สมัยเด็ก ๆ เคยท่องอาขยานกันไหมคะ

ไม้ม้วน

ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่
ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ
ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ
มิหลงใหลใครขอดู

จะใคร่ลงเรือใบ
ดูน้ำใสและปลาปู
สิ่งใดอยู่ในตู้
มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียง

บ้าใบ้ถือใยบัว
หูตามัวมาใกล้เคียง
เล่าท่องอย่าละเลี่ยง
ยี่สิบม้วนจำจงดี




 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2548   
Last Update : 26 กรกฎาคม 2548 23:31:00 น.   
Counter : 3571 Pageviews.  

เพลงฉ่อย



Blog นี้ไว้สำหรับเก็บตก
เพลงฉ่อยที่เคยร้องเล่นมาค่ะ

ท่านใดอยากร่วมร้องรำด้วย
ยินดีค่ะ



ฉันทลักษณ์และตัวอย่างเพลงฉ่อยค่ะ


ตัวอย่างเพลงฉ่อย


- ๑ -
ลูกขอยกมือขึ้นเหนือเศียร..........ต่างธูปต่างเทียนวันทา
จะไหว้พระพุทธ์เลิศล้ำ.............จะไหว้พระธรรมเลิศหล้า
จะไหว้พระสงฆ์องค์สามารถ...........ทรงพุทธศาสน์สืบมา
จะไหว้คุณครูผู้สั่งสอน............อีกทั้งบิดรมารดา


- ๒ -

ต้นเต็งเป็นแถวต้นแต้วเป็นทิว...........กาหลงสูงลิ่วเรียงราย
ข่อยคูนแคคางเคียงข้างไข่เน่า...........ไกรกร่างกันเกราหว้าหวาย
ขานางยางยูงไทรย้อยรากยาว...............มะต้องทองกวาวเขลงขลาย
ชมไม้ปลายฝนลมพัดโบก....................ลมหนาวมันโกรกไม่วาย


- ๓ -

โอ้ว่ากรรมเอ๋ยกรรมกรรม..............ไม่รู้เลยจะทําอย่างไร
ถ้าเป็นกำกงหรือกำเกวียน.............หักแล้วเปลี่ยนกำใหม่
ถ้าเป็นกำมือหรือกำหมัด..............กำแล้วก็ยังรัดออกได้
โอ้นี่มันเป็นกรรมคน.................หักแล้วจึงจนหัวใจ


ข้อบัญญัติในการเแต่งเพลงฉ่อย

๑. แต่ละวรรดของการเขียน จะใช้คำ ๖ คำ ถึง ๙ คำ

๒. เพราะเหตุเป็นกลอนเพลง หรือกลอนว่าปากเปล่า โดยอาศัยปฏิภาณเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้น จึงกำหนดคำในวรรคแน่นอนทีเดียวไม่ได้ เวลาร้องถ้าใช้คำน้อยก็จะต้องเอื้อนยาว หากใช้คำมากให้เอื้อนสั้น และบทหนึ่งจะยาวเท่าไหร่ก็ได้ เมื่อว่ามาจนจะจบบทแล้ว ลูกคู่รับพร้อมกันว่า " ชา ฉา ชา ฉาด ชา หน่อย แม่ " แต่หากเป็นบทไหว้ครูลูกคู่จะต้องว่าสองวรรคสุดท้ายทวนอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงรับด้วย " ชา ฉา ชา ฉาด ชา หน่อย แม่ " ทีหลัง

๓. คำสุดท้ายของวรรคหน้า จะต้องสัมผัสกับคำที่ ๔ หรือคำที่ ๕ ของวรรคหลัง และคำสุดท้ายของวรรคหลังทุกวรรค จะต้องสัมผัสกันตั้งแต่ต้นจนจบ ( ดังตัวอย่างข้างต้น )

๔. เพลงฉ่อยเป็นเพลงที่ว่าแก้กันระหว่างชายหญิง บางทีบางท่านก็เรียกว่า เพลงวง เพราะเวลาเล่นจะต้องยืนล้อมวงกันเล่น พ่อเพลงและแม่เพลงจะต้องอยู่หัวแถว ลูกคู่ที่ยืนถัดมา เรียกว่า คอสอง คอสาม ฯลฯ ตามลำดับ เวลาเล่นขยับเท้าช้า ๆ หมุนไปรอย ๆ


คัดลอกจาก

//www.thaipoet.org/poemkrong14.html



มาร้องมารำ ละเล่นเพลงฉ่อย..............แต่ว่ากลัวจะกร่อย ไม่อร่อยไป
เล่นได้หลายแบบ และหลายรส...............ด้นต่อกลอนสด ให้สุขใจ
วันนี้ฤกษ์ดี เรามาร่วมรักษ์............เชิญคุณซอมฯ พิทักษ์ ของไทยไทย
จะร้องหรือจะรำ ก็ว่ากันต่อ.............เชิญทุกท่านหัวร่อ อ่านกันใหม่
อ่านแล้วนั่นก็อาจ จะไม่มันส์...........เชิญมาร่วมลงขัน ประชันไหม
ขยับแข้งขยับขา ให้กระฉับกระเฉง.........พ่อเพลงแม่เพลง สู้สุดใจ
พี่น้องผองเพื่อน ร่วมกันฮา.............ขออย่ารอช้า บรรเลงไวไว

เอชา..เอ้ชา..ชา ชาชา หน่อยแม่.....

[ 8 เม.ย. 47 17:17:02 ]





 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2548   
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2549 2:16:58 น.   
Counter : 8013 Pageviews.  

1  2  

รสา รสา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add รสา รสา's blog to your web]