Group Blog
 
All blogs
 
สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge on the River Khwae)

ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้ายประมาณ 400 เมตร มีป้ายชี้บอกทางไว้ชัดเจน เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คนและกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดียอีกจำนวนมากมาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนการขาดแคลนอาหารทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง



นอกจากนี้ ที่สะพานข้ามแม่น้ำแควมีบริการรถราง Fairmong ทุกวัน โดยวันธรรมดาจะมีตั้งแต่เวลา 08.00-19.30 น., 11.20-14.00 น., 15.00-16.00 น., และ 18.00-18.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-09.30 น., 11.20-14.00 น., และ18.00-18.30 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3451 1200, 0 3451 2500

ที่มา: คลิกที่นี่

The Bridge on the River Khwae (the Death Railway Bridge)
Thanks to several films and books, the Bridge on the River Khwae has become notoriously famous and attracted both Thais and foreigners to the site. If an ordinary black iron bridge can tell a story, you can be sure it's a dramatic one.

The bridge spans across Maenam Khwae Yai which is a branch of Maenam Mae Klong. During the Japanese occupation of Thailand in World War II, the Japanese Imperial Army brought the iron bridge from Java. It was then resembled by Allied Prisoners of War (POW) under Japanese supervision. The bridge was part of a strategic railway route to Myanmar in which the Japanese aimed to secure supplies with which to conquer other western Asian countries. It was 415 kilometers long (about 303 kilometers in Thailand and about 112 kilometers in Burma) and passed through the Three Pagoda Pass in Sangkhlaburi District, the northern most part of Kanchanaburi province.

Construction started on September 16, 1942 at Nong Pladuk, and was completed on 25 December 1943. It is estimated that over 16,000 POWs from England, Australia, Holland and America died while building the bridge which was a target of bombing raids in 1945. In addition to this, approximate 90,000 laborers from Thailand, Myanmar, Malaysia and Indonesia died during its construction.

Rebuilt after WWII, the bridge is still in use today with the curved portions of the bridge being that of the original. An attraction of note is the annual light and sound event at the bridge to commemorate the Allied attack in 1945.

The railway currently ends at Ban Tha Sao or Namtok Station, a distance of some 77 km. from Kanchanaburi Station. A special train running from Bangkok to Namtok Station is available on weekends and national holidays. For further details, please contact the State Railway of Thailand, Tel. 0 1690, 0 2220 4334 or //www.railway.co.th.

source: click here

picture

















มีรถไฟที่จอดโชว์อยู่บริเวณเดียวกับสถานีรถไฟสะพานแควใหญ่ครับ แต่ไม่รู้ประวัติศาสตร์มีที่มาที่ไปอย่างไร








Create Date : 03 พฤษภาคม 2552
Last Update : 3 มิถุนายน 2552 7:30:05 น. 1 comments
Counter : 1485 Pageviews.

 
ไปให้ไกลอีกนิดดิ อะ เอานี่มาฝาก เผื่อไปอีก ข้อมูลใหม่มากๆขอบอกๆ

แจ้งข่าวออกไป เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกการท่องเที่ยวไทยให้หันมาสนใจทองผาภูมิบ้าง

ทองผาภูมิ กาญจนบุรี มิใช่ ณ ชายแดนปิล๊อกบ้านป้าเกล็นแห่งเดียว( //www.parglen.com )แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเที่ยวได้ทั้งปี ตั้งแต่เขาเขตทองผาภูมิก็มีวัดท่านมิตสุโอะ น้ำตกผาตาด น้ำพุร้อนหินดาด น้ำตกผาสวรรค์ ขี่ช้างล่องแพลิ่นถิ่น มีโฮมสเตย์ของนักทำโป่งเทียม เป็นบ้านเรือนไทยที่สวยงามสร้างโดยไม่มีการเขียนแบบ มีของเก่าของโบราณมาตกแต่งไว้ให้เรียนรู้ ชื่อภูผาตาด โฮมสเตย์(www.panoramatown.com/phuphatat ) มีกิจกรรมนมัสการพระพม่าอายุ 90 ปี สวดมนต์แบบพม่า พาไปสำรวจน้ำตกใหม่ที่นักข่าวไทยพีบีเอสบอกว่าสู้ทีลอซูได้สบายมาก รายการทีวีไทยสุดสัปดาห์ยืนยันได้ในความงาม

ไปอีกนิดถึงเมืองทองผาภูมิ มีร้านแนวๆชื่อลูนู๋( //www.lunu.biz ) มีร้านทอง(แดงสดใส)ที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของตลาดทองผาภูมิ มีตลาดนั่งยองในแบบชาวบ้าน มีขนมทองโย๊ะขนมแปลกแห่งทองผาภูมิ มีแม่น้ำข้ามได้ สะพานแขวน และศพไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สายที่ลือชื่อเรื่องปาฎิหาร มีพระเจดีย์คีรี ที่ดูวิวทองผาภูมิ 360 องศา ณ วัดท่าขนุน มีพระขาวภปร.องค์ใหญ่มากเป็น 1 ใน 10 และเป็นองค์สุดท้ายที่ในหลวงทรงสร้าง

ออกจากเมืองไปไม่ไกลชมวิวทิวเขื่อนและทะเลาะกับลิงที่เขื่อนเขาแหลม( //vrk.egat.com )ที่พักติดเขื่อนเขาแหลมที่ใกล้ๆอัธยาศัยดีและราคาถูกมากๆสร้างในแนวที่ฝรั่งชอบมากๆก็ได้แก่ บ้านเก็บตะวัน โฮมสเตย์ ( //keptawan.siam2web.com )บ้านของลุงยศ ไกด์ผู้บุกเบิกฝรั่งเดินป่าแห่งกาญจบุรี ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความงามของวิวทะเล กิจกรรมพายเรือคยัค แคนนูข้ามเขื่อน และความงามของพระอาทิตย์ตก บริเวณนั้นมีวิถีชาวบ้านของหมู่บ้านท่าแพ ใกล้ๆมีจุดชมวิวทะเลที่เหมือนวิวเกาะกลางทะเล

เลยไปอีกไม่กี่กิโลเมตร มีหมู่บ้านห้วยเขย่ง หมู่บ้านที่เคยเลี้ยงช้างเพื่อชักลากไม้ มีสวนป่า พุปลิง ปูราชินีที่เดียวของโลก ค้างคาวกิตติสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เล็กที่สุดในโลก ณ ถ้ำหินงอกหินย้อย ถ้ำ 28 มีบึงน้ำทิพย์ที่ป่าไม้เพิ่งจะไปบุกเบิกใหม่ ถ่อแพข้ามไป มีต้นไม้ยักษ์ น้ำตกสายรุ้ง มีหมู่บ้านพูดเหนือเหมือนเมืองเชียงใหม่ มีหมู่บ้านพูดลาวด้วย มีชาวกระเหรี่ยง พม่ามากมายอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีที่นั่งห้างดูช้าง หรือวันดีคืนดีเห็นตัวเป็นๆเย็นๆมากันเป็นโขลงก็พบกันอยู่บ่อยๆ

ในเขตหมู่บ้านนี้ยังมีบ้านไร่วิมานดิน ออร์แกนนิค ฟาร์มสเตย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยให้เข้าเยี่ยมชมและเข้าพัก( //www.vimandin.com )ขอบอกว่าที่นี่โรแมนติคมากๆ อยู่ติดกับลำน้ำห้วยเขย่งสถานที่สำหรับถ่อแพ ล่องแก่งกันมาหลายสิบปี มีโป่งพุร้อนที่อยู่ไม่ไกล ที่นี่ได้ยินเสียงช้างป่าและสัตว์ต่างๆร้องอยู่บ่อยๆ บนยอดเขาที่ใกล้กับวิมานดินมีวิวทะเลหมอก ทะเลสาป วิวพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก 4 อย่างในจุดเดียวกัน มีสระอโนดาตที่มีผู้ค้นพบใหม่ มีหอยโลกล้านปีแบริโอพอทที่มีอายุกว่า 280 ล้านปีที่หาดูยากมากๆอยู่บนยอดเขา แต่ไม่มีหน่วยงานไหนให้ความสนใจปล่อยให้ชาวบ้านเก็บเอาไปขายทำเครื่องรางของขลังชิ้นละ 50 สตางค์น่าเสียดายมาก

เลยจากเส้นนี้ไปไกลสักนิดก็เป็นอช.ทองผาภูมิกับเจ้านกเงือกที่คอยต้อนรับ หรือจะขึ้นเขาช้างเผือกยอดเขาที่สูงที่สุดของทองผาภูมิ หรือจะไปไกลนิดลำบากหน่อยด้วยรถ4x4 สู่เหมืองปิล๊อก บ้านอีต่อง เนินเสาธง ถือว่ามาได้ไกลสุดเขตชายแดนพม่า-ทองผาภูมิเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่ามีสถานที่มากมายที่การท่องเที่ยวไม่เคยรู้ ไม่เคยไปดูและไม่รู้จัก ซึ่งอยู่ใกล้ๆกรุงเทพมากๆเพียง 2 ชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว แต่ไม่ได้ถูกประชาสัมพันธ์ให้คนไทยได้รับรู้ จึงอยากให้ช่วยกันแจ้งข่าวออกไป เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกการท่องเที่ยวไทยให้หันมาสนใจทองผาภูมิบ้าง

ท้ายสุด สำหรับผู้ที่ชื่นความหนาวเย็นข้อความข่าวนี้คงยืนยันได้ว่าความหนาวเย็นของทองผาภูมิว่าไม่แพ้เชียงใหม่แน่นอน

ข่าวโดยสำนักข่าวไทย 15 มกราคม " กาญจนบุรีเย็นจัดชายแดนทองผาภูมิ 4 องศาฯ "
//news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=244367&ch=lc2



โดย: Godgang IP: 203.144.144.164 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:09:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

rangsitk4
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add rangsitk4's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.