Group Blog
 
All blogs
 
*** มารู้จัก อาหาร 4 กันเถอะ ***





ตามพระเถราธิบายของท่าน พระสารีบุตรเถระ

พระสารีบุตรเถระได้อธิบาย เรื่อง สัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นชอบ ความเห็นตรง ดังนี้

สัมมาทิฏฐิ นำมาซึ่งความสิ้นทุกข์

เมื่อได้ สัมมาทิฏฐิ คือความเห็นชอบ ความเห็นตรง

คือได้รู้จักอกุศล รู้จักอกุศลมูล รู้จัก กุศล รู้จัก กุศลมูล ได้รู้จัก อริยสัจ4 ได้รู้จัก อาหาร4 ได้รู้จัก เหตุเกิดแห่งอาหาร ได้รู้จักความดับอาหาร ได้รู้จักข้อปฏิบัติอันเป็นทางให้ถึงความดับอาหาร ได้รู้จัก ชรามรณะ ได้รู้จักชาติ ได้รู้จักภพ

ได้รู้จัก อุปาทาน ได้รู้จักตัณหา ได้รู้จักเวทนา ได้รู้จักผ้สสะ ได้รู้จัก อายตนะ ได้รู้จัก นามรูป ได้รู้จัก วิญญาณ ได้รู้จักสังขาร ได้รู้จัก อวิชชา ได้รู้จัก อาสวะ ได้รู้จัก ปฏิจจสมุปบาท ได้รู้จักหรือรู้วิธีการปฏิบัติสติปัฏฐาน4 ( ภาวนา )


ย่อมจะเป็นเหตุให้ ปฏิบัติ ละ กิเลสที่นอนจมหมักหมมดองจิตสันดาน คือ ราคะ หรือที่เรียกว่า อาสวะ

หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อนุสัย ละอวิชชา และทำให้มีวิชชาเกิดขึ้น และเป็นไปเพื่อความสิ้นสุดแห่งกองทุกข์



สัมมาทิฏฐิ เป็นความเห็นชอบ เป็นความเห็นตรง


ความรู้จักอาหาร 4

อาหาร ในที่นี้ แปลว่า นำมา

หมายถึง สิ่งที่เป็นปัจจัย หรือเครื่องอาศัยที่ นำมา


1. กวฬิงการาหาร อาหารคือคำข้าว ข้าวที่ใช้เลี้ยงร่างกาย

เป็นอาหารที่ใช้หล่อเลี้ยงบำรุงร่างกายให้กับสิ่งมีชีวิต

ร่างกายหากไม่มีอาหารมาหล่อเลี้ยงก็จะดำรงชีวิตอยู่ไม่ได้

2. ผัสสาหาร อาหาร คือ ผัสสะ

หมายถึง อายตนะภายใน กับ อายตนะภายนอก

และวิญญาณมาประชุมกัน เรียกว่า สัมผัส หรือ ผัสสะ

อันแปลว่า การกระทบ โดยเมื่อ ตากับรูป ประจวบกันก็ย่อมเกิดวิญญาณ คือความรู้ในรูป อันการเห็นรูป

ดังที่พูดกันก็มักจะพูดว่า เห็นรูปด้วยตา จะเรียกสั้นๆ ว่า ผัสสะ หรือเรียกว่า จักขุวิญญาณ เป็นการรับรู้ด้วยตา

เมื่อพูดตามธรรมดาก็พูดว่า เห็นรูปด้วยตา

เมื่อพูดตามทางอภิธรรม ก็จะต้องพูดว่า เห็นรูปด้วย จักขุวิญญาณ

โสตวิญญาณ คือ ได้ยินเสียงทางหู


3. มโนสัญเจตนาหาร อาหาร คือ ความจงใจ หรือ เจตนา

พระสารีบุตร ตรัสว่า เจตนา หรือความจงใจ เป็นอาหาร ของกรรม จะเป็นทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ

เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวเจตนาคือ ความจงใจว่าเป็น กรรม

คือเป็นเหตุให้กระทำกรรม เพราะว่าบุคคลมีเจตนาคือความจงใจแล้ว จึงกระทำทางกายบ้าง กระทำทางวาจาบ้าง และกระทำทางใจบ้าง .

ฉะนั้น กรรมที่บุคคลกระทำทุกๆอย่าง ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ไม่ว่าจะเป็นกุศลกรรม หรือบุญกรรม ไม่ว่าจะเป็นอกุศลกรรมหรือบาปกรรม

ย่อมมีเจตนา คือความจงใจ เป็นเหตุ คือ อาหาร เป็นปัจจัยที่นำผลมา ให้บังเกิดกรรม



4. วิญญาณาหาร อาหารคือ วิญญาณ

วิญญาณในที่นี้ท่านเรียกเป็น วิถีวิญญาณ หมายความว่า เป็นวิญญาณที่เกิดขึ้นตามวิถีทาง คือเป็นทางแห่งของกายและจิต ที่อาศัยกันอยู่ ประกอบกันอยู่

อีกอย่างหนึ่ง เรียกว่า ปฏิสนธิวิญญาณ ก็ได้แก่ วิญญาณธาตุ คือธาตุรู้

หรือจิตที่อาศัยอยู่ในกายนี้ ซึ่งทุกๆคนมีธาตุรู้อาศัยอยู่ในกายนี้

หากไม่มีจิต กายนี้ก็ดำรงอยู่ไม่ได้ ต้องแตกสลายไป

มีการแสดงในบางพระสูตรว่า เมื่อมีชาติ คือความเกิด ตั้งต้นตั้งแต่ เกิดในครรภ์มารดา มีคำเรียกว่า คันธัพพะ

คนธรรพ์เข้ามาสู่ครรภ์มารดาอีกส่วนหนึ่ง มาประกอบเข้ากันกับส่วนที่เป็นรูป มีอายตนะที่บริบูรณ์ขึ้นโดยลำดับ

เมื่อเป็นดังนี้ สัตว์จึงเริ่มมีชาติ คือความเกิดขึ้นมา กายและจิตนี้จะประกอบกันไปตลอดเวลา

หากว่า การปฏิสนธิวิญญาณที่มีมาตั้งแต่เบื้องต้น หรือว่าจิต หรือที่เรียกว่า คนธรรมพ์ พรากออกไปเสียเมื่อใด รูปที่ก่อขึ้นมาตั้งแต่ต้น เป็นอันว่าแตกสลายไป ไม่ก่อเกิดขึ้นอีกต่อไป

กายและจิตนั้นจะต้องประกอบกันตลอดเวลา หรือที่เรียกว่า ขันธ์ 5 หรือรูปนาม

หากกายและรูป ปราศจากวิญญาณ ร่างกายนี้ก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป ทำประโยชน์อะไรไม่ได้

ชีวิตจะดำรงอยู่ได้ ต้องมีวิญญาณประกอบอยู่ด้วยเสมอ

วิญญาณ จึงเป็นอาหารของ นามรูป





พระสารีบุตรเถระได้อธิบายว่าต่อว่า

เหตุเกิด แห่งอาหาร คือ ตัณหา

ความดิ้นรนทะยานอยาก

อันเป็นเหตุให้เกิดตัณหา

และการดับตัณหา ก็เป็นการ ดับอาหาร

และข้อปฏิบัติในการดับอาหาร คือ มรรคมีองค์ 8







Create Date : 27 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2549 9:47:57 น. 0 comments
Counter : 1739 Pageviews.

รักดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




นามแฝง ชื่อ รักดี

ชอบดอกไม้ รักหมา

ไม่รังเกียจแมว

ไม่อาลัยในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

อยู่กับปัจจุบัน

และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ไม่กังวลหรือเป็นทุกข์

กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง












Friends' blogs
[Add รักดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.