ขอบคุณทุกเรื่องราว
Group Blog
 
All Blogs
 
ไขข้อข้องใจ ปัญหา ผี-ผี

ทำไมผีมีแต่ผู้หญิง...
ทำไมผีต้องผมยาว...
ทำไมผีไม่ผมสั้น ทำสี เหมือนตอนตายจากไป..
ทำไม....





เพราะเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตำนาน จิตนาการ หรือเรื่องที่เข้าใจว่าตนเองสัมผัสมัน จริงๆมีส่วนมาจากจิตใต้สำนึกทั้งนั้น จิตใต้สำนึกมาจาก บทเรียน และประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดี ค่านิยม สังคม วัฒนธรรมที่ต่างกันออกไป

ทำไมมีแต่ผีผู้หญิงล่ะ...
มองย้อนกลับไปสังคมสมัยเก่า : การสมมุติเรื่องผี เรื่องวิญญาณและความเชื่อนรกสวรรค์ขึ้นมาก็เพื่อ ตั้งกรอบในการอยู่ร่วมกัน สมัยก่อนผู้หญิงอยู่ใต้อำนาจและการดูแลของเพศชาย ทำให้บทบาทและอำนาจของผู้หญิงมีน้อยมาก การกดดันหรือพยายามสร้างนิสัย รู้ผิดชอบชั่วดีของสามีตัวเอง ไม่สามารถทำออกมาได้ตรงๆแบบโผงผาง ผู้หญิงไม่สามารถแสดงความขุ่นเคืองใจออกมาได้ตรงๆ ผ้หญิงคือฝ่ายที่ถูกอบรมให้ยอมรับและเข้าใจ ..รวมไปถึงไม่เข้าใจแต่ก็ต้องทน (ทำไมผู้หญิงต้องน่าสงสารขนาดนี้เนี่ย ดีนะที่เราเป็นผู้หญิงยุคใหม่)

สังคมมีความคาดหวังต่อบทบาท หน้าที่ ที่แต่ละคนพึงรับผิดชอบ การไม่คิดทำอะไรให้อีกฝ่ายหรือภรรยา สามี เป็นทุกข์ ก็เลยค่อยๆสร้างความเชื่อร่วมกัน สร้างความเชื่อที่ช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่าย ทำอะไรก็ได้ตามกรอบ เกรงกลัวกัน กลัวที่จะทำบาปหรือทำผิดต่อกัน ไม่ว่าตอนอยู่หรือตอนตายจากกันไป กว่าจะมาเป็นความเชื่อในวันนี้ เรื่องเล่าต่างๆก็ผ่านการแต่งเติม การกุเรื่อง การเล่าต่อ การดัดแปลงมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

การมีภาพของผีผู้หญิงขึ้นมาก็เป็นส่วนหนึ่ง คล้ายๆบุญ บาป กรรม ที่คอยกำหนดให้คนกลัว กลัวที่จะทำผิด กลัวที่จะต้องเจอ กลัวความอาฆาตแค้น และก็เลยกลายเป็นเชื่อกันว่าผู้หญิงเนี่ยตายแล้วจะมีความอาฆาตสูง จริงๆคือเป็นวิธีการสร้างเกราะป้องกันตัวเองให้แก่ผู้หญิงเท่านั้นเอง เช่น คำพูดที่ว่า ต่อให้ตายไปแล้ว ฉันก็จะรักและไม่ไปไหนจากคุณ, คุณทำอะไรกับฉันไว้ คอยดูนะตายเป็นผีจะมาหลอกคุณ ซึ่ง ไม่คิดหรือว่า เพราะอะไรผู้หญิงถึงไม่บอกว่า จะเอาคืนตอนนี้...ตอนที่มีชีวิตอยู่ นั่นเพราะว่าในสมัยนั้นผู้หญิงคิดว่าตัวเองเป็นรองในเรื่องกำลัง อำนาจ ก็เลยได้แค่ขู่ และแสดงความตรอมตรม คนที่โดนขู่ก็กลัว เพราะฉะนั้นภาพของผีผู้หญิงถึงมีมากและชัดเจนกว่าผู้ชาย

ลองเพื่อนชายของพวกเรา มันดันบอกสิว่า ตายแล้วจะมานอนกอดทุกคืน หรือตามมาบีบคอ จะเอาไปอยู่ด้วย .. ฉันว่าถึงไม่เชื่อว่าเค้าทำแบบนั้นได้จริง แต่ถ้าวันนั้นมาถึงก็ระแวงและเก็บคำพูดนั้นมาคิดบ้างหล่ะ แต่ผู้ชายเท่าที่รู้จักมาก็ดันไม่คิดเล็กคิดน้อย ไม่สนใจชีวิตหลังความตายมากเท่าไร เค้าไม่ใช้ชีวิตแบบตรอมตรมกับความรัก หรือการกระทำของอีกฝ่าย การไม่พอใจสิ่งใดหรืออยากแสดงความรู้สึกอะไรก็จะทำเลยตอนที่ยังอยู่ เช่น แสดงความไม่พอใจ ด่าทอ สมัยก่อนคืออบรมภรรยา

ซึ่งปัจจุบัน ฉันเชื่อว่า ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเท่ากันในเรื่องความคิด ความรู้ ความเข้าใจถึงเรื่องต่างๆ กล้าที่จะแสดงความคิด ความรู้สึก และความคาดหวังออกมาตรงๆ จนผู้ชายบางคนอาจจะคิดถามว่า ทำไมผู้หญิงยุคใหม่นี้ มันพูดมากจัง ทำไมมันจะเอานู่น อยากได้นี่ นั่นคือธรรมชาติของผู้หญิงที่เคยถูกเก็บซ่อนเอาไว้มากกว่า แม่ของคุณจู้จี้เอาแต่ใจแค่ไหน แฟนคุณเป็นมากกว่า 10 เท่า แต่ก็น่ารักและมีข้อดีมากกว่าเป็น 10 เท่าเช่นกัน พอที่จะดึงดูดให้คุณอยากอยู่ด้วยตลอดเวลา

มาเข้าเรื่องผี-ผีต่อ : เพราะความรู้ความเข้าใจ ทั้งเรื่อง วิยาศาสตร์ ธรรมชาติ ความรัก หัวจิตหัวใจ ทั้งหมดนี้ทำให้ความเชื่อเรื่องผีวิญญาณไม่ค่อยมีบทบาทต่อชีวิตคนมากเหมือนอดีต

ทำไมผีไม่อยู่ที่กรุงเทพ หรือ ทำไมในเมืองใหญ่ไม่มีผี : ไม่ใช่เพราะผีกลัวแสงนีออน ผีชอบความเงียบ ผีชอบธรรมชาติ ไม่ใช่เลย แต่เพราะผีอยู่ในใจ อยู่ในความคิดของคนเราตะหาก เมื่อใดที่เราคิดว่าไม่มี หรืออยู่ในบรรยากาศที่สบาย น่าอยู่ และใจเราบอกว่าปลอดภัย ใจเราบอกว่าที่นี่ผีไม่ตามมา เมื่อนั้น เราก็จะฝันดี และไม่กลัวผี ไม่เห็นผี เพราถ้าผีเป็นวิญญาณจริง ไม่ว่าเราจะย้ายไปอยู่มุมไหนของโลก มันก็ตามเราไปได้เสมอ ไม่ว่าวันนั้นจะอารมณ์ดีหรือไม่ดี กลัวไม่กลัวมันก็มาให้เห็นได้ตามที่มันอยากจะมา แต่เราว่ามันอยู่ที่ใจและความเชื่อจริงๆ อย่างเช่น ฉันเป็นคนชอบเดินทาง และชอบนอนโรงแรม รีสอร์ท เพราะสะดวกสบาย สะอาดด้วย และฝันดีเสมอไม่ว่าไปนอนที่ไหน นั่นส่วนหนึ่งเพราะไม่คิดเรื่องผี ไม่กังวล ไม่เชื่อจนเกินไป นอกจากจะดูหนังผีมาใหม่ๆ(ก็นอนแบบไม่อาบน้ำเป็นเหมือนกัน 55)

แต่เพื่อนบางคนกังวลมาก ไม่เคยย้ายที่นอน ไม่ชินกับการนอนที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง พอเดินทางหน่อยก็จะกังวล ไปนอนโรงแรมก็ฝันเห็นผีตลอด ผีมันคงไม่เลือกปฏิบัติหรอกนะ จะบอกว่าเซ้นท์คนเราต่างกัน ฉันว่าก็ไม่ใช่ มันอยู่ที่ความคิดความเชื่อ และความเข้าใจในธรรมชาติมากกว่า ฉันเองก็ค่อนข้างเซ้นท์ไว ไม่ว่าจะเป็นเซ้นท์เรื่องสิ่งที่จะเกิดในอนาคตทิศทางของชีวิตตัวเองในวันข้างหน้า เซ้นท์เรื่องการดูคน การอ่านใจคน แต่ฉันไม่ค่อยเชื่อในสิ่งลี้ลับเท่าไร แค่นั้นเอง

ทำไมผีถึงไม่บอกว่าไอ้นู่น นังนี่มันไม่เชื่อ ต้องจัดการซะหน่อย เพราะถ้าเชื่ออาจจะใช้ประโยชน์จากมันได้เยอะ เพราะจิตมันเข้มแข็งแน่วแน่กว่าพวกที่กลัว ไม่ใช่มัวไปจัดการแต่กับคนที่เชื่อ จนชีวิตจะเป็นบ้าตายแล้ว

ทำไมผีไทยนุ่งขาว : เพราะสีขาวในความรู้สึกของคนไทยคือ สีสำหรับงานศพ หรือผ้าห่อศพ ถ้าเป็นผีนุ่งดำ ห่มดำ ออกมาปรากฏตัวเวลากลางคืนก็กลายเป็นว่า มองไม่เห็นผี กลมกลืนกับธรรมชาติเกินไป อีกอย่างแว๊บที่คนบอกว่าเห็นผี คือ เห็นเพียงแว๊บๆ ผ่านตา หรือ ไกลมากๆ มันต้องเป็นสีที่เด่นเวลากลางคืนและตัดกับสีดำชัดเจน แล้วมีรูปร่างคล้ายคน หรือคล้ายกับสิ่งที่เรากลัวในจินตนาการ (อารมณ์เดียวกับ เห็นก้อนเมฆแล้วร้องว้าววว รูปหัวใจ , ว้าวโดเรม่อน ถ้าเป็นยุคเก่าคงบอกว่า อุ๊ย นั่นเจ้าทุย, นั่นต้นไม้ เพราะนี่คือจินตนาการ เราจะจิตนาการใกล้เคียงกับสิ่งที่เราเคยพบเห็นเสมอ)

ทำไมผีผู้หญิงต้องผมยาว : เพราะสมัยก่อน ผู้หญิง 100% ผมยาวนะสิ ไม่มีผู้หญิงที่ไว้ผมสั้น ผมซอยเหมือนทุกวันนี้ ความเชื่อเดิมๆ มันก็ถูกถ่ายทอดมายังรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ที่เชื่อเรื่องผี ก็เพราะการปลูกฝัง และรับรู้มาจากคนอื่น จินตนาการที่ผ่านเรื่องเล่าของคนอื่น และพอรู้สึกว่ามันน่ากลัว ก็กลายเป็นความเชื่อและความกลัวติดตัว ในจินตนาการก็เลยเห็นแต่ผีที่มีรูปลักษณ์อย่างนั้น อีกอย่างผีผมยาวมันอาจจะน่ากลัว กว่าผีผมสั้น เพราะมีองค์ประกอบของความเป็นผู้หญิงครบถ้วน ผมยิ่งยาวเท่าไรก็แสดงว่าผู้หญิงคนนั้น มีการดูแล ใส่ใจ มันมานาน ยิ่งยาวก็หมายถึงว่าผ่านโลก ผ่านเรื่องราวมามาก เพราะฉะนั้น คนดู-คนฟัง ก็จะรู้สึกว่าเฮี้ยนมาก

ฉันเคยสงสัยว่าทำไม ฉันไม่เคยฝันร้าย หรือเป็นปีถึงฝันร้ายครั้งหนึ่ง : ส่วนใหญ่จะฝันแนวโลดโผนผจญภัย ท่องเที่ยว เดินทาง เพราะในชีวิตฉันตั้งแต่เด็กจนโต ก็มีแต่เรื่องเที่ยว เรื่องเล่นซุกซน และการใช่จินตนาการ ซะส่วนใหญ่

ส่วนแฟนของฉันที่อยู่ด้วยกันทุกวัน กลับฝันร้ายบ่อยมาก โดยเฉพาะ ฝันถึงฆาตกร, การต่อสู้, สงคราม นั่นเพราะ เค้าเติบโตมาจากครอบครัวในเมืองใหญ่ ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากนัก เค้าจะค่อนข้างหัวไว แต่สมาธิสั้น และที่กำหนดความฝันเค้าได้มากที่สุดคือ หนังที่เค้าชอบดู เค้าชอบดูหนังมาก โดยเฉพาะหนังบู๊ หนังฆาตกรรม หนังสงคราม นั่นแหล่ะที่ทำให้เค้าฝันร้ายบ่อยมาก

นี่แหล่ะเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องเลือกคิดดี เลือกสื่อที่มันสร้างสรรค์ ทำไมพ่อแม่ต้องใส่ใจว่า ลูกควรอ่านหนังสืออะไร ควรทำกิจกรรมอะไรนอกเวลา เพราะทุกอย่างมันจะฝังเข้าไปในจิตใต้สำนึกและอยู่กับเราไปจนตาย



Create Date : 29 มกราคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2553 14:59:18 น. 0 comments
Counter : 434 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

rainbowsmile
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add rainbowsmile's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.