บันไดมนุษย์ images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 
วันที่สองในญี่ปุ่น(18-08-2553) Fukuoka

วันที่ 2 ของการเที่ยว Fukuoka นี้ผมมีเพื่อนชาวไทยที่เพิ่งจะมาเรียนที่นี่ เป็นคนพาเที่ยว พอดีเค้ายังไม่เคยไปเที่ยวศาลเจ้าไดโซฟุ ก็เลยเป็นการเที่ยวของวันนี้







ศาลอันนี้อยู่นอกเมืองก็เลยต้องนั่งรถไฟ local ออกไปหน่อย ศาลแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนนิยมไปกันที่เดียวเลย ด้านนอกก่อนที่จะเข้าไปนั้น มีร้านรวงตกแต่งร้านใน style เก่าๆมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลย













ส่วนบริเวณด้านในนั้นก็มีการจัดตกแต่งได้อย่างลงตัวสวยงามทีเดียว













ที่ญี่ปุ่นนี้ก่อนที่จะเข้าไปขอพรนั้น จะต้องทำการล้างมือทั้ง 2 ข้างและล้างปากด้วย แรกๆผมก็ทำไม่เป็นหรอกต้องดูคนข้างๆที่ทำเป็น ในบางที่เค้าก็มีรูปให้นักท่องเที่ยวดูให้ชัดเจนไปเลย





ศาลเจ้าแห่งนี้สำคัญยังงัยนั้นผมไม่รู้หรอก ไม่ได้ทำการบ้านไปนึกไปแล้วก็เสียดาย น่าจะรู้ประวัติอะไรไปบ้างก็ยังดี อันนี้ไปแบบไม่รู้อะไรเลย เรียกว่าใช้สายตาในการเรียนรู้อย่างเดียว





กาทำบุญที่นี่เค้าจะโยนเหรียญ 5 เยนลงไปแล้วค่อยขอพร แรกๆนั้นผมจะโยนเหรียญ 1 เยนไป แต่เพื่อนบอกว่าไม่ได้ๆ ไม่เหมือนกัน 5 เยนนั้นมันหมายถึงโชคดี นำโชค ดีครับดีทำบุญแบบนี้ประหยัดดี แต่ไม่รู้ว่าเหรียญ 100 เยนนี่จะทำให้โชคดีมากกว่า 5 เยนหรือเปล่าผมก็ลืมถามไป





ตามศาลนั้นจะมีขายเครื่องรางนำโชคอยู่หลายแบบ นึกแล้วก็อยากจะซื้อมาเก็บบ้าง แต่ถ้าซื้อแล้วไม่รู้ความหมาย ไม่ให้ความสำคัญก็ไม่ต่างอะไรกับที่ห้อยธรรมดา คิดได้ดังนั้นแล้วไม่ซื้อดีกว่า



แล้วพวกป้ายเขียนขอพรนั้น ผมว่าเป็นเอกลักษณ์ที่งดงาม มันดูเป็นระเบียบเรียบร้อย บางป้ายนั้นผมเห็นเป็นภาษาไทยด้วยก็มี และพวกใบเซียมซีที่เค้าไม่ใช้แล้วก็จะมาผูกไม่มีทิ้งขว้างให้สกปรกครับ ที่นี่บ้านเมืองเค้าสะอาดมากไม่มีการทิ้งขยะเรื่ยราดเลย คนเค้ามีวินัยในการทิ้งขยะสูงมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไทยเราต้องนำมาใช้ครับ









ในบริเวณศาลนี้ถ้าเดินต่อไปก็จะพบกับ คิวชู national museum ผมกับเพื่อนก็ลองแวะเข้าไปดูว่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน พิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่นเค้าทำดีทุกอันเลย มีคนมาเที่ยวเยอะ ไม่อยากจะเปรียบเทียบกับบ้านเราเลย แต่ว่าอยากจะให้ทำดีๆบ้างเถอะ การรู้ถึงประวัติศาสตร์ชาติตัวเองนั้นมันก็สำคัญไม่แพ้กับการสร้างห้างสรรพสินค้าหรอกครับถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ที่พิพิธภัณฑ์นี้ผม่ไม่ได้เสียเงินเข้าไปดู ใจหนึ่งผมหนะอยากจะเข้าไปนะ เพียงแต่ว่าเวลาอยากจะไม่เหมาะสมก็ได้ ก็เลยได้เพียงชมกันข้างนอก















หลังจากเที่ยวศาลเจ้าไดโซฟุแล้วนั้น พวกเราก็กลับไปเที่ยววัดในตัวเมืองฟุกุโอกะกัน วัดนี้มีพระพุทธองค์ใหญ่ทำด้วยไม้ จริงแล้วเค้ามีป้ายห้ามถ่ายรูป ผมได้รูปนี้มาโดยที่ไม่รู้ครับ เค้ามีป้ายเขียนไว้ว่าห้ามถ่ายรูปเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วผมจะไปรู้ได้งัยครับ ต้องขอวิจารณ์ตรงๆว่า ที่อื่นที่เค้าห้ามถ่ายรูปนั้นก็ทำเป็นรูปกล้องถ่ายรูปแล้วมีกากบาทคาดเอาไว้ ชาติไหนภาษาไหนก็เค้าใจ เพราะว่าไม่ได้ใช้ภาษา ใช้เป็นสัญญาลักษณ์แทน แต่นี่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นสะงั้น ผมก็เลยได้รูปนี้มา















และเมื่อสิ้นสุดการเที่ยวของวันนี้และจะเป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวที่ฟุกุโอกะ ส่วนพรุ่งนี้ผมจะไปเที่ยวโตเกียวแล้ว เอาละเตรียมตัวลาเสียทีฟุกุโอกะ



Create Date : 30 สิงหาคม 2553
Last Update : 31 สิงหาคม 2553 22:29:57 น. 3 comments
Counter : 1683 Pageviews.

 
เข้ามาดูรูปแล้วชอบนะคะ
เผอิญว่าได้มีโอกาสไปเยือนบ้างเหมือนกัน
ศาลเจ้าชื่อศาลเจ้า "ดาไซฟุเทนมังกู" ค่ะ ^^


โดย: fahtsuki วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:16:47:26 น.  

 


โดย: MaFiaVza วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:6:10:36 น.  

 
แอบหนีมาพักผ่อนแถวนี้...ศาลเจ้าดาไซฟุดังมากเรื่องการศึกษาค่ะ นักเรียน นักศึกษาที่จะสอบจะมาขอพรที่นี่กัน


โดย: namin IP: 192.168.252.100, 133.5.242.109 วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:12:56:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลานสน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ตราบที่ยังมีความฝัน ตราบนั้นก็ยังเดินหน้าสู้ต่อไป
Custom Search
Friends' blogs
[Add ลานสน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.