All Blog
In love Flight
เพิ่งกลับมาจากไฟล์ไคโรก็สลบหมืดไปหนึ่งวันเต็มๆ

เหนื่อยมากเลยเพราะว่าผู้โดยสารเต็มลำ และก็เป็นคนไทยซะ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็เป็นปกติของช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวแบบนี้

ท่านผู้โดยสารก็มีทั้งน่ารัก น่าหยิก และน่ารำคาญ เดี๊ยนกับซันนี่ก็ต้องอดทนกันน่าดู เผลอทำหน้า "ทะเลาะกับผัว" ก็ไม่ได้ เดี๋ยวโดนเอาไปนินทาลับหลัง


บางครั้งก็รู้สึกนะว่ากับผู้โดยสารบางคน เดี๊ยนทำอะไรผิดเหรอ พูดก็พูดซะเพราะ ยิ้มตลอดด้วย แถมอยากได้อะไร ถ้าหาได้เราก็พยายามหามาให้ แต่ทำไมต้องมองด้วยหางตา แถมยังสำรวจหัวจดเท้า


รู้สึกไม่ค่อยชอบเลย แต่ดีที่บ้านฝึกมารยาทและความอดทนมาดี ก็เลยไม่แสดงความไม่พอใจออกมาให้เห็น


คิดเหมือนกันนะว่าถ้าเป็นแอร์ต่างชาติ เค้าจะโดนสายตาและคำพูดแบบนั้นรึเปล่า แต่ถ้าทำจริงคงน่าสงสารท่านผู้โดยสารคนนั้น เพราะว่าแต่ละนายแต่ละนางโหดเหลือเกิน

แอร์ไทยหัวดำเนี่ย ใจดีที่สุดแล้วจะบอกให้



เรื่องของไฟล์อินเลิฟนี่ก็มีอันสานต่อ

ถ้าจำเรื่องนักบินพี่อี๊ดได้ ก็ได้บินไปด้วยกันอีกครั้งตอนไฟล์ขาไปไคโร

พี่อี๊ดมาให้กำลังใจ ตอนอ่านประกาศพีเอบนเครื่อง จะว่ามาอ่อยก็แรงไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่ได้เห็นหน้า


ทั้งที่จริงพี่อี๊ดชวนเดี๊ยนกับซันนี่ไปในห้องนักบินตอนเครื่องกำลังขึ้น

แต่ด้วยความที่เดี๊ยนต้องเฝ้าอยู่ประตูด้านหน้าของชั้นประหยัดที่ยากที่จะไปไหนได้

มัวแต่จัดการเรื่องเอกสารและเช็คเรื่องต่างๆนาน พอเครื่องจะขึ้นแล้ว เดี๊ยนถึงได้หยุด แต่ก็ต้องไปนั่งรัดเข็มขัด เลยอดไป


เกรงใจเพื่อนร่วมงานด้วย ทำงานไฟล์ที่ 2 ก็เป็นอันได้เข้าไปนั่งใน cockpit ซะแล้ว


เดี๋ยวโดนเขม่นเอา


ไฟล์นั้นใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมงครึ่ง

เพราะฉะนั้นลูกเรือแต่ละคนก็จะแบ่งเวลากันไปนอนหลัง
เสริฟ์ครั้งที่ 1 จบลง


คนหนึ่งจะได้นอนเฉลี่ยประมาณ 2 ชั่วโมง แต่นักบินได้นอน 4 ชั่วโมง


แต่ละคนก็จะเตรียมชุดไปเปลี่ยนเพื่อใส่นอนในห้องพักลูกเรือ ซึ่งพี่อี๊ดก็นอนในห้องพักนักบินด้านหน้าติดกับครัวชั้นเฟริสคลาส เปลี่ยนชุดเสร็จพี่แกก็ยังเดินมาหว่านยิ้มให้ถึงที่

อ่อยกันเข้าไปหนุ่มอาหรับ


คราวนี้ผู้โดยสารไม่มีในชั้นเฟริสคลาส ดังนั้นก็แย่งกันเข้าไปทำสิคะพวกซีเนียร์

นอนกันเข้าไปแทบทั้งไฟล์ ไม่เห็นมันตื่นขึ้นมาทำงานกันเลย


เดี๊ยนมันจูเนียร์ ก็เสริฟ์กันเข้าไปชั้นประหยัด 280 คน
เดินจนขาขวิดเลย


บริการดีจนท่านผู้โดยฯซึ่งเป็นครอบครัวชาวอินเดียจากพาหุรัด ชมตลอดเลยนะคะ

เพราะเค้าเห็นเดี๊ยนทำงานคนเดียว
แถมยังเอาใจเสริฟ์สุดฤทธิ์

กาแฟท่านไม่ร้อน เดี๊ยนก็ไปเสริฟ์มาให้ใหม่

เพราะจำได้ว่า แฟนเดี๊ยนเวลากาแฟไม่ร้อน คุณพี่ท่านจะทำหน้าตาหมาเบื่อ ทานอะไรไม่ลง หงุดหงิดพิลึก


พอเปลี่ยนให้ใหม่ก็พาลอารมณ์ดีขึ้นทันตาเห็น


ที่เอาใจมากหน่อย เพราะเห็นท่านผู้โดยฯ มีปัญหาตั้งแต่เรื่องอาหารแล้ว

เรื่องที่ทำให้ลูกเรือปวดหัวมากเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องอาหารนี่แหละค่ะ

อาหารจานหลักของสายการบินเดี๊ยนคือ อาหารจานเนื้อ

อย่างนั้นเวลาผู้โดยสารไทยขึ้นมามากๆทีไรก็จะมีปัญหาเรื่องอาหารอย่างอื่นที่ไม่ใช่เนื้อไม่เพียงพอ

ผู้โดยสารอินเดียก็บางท่านเป็นมังสัตวิรัต ไม่ก็ไม่ทานเนื้อด้วย


บริการคนจำนวนมากก็ไม่สามารถจะทำให้พอใจได้ทุกคน แต่ก็อยากให้เข้าใจผู้ให้บริการด้วย

ถ้าไม่ทำหน้าเป็นตูด เดี๊ยนก็จะให้บริการสุดใจขาดดิ้นเลย

แต่ถ้าหน้าเป็นตูดใส่ เดี๊ยนก็ไม่อยากยุ่งด้วย

ทำให้ตูดชาวบ้านยิ้มเนี่ยเหนื่อยเหลือเกิน ไม่ไหว



ตอนเครื่องลงที่ไคโร พี่อี๊ดก็จัดการแจกเบอร์อีเมลล์โดยที่เดี๊ยนยังไม่ได้เอ่ยปาก เห็นมั้ย นี่ไงที่เรียกว่าอ่อย 1000 เปอร์เซ็นต์

ถ้าไม่หล่อฮาร์ดคอร์ตั้งแต่แรก เดี๊ยนก็ไม่รับนะเนี่ย


พี่แกมีบินต่อไปนิวยอร์กวันรุ่งขึ้น อาทิตย์ถัดไปถึงจะมาเมืองไทย คงเจอกันอีก Insha'alah (แล้วแต่พระเจ้าจะกำหนด)



2 วันในไคโร เดี๊ยนกับซันนี่ไม่ได้ไปไหนมากนัก นอกจากนั่งรถเมลล์ไปใจกลางเมือง

แดดร้อนมาก ถึงจะไม่เท่ากับเมืองไทยก็เถอะ แต่ก็มากเกินความคาดหมายเพราะว่า คราวที่แล้วที่เดี๊ยนมายังอยู่ในช่วงปลายฤดูหนาว อากาศยังหนาวเย็นอยู่


เดินชมเมืองไปเรื่อยเรื่อย สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรองเท้าหนังต่างๆเรียงรายอยู่เต็มไปหมด

สุดท้านเราสองคนก็แวะเข้าไปในห้างที่ตั้งอยู่ในซอกหลืบที่คนต่างชาติยากจะรู้ว่า มันคือห้างสรรพสินค้า


พอเข้าไปแล้วรู้สึกว่ามันแปลกตาดี และจินตนาการจากข้างนอกไม่คิดว่าข้างในก็คือห้างใหญ่ๆเหมือนบ้านของบ้านเราดีๆนี่เอง


เดี๊ยนกับซันนี่เดินสำรวจหาร้านอาหารเป็นอย่างแรก เพราะหิวมากเหลือเกิน

ก็เจอซุ้มอาหารหลากหลายในชั้นใต้ดิน

และแล้วความหิวของเรา 2 คนก็ดับลงด้วย คอฟต้าใส้ไก่ และข้าวบาบีคิวแพะ แป๊ปซี่ 1 แก้ว น้ำเปล่า 2 ขวด และน้ำอัดลมเบียร์ผสมรสสัปปะรด จากร้านอาหารจานด่วนร้านหนึ่ง สนนราคารวม 32.5 ปอนด์ หรือประมาณ 260 บาท


และแล้วเราก็ไปเดินเล่นต่อจนได้ของที่ระลึกติดไม้ติดมือมาคนละชิ้น เดินหามุมถ่ายรูปเป็นที่สนุกสนาน


จนเราเดินกลับไปยังท่ารถในที่สุด

มันไม่ได้มีอะไรใหม่ๆหรอก เพราะรูทบินของลูเรือไทยมีอยู่แค่นี้ สำหรับตอนนี้ ในอนาคตภาวนาให้เปิดรูทบินที่อื่นบ้างในประเทศเพื่อนบ้าน พวกเดี๊ยนจะได้ไปนอนเล่นบ้าง


ขากลับเดินทางแค่ 7 ชั่วโมงครึ่ง เลยได้นอนกันแค่ 1 ชั่วโมง แต่ก็นอนยังไงก็ไม่หลับ เลยหน้าเหนื่อยกันเป็นแถว


ท่านผู้โดยก็เยอะตามความคาดหมายอีกเช่นเคย

คราวนี้มีเจ้าหนูจำไมเยอะเหลือเกิน


"พี่เป็นคนไทยรึเปล่าครับ?

"ทำไมพี่ถึงมาทำงานที่นี่หล่ะครับ?"

"ทำไมพี่ถึงว่าหลวมตัวล่ะครับ?"

"ทำไม.........?"

เอ่อ.......พี่....... กรูจะบ้าตาย คิดคำตอบไม่ทัน


มีผู้โดยสารชาวมุสลิมภาคใต้มาด้วยหลายท่าน ได้ยินว่าพูดภาษาไทยด้วย แต่เดี๊ยนขอลองวิชาที่ไม่ได้ฝึกมานานหน่อย

เลยพูดกับท่านผู้โดยเป็นภาษาอินโดเพื่อระลึกความหลัง
ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะเข้าใจกันรึเปล่า

สุดท้ายท่านผู้โดยสารก็ตอบเป็นภาษามลายูตามความคาดหมาย และเดี๊ยนก็โดนบ่นเรื่องผ้าห่มไม่พอ และอะไรอีกยาวเฟื้อย สุดท้ายเดี๊ยนก็สามารถหาผ้าห่มผืนสุดท้ายของเครื่องจากชั้นบิสเนสมาให้จนได้ เลยได้ยินคำขอบคุณและพร้อมรอยยิ้มก่อนนอนว่า

"Terima kasih banyak"


ท่านผู้โดยบางท่านที่เรียกรอยยิ้มให้เดี๊ยนได้ก็คือ คุณลุงโค๊ก

ไม่ได้ชื่อว่าคุณโค๊กหรอกค่ะ แค่คุณลุงเจอหน้าเดี๊ยนทีไรจะต้องคิดถึงโค๊กทันที เสริฟ์ไป 5 แก้วเห็นจะได้

ตื่นมาตอนเช้ายังไม่วายถามหาโค๊ก พร้อมด้วยรอยยิ้ม แถมด้วยคำถามสุดอึ้งด้วยว่า

"หนู บ้านอยู่ไหนเหรอ? หน้าคุ้นๆ อยู่แถวบ้านลุงรึเปล่าเนี่ย"

อีแอร์เป็นอึ้ง ลุงจะคุ้นหน้าหนูได้ไงเนี่ย หนูอยู่ต่างประเทศตลอดเลยอ่ะ


ท่านผู้โดยสารชายหนุ่มหน้าตาดีมากับแฟนสาว เดี๊ยนว่าเป็นชาติผินแหงๆ ไม่ก็เป็นหนุ่มใต้หวัน

เรียกใช้เดี๊ยนทีไร ต้องหลิ่วตาหร้อมยั๊กคิ้วให้ทุกครั้ง เดี๊ยนเห็นทีไรแทบขำกลิ้งทุกทีให้ตายเหอะ ท่าทางคุณพี่ท่านจะเจ้าชู้ไม่ใช่เล่น


สุดท้ายของไฟล์ก็ต้องเป็นเรื่องของเพื่อนร่วมงานสิคะคุณ


เคยมีคนมาบอกว่าชอบคุณหลังจากรู้จักกันได้ไม่กี่ชั่วโมงบ้างมั้ย


พวกหื่นๆเดี๊ยนก็เจอมาเยอะแล้ว แต่ที่แจ๊คพอตคราวนี้กลับเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดูสุขุม ท่าทางดี ซีเรียสกับชีวิตซะด้วย หรือเดี๊ยนจะดูผิดตอนแรก

ปกติจะเป็นซันนี่ที่ขายออกแทบทุกไฟล์ เดี๊ยนจะตกกระป๋อง แต่ก็ภูมิใจเล็กๆที่ไม่ต้องระวังตัวมาก

คราวนี้เฮียมาแปลก ไม่พูดเลยตั้งหลายชั่วโมง พอว่างเสร็จก็เริ่มบทสนทนากับเดี๊ยนเยอะมาก

หลอกสอนภาษาอาหรับผิดๆให้ซันนี่ตั้งหลายคำ

สุดท้ายขอให้เดี๊ยนพาเที่ยวกรุงเทพ ตอนแรกก็ตกลงก็เพราะว่าคิดว่าพาเพื่อนต่างชาติเที่ยวบ้านเรามันก็ไม่น่าใช่เรื่องแปลก

จนกระทั่งคุณชายต้องการให้เดี๊ยนไปคนเดียว ไม่เอาซันนี่ไป แถมไม่พาเพื่อนคนอื่นไปด้วย

เดี๊ยนก็ "อารายวะ?"

"Can you give me a chance?"

"You should try me,then you will know me more."

พูดพร้อมส่งสายตาหวานชวนแหวะมาก

ให้ตายเหอะ บุคลิกคุณพี่ยัสเซอร์เปลี่ยนแปลงเร็วมาก

เฮียย้ำคำพูดอยู่แทบทั้งไฟล์หลัง ที่นั่งลูกเรือก็อยู่ติดกัน หนีไปไหนเฮียก็ "Please give me a chance!"


เดี๊ยนจะสำรักน้ำตาลตายอยู่แล้ว

สุดท้ายเดี๊ยนก็บอกว่าถ้าเป็นเพื่อนกันไม่ได้ เดี๊ยนก็ไปไหนด้วยไม่ได้หรอก อย่าเป็นแฟนกันเลย เดี๊ยนมีอยู่แล้ว 3 คนแค่นี้ก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ยูอย่ามาเป็นคนที่ 4 เลย ไอจัดตารางไม่ไหวแล้ว


ต๊าย.......ฟังดูเป็นหญิงใจร้าย แต่พูดเพื่อตัดบทอ่ะ มันเริ่มเบื่อที่จะฟังแล้ว แต่ก็ขอบคุณเค้าที่รู้สึกดีๆให้เดี๊ยนแม้ว่าจะรับไม่ได้ก็ตาม

มีคนรักดีกว่ามีคนเกลียดเน๊อะ




Create Date : 16 เมษายน 2549
Last Update : 16 เมษายน 2549 13:05:34 น.
Counter : 653 Pageviews.

6 comment
First flight

"女士们,先生们, 你们好。。。。。。。。"

"สวัสดีค่ะท่านผู้โดยสารทุกท่าน......."


นี่เป็นคำพูดแรกที่เดี๊ยนมีโอกาสได้พูดประกาศบนเครื่อง ในการทำหน้าที่อย่างเต็มตัวครั้งแรกของเดี๊ยน



เตรียมตัวมาอย่างดีเลยฮ่า เลยพูดไม่ติดขัดเท่าไร
เพียงแต่ประกาศเวลาเครื่องบินลงพลาดไป 20 นาที เลยโดนลุงหื่นเพอร์เซอร์ขโมยหยิกแก้มอันเนียนใสไปซะชิป



อย่างที่บอกไปว่าคู่หูของเดี๊ยนก็คือ ลูกสาวชื่อว่า "ซันนี่"

เดี๊ยนไม่ได้เบ่งเค้าออกมาหรอก แต่เพื่อนฝูงเห็นอากัปกิริยาที่สนิทกันเหมือนแม่กับลูกสมัยตอนเทรน แม้กระทั่งบนไฟล์ เดี๊ยนไม่ได้อาวุโสอะไรนักหนานะเค๊อะ เข้าใจผิดกันไปรึเปล่าเนี่ย


อะเล่าต่อ หลังจากบินช่วงเทรนมา 10 ไฟล์ เดี๊ยนก็ได้เริ่มบินจริงในฐานะลูกเรือ ไม่ใช่เทรนนีอีกต่อไป

ไฟล์แรกนี้ประเดิมด้วยไฟล์ควิกเทิน แบบไปแล้วกลับ
กรุงเทพ -ปักกิ่ง-กรุงเทพ ประมาณว่าชั่วโมงบินไปกลับคาบเส้น 9 ชั่วโมงเป๊ะ เลยไม่ได้ค้างคืนแบบลูก(เรือ)อี (ช่าง)ยิปต์คนอื่นๆ



ช่วงแรกของการเป็นลูกเรือ เราต่างก็ผวาและก็เครียดกับการบรีฟมาก เพราะว่าเป็นช่วงทดสอบความรู้ที่เทรนกันมา จะโดนว่าหนักหรือไม่ก็ช่วงนี้แหละ ถ้าตอบได้ผ่านหมดก็รอดหวุดหวิด


ด้วยความที่เดี๊ยนเป็นลูกเรือต่างชาติที่ต้องไปบินร่วมก๊วนกับหนุ่มสาวชาวหยิบ ก็เลยมีอันต้องไปรายงานตัวกันที่โรงแรม และพอถึงเวลาก็ออกเดินทางมาพร้อมกันที่สนามบิน

สบายเดี๊ยนซิคะ ประหยัดค่ารถได้โขอยู่ เพราะแหล่งพักพิงของเดี๊ยนห่างจากโรงแรม 20 นาทีโดยแท๊กซี่


ตอนขากลับก็อาศัยกลับมาด้วย จนโดนล้อว่า
"ไม่มีบ้านอยู่เหรอ??? ไม่ต้องกลับบ้านก็ได้ดึกแล้ว ห้องไอยังว่างนะ"


คำนี้หลุดมาจากสจ๊วตหูดำหลังไฟล์เลิก หลังจากพยายามกรอกหูให้เดี๊ยนกับซันนี่เป็นแฟนคนที่ 1 และ 2 หลังจากนั้นก็คงจะมี 3 และ 4 ตามมา



เนื่องจากสายการบินเดี๊ยนมีสัดส่วนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง (เหมือนกับสัดส่วนประชากรชายที่มากกว่าหญิง เลยทำให้ชื่อเสียงความหื่นนี่ขึ้นชื่อเหลือเกิน) การทำงานอะไรที่หนักๆจะเป็นหน้าที่ของพวกชายหนุ่มกำยำเหล่านี้ซะส่วนใหญ่


เดี๊ยนกับสาวๆอื่นก็สบายไป

แอร์สาวสายการบินอื่นก็อย่าตาร้อนวูบวาบนะจ๊ะ ฮิๆ


เนื่องจากเดี๊ยนเป็นลูกเรือไทยรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ชาติหยิบ ก็เลยเรียกความสนใจได้เยอะจากบรรดาพนักงานที่โรงแรม พนักงานภาคพื้นที่ดอนเมือง แล้วก็พนักงานทุกฝ่ายของสายการบินหยิบที่พบเห็น มีหัวหน้าชาติหยิบและพี่ๆกราวของหยิบมาส่งเยอะเหลือเกิน

และแล้วความโก๊ะของเดี๊ยนก็ปรากฏตั้งแต่เครื่องยังไม่
เทคออฟ แบบว่าเดี๊ยนปิดประตูเครื่องบินไม่สนิท งานนี้กราวสต๊าฟชาวหยิบและสเตชั่นเมเนเจอร์เคาะประตูเรียกกันใหญ่ โดนเพอร์เซอร์หื่นด่าด้วยสายตา หลังจากทราบว่าเดี๊ยนเป็นคนคุมประตูนั้น


งานนี้เกือบซวยจริงๆ ก็วันแรกของการทำงานดันได้อยู่ประตู 2 L หรือประตูหลักที่ผู้โดยสารจากสนามบินดอนเมืองเดินเข้าในตัวเครื่องนั่นแหละ


เพราะเหตุผลทางด้านความปลอดภัยและความสะดวกในการอพยพกรณีฉุกเฉิน ลูกเรือต่างชาติอย่างเดี๊ยนเลยต้องมีหน้าที่รับผิดชอบประตูด้านนั้น ครั้งหน้าจะไม่ประหม่าแบบนี้แล้วค่า


พอมีสัญญาณโทรศัพท์สีแดงขึ้น ให้ลูกเรือประจำประตูรับ เดี๊ยนโคตรเครียดที่จะยกหูเลย

"แม่ง จะให้กรูพูดไรวะ? อย่าพูดรัวนะมึง กรูกระดกลิ้นตามไม่ทัน"



ไฟล์นี้ไฮไลท์อยู่ที่ ผู้โดยสารเป็นจีน 90 เปอร์เซ็นต์ ในชั้นประหยัด ซึ่งเดี๊ยนต้องเสริฟ์ออกจากครัวกลางซะด้วย
แถมยังมีจำนวนแค่ 34 คนเท่านั้น สวรรค์โปรด
นอกจากนั้นยังมีนักบินพี่อี๊ด (วงฟราย) หรือนักบินผู้ช่วยที่มีทรงผมบาดใจรสนิยมดิบๆของเดี๊ยนเป็นที่สุด เดินไปไหนเฮียก็ดูหล่อระบาดกับแว่นกันแดดทรงเรแบนซะเหลือเกิน

เดี๊ยนก็ไม่ได้บ้านักบินหรอก เพิ่งจะเห็นว่ามีสองปีกตอนที่ยิ้มตอบไปให้หลังจากเฮียแกกระแซะเข้ามาคุย


เฮียอี๊ดยิ้มหน้าบานเลยตอนที่เดี๊ยนชมว่าทรงผมเดิ้ลถูกใจ
แกก็เลยหยอดกลับว่าน่ารักตั้งแต่ตอนที่เห็น



หน้าเดี๊ยนก็ไม่ได้เด้งอะไรขนาดนั้น ก็ยังดีใจที่มีคนชมแถมขอเบอร์โทรอีก
ไม่สะเหรอบอกหรอกว่าให้เบอร์รึเปล่า แต่เฮียบอกว่าจะบินกลับมาวันจันทร์แล้ววันอังคารวันเกิดเฮีย

และเฮียมีบินไปไคโรวันพุธนี้ด้วย ซึ่งเราต้องเจอกันอีกครั้ง
สยิวกิ้วว่ะ




ตอนขากลับเดี๊ยนก็เจอลูกเรือทีมใหม่ที่มาแทน
เป็นไฟล์เครียด เพราะแม่งหน้าเครียดกันเหลือเกิน

ไม่กล้าพูดเล่นเลย เดี๊ยนเปลี่ยนหน้าที่ไปเป็น 1LA
แน่นอนว่าต้องทำส่วนเฟริสต์คลาสนั่นเอง

ตอนนั้นรอยบาทากาเพิ่มขึ้นมาหลายเส้น เพราะว่าหลังจากฝึกเรียนบริการของชั้นนี้มานาน และหลังทดลองงาน ได้หยุดมาครึ่งเดือนแล้ว จะไปจำอะไรได้ล่ะค๊ะคู๊น


องค์ประกอบเยอะมากๆ ไฟล์แรกก็เอาแล้วกรู
เฟริสต์คลาสอินเตอร์ชั่นแนล (ขณะพูด ทำหน้าวาดฝันเหมือนฉากในหนังเรื่อง View from the Top จะได้อารมณ์มาก)

จากประสบการณ์อันน้อยนิด ก็พอจะรู้ว่าถ้าผู้โดยสารชั้นนี้ขออะไรแล้วไม่ได้ตั้งแต่ต้น เช่น น้ำเปล่า เดี๊ยนคงต้องเจอฝันร้ายแบบเฟรดดี้ครูเกอร์ไปตลอดไฟล์เลย โดนหาเรื่องด่าตลอด


เพื่อนร่วมงานไม่ให้ เดี๊ยนก็ต้องหามาให้จนได้ ถึงได้เรียกรอยยิ้มมาให้ท่านผู้โดยสารได้ในที่สุด แต่ที่เรียกตอนที่เครื่องกำลังขึ้นแบบไม่มีใครปลดเข็มขัดออกมาเดินแล้วไม่ได้ป่วยแบบต้องการน้ำโดยด่วนหรืออะไรเนี่ย


มีโมโหนะคะคุณเพราะว่าบอกให้รอหน่อย 5 นาทีได้มั้ย ดันบอกว่ารอไม่ได้ "ไอ้เวร"
ตอนนั้นเป็นผู้โดยสารชั้นประหยัดที่เรียกใช้เดี๊ยนตอนที่เครื่องกำลังร่อนขึ้น เดินไปหานี่เหมือนเดินขึ้นเขาเลยค่ะคุณ ขอให้รอหน่อย 5 นาที ก็ทำหน้าเป็นตูดบอกว่าไม่ได้จะไม่ให้โมโหได้ยังไง มีอะไรขึ้นมาเดี๊ยนตายก่อนเลยนะ ไม่ได้รัดเข็มขัด แล้วก็ช่วงนี้เป็นช่วงที่เสี่ยงที่สุดด้วย

พอสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง เอาไปพิเศษเลยมึง 3 แก้ว




ชั้นประหยัดเราจะเริ่มเสริฟหลังจากเครื่องบินบินอยู่ในระดับที่ทรงตัวแล้ว ในขณะที่ชั้นอื่นจะเสริฟ์ก่อนที่เครื่องจะเทคออฟ



ลุงเพอร์เซอร์ไฟล์นี้ดุหน้าตายมาก เดี๊ยนนั่งข้างแกเลย
ลุงพูดประกาศปุ๊ปเดี๊ยนก็ต่อเลยอีก 2 ภาษา

แหม 4 ภาษาเลยนะค๊า สายการบินเดี๊ยนไฮโซแล้ว


บางครั้งประกาศไม่ทันใจลุงเพราะโพยใหญ่หลายหน้าเหลือเกิน ลุงเลยดึงไปดู ไงล่ะ อ่านไม่ออกอ่ะดิ ลุงเลยส่งคืนหนู


ได้คำชมด้วยการยกนิ้วโป้งขึ้นให้เฉยๆ 4 ชั่วโมงที่บินด้วยแค่นี้ก็ทำให้หัวใจน้อยๆของแอร์มือใหม่พองโตขึ้นอักโขแล้วค่ะ


ตอนกลับถึงดอนเมือง ไม่น่าเชื่อว่า 13 ชั่วโมงผ่านไปเจ้าหน้าที่ทีมเดิมรวมถึงนายของเดี๊ยน และวิศวะกรยังคงอยู่ แถมยังจำได้ซะอีกว่า



" อ๋อ ยูนี่เองที่เมื่อเช้าปิดประตูเครื่องไม่แน่น">ผิดไปแล้วค่า



Create Date : 10 เมษายน 2549
Last Update : 10 เมษายน 2549 23:01:37 น.
Counter : 587 Pageviews.

7 comment
หลังจากรอมา.....เนิ่นนาน



สุดท้ายแล้วสาวๆรุ่นเดี๊ยนก็เหลือกันเพียงแค่ 11 คน

เรียกร้องกับเรื่องสัญญาและสวัสดิการณ์ต่างๆมานานร่วม 3 เดือนเต็ม และแล้วก็ได้สิทธิการเป็นแอร์กี่สายการบินนี้ไป 4 ปีรวด

ดีใจรึเปล่าไม่รู้นะงานนี้ สัญญาโคตรนาน ใครจะไปอยู่ถึงวะ ที่แน่ๆไม่ใช่เดี๊ยนชัวร์

ก็ถ้ามันได้ Layover ซะหน่อยเหมือนลูกเรือชาติอื่นมันก็คงดีกว่าเนี๊ยะ ตอนแรกบอกว่าจะได้ไปนอนเชอราตันสัก คืนสองคืน

อุตส่าห์วางแผนเที่ยวซะดิบดี ว่าจะไปช๊อปหนังสือจีนดีๆมาหน่อย ไม่ก็ไปเดินตะลุยกินตามร้านที่ว่าอร่อยๆ สุดท้าย.....อด


ช่วงเวลาที่ผ่านก็เซ็งจัด ก็ดีที่มีอะไรทำเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าแอร์ที่อื่นเค้าจะมานั่งหลังขดหลังแข็งแปล PA ที่ใช้ประกาศบนเครื่องเองรึเปล่า ทั้งไทยทั้งจีนเลย
สามารถม๊ากกกกกกกกค่ะ

โคตรเหนื่อยเลย เงินก็ไม่ได้เพิ่มนะเนี่ยกรู นั่งทำคนเดียวใช้กันทุกลำ งานนี้ถ้าไม่ได้ Yulia สาวจีนคนสวยเพื่อนร่วมบ้านเดี๊ยนช่วย (กลับไปอ่านเรื่อง Sweet times in Memories ด่วน) ตรวจเอกสารให้อีกรอบก็คงได้เห็นหน้างงของท่านผู้โดยฯแหงๆ ประมาณว่า "ที่ประกาศนี่ภาษาบ้านกรูเหรอเนี่ย"


เมื่อวานไปเจอคุณฮาล่า หรือเฮีย(ขี้)เต่าแตก ( ของยัยนาเดีย ) ได้ความว่าจะบินยังไงบ้าง แบ่งกลุ่มบินยังไงดี

เดี๊ยนได้คู่กับลูกสาว ก็คือ Sunny
เลยค่อยสบายใจหน่อย ทำงานกับคนที่หนิดหนมก็คงเฮฮากว่า ที่จะลุ้นว่าวันนี้อาจได้บินกับคนที่เราเขม่นไว้รึเปล่า แต่ก็นั่นแหละ สาวๆไม่ครบคู่ เลยมีอันต้องบินกับสาวร่วมชาติคนอื่นด้วยบางครั้ง

อันนี้ขอไม่พูดดีกว่า
บินกับ Cockpit queen บางคนคงเดาได้ว่าจะเป็นยังไง
อย่าให้พูดเป็นภาษามลายู ทั้งวันก็ไม่จบ

ไปละ.....หิว







Create Date : 03 เมษายน 2549
Last Update : 3 เมษายน 2549 20:56:30 น.
Counter : 588 Pageviews.

0 comment
รักใหม่กับใจดวงเดิม .....เน่ามะ
หลังจากต้องเสียอัฐที่มีอยู่น้อยนิดโทรไปปรึกษาไอ้ตัวเล็กที่ไทเป เพราะคอมฯเจ้ากรรมที่บ้านมันไม่ยอมทำงานซะอย่างงั้น แล้วก็เลยมานั่งแกะเครื่องเข้าๆออกๆดูตามคำแนะนำของเจ้าน้องชายตัวดี เลยไม่ต้องเป็นหมูตัวเดียวแบกเครื่องไปซ่อมถึงพันธุ์ทิพย์ ไม่งั้นมีสิทธิ์เปลี่ยนฮาร์ดดิสใหม่ สนนราคา 3000 แน่เลย

เมื่อคืนนอนไม่หลับ สมองคิดเรื่องต่างๆนานาทั้งอดีตที่ผ่านมาที่มีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี รวมทั้งเรื่องอนาคตที่กำลังจะเกิด

น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัวเพียงแค่คิดถึงเรื่องผู้ชาย

ไม่ได้เสียน้ำตาแบบ unlimited กับเรื่องรักๆแบบนี้มานานแล้ว ความรู้สึกเสี่ยวๆกลับเข้ามาอีกละ

อารมณ์นี้เข้าแทรกทีไรต้องผีนักกวีเก่าเข้าสิงห์ทุกทีเลย

"........กาลเวลาทำให้คนเปลี่ยนไป และเป็นเครื่องพิสูจน์ความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี และก็เป็นตัวทำลายความสัมพันธ์หลังจากที่ผนวกเข้ากับความห่างไกล
เวลาที่เรามีปัญหา มีความทุกข์ ก็มีแต่เรานั่นแหละที่นั่งจับเจ่าร้องไห้อมทุกข์ ตาบวมอยู่คนเดียว
ใครจะรู้บ้างว่าเรามีปัญหา บางครั้งเหงามากอยากให้ใครสักคนอยู่ด้วย แต่ในอีกความรู้สึก....มีความสุขที่ได้อยู่แบบนี้ ไม่ต้องคอยหาเวลาว่างไปดูแลใคร ไม่ต้องทะเลาะกับใคร เป็นที่พึ่งของตัวเอง.........."

เสร่อจริงๆเลยกรู เป็นอีหรอบนี้อีกแล้ว

เมื่อกี้แวบไปดูเวปของตาแฟนเก่าเดี๊ยนมา มีแต่เพื่อนผู้หญิงทั้งนั้นเลย ฮึ่มๆๆ แรดจริงๆเลยแม่พวกนี้ หมั่นไส้ๆๆๆๆๆๆๆ

ถ้าเลือกได้ก็อยากให้แฟนทั้งเก่าทั้งใหม่มาอยู่ข้างๆเราทั้ง 3 คนเลย ฝันมากไปรึเปล่าเนี่ย ผิดด้วยเหรออยากมีฮาเร็มเป็นของตัวเอง อยู่คนเดียวมันเหงานี่

ชาติหน้าเกิดเป็นหนุ่มอาหรับเมื่อไรนะ.......เต็มลิมิต 4 รับรอง











Create Date : 20 มีนาคม 2549
Last Update : 26 มีนาคม 2549 5:35:37 น.
Counter : 1033 Pageviews.

5 comment
จัดกระเป๋า
เพิ่งกลับมาจากสยาม เหนื่อยโคตร รถติด กว่าจะถึงบ้านก็เล่นแทะปูอบปรุงรสถุงใหญ่ที่ซื้อมาจากมาบุญครองไปซะเกือบครึ่ง

นึกว่าจะมีแต่เฉพาะญี่ปุ่นซะอีก มีอะไรมั่งที่เมืองไทยเลียนแบบไม่ได้ เมื่อก่อนถ้าอยากกินต้องนั่งรถไปซื้อที่ Toko Setiabudi พอตอนนี้ก็มีที่สยามพารากอนด้วย หาเรื่องเสียตังค์กับการกินอีกแล้วเรา

วันนี้นัดเพื่อนๆตุ้ย 3 ไต้หวัน ไปทานข้าวกันที่ เอ็มเค เม้าท์กันกระจายหลังจากไม่ได้อัฟเดตข่าวกันมานานร่วมเดือน เป็นอันว่าอีกไม่นานนี้คงได้มีโปรแกรมไปต่างจังหวัดกันอีก เบื่อทะเลแล้วคงจะไปเที่ยวน้ำตก ล่องแก่ง ขี่จักรยานเสือภูเขา ปีนหน้าผาจำลอง ไม่ก็ไปนอนเล่นที่ไหนสักแห่งคืนนึง

เพื่อนๆถามว่างานใหม่เป็นยังไงบ้าง บอกได้ว่าก็ท่าทางจะไปได้ดี เพียงแต่บางอย่างต้องใช้การปรับตัวเยอะ เดี๊ยนเป็นพวกปลีกวิเวกและค่อนข้างเป็นปัจเจกบุคคล มีความเป็นส่วนตัวสูง ชอบหรือไม่ชอบอะไรก็จะแสดงออก เลยทำให้บางครั้งรู้สึกเหนื่อยกับการวางตัวในสังคมการทำงาน

การที่เราอยากให้ใครสักคนทำอะไรให้ เราก็ควรจะทำสิ่งนั้นกับเค้าก่อน แต่บางครั้งทฤษฎีนั้นมันใช้ไม่ได้กับทุกคน บางคนผิวหนังและกระโหลกหนาเกินกว่าเราจะออสโมซิสถึง ต่อให้แสดงความเป็นมิตรหรือดีด้วยมากเท่าไร เราก็ล้ามากเท่านั้นเหนื่อยใจที่จะเป็นเศษธุลีในสายตาของมัน(บางคน)เหลือเกิน

การเลือกที่จะไม่ใส่ใจใครมากไปก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำสำหรับเดี๊ยน เพื่อนร่วมงานอาวุโสร่วมแบ่งประสบการณ์ให้ฟังว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ทำงานบนเครื่องบิน เค้าสูญเสียอะไรไปหลายต่อหลายสิ่ง ที่เห็นได้ชัดคือ เค้ากลายเป็นคนที่ไม่มีสังคม เพราะเวลาทำงานที่แตกต่างจากคนอื่นๆ สิ้นปีนี้เค้าจะลาออกและไปทำงานเป็นพนักงานธนาคารธรรมดาๆ คงมีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวมากขึ้นกว่านี้

คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า อธิบายให้ตายก็ไม่ซึ้งต้องให้เข้ามาสัมผัสเองแล้วจะรู้ พูดไปนั่น ขนาดเดี๊ยนเพิ่งเริ่มนะเนี่ย แต่อย่างว่า จะทำอะไรทุกอย่างล้วนต้องมีการวางแผน แผนเดียวก็ไม่เพียงพอซะด้วยสิคุณๆ

ศุกร์หน้าคาดว่าคงจะได้ตารางบินที่ร่อนออนไลน์มาทางอีเมลล์ แล้วคงจะได้รู้ว่าไฟล์แรกที่จะเริ่มเป็นวันไหน คาดว่าคงได้ไปไคโรแน่เลย
คราวนี้ บ่ ยั่นแล้ว อ้อนหมอให้จ่ายยาแก้เมาอย่างดีแบบไม่ง่วงมาคุมสติอีแอร์ไม่ให้กระเจิดกระเจิงหาถุงอ๊วกอีก ใครบอกเกิดเป็นแอร์สบายวะ

ว่างๆตอนนี้ก็ขอเสร่อจัดกระเป๋าก่อนแล้วกัน ถึงเวลาจะได้ไม่วิ่งวุ่นวาย เอ้าเปิดกระเป๋านังแอร์เช็คสัมภาระหน่อย

กระเป๋าแรดลายนักร้องคาเฟ่ใบเล็ก
- อายแชโดว์ ตลับละ 2 สี 3 ตลับ ยี่ห้อ Priscilla สีเปรี้ยวซะถูกใจเจ๊ ซื้อที่สยาม มีสีขาว - ทอง , ฟ้า - น้ำเงิน , เขียวอ่อน - ขี้ม้า , ส้มประกายมุก
- อายแชโดว์ครีม สีฟ้าเหลือบเขียว Red earth ดูมีชาติตระกูลหน่อย
- อายแชโดว์และปัดแก้ม 6 หลุมของ MTI
- ที่ปัดแก้ม Gino McCray
- ลิปสติกสีพีช Maybelline ,มาสคาร่าชนิดต่อขนตายี่ห้อเดียวกัน
- ลิปกรอสสีน้ำตาล Nivea
- อายไลน์เนอร์แบบน้ำ , มาสคาร่าสีแดง / เขียว / น้ำตาล ไร้ยี่ห้อจากใต้หวัน
- ลิปกรอสสีส้มประกายมุก Estee Lauder
- แป้งตลับ Kanebo
- ยาทาเล็บสีส้มอ่อน และสีใสประกายชมพู ซื้อตอนเปิดท้ายขายของ
- สเปรย์ระงับกลิ่นปาก ซื้อจากอียิปต์
- มีดโกนเล็ก
- ที่ดัดขนตา
- อายไลน์เนอร์แบบแท่ง สีน้ำเงินอ่อนมุก
- ลิปสติก Mei Linda แบบตลับ 6 สี
**ชุดแปรงแต่งหน้าชุดใหญ่ 1 เซ็ต และหวี

กระเป๋าสะพายอาละดินที่นายเลือกให้
- กระดาษเช็ดหน้า แบบ 60 แผ่น Lotus
- กระดาษเช็ดมือแบบเปียก แบบ 24 แผ่น และกระดาษเช็ดหน้าแบบเปียก Hebi care
- เจลหลอดล้างมือแบบแห้ง Watsans
- แป้ง ทเวลฟ์ พลัส ทาหน้ากระปุกเล็ก
- กระเป๋าเล็กใส่ ตลับคอนแทกส์เลนส์ , น้ำยาแช่ Complete กระปุกเล็ก , ยาหยอดตา Tears Naturale ซื้อจากอินโด
- เครื่องคิดเลข คาสิโอ เก็บได้บนเครื่อง
- บัตรพนักงาน , พาสปอร์ต , ใบอนุญาติ
- ปากกา 2 ด้าม และ กระดาษโพสอิต
- ถุงใส่ยาประจำบ้าน มีปอจีอี๊ 5 ประปุก , Motilium-M , Panadol , Ponstan , Amoxycillin , Tensoplast
และยาแก้เมาเครื่อง
- สเปรย์น้ำแร่กลิ่นกุหลาบ ใช้ฉีดหน้า Cute Press
- Cabin shoes
- ผ้ากันเปื้อนที่มีป้ายชื่อติดไว้เรียบร้อย พร้อมใส่ทุกเมื่อ
- ตัวอย่าง Emergency Equipment Checklist สำหรับโบอิ้ง 777 ของทุกตำแหน่ง
- กล่องพลาสติกยาวสำหรับใส่อาหาร
- กระเป๋าสตางค์ พร้อมเงิน 4 สกุล คือ บาท , ดอลล่าห์ , ปอนด์ และหยวน
- มือถือ พร้อมซิมไทย และอียิปต์อย่างละอัน (คาดว่าอนาคตคงเปิดโรมมิ่ง แต่ตอนนี้เอาไว้ก่อนมันแพง

เห็นของเยอะอย่าจินตนาการว่ามันใหญ่มากนะ ความสามารถในการยัดของเดี๊ยนเป็นเลิศ

กระเป๋า Samsonite ของลูกเรือใบกลาง
- เครื่องแบบสำรอง 1 ชุด
- ผ้ากันเปื้อนสำรอง 1 ผืน
- ชุดลำลอง 1 ชุด
- ถุงน่องสำรอง
- กระเป๋าบรรจุอุปกรณ์อาบน้ำ เช่น ครีมอาบน้ำและโฟมล้างหน้า โชกุบุซึโมโนกาตาริ , ยาสีฟันใหล้ชิดสีม่วงหลอดใหญ่ , แปรงสีฟันไฟฟ้า คอลเกต , ไหมขัดฟัน ชนิดเคลือบมิ้นท์ , ยาสระผมกับครีมนวดผม โดฟ , น้ำมันมะกอก
- กาต้มน้ำ ใบเล็ก
- ชามพลาสติก และช้อม ส้อม มีด
- น้ำยาล้างจาน
- บะหมี่สำเร็จรูป และโจ๊กแบบเติมน้ำร้อน
- ชาดอกคำฝอย , ชาเขียว , ชามิ้นท์ , ชาฮาวาย , ชาคาโมมายน์ , ชาเก๊กฮวย , ไมโลซอง , คาปุชิโน่ซอง , นมกล่อง
- สโหร่งบาติก
- ชุดว่ายน้ำ , หมวก , แว่นตาดำน้ำ
- รองเท้าคัชชู

ตอนนี้นอนรอละ บินเมื่อไรเดี๊ยนพร้อมทุกเมื่อ

>



Create Date : 12 มีนาคม 2549
Last Update : 26 มีนาคม 2549 1:05:08 น.
Counter : 677 Pageviews.

4 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

Uki no Kimono
Location :
Duesseldorf  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อดีตสาวแอร์แดนทะเลทรายที่ผันตัวเองไปเป็น office lady และกลับไปเป็นนักเรียนไทยในต่างแดนเช่นเคย ขอแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินชีวิตแบบชีพจรรองเท้าจากที่เคยผ่านมาทั้ง ๔ ทวีปให้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจนะคะ
Myspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter GraphicsMyspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter GraphicsMyspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter GraphicsMyspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter GraphicsMyspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter GraphicsMyspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter Graphics Myspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter GraphicsMyspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter GraphicsMyspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter GraphicsMyspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter GraphicsMyspace Glitter Graphics, MySpace Graphics, Glitter Graphics