LIFE GOES ON~
Group Blog
 
All blogs
 

~...เจี๊ยะ ป้า บ่อ สื่อ...~

เป็นความตั้งใจแต่แรกแล้วว่าการเขียนblogไม่ใช่หน้าที่ ไม่มีเรื่องอะไรให้เขียนถึงก็ไม่เขียน...เท่านั้นเอง แต่พอห่างหายหลายวันเข้าก็ชักจะกังวลว่าจะคุ้นเคยกับการไม่เขียน และจะกลายเป็นทิ้งขว้างไปเสียเฉยๆ วันนี้ก็เลยว่าจะเขียนอะไรใส่blogซะหน่อย ลงมือเขียนทัศนะคติต่อบางเรื่องที่เจอไปได้หน่อยเดียวก็เขียนต่อไม่ออก ก็เลยหันไปวาดรูปแทน ซึ่งก็นึกไม่ออกอีกเหมือนกันว่าจะวาดอะไร...ก็ไม่มีเรื่อง จะเขียนรูปได้ยังไง?

มองไปมองมารอบบ้าน เห็นดอกลั่นทมกำลังบานเลยวาดรูปนี้ออกมา




วาดเสร็จแล้วก็ยิ้มกับตัวเอง...~เออ...เรานี่มัน"เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ"จริงๆ...^^"...~

ก็ไม่ได้ "กินอิ่มแล้ว ไม่มีอะไรทำ" จนถึงกับลุกขึ้นมาเต้นระบำฮาวายหรอกค่ะ ( อย่างมากก็ทำท่า 'โนบุตะ พาวเวอร์' นานๆครั้ง...^^V ) แต่มานั่งนึกๆดู ชีวิตดิฉันก็คงเป็นแบบนั้นแหละ ชีวิตที่เต็มไปด้วยเรื่อง "เจี๊ยะ ป้า บ่อ สื่อ" ...

ดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ดิฉันชอบ...^^~

...เปลี่ยนเรื่อง...

วันนี้ดิฉันเห็นเพื่อนบ้านคนนึงเป็นผู้หญิงอายุมากกว่าดิฉันซัก 5 ปี มีลูกสาวเล็กๆอยู่ชั้นอนุบาล เธอสวมเสื้อแขนสั้นสีขาว นุ่งผ้าขาว ผมสั้นเกรียน คงไปบวชชีมามั้ง ดิฉันมองเธอแล้วคิดในใจว่า...

"คนเราอยากมีความสุข อยากหนีทุกข์จนต้องโกนผม นุ่งขาว ห่มขาวกันเลยเหรอ? ยอมรับทุกข์กันบ้างเถอะ สุขก็ธรรมดา ทุกข์ก็ธรรมดา จะอยากสุขอะไรขนาดนั้น"

ความคิดดิฉันคงตื้นเขินเกินไป...ดิฉันยอมรับ ^^




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 1 มกราคม 2552 7:49:17 น.
Counter : 1143 Pageviews.  

~...เม้าธ์เรื่องรัก...ความเห็นจากเพื่อนใจร้ายของเธอ...~

.....เมื่อวันอาทิตย์ไปทานข้าวกับกลุ่มเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัยมาค่ะ ไม่รู้มันกลายเป็นธรรมเนียมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราห้าคนจะต้องเจอกันทุกวันเกิดของแต่ละคน จำได้ว่าวันเกิดเพื่อนคนนี้เมื่อปีที่แล้วดิฉันไม่ได้ไปเพราะเป็นช่วงที่แม่ป่วยหนัก แต่เมื่อครั้งก่อนโน้นเราไปฟังดนตรีในสวนกันที่สวนลุมฯ แล้วก็ไปทานข้าวต่อ และครั้งนี้เรานัดกันที่ร้าน "ระเบียงทะเล" ร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศดี แต่เราทานกันตอนกลางวันก็เลยนั่งในห้องแอร์ ถ้าเป็นเย็นๆแดดร่มลมตก ออกไปนั่งโต๊ะริมน้ำคงได้บรรยากาศอีกแบบนึง

ไม่รีวิวอาหารนะคะ ดิฉันไม่เชี่ยว แต่เอารูปเค้กส้มที่สั่งจากร้านเมฆ (ที่พูดถึงเมื่อblogก่อนหน้านี้) มาฝากค่ะ



*อาหารในภาพถูกตกแต่งเพื่อใช้ในการโฆษณาเท่านั้น*



ตอนแรกสั่งเค้กส้มไปสองปอนด์แล้วเมฆบอกว่าเค้กบลูเบอรี่ก็อร่อย เลยสั่งไปอีกสองปอนด์ ตอนไปรับเค้กเมฆแถมคุ๊กกี้มาอีก เพื่อนๆบ่นกันใหญ่ว่าจะสั่งอะไรเยอะแยะ (...ก็เค้าอยากอุดหนุนเพื่อนนี่...^^") ไม่มีรูปเค้กบลูเบอรี่มาฝากนะคะเพราะตัดทานกันไปครึ่งนึงแล้วบังเอิญเหลือเชื่อ เพื่อนสมัยมัธยมของดิฉันพาครอบครัวมาทานข้าวที่ร้านนี้พอดี ดิฉันเลยยกเค้กส่วนนั้นไปให้ อืม...เค้กบลูเบอรี่มันก็หน้าตาเหมือนเค้กบลูเบอรี่อ่ะค่ะ คงนึกภาพออก ...เนอะ...^^

ก็ทานกันไปคุยกันไปค่ะ แน่นอนว่าผู้หญิงล้วนๆห้าคนคุยกัน มันต้องไม่ใช่เรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศาสนา วัฒนธรรม...และฟุตบอลแหงๆ (ยกเว้นเรื่อง edison chen ที่เราพยายามโยงให้มันเป็นเรื่องจริยธรรมให้ได้...ฮี่ๆ ^.,^) ส่วนใหญ่เราคุยกันเรื่องความรักของเพื่อนคนนึงค่ะ... เธอคบผู้ชายอยู่สองคนแล้วเลือกไม่ได้ซักทีว่าจะแต่งกับคนไหน โดยต่างฝ่ายก็รู้เรื่องของกันและกันเพราะเธอบอกว่า "เราไม่อยากโกหกใคร" ...พระเจ้า!

นี่เป็นบางส่วนจากความคิดนางฟ้าของเธอและความเห็นแบบhardcoreจากเพื่อนใจร้ายค่ะ...

เธอ : เราจะเลือกคนนึง อีกคนก็ถามว่าแล้วเค้าผิดอะไร
เพื่อนใจร้าย : เฮ้ย...ความรักมันไม่ต้องมีความผิดหรอก แค่เธอรักคนนึงมากกว่าอีกคน ก็เท่านั้น

เธอ : แม่เค้าคุยกับเรา บอกว่าเค้าดีขึ้นมากเลยนะ เลิกเที่ยว เลิกเหลวไหลตั้งแต่คบเรา
เพื่อนใจร้าย : มันก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบอะไรของเธอ ลูกเค้าจะดีเลวมันก็อยู่ที่เค้าอบรมเลี้ยงดูกันมายังไง จะมาโยนหน้าที่ให้เธอช่วยทำให้ลูกเค้าเป็นคนดีหน่อยเถอะ...มันไม่ใช่อ่ะ จะให้เธอต้องเสียสละตัวเองเพื่อลูกเค้าขนาดนั้นเลยเหรอ? ตายไปสร้างอนุสาวรีย์ให้หรือเปล่าเนี่ย (กรี๊ด~~~ปากคอเราะร้าย)

เธอ : เค้าบอกว่าถ้าไม่เจอเรา เค้าก็ไม่รู้จะเป็นคนดีได้ขนาดนี้มั้ย
เพื่อนใจร้าย : เป็นคนดีนี่มันไม่ต้องว่าเพื่อใครหรอกนะ มันเป็นเรื่องของสำนึก ถ้าเค้าจะเลวเพราะผู้หญิงคนนึงไม่เลือก ก็ปล่อยเค้าไปเถอะ หรือเธอจะอยากอยู่กับคนที่ไม่รู้แม้แต่ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำไปตลอดชีวิต

เธอ : เราบอกเค้าแล้วว่าให้หาคนใหม่ที่ดีกว่าเรา เค้าบอกว่าเค้าคงไม่เจอใครแบบเราอีกแล้ว
เพื่อนใจร้าย : เฮ้อ...มันก็พูดแบบนี้ทุกคนแหล่ะ ฉันเห็น 3 - 4 คนก่อนก็จะเป็นจะตายตอนเธอเลิก แล้วตอนนี้เป็นไง มีใครอยู่เป็นโสดเพื่อเธอมั้ย มีแฟนใหม่ไปแล้วทุกคน

เธอ : เค้าก็เป็นคนดีทั้งสองคน เราไม่อยากตัดโอกาสใคร เรายังไม่อยากเลือกใคร
เพื่อนใจร้าย : ไม่ใช่! เธอไม่ได้ตัดโอกาสใคร แต่เธอให้โอกาสผู้หญิงอีกคนได้พบกับผู้ชายดีๆที่เธอไม่เลือกต่างหาก

.......ฯลฯ......


.....ก็คุยเรื่องนี้กันซักพักนึง แต่พวกเราไม่ได้ว่าอะไรผู้ชายทั้งสองคนนั้นเลย (หรือเปล่า?) เพราะรู้ว่าปัญหามันอยู่ที่ตัวเพื่อนเราต่างหากที่ไม่เด็ดขาด ทั้งสามคนก็เลยติดอยู่ในเขาวงกต วนเวียนอยู่ที่เดิม...เสียเวลา จริงๆแล้วเราไม่ได้คาดคั้นให้เธอเลือกคนไหนให้ได้เดี๋ยวนี้ เราไม่ได้ถือหางใคร มันเป็นเรื่องของเธอ ชีวิตเธอ เธอเป็นคนที่ต้องอยู่กับคนที่เธอเลือก ไม่ใช่พวกเรา เพียงแต่เราอยากให้เธอเลือกด้วยความรัก ด้วยความดีของคนคนนั้น เลือกเพื่อความสุขของตัวเอง ไม่ใช่เลือกเพราะสงสาร เลือกเพราะคนนี้แม่เราชอบเค้า คนนี้แม่เค้าชอบเรา อย่าเลือกเพราะแม่เค้า แม่เรา หรือแม่ใครทั้งนั้น! จงเลือกเพื่อตัวเองและอย่าลังเลไม่กล้าเลือกเพราะกลัวจะเลือกผิด ไม่ได้มีกฏว่าชีวิตนี้เลือกได้ครั้งเดียวซะหน่อย...จะกลัวอะไร?




ดิฉันก็เล่าไปเรื่อยเปื่อย เรื่องของคนที่ไม่มีใครในนี้รู้จัก แค่อยากบอกว่าบางอย่างที่เราคิดว่ากำลังทำดีที่สุด จริงๆมันอาจไม่ดีกับใครซักคนเลยก็ได้ และไม่ว่าเรื่องอะไร ในเมื่อรู้ว่าสุดท้ายแล้วมันก็มีอยู่ทางเดียวที่เป็นไปได้ แล้วจะเสียเวลาติดหล่มอยู่ทำไม ตัดสินใจได้เร็วเท่าไหร่ก็เหลือเวลาที่จะเดินหน้าต่อไปมากเท่านั้น บางทีการใจร้ายครั้งนึงอาจจะทำร้ายคนรอบข้างน้อยกว่าใจดีไปเรื่อยๆ...ไร้จุดหมาย




ปล. ลั่นทมดอกแรกที่บ้านเพื่อนใจร้ายคนนั้นบานแล้วนะคะ...ชอบจังเลย...(@^_^@)~~~
และ...blogนี้ไม่มีภาพวาดประกอบ เพราะเจ้าของblogนึกไม่ออกว่าจะวาดอะไร
ว่าแล้วก็เอามือถือไปถ่ายรูปลั่นทมดีกว่า





***เพิ่มเติม***

ดิฉันนั่งดูข่าวตอนทุ่มนึงกับเพื่อนที่เป็นพยาบาล ตอนที่คุณลุง'หมักออกมาเบรกคนที่จะตั้งลูกคนนั้นคนนี้มาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ได้ยินแล้วดิฉันกับเพื่อนถึงกับยืนขึ้นปรบมือให้ลุงอยู่หน้าทีวี แล้วคิดว่าเราควรจะเปลี่ยนแผนจากทำอะไรง่ายๆกินที่บ้าน เป็นออกไปกินข้าวเหนียว , น้ำตก , คอหมูย่างและต้มแซ่บ ที่"ร้านเจ๊ดา" เป็นการฉลองดีกว่า...เย่!




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 1 มกราคม 2552 7:49:39 น.
Counter : 350 Pageviews.  

~...ถ้าไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้ คุณอยากเป็นอะไร?...~

หลายอาทิตย์ก่อน "เมฆ"เพื่อนดิฉันถามเรื่องเกี่ยวกับชาเพราะกำลังจะเปิดร้านเบเกอรี่ ดิฉันตอบว่า..."googleช่วยได้"...^^ ดิฉันชอบกาแฟมากกว่าชา แต่ชอบมากกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับกาแฟมากกว่าหรอกนะคะ แยกแยะกาแฟแต่ละชนิดยังไม่ได้เลย รู้แต่ว่ากาแฟของดิฉันต้อง...ร้อนและไม่หวาน...

ดิฉันไม่ได้รังเกียจรสหวาน แต่คิดว่ากาแฟมันไม่ควรจะหวาน ...จริงมั้ย?

เราคุยเรื่องร้าน เรื่องขนม เรื่องเครื่องดื่ม...จนมาหยุดที่การตกแต่งกาแฟ คิดว่าจะแต่งหน้าแปลกๆหรือเอาโลโก้ร้านใส่ไปบนกาแฟแต่ละแก้วได้ยังไง คิดวิธีโน่นนี่กันสนุกเชียวค่ะ แล้วเมฆก็บอกว่า..."อยากเป็นบาริสต้า"

เมฆจบสาขาการออกแบบนิเทศศิลป เคยทำหนังสือแล้วก็ออกเพราะ..."อ่านหนังสือสนุกกว่าทำเอง" หลังจากนั้นก็ไม่เห็นทำงานประจำที่ไหนอีก รับทำartworkให้หนังสือบางเล่ม , เป็นอาจารย์พิเศษบ้าง ...ที่เหลือก็"พักผ่อน"... เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้ยินว่าเมฆอยากเป็นอะไร

...แล้วเราล่ะ ถ้าไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้ เราอยากเป็นอะไร?...

เพื่อนสนิทกลุ่มดิฉันไม่มีใครทำงานประจำเลยซักคน บางคนก็ออกมาเป็นสิบปี บางคนก็เพิ่งจะลาออกมาเมื่ออายุสามสิบกว่าๆ ในวัยที่ทุกอย่างมันควรจะลงตัว วัยที่น่าจะรู้แล้วว่าชีวิตที่เหลือจะไปทางไหน แต่เรากลับมาเริ่มต้นเรียนรู้อะไรใหม่ กลับมาเริ่มคิดว่าอยากทำอะไร... เพื่อนคนนึงกำลังเรียนเต้นรำอย่างจริงจังและเตรียมตัวสอบเป็นครูสอนเต้น ส่วนอีกคนกำลังจะเปิดสอนโยคะ

...แล้วเราล่ะ ถ้าไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้ เราอยากเป็นอะไร?...

ดิฉันอยากเป็น "คนบูรณะงานศิลปะ" หลังจากดูสารคดีเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ที่แสดงงานศิลป์เมื่อนานมาแล้ว มีคนที่ทำงานอย่างนึงที่ดิฉันสนใจเป็นพิเศษ เค้ามีหน้าที่ดูแลงานศิลปะที่จัดแสดงค่ะ ทำตั้งแต่หาวิธีทำความสะอาดที่เหมาะสมกับงานแต่ละชิ้นโดยไม่ทำให้งานเหล่านั้นเสียหาย พวกภาพวาดที่สีหรือผ้าใบเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาก็ต้องหาวิธีหยุดยั้งหรือไม่ก็บูรณะให้กลับมาดีเหมือนเดิม แค่เห็นเค้าพยายามค้นหาว่าสีแต่ละสีที่ใช้นั้นทำมาจากรงควัตถุประเภทไหนก็สนุกแล้ว แล้วเวลาลงมือทำจริงเค้าจะต้องใช้แว่นขยายส่องดูทีละเส้น ทีละฝีแปรงเลยทีเดียว...จะมีซักกี่คนที่ได้นั่งพิจารณาแต่ละเส้นที่ Vincent Willem van Gogh , Claude Monet , Edouard Manet หรือ Pablo Picasso เขียนออกมา...ดิฉันอยากเป็นคนนั้น

ดิฉันว่าเหตุผลนึงที่อยากทำงานแบบนั้นเพราะว่าตัวเองเป็นคนชอบจ้องมองอะไรนานๆ มองให้ละเอียดถี่ถ้วนว่าอะไรเป็นอะไรไปที่ละจุด...ทีละส่วน แต่ก็แปลกที่ส่วนใหญ่พอได้มองเห็นมันจริงๆแล้ว แทนที่จะยิ่งหลงใหลกลับหมดความสนใจต่อของสิ่งนั้นไปเสียเฉยๆ...ดิฉันถือเป็นเรื่องดีนะ จะได้ไม่จมอยู่กับอะไรนานเกินไป...

ทุกวันนี้ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่อยากหรอกค่ะ ไม่ได้เป็นแม้แต่อาชีพที่เคยเป็นมาสิบกว่าปี ตั้งแต่แม่เริ่มป่วยเมื่อสามปีก่อนดิฉันก็ลาออกจากงานมารับช่วงดูแลกิจการที่บ้านต่อจากแม่ มีรับงานเขียนแบบบ้างแล้วแต่เวลาและความเกรงใจ แต่ดิฉันก็มีความสุขกับชีวิตแบบนี้นะ

ข้อดีอย่างนึงของการมีกิจการของครอบครัวก็คือดิฉันใช้ชีวิตได้ตามใจ จะเถลไถลทำอะไรนอกลู่นอกทางพอไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนบ้างก็ได้ เพราะรู้ว่าสุดท้ายที่บ้านก็มีอะไรให้กลับมาทำงานเลี้ยงตัวได้อยู่ดี และคงเพราะได้ทำอะไรหลายอย่างตามใจแล้ว ก็เลยไม่ค่อยสนว่าจะได้เป็นอย่างที่อยากเป็นหรือเปล่า ชีวิตที่ผ่านมาก็สนุกดี สุขบ้าง ทุกข์บ้าง บางอย่างก็ทำเพราะอยากทำ บางอย่างก็ทำเพราะความจำเป็น บางอย่างก็แปลกใจตัวเองว่าเราทำได้ด้วยเหรอ?

ก็...ใช้ชีวิตกันต่อไป ชีวิตทุกแบบก็มีทั้งด้านดีและร้ายค่ะ ไม่ใช่ว่าถ้าคุณได้เป็นอย่างที่อยากแล้วชีวิตมันจะดี ราบรื่น โลกนี้สวยงามไปหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าตอนนี้ดิฉันต้องไปก้มหน้าก้มตาอยู่กับงานศิลปชิ้นเดิมทุกวัน...ทุกวันดิฉันจะทำไปได้ซักกี่น้ำ เพราะฉะนั้น...จะได้เป็นอย่างที่อยากเป็นหรือไม่ สิ่งที่สำคัญคือรับผิดชอบกับภาระหน้าที่ที่อยู่ในมือให้ดีที่สุด คนจริงไม่เลือกทำเฉพาะสิ่งที่อยาก แต่ต้องทำได้ดีแม้แต่สิ่งที่ไม่อยากค่ะ...^^





วันนี้เขียนยาวจังแฮะ คนเขียนเองยังขี้เกียจอ่านเลย...^^




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 1 มกราคม 2552 7:49:59 น.
Counter : 326 Pageviews.  

~...ลั้ลลา...ลั้ลลา...~

อารมณ์ดีค่ะ เรื่อยๆเฉื่อยๆ พ้นช่วงยุ่งๆมาแล้วก็อยู่เฉยๆ สบายๆ อ่านหนังสือแปลจากภาษาญี่ปุ่นเรื่อง "หล่น" ที่น้องส่งมาให้ ดูละครที่ดองไว้นานแล้ว...และก็เห็นสมควรจะมาเขียนอะไรใส่blogซะบ้าง

ช่วงที่หายไปมีทั้งเรื่องที่ชวนหงุดหงิดกับเรื่องเบาๆ สนุกๆเกิดขึ้น ซึ่งดูจากลักษณะนิสัยของตัวเองแล้ว แน่นอนว่าดิฉันขอเลือกเล่าเรื่อง "หาสาระอันใดมิได้" ก่อนแล้วกัน...^^



*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*


เพื่อนดิฉันริจะทำน้ำผลไม้ปั่นกินเอง...นัยว่าประหยัดกว่าไปซื้อเค้า ...เกี๊ยม(ว่ะ)!

เพราะไปเห็นว่าร้านน้ำปั่น "winnie berry" ของน้องวินนี่เธอใช้สตรอเบอรี่แบบแช่แข็งมาแช่ในน้ำเชื่อมให้ละลายก่อนเอามาปั่น พอไปเจอสตรอเบอรี่แช่แข็งในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อนก็เลยมีความคิดว่าเราน่าจะปั่นกินกันเองได้ เธอจัดการซื้อสตรอเบอรี่กับผลไม้สดอื่นๆมาอีกหลายชนิด ทำตามส่วนผสมและวิธีการที่เราได้แอบจำมาหมดแล้ว

~โฮะ โฮะ ...ลาก่อนน้องวินนี่...~

ผลไม้เนื้อนิ่มพวกกีวี , สตรอเบอรี่ , แตงโม ใส่น้ำแข็ง + น้ำเชื่อม + เกลือ ปั่นพร้อมกันไปได้เลย แต่ผลไม้แข็งๆอย่างแอ๊ปเปิล , แครอต , สับปะรดต้องแยกปั่นก่อน ละเอียดดีแล้วค่อยเติมน้ำแข็ง น้ำเชื่อมหรือน้ำเปล่า เกลือนิดหน่อย อาจใส่น้ำมะนาวให้มีรสเปรี้ยวนิดๆ...อ่า~ น่าอร่อยจัง...^^

***มีเคล็ดนิดนึงว่าน้ำผลไม้สูตรที่ออกเปรี้ยวหรือใส่น้ำมะนาว ต้องเหยาะเกลือนิดหน่อยให้รสชาดกลมกล่อมค่ะ***


ปั่น...ปั่น...ปั่น... ชิม ...แอ่ะ! ทำไมออกมาไม่อร่อยเลยแฮะ!


หลังจากที่เราพยายามปรับสูตร ลดบางอย่าง เพิ่มบางอย่างและไม่ใส่บางอย่างแล้ว มันก็ยังไม่อร่อยเหมือนเดิม เราก็เลยมาวิเคราะห์กันว่าเป็นเพราะอะไร ...ดิฉันว่าที่น้ำปั่นของเราออกมาไม่ได้เรื่อง ทั้งที่ใส่ทุกอย่างเหมือนของน้องวินนี่เป๊ะ คงเพราะขาด "เสน่ห์แบบวินนี่ วินนี่" นั่นเอง... และได้ข้อสรุปอีกว่า ถ้าจะทำให้น้ำผลไม้ปั่นของเราอร่อยเทียบเท่าของน้องนั้น เราต้องทำสองอย่างคือ...

1. ต้องแต่งเล็บแบบวินนี่

2. ต้องไว้ขนหน้าอกแบบวินนี่

เอ่อ...ข้อ 1...ดิฉันไม่ชอบไว้เล็บยาวเพราะจะทำงานไม่ถนัด และข้อ 2...ก้มลงสำรวจตัวเองแล้ว ดิฉันไม่มีขนหน้าอกค่ะ...^^" เพราะฉะนั้น ดิฉันขอเลือกข้อ 3... กลับไปให้น้องวินนี่ปั่นให้กินอย่างเดิมดีกว่า แฮะ..แฮะ..


*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*






~...ลั้ลลา...ลั้ลลา...~




 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 1 มกราคม 2552 7:50:22 น.
Counter : 449 Pageviews.  

"ทำหน้าที่แทนครับ..."


"สวัสดีครับ...ผมคือGUGU! คุณรู้จักผมแล้วใช่มั้ย?"




ผมไม่เห็น"คุณ"เค้านั่งเขียนหรือวาดรูปอะไรมาหลายวันแล้ว ผมก็เลยมาทักทายทุกคนแทนครับ ("คุณ" นี่ไม่รู้จักรักษาลูกค้าบ้างเลย...เฮ่อ!)

จะว่างานยุ่ง...ผมก็เห็นคุณเค้ายังมีเวลานั่งเฉยๆนะ แต่จะว่าว่าง...เค้าก็บอกกับเพื่อนที่ชวนไปเชียงใหม่ว่าไม่มีเวลา ผมก็เลยไม่รู้ว่าเค้าว่างหรือไม่ว่างกันแน่...

บางครั้งผมก็เห็นเค้านั่งนิ่งๆอยู่ได้นานๆ เหมือนจะกำลังคิดอะไร แต่ผมก็ไม่รู้หรอก เค้าอาจจะไม่มีอะไรในหัวเลยก็ได้ เหมือนบางครั้งที่เค้าใส่หูฟัง...แต่ไม่ได้เปิดเพลงอะไร

หรือบางทีเค้าอาจจะกำลังตกหลุมรัก!...อันนี้ผมไม่ยืนยันข้อมูล แค่สงสัยเฉยๆ

สรุปแล้วผมก็ไม่รู้ว่าเค้าเป็นหรือไม่เป็นอะไร แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็จะดูแล"คุณ"ของผมอย่างดีครับ ถึงแม้บางครั้งเค้าจะใจร้ายกับผมไปหน่อย...ไม่ต้องห่วงครับ ผมเป็นตุ๊กตา ไม่เจ็บหรอก!...^^

ผมว่าคุณเค้าคงมีเรื่องอีกมากที่อยากมาเล่าให้ฟัง แต่อย่าไปคาดหวังอะไรแน่นอนกับเค้าเลยนะครับ ใช้ชีวิตกันไปเรื่อยๆ คุณเค้าก็ใช้ชีวิตแบบของเค้าเหมือนกัน



ดีใจที่ได้มาทักทายทุกคนครับ

GUGU




"อ๊ะ! มีรูปเราในนี้เยอะเลยแฮะ..."





 

Create Date : 16 มกราคม 2551    
Last Update : 1 มกราคม 2552 7:50:45 น.
Counter : 495 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

Q.NUH
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




.
.
. .
Friends' blogs
[Add Q.NUH's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.