วันนี้ปุ้ยนำไอเดียเก๋ๆ กับภาพบรรยากาศสนุกๆ มาแบ่งปันกันค่ะ หลายสัปดาห์มานี้ ปุ้ยกำลังหาของขวัญน่ารักๆ ให้กับหลานสาวคนแรก ที่กำลังจะครบรอบวันเกิด 1 ขวบในวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา แล้วก็ได้รับเชิญไปเวิร์คชอฟจาก HP ให้ไปทำสแครปบุ๊คสมุดภาพเป็นประจวบเหมาะพอดิบพอดีเลยค่ะ เวิร์คชอฟคราวนี้จัดขึ้นที่ร้าน Reflections (Terminal 21) เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2555 จากผู้สนับสนุนน่ารักและใจดีอย่าง HP Deskjet Ink Advantage และ HP Creative Studio นี่เป็นเวิร์คชอฟที่ 2 แล้วที่ปุ้ยได้เข้าร่วมกับเอชพีค่ะ (งานแรกเป็น DIY Smartphone Case) บรรยากาศงานวันนี้สนุกสนานและก็มีแต่สาวๆ น่ารักๆ มาร่วมสร้างไอเดียบรรเจิดกับผลงานอันน่าภูมิใจกันค่ะ ซึ่งมีน้องจินนี่ Kamikaze และน้องบัวเพื่อนสนิท ซึ่งปุ้ยติดตามความน่ารักของน้องทั้ง 2 ผ่าน Instagram มานานแล้ว ดีใจมากๆ ที่ได้เจอตัวจริงค่ะ ในงานนี้ก็มีการแนะนำเครื่องพิมพ์อเนกประสงค์ HP Deskjet Ink Advantage 6525 e-All-in-On สำหรับพิมพ์ สแกน และทำสำเนาเอกสาร เมื่อใช้รวมกับเทคโนโลยีน้ำหมึกแบบ Dual-Drop หรือ Dual Drop Weight Technology ซึ่งมีอยู่ในตลับหมึกพิมพ์แท้ของเอชพี จะช่วยให้พิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพสูงได้อย่างสม่ำเสมอและรวดเร็ว พร้อมราคาพิมพ์ที่ไม่แพงอย่างที่คิด เพียงแค่ประมาณ 2 บาทต่อภาพเท่านั้น พอฟังแล้วรู้สึกว่า เอ้ย! มันสารพัดประโยชน์มากๆ งานพิมพ์ทุกอย่างรวมอยู่ในเครื่องเดียวเลย นอกจากนั้นยังใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบไร้สาย สามารถสั่งพิมพ์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ได้ด้วย HP Wireless Direct และพิมพ์ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอพพลิเคชั่นที่ชื่อ “HP ePrint” หรือ สั่งพิมพ์บทความจากเว็บเพจ (Web Page) ผ่านการเชื่อมต่อระบบ Wifi ทั้งยังสามารถสแกนรูปภาพส่งตรงสู่อีเมลเพื่อส่งต่อภาพประทับใจให้ถึงมือผู้รับได้อย่างรวดเร็ว อันนี้สุดยอด เพิ่มความสะดวกสบายให้กับเราได้จริงจังค่ะ หลังจากที่ฟังคุณสมบัติและประโยชน์ใช้สอยของเครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage 6525 e-All-in-On จบแล้ว เราก็เริ่มทดลองใช้งานกันจริงจังค่ะ ปุ้ยดาวน์โหลดรูปหลานสาว (น้องยูกิ) มาจากเฟซบุค แล้วก็เลยง่ายมาถึงปุ้ยก็พิมพ์ได้เลย พอให้เห็นรูป แทบไม่น่าเชื่อ รูปถ่ายที่ปรินท์ออกมาจากเครื่องพิมพ์นี้ สีสันสดใส ภาพคมชัด ได้รายละเอียดครบถ้วน เหมือนไปอัดรูปที่ร้านอัดรูปเลยค่ะ นี่ขนาดความละเอียดของรูปอยู่ในระดับที่เซฟลงมาจากเฟซบุคนะเนี่ย นับถือคุณภาพของเค้าเลยจริงๆ ค่ะ ส่วนน้องๆ หลายคนที่ไม่ได้เตรียมรูปมา ก็เข้าเฟซบุคและบล็อกส่วนตัว สั่งปรินท์รูปจากเว็บไซต์ได้เลย บางคนก็ถ่ายกันสดๆ ด้วยสมาร์ทโฟนแล้วสั่งปรินท์ผ่านแอ็พพลิเคชั่น HP ePrint ได้ทันทีเลยค่ะ ทุกคนสนุกสนานกับการปรินท์ภาพกันมากเลย พอได้ภาพสวยๆ แล้ว ทีนี้ก็เข้าสู่ขั้นตอนการเริ่มทำสแครปบุ๊คกันค่ะ ถ้าพูดถึงสแครปบุ๊ค หลายคนคงจะนึกถึงสมุดภาพเก็บความทรงจำที่มีการตกแต่งด้วยกระดาษหลากสีสันและหลากรูปทรง ปัจจุบันนี้มีร้านขายอุปกรณ์การทำ สแครปบุ๊คเกิดขึ้นมากมาย ปุ้ยก็เป็นหนึ่งในนักทำสแครปบุ๊คตัวยง ก็จะรู้ว่าอุปกรณ์ตกแต่งที่สีสันสดใส น่ารัก ดึงดูดสายตา ก็มักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ในเวิร์คชอปท์วันนี้ ทำให้ได้รู้ว่า เราสามารถออกแบบงานศิลปะที่เราอยากได้จากการพิมพ์ จะเป็นรูปตุ๊กตุ่นตุ๊กตาที่เราวาดเอง หรือรูปการ์ตูนที่โหลดมาจากเว็บไซต์ หรือว่าจะเป็นเทรมเพล็ตของ HP Creative Studio ที่ออกแบบโดย คุณโอ๋ Futon ที่น่ารักๆ ที่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดกันที่ //www.hp.com/hho/hp_create/ เข้าไปดูมาแล้ว มีให้เลือกเยอะมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสแครปบุ๊ค โฟโต้บุ๊ค การ์ดสำหรับโอกาสสำคัญ ไปจนถึงภาพการ์ตูนน่ารักๆ สำหรับตกแต่ง เลือกเทมเพลทที่ถูกใจ สั่งพิมพ์ออกมา แล้วตัดปะลงสมุด เพิ่มตัวการ์ตูนตกแต่งเข้าไปหน่อย ประดับประดิษฐ์ประดอยด้วยไอเท็มน่ารักๆ เพิ่มเติมลงไป เท่านี้ก็ได้สแครปบุ๊ค DIY ที่เก๋ไก๋ได้ง่ายๆ และถูกใจเป็นที่สุดค่ะ งานนี้ทุกคนตั้งอกตั้งใจ ก้มหน้าก้มตาประดิษฐ์ผลงานของตัวเองกันอย่างขะมักเขม้น สุดท้ายก็ได้อวดผลงานกันกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานเลยค่ะ เวิร์คช็อฟคราวนี้ปุ้ยประทับใจมากได้ทั้งความสนุกและได้ของขวัญน่ารักๆ ไปฝากน้องยูกิด้วยค่ะ ถือว่าคุ้มค่ามาก แลกกับการอดดูละครหลังข่าวที่ทุกคนกำลังฮิตกัน ^ ^ (แอบแซวเจ้าภาพ) ระหว่างทำสแคปบุ๊คให้ยูกิ ปุ้ยก็เอารูปมากองๆ เรียงรายเต็มโต๊ะไปหมด ใครๆ เดินผ่านมาเห็นก็มาทัก มารุมดูและก็ชื่นชมกันว่า "ยูกิน่ารักมาก" (น้าได้ยิน แล้วแอบปลื้มอยู่ในใจ) หลายคนสงสัยว่าน้องยูกิเป็นใคร ...ยูกิเป็นลูกสาวของพี่สาวฝาแฝดของปุ้ยเองค่ะ ครอบครัวเค้าอยู่ต่างประเทศ นานๆ ทีกลับมาเมืองไทย มีละครั้ง 2 ครั้งเอง พอกลับมา ที่บ้านก็เลย เห่อกันมากๆ เลยค่ะ ยูกิเป็นเด็กน่ารัก ฉลาดและตลกมากๆ ^ ^ ผลงานสแครปบุ๊คที่เสร็จสมบูรณ์ก็ตามภาพด้านล่างนี้เลยค่ะ ภูมิใจม๊ากกกกกกก ขอบคุณเอชพีมากๆ ที่พามาร่วมสร้างสรรค์ไอเดียบรรเจิดกับเวิร์คชอฟสนุกๆ ครั้งนี้ค่ะ หวังว่าจะมีให้สนุกกันแบบนี้อีกเรื่อยๆ นะคะ และสำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องพิมพ์เพื่องานคุณภาพและประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ก็ขอฝาก HP ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ โดยเฉพาะสำหรับนักสร้างสรรค์ รับรองว่าเครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage และ HP Creative Studio บวกกับไอเดียบรรเจิดของคุณ เพียงเท่านี้ก็สามารถออกแบบงานศิลปะจากการพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นสแครปบุ๊ค การ์ดอวยพร หรือโฟโต้บุ๊ค ให้ได้งานคุณภาพคมชัดและมีสีสันสดใสได้ดังใจและอยู่ได้ยาวนาน ซึ่งทางเอชพีก็มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราสร้างสรรค์งานคุณภาพกันต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ส่งท้ายด้วยคลิปวีดีโอของน้องยูกิ หลังจากได้ของขวัญชิ้นนี้ ก็ชอบใหญ่เลย ตั้งใจดูมากๆ ว่าเอ๊ะ!! นี่มันอะไรกันนะมีรูปของหนูด้วย แล้วมีโบว์ มีลูกไม้ มีดอกไม้สีสดน่ากินทั้งนั้น ^ ^ ยูกิตอนนี้ฟันเพิ่งขึ้น เห็นอะไรก็จะแสดงความเป็นเจ้าของด้วยการหยิบมากัด แต่โชดดีที่ยูกิจะได้กัดหนังสือค่ะ ยูกิเป็นเด็กชอบอ่านหนังสือตั้งแต่ 2-3 เดือนแล้วค่ะ ตอนยังจับไม่ได้ก็มองอย่างสนอกสนใจ แต่พอตอนนี้จับของได้แล้ว ก็ชอบอ่านหนังสือเอง พลิกหน้าหนังสือได้เอง ส่วนหนังสือแครปบุ๊คเล่มนี้ ยูกิเพิ่งเห็นครั้งแรกเลยยังหาวิธีพลิกหน้าไม่ได้ แต่พอซักพักเล่นจนคุ้น ก็จะพลิกเปิดหนังสือได้ค่ะ ดูจากคลิปแล้ว ยืนยันได้เลยว่ายูกิชอบมากๆ ค่าาาา เห็นยูกิชอบแบบนี้ น้าปุ้ยก็ภูมิใจที่สุด รักหลานคนนี้ที่สุด (ก็มีอยู่คนเดียว) Ref: //www.hp.com and //www.facebook.com/HPthailand สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือเครื่องปรินท์รุ่นอื่นๆ ที่เหมาะกับคุณได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ

วันนี้ปุ้ยมาอัพเดตให้ฟังเกี่ยวกับปาร์ตี้ในคืนวันฮาโลวีน 31  ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมาค่ะ ปีนี้ไม่ได้ไปซ่ากับเพื่อนๆ เพราะปุ้ยแวะไป “ฟิน” ปาร์ตี้ ซึ่งแม็กนั่มจัดร่วมกับวายน์บาย แสนสิริค่ะ  (‘FIN’ with Passion for Chocolate Pleasure) เป็นไพรเวทปาร์ตี้แบบชิคๆ ตามสไตล์ของแสนสิริอีกแล้ว คราวนี้เป็นปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ ใช้โลเคชั่นเก๋ๆ ที่คอนโด วายน์ บาย แสนสิริ สุขุมวิท71 ค่ะ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ชื่องาน “ฟิน วิท แพสชั่น ฟอร์ ช็อกโกแลต เพลชเชอร์” (‘FIN’ with Passion for Chocolate Pleasure) เซอร์ไพรส์กับบริการ ‘รอยัล ทรีตเม้นท์’ ที่แม็กนั่มจัดเต็มเพื่อฟินาเล่ภารกิจ “แม็กนั่ม ฟินเวชั่น” แบบพิเศษสุด เพื่อมาปรนเปรอความสุขผู้มาร่วมงานด้วยไอศกรีมแม็กนั่มจากนายแบบนางแบบในชุดหลุยส์ แนวแฟชั่น ที่ตอบโจทย์ของแรงบันดาลใจ ‘ช็อกโกแลตแพสชั่น’ พร้อมความหรูหราระดับพรีเมี่ยม และสนุกสนานในงานปาร์ตี้กับคอนเซ็ปต์ใน 3 สไตล์  อย่างแรกเริ่มต้นที่เรื่องของอาหารค่ะ “แพสชั่น ฟอร์ คุ๊กกิ้ง” (Passion for Cooking) โดย เชฟฟิน-สุภรดี ศิวภรณ์พิทักษ์ กับอาหารสุดพิเศษที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ให้ผู้มาร่วมงานได้ลิ้มรสแฟสชั่นของช็อกโกแลตในสไตล์ฮาโลวีนคัพเค้กที่สุดจะน่ารักน่าชัง และสิ่งที่จะส่งเสริมฟิลลิ่งของปาร์ตี้ให้สนุก ก็คือ เสียงเพลงจาก “แพสชั่น ฟอร์ มิวสิก” (Passion for Music) โดย ดีเจพีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร์ ที่มาเอาใจคอเพลงด้วยการหมุนแผ่น ตามสไตล์ครื้นเครงของเจ้าตัว เลือกสรรค์ทำนองเพลงมาขับกล่อมให้บรรยากาศในงานฟินสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะเบาๆ ในช่วงเย็นกับไวท์ ช็อกโกแลต บอสซาโนว่า หรือเร่งสปีดความมันส์ด้วยทำนองดาร์ก ช็อกโกแลต บีท ในช่วงอัฟเตอร์ปาร์ตี้ค่ะ และสุดท้ายที่จะทำให้ปาร์ตี้นี้สมบูรณ์แบบ ก็คือ เรื่องของสถานที่และบรรยากาศจาก “แพสชั่น ฟอร์ แฟชั่น” (Passion for Fashion) ที่อินทีเรียดีไซน์จากแสนสิริมาเนรมิตรบรรยากาศในงานตามคอนเซปท์ของธีมช็อกโกแลตสุดฟิน โดยมีรัชวิน วงศ์วิริยะ และยุกต์ ส่งไพศาล ตัวแทนสะท้อนไลฟ์สไตล์ของแม็กนั่ม ฮิส สูท แอนด์ เฮอร์ สูท (Magnum His and Her Suite) มาชวนเหล่าเซเลบคนดังอย่าง วฤธ-ฐณส หงสนันทน์ ณัฏฐิ์ประภา-ณัฏฐิ์มาฎา ชุณหะวัณ ฯลฯ เที่ยวชมสไตล์การตกแต่งห้องสูทส่วนตัวชั้น 20 และร่วมดื่มด่ำความสุขกับปาร์ตี้กันตลอดคืน ปุ้ยนำบรรยากาศเก๋ๆ ในงานเล่าสู่กันดู ด้วยการบันทึกภาพสวยๆ แล้วนำมาเรียงต่อกันแบบเคลื่อนไหวแล้วกันนะคะ ปาร์ตี้นี้เป็นไสตล์ที่หรูหรามากมาย เริ่มตั้งแต่ป้ายหน้างานที่เป็นกรอบหลุยส์ แล้วก็มีการจัดแบ็คดร็อปโดยให้เก้าอี้หลุยส์แบบอลังการมาตอนรับแขก ทุกคนที่มาร่วมงานจะได้เชิญนั่งที่เก้าอี้เพื่อบันทึกภาพถ่ายค่ะ รู้สึกเป็นคนพิเศษขึ้นมาทันทีเลย ^ ^ ใครนั่งเก้าอี้นี้จะดูสวย สง่า เริ่ดที่สุด งานนี้ปุ้ยไม่เน้นอาหารเพราะว่ามัวแต่ตื่นเต้นกับบรรยากาศงาน สนุกกับการถ่ายรูปและก็ใช้เวลาในห้อง ฮิส สูท แอนด์ เฮอร์ สูท เป็นส่วนใหญ่ เพื่อเก็บภาพมาฝากกันค่ะ ดูภาพเต็มๆ ได้ที่ Alblum ‘FIN’ with Passion for Chocolate Pleasure นะคะ ขอบคุณ @pinkuneko ที่ให้ยื้มคลิปน่ารักๆ มาแชร์ (This Clip Created by FollowMeThailand) เห็นภาพแล้วพอจะอินไปกับความหรูหราของงานปาร์ตี้กันมั้ยคะ งานนี้รู้สึกเป็นเกียรติและประทับใจมากๆ ค่ะ ขอบคุณพี่ปี่ @dhanis ที่เชิญปุ้ยไปร่วมงานพิเศษๆ ครั้งนี้ค่าาาา ส่วนตัวแล้วปุ้ยชอบแพลนของห้องทั้ง 2 มาก เป็นแพลนที่ดูไม่น่าเบื่อและมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้คุ้มค่าและลงตัวมากค่ะ ปุ้ยชอบโครงการของคอนโดวานย์ บาย แสนสิริ มากๆ เลยค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดตัว 6 ห้องสูทสุดชิคมาแล้ว เพื่อถ่ายทอดแพสชั่นที่หลากหลายในไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Passion for Speed, Passion for Technology, Passion for Cooking, Passion for Music, Passion for Art & Fashion และ Passion for Travel ซึ่งทางแสนสิริได้คริเอทผ้าพันคอลายเก๋ๆ ตามแรงบันดาลใจทั้ง 6 มาเป็นของที่ระลึกในงานด้วยและอีกของที่ระลึกที่ปุ้ยชอบมาก คือ แฟลชไดฟ์รูปไอติมช็อกโกแลตของแม็กนั่มค่ะ น่ารักและถูกใจมากๆ ค่ะ ขอเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ ฮิส สูท แอนด์ เฮอร์ สูท เป็นการปิดท้ายบล็อกแล้วกันนะคะ ห้องสูททั้ง 2 นี้ เป็นผสมผสานไลฟ์สไตล์ของคนรักช็อกโกแลตกับการอยู่อาศัยของคนเมืองยุคใหม่ได้อย่างลงตัวเลย โดยการตกแต่งเน้นสไตล์คลาสสิคร่วมสมัย (Classic Contemporary) หรือโมเดิร์น ชิค (Modern Chic) ค่ะ แม็กนั่ม ฮิส สูท (Magnum His Suite) ในธีมดาร์กช็อกโกแลตที่เรียบหรู เหมาะสำหรับชายหนุ่มที่มีสไตล์ที่ชัดเจน รักการท่องเที่ยว สนุกกับการค้นหาสิ่งที่ดูท้าทาย ชอบดื่มสังสรรค์และชอบเข้าสังคมค่ะ โดยโทนการแต่งห้องซึ่งแฝงเสน่ห์ที่น่าค้นหาด้วยสีโทนสีน้ำตาลเข้ม โดยนำวัสดุจากไม้และหนัง เป็นส่วนสำคัญ ทั้งโซฟาและเก้าอี้เบาหนังที่เป็นกิมมิกของห้องดูเหมือนช็อกโกแลตมากๆ ส่วนผนังในห้องนอนก็เป็นไม้ที่ดีไซน์เทคเจอร์เหมือนช็อกโกแลตแบบแท่งก็ดูเท่สุดๆ และเติมสไตล์หรูหราด้วยไอเท็มสีทองค่ะ พื้นที่ของห้องนี้ ขนาด 65.5 ตารางเมตร (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) แม็กนั่ม เฮอร์ สูท (Magnum Her Suite) ในธีมไวท์ช็อกโกแลตแสนหวาน สำหรับหญิงสาวที่มีรสนิยม รักการแต่งตัว ช่างฝัน ชอบกลิ่นไอของธรรมชาติ และหลงใหลในความโรแมนติก โดยโทนการแต่งห้องใช้โทนสีออกขาว ครีม น้ำตาลอ่อน ผสมผสานกันแบบเน้นความเรียบและเนี๊ยบ มีการเล่นเทคเจอร์และบัลจ์ที่ผนังห้องดูน่าสนใจ เพิ่มการแต่งผ้าและลูกไม้ ช่วยบรรยากาศของห้องดูหวานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการใช้โทนสีสว่างและกระจกติดผนังบานใหญ่ ก็ทำให้ห้อง พื้นที่ขนาด 42.5 ตารางเมตร (1ห้องนอน) นั้นดูมีขนาดกว้างขึ้น Ref: //www.facebook.com/dhanis //www.facebook.com/sansirifamily //www.sansiri.com

วันนี้ปุ้ยนำภาพความทรงจำดีๆ มาอัพเดตให้ดูกันค่ะ เมื่อวันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา ปุ้ยได้บัตรเชิญไปงาน Concert Reunion Party ที่จัดขึ้นที่โรงหนังสกาล่า สยามแสควร์ คอนเซปท์ของงานนี้ คือ ชวนเพื่อนซี้ แก๊งค์ซ่า ย้อนความหลังวัยใส ในปาร์ตี้สนุกๆ กับบทเพลงที่หวนรำลึกถึงวันคืนเก่าๆ ค่ะ ซึ่งศิลปินชูโรงของงานนี้ ก็คือ เกิร์ลแก๊งค์สุดฮอต 3 สาวซาซ่า ที่โ่ด่งดังมากๆ สมัยที่ปุ้ยยังอยู่มัธยมปลายค่ะ นอกจากนั้นแล้วก็มีศิลปินอีกมากมาย เช่น เบล สุพล, Jetsetter, รุจและโดม-เดอะสตาร์ มาช่วยกันทำให้ปาร์ตี้ครื้นเครงร้องเพลงยอดฮิตติดอันดับเมื่อ 10 ปีที่แล้วค่ะ งานถูกจัดขึ้นด้วยบรรยากาศ ที่น่ารักๆ ให้เราได้ระลึกถึงสมัยเล่นวันเรียน สมัยที่เรายังมาเดินเล่น ดูหนังกันที่สกาล่าประมาณนั้นเลยค่ะ งานนี้สนับสนุนโดย Olay Total Effect และ Chill 89 ระหว่างรอเข้างานก็มีบู๊ตเล่นเกมส์ ลุ้นของรางวัลจากโอเลย์ โททัล เอ็ฟเฟ็คส์ โดยเลือกลูกโป่งสีทองที่จะมีกระดาษติดไว้ ลุ้นมาเปิดกระดาษออกมาแล้วจะได้รางวัลมั้ย ปรากฏว่าปุ้ยไม่มีดวงเอาซะเลย อดได้ Y Y พอขึ้นบรรไดมาชั้นบน ก็จะเจอแสตนด์จำลองเป็นเด็กใส่ชุดนักเรียน แล้วให้เราเอาหัวตัวเองไปใส่แล้วถ่ายรูปเล่น เพื่อย้อนลำรึกถึงความสนุกสนานสมัยมัธยมกันค่ะ ถ้ามากันเป็นแก๊งค์นี้สนุกสนานกันเลยทีเดียว วันนี้คนมาชมคอนเสิร์ตกันเยอะมากๆ มีทั้งเด็กๆ วัยรุ่น วัยทำงานจนถึงวัยที่มีครอบครัวแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเกือบจะทุกเพศทุกวัยเลยหละ มาพูดถึงคอนเสิร์ตกันบ้าง เปิดงานด้วย เบล สุพล ขอบอกว่าเริ่มต้นก็สนุกแล้ว เบล เสียงดีมากๆ แล้วก็ Entertain ได้น่ารักสุดๆ เต้นเพลงอยากให้โลกแคบลง ให้ดูด้วย แฟนคลับกรี๊ดดด ดังมาก คนอะไร แค่ขยับขาก็น่ารัก ก่อนจะจบด้วยเมดเล่ย์เพลงมันส์สมัยเบลยังเป็นวัยรุ่น เบลฝากเพลงซึ้งๆ “จากวันที่เธอไม่อยู่” ... ลายมือก็ยังคุ้นอยู่ อ่านดูก็ยังคุ้นตา ดีใจที่ได้รู้ว่า เจ้าของลายมือ คือเธอ... ฟังเพลงนี้แล้วลำรึกถึงสมัยก่อนที่ยังไม่เฟซบุค พวกเรายังเขียนเฟรนด์ชิฟ เวลาจะต้องจากลากับเพื่อนๆ มันคลาสสิกและซึ้งดีนะคะ ต่อมานางเอกทั้ง 3 นาง ก็ออกมาปรากฏโฉมพร้อมกันบนเวทีคอนเสิร์ตด้วยเพลง “เหรอ” ... ตอนนี้ฉันยังไม่มองใคร โสดเเบบนี้กำลังสบาย... แหม เพลงนี้เป็นกิมมิกของเกิร์ลแก๊งค์วงนี้ที่สมัยก่อนดังมากๆ เลยนะคะ ทั้งพิมพ์ แก้ว และหวาน ยังดูสดใส น่ารักเหมือนเคย แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปี แต่ก็ยังคงเสน่ห์ความน่ารัก มัดใจแฟนเพลงได้อยู่เสมอ สามสาวเล่าว่า พวกเธอได้ซ้อมร้องซ้อมเต้นเพลงเมดเล่ย์สนุกๆ ซึ่งเป็นเพลงที่พวกเธอชอบสมัยยังเป็นวัยรุ่น เอามาเต้นอวดพวกเราด้วย แม้จะเป็นการเต้นที่ไม่ค่อยพร้อมเพรียงอย่างที่พวกเธอแซวกันเอง แต่ปุ้ยว่าแบบนี้ดูน่ารักเป็นธรรมชาติดีค่ะ รู้สึกประทับใจมากที่ได้เห็นวงซาซ่ามารวมตัวกันอีกครั้ง ปุ้ยวิ่งเข้าไปดูใกล้ๆ เวที พี่พิมพ์ตัวจริงน่ารักมาก หน้ายังเป๊ะอยู่เลย ส่วนพี่หวานกับพี่แก้วก็ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยอะ ปลื้มมากๆ จากนั้นก็ถึงคิวของรุจและโดม เดอะสตาร์มาสร้างเสียงหัวเราะและความอบอุ่นให้กับแฟนคลับ ทั้งพูดคุย ปล่อยมุข และร้องเพลงเพราะๆ ให้เราฟัง รุจตัวจริงหล่อมากค่าาาา ชอบที่รุจบอกว่า เพลงเก่านั้นไม่ได้หมายถึงแค่เพลงเก่าๆ แล้ว แต่เพลงเก่าหมายถึง เพลงที่ช่วยให้เรารำรึกถึงเหตุการณ์และความรู้สึกในช่วงเวลาที่ได้ฟังเพลงนั้น สมัยที่เรารักเป็นครั้งแรก สมัยที่เราแอบชอบใคร สมัยที่เราอยากจะเปิดเพลงนี้ให้ใครคนนึงฟัง โอ๊ว ลึกซึ้งมาก ทำให้เข้าใจเลยว่า ทำไมงานคอนเสิร์ตนี้จึงถูกจัดขึ้นด้วยคอนเซปท์นี้ ส่วนโดมก็ตลก น่ารัก ไม่แปลกใจเลยที่มีแฟนคลับรักกันอย่างแน่นเหนียวขนาดนี้ ^ ^ ที่สำคัญโดมเสียงดีสุดๆ โชว์เพลง “ปาฏิหาริย์” เพราะๆ ซึ้งๆ ให้พวกเราฟัง สุดท้ายถึงตา เจ๊ตเซ็ตเตอร์ (Jetset'er) มาปิดงาน ขอบกว่า มันส์ม๊ากกกกกก  ปุ้ยปลื้มมาก ชอบสุดๆ มันทุกเพลง ปลื้มกับเสียงและแนวที่เท่ๆ ของวงนี้มากๆ ระหว่างกำลังแสดงก็เซอร์ไพซ์แฟนเพลงด้วยการ จูงมือสาวๆ วงซาซ่าขึ้นเวทีอีกครั้ง ฟีตเพลง “พูดอีกที” มันส์ สนุกและน่ารักสุดๆ วงนี้เค้าเน้นทีมเวิร์คมากนะคะ ทั้งนักร้อง มือกี่ต้าร์ มือเบส กลองและแซ็ก นี่เล่นเข้าขากันมาก ทำให้เพลงออกมาสนุกสุดยอด ประทับใจสุดๆ เลย เป็นอีกหนึ่งวงที่ร้องเพลงรักในสไตล์มันส์ๆ ได้เจ๋งมากๆ พอเพลง “Love” ขึ้นเท่านั้น บรรดาแฟนเพลงก็ลุกขึ้นมาเต้นกันอย่างสนุกสนาน ท่าเป๊ะกันทุกคน 555 ส่วนเพลงที่ทำให้ประทับใจมากๆ ก็เพลง “จูบ” ...นั่งอยู่ตรงนี้ข้างกายฉันก็มีเธออยู่ ก็ลองมาคิดดู เรานั้นโชคดีกว่าใคร เพราะมีเธอคนนี้เป็นที่รัก และฉันไม่ได้ฝันไป ขอให้ลมช่วยพัดพาหัวใจ สองเราให้ลอยไป ในคืนนี้ โอ้ โอ....คือ อินมากอะเพลงนี้ ปุ้ยรู้สึกว่า เจ๊ตเซ็ตเตอร์ เป็นวงที่เจ๋งมากที่ร้องเพลงเพราะ ทำให้บรรยากาศครึ้กครื้น แล้วก็ทำให้แฟนเพลงอินไปกับเพลงและความสนุกได้ ทุกคนช่วยกันโบกมือ โยกตาม และลุกขึ้นมาเต้นกันอย่างที่ไม่ต้องบอกเลยหละค่ะ ของเค้าดีจริง จบงาน Concert Reunion Party ครั้งนี้ ปุ้ยและเพื่อนๆ รู้สึกประทับใจและได้รับความทรงจำดีๆ เก็บเอาไว้ให้ระลึกถึงไปอีกนานเลยหละค่ะ หลังจากงานคอนเสิร์ตเราก็ไประลึกความหลังกันแต่ด้วยข้าวต้ม คั่วไก่ เกาเหลา ฯลฯ กันแถวสามย่านด้วย ย้อนวันวานได้สมบูรณ์แบบสุดๆ ปุ้ยมีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอเพื่อนๆ ได้นั่งคุยกัน ได้แชร์ความสนุกด้วยกัน แม้เวลาผ่านไป มิตรภาพความเป็นเพื่อน และความทรงจำดีๆ ที่เรามีให้แก่กัน ก็ยังคงไม่เปลี่ยน ที่สำคัญเลยเพื่อนๆ ทุกคนยังคงน่ารัก สวยใส ผิวเนียนและหน้าเด็กกันเหมือนเดิมเลย เหมือนคอนเซปท์งานที่ว่า “แม้เวลาเปลี่ยน แต่ผิวไม่เปลี่ยน” เลยหละค่ะ เพราะทุกคนดูแลเอาใจใส่ดูแลความสวยความงาม โดยเฉพาะเรื่องผิวเนี่ย กินกันไม่ลงเลย เอาไว้มาเจอกันครั้งหน้า ต้องมาประชันกันใหม่ว่า ใครดูแลผิว รักษาความอ่อนวัยได้เก่งกว่ากัน Q(^ ^ )๐... ส่วนสาวๆ แถวนี้ก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจนะคะ แม้ว่าจะอายุไม่มากเท่ากับปุ้ย แต่ว่า อยากให้เริ่มดูแลตัวเอง แต่เนิ่นๆ ทั้งการดูแลภาพนอก อย่างการทาครีมบำรุงผิวทุกวัน ทากันแดดก่อนออกจากบ้าน และการดูแลจากภายใน อย่างการดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกาย และพักผ่อนอย่างเพียงพอด้วย เพราะเมื่อเวาลาเปลี่ยนไปอีก หลายปีข้างหน้า เราจะได้ยังคงมี ผิวสวยใสไม่เปลี่ยน น่ารักเหมือนเดิมแบบนี้ไปนานๆ ค่ะ วันนี้ฝากเรื่องราวดีๆ ไว้เพียงเท่านี้ พบกันใหม่บล็อกหน้าค่าาาา บั๊ยบาย ขอบคุณโอเลย์ โททัล เอ็ฟเฟ็คส์ ที่ปุ้ยได้มีโอกาสได้มีโอกาศระลึกถึงวันสนุกในวันใสๆ และได้มีเรื่องราวดีๆ เอาไว้ให้จดจำในวันนี้ของปุ้ยค่ะ ขอบคุณ Chill89 สำหรับคอนเสิร์ตเจ๋งๆ และภาพศิลปินแบบใกล้ชิดจากน้องกิ๋วด้วยนะคะ

คุณเคยเริ่มต้นทำอะไร จากแรงบันดาลใจบ้างมั้ย ถ้ายัง แนะนำให้ลองซักครั้ง จุดประกายความคิดจากแรงบันดาลใจใกล้ตัว อย่างวิถีชีวิตของคุณเอง รับรองว่า สนุก ตื่นเต้น และประทับใจ และที่สำคัญ รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำอะไร ได้สำเร็จตามโจทย์ของแรงบันดาลใจที่เราตั้งไว้ค่ะ ปุ้ยเป็นคนนึงที่ชอบเสพงานดีไซนที่สร้างสรรค์จากโจทย์ของแรงบันดาลใจเจ๋งๆ เพราะรู้สึกว่าสนุก น่าสนใจ น่าติดตาม และลุ้นไปด้วยกันว่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างไรบ้าง ไม่นานมานี้ แสนสิริได้จัดแคมเปญชื่อว่า “Seat Happens” นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ปุ้ยดูแล้วชอบมากค่ะ งานสร้างสรรค์ ดีไซน์นอกกรอบ แต่ตอบโจทย์แรงบันดาลใจได้อย่างมีสไตล์ ซึ่งปุ้ยเห็นแล้วอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ “Seat Happens” เกิดขึ้นด้วย ไอเดีย นิยามของ “ที่นั่ง” ซึ่งเชื่อว่า ทุกคนจะให้ความหมายที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น เก้าอี้ โซฟา อาร์มแชร์ สตูล ล้วนเป็นที่นั่งที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของคนนั่ง แคมเปญนี้ นำโจทย์การดีไซน์ “ที่นั่ง” สุดล้ำของ 5 คน จาก 5 วงการ มาแปลเป็น ”ที่นั่ง” พิเศษเฉพาะ 5 ตัว ที่มีเอกลักษณ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของ ก่อนที่จะได้เห็นผลลัพธ์ ปุ้ยก็ได้ดูโจทย์ของ “Seat Happens” ก็รู้สึกเลยว่าไม่ธรรมดาและน่าสนใจจริงๆ ค่ะ ลองมาดูกัน ส่วนที่สนุกที่สุด ก็คือ กว่าจะได้มาซึ่งผลลัพธ์เนี่ยแหละ เป็นขั้นตอนที่สนุกที่ปุ้ยได้นั่งดูวิธีคิด วิธีทำงาน ซึ่งทำให้เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ต่างๆ มากมาย สุดท้ายพอได้ผลงานออกมาแล้ว มันทำให้รู้สึกถึงคุณค่าของสิ่งที่เราได้เห็นตรงหน้า มันมีค่ามากกว่าแค่ “ที่นั่ง” แต่มันคือ การเข้าใจถึงตัวตน สไตล์ของผู้นั่ง และความต้องการที่แท้จริงของเค้า 1st Seat: The Digital Creative คิดงานให้ออก ต้องนั่งแบบไหน?  "ที่นั่ง” ของ Creative จะต้อง Creative ขนาดไหน? โจทย์ จาก คุณกนกวรรณ แก้ววานิช: Creative Group Head จาก SOHO Square บริษัทลูกของยักษ์ใหญ่ในวงการโฆษณาอย่าง Ogilvy & Mather ด้วยชีวิตที่คลุกคลีกับงานครีเอทีฟและศิลปะ ต้องคิดงานตลอดเวลา จึงอยากได้  “ที่นั่ง” ที่ “ปลุกจินตนาการ” สามารถก่อให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ ไม่รู้จบ ที่นั่งที่ขีดเขียนความคิดลงไปได้ พร้อมลายเซ็นที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง คุณก็เป็นเหมือนกันใช่มั๊ย เวลาต้องคิดอะไรแบบครีเอทีฟ นั่งตรงๆ บนโต๊ะทำงานความคิดยังไงก็ไม่แล่น… การได้นั่งบนที่นั่งที่สบาย และทำให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เป็นแรงบันดาลใจให้คิดงานดีๆ ได้ ทีมดีไซน์ได้ตีโจทย์ แปลเป็นที่นั่งที่ ..เมื่อเธอนั่งลงไปวัสดุบนที่นั่ง จะเปลี่ยนไปตามสรีระของเธอ ไม่ว่าจะนั่ง เอน หรือนอน เมื่อลุกขึ้นมาแล้ว ที่นั่งนี้ก็จะมีฟอร์มของตัวเธออยู่ เพื่อให้ซัพพอร์ทกับทุกอิริยาบทการนั่ง เพราะเวลาคิดงานคนเราไม่ได้นั่งนิ่งๆ โดยนำเอาบีนแบ็คมาผสมผสานกับเก้าอี้ ใช้โครงไม้ที่ดีไซน์ขึ้นมาเป็นพิเศษ คำนวณความสูง การพิง การเอนมาจากสรีระของเธอโดยเฉพาะ พร้อมกับปรุงแต่งไม้สีธรรมชาติ ตอบความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปุ้ยว่าทีมดีไซน์ของแสนสิริ สามารถตีโจทย์ครั้งนี้ได้แตกกระเจิงมากๆ การแปลคำว่าลายเซ็น เป็นการจดจำสรีระเฉพาะตัว จากทุกอริยาบทของเธอด้วยการใช้เมมโมรี่โฟมของบีนแบ็ค มันเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบอย่างมีไสตล์มากๆ และเป็นบีนแบ็คที่ดูหรูหราที่สุดเท่าที่ปุ้ยเคยเห็นเลยค่ะ จะว่าไป ไม่ใช่แค่คุณกนกวรรณจะประทับใจนะคะ แม้แต่ปุ้ยเอง เห็นแล้วยังอยากจะกระโดดลงไปนั่งบนที่นั่งนี้ทั้งวันทั้งคืนเลย ปุ้ยชอบมากที่นั่งตัวใหญ่มาก สามารถรองรับได้ทุกอิริยาบทจริงๆ ไม่ว่าจะนั่ง จะนอน ยืดหลัง ยืดขา ตะแคงข้าง เอกเขนก ตีลังกา หรือจะชวนเพื่อนมานั่งเมาท์ด้วยกันก็ยังได้ สุดยอดจริงๆ ค่ะ   2nd Seat: Cool & Clam Individualist “ที่นั่ง” = มอเตอร์ไซค์ Ducati + เก้าอี้ ? โจทย์ที่นั่งกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง ของคุณสุชน ศรุตชินวร เจ้าของ BeLLed Advertising Agency และผับเก๋บนถนนนราธิวาส อยากได้ ที่นั่งที่ให้ความเป็นส่วนตัว ให้เขาพักจากชีวิตที่ต้องดูแลกิจการหลายแห่ง แม้จะยุ่ง คุณสุชนก็ยังหาเวลาไปขี่ Ducati ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ จึงอยากดึงความรู้สึกแบบแมนๆดิบๆ แบบการาจ (Garage) เข้ามาไว้ในสเปซบ้านของเขาด้วย ทีมดีไซน์ ได้ตีโจทย์ที่นั่งแสนเท่แนวการาจ ซึ่งแม้จะตั้งอยู่ในบ้าน ก็สามารถมอบความรู้สึกอิสระ เหมือนเวลาโลดแลนอยู่ในท้องถนนบน Ducati คันโปรด ด้วยการถอดเอกลักษณ์ของ Ducati มาใส่ไว้ในที่นั่งที่นั่งสบาย และทำให้เขารู้สึกภูมิใจเมื่อได้เป็นเจ้าของ เช่น เดียวกับเมื่อเขาได้ครอบครอง Ducati โดยใช้ สีดำ แดง และโลหะ จึงเป็นส่วนผสมหลักของที่นั่งตัวนี้ ด้วยบุคลิกไลฟ์สไตล์ที่มีธุรกิจส่วนตัว เปิดผับ ชอบปาร์ตี้ และชอบผ่อนคลาย ด้วยการดูหนังอยู่กับบ้าน ทีมดีไซน์ตอบโจทย์นี้ ด้วย Easy chair ที่เรียบเท่ พร้อมมีที่วางเท้า (Ottoman) เพิ่มความสบาย ที่นั่งของหนุ่มรักความเร็ว รักรถ แม้กลับบ้าน ก็ยังรู้สึกว่าได้นั่งอยู่บนรถ สำหรับปุ้ยแล้ว แม้ดีไซน์ที่นั่งนี้ จะไม่ได้ดูแปลกใหม่ในเรื่องของรูปทรง แต่ถ้าพูดถึงการดีไซน์เทคเจอร์ และการเอาแนวของรถ Ducati มาใส่ลงบนเก้าอี้ ที่ทำล้อเลียนออกมา ได้ความรู้สึกเวลานั่งใกล้เคียงของจริง เน้นวัสดุที่มีความดิบอย่างหนังไม่ฟอก เดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง และโลหะตอกหมุดคล้ายกับตัวถังรถ ส่วนฐานดีไซน์เอียงท้าทายแรงโน้มถ่วง เป็นความโฉบเฉี่ยวในแบบ Ducati อย่างแท้จริง คิดว่าหนุ่มๆ นักซิ่งทั้งหลายถ้าได้เห็นที่นั่งตัวนี้แล้ว คงถึงกับต้องน้ำลายไหลแน่ๆ 3rd Seat: The Spontaneous Socialiser  แชร์ทูแชร์ (Chair to Share) โจทย์ที่นั่ง ที่ “หิน” ที่สุด โจทย์นี้มาจาก คุณเกรียงศักดิ์ จิวานันต์ ผู้ก่อตั้ง Stone & Style เมื่อคุณเกรียงศักดิ์ผู้อยู่เบื้องหลังธุรกิจหินควอทช์และหินอ่อนอันดับ ต้นๆ ของโลก ตีความ Chair คือ Share จึงอยากได้ที่นั่งหินอ่อนที่ถูกมองว่าแข็ง แต่นั่งสบายให้ความรู้สึกนิ่ม ต้องเป็นเก้าอี้ที่ไร้ขอบเขต กระตุ้นให้ทุกคนเข้ามาหา มา “แบ่งปัน” ความรู้สึก ความสนุก และบทสนทนาระหว่างกัน คุณเกรียงยังเป็นเจ้าของร้านไวน์เล็กๆ แต่เก๋ บนถนน นิมมานเหมินต์ เชียงใหม่ และแอบกระซิบว่า คงดีไม่น้อยถ้า “ที่นั่ง” ที่เราจะดีไซน๋ให้ สามารถให้เขาเอนเตอร์เทรนกับเพื่อนๆ ได้ ทีมดีไซน์ได้้ออกแบบเก้าอี้ม้าหิน Chair to Share ที่ดูเรียบง่ายเป็นทรงโค้งมีพนักพิง มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดยสามารถนำมาเรียงต่อกันได้หลายรูปแบบ แล้วแต่ดีไซน์ของแต่ละคน เจ๋งตรงนี้แหละค่ะ จะนำมาเรียงต่อกันเป็นวงกลม หรือจะวางสลับกันเป็นคลื่นสลับหน้าหลังก็ได้ ที่นั่งที่สามารถสร้างความสนุกในวงสังสรรค์ได้หลากหลายรูปแบบอย่างงี้ แถมใช้งานได้ทั้งอินดอร์และปาร์ตี้เอาท์ดอร์ มันใช่จริงๆ   4th Seat: Nurturing Dad “ที่นั่ง” อะไร โตไปได้กับลูก (Grow Togerther) คุณจำได้มั๊ยว่าตอนเด็กๆชอบเล่นอะไร? โจทย์ “ที่นั่ง” ของ คุณพิชิต วีรังคบุตร Exhibition & Design Director จาก TCDC คุณพ่อมือใหม่คนนี้ เป็นนักสะสมของเล่นตัวยงของเมืองไทย เรียกว่าเก็บสะสมของเล่นมาตั้งแต่เด็กๆ เลยเอ่ยปากขอสไตล์ที่นั่งสนุกๆ แบบไม่อยู่กับที่ ที่สามารถ “โตไปกับลูก” ได้ ไม่ว่าลูกจะตัวโตขึ้นเท่าไหร่ ก็ยังสามารถใช้เจ้าที่นั่งนี้ได้ หนึ่งในคำถามททีมดีไซน์จะต้องตอบ เพื่อดีไซน์ที่นั่งที่ “ไม่นิ่ง” สามารถนั่งกับลูกและ “โตไปกับลูก” พอได้หวนกลับไปคิดถึงวัยเด็ก และก็ปิ๊งไอเดียว่าเด็กๆ ชอบมีสเปซของตัวเอง ยังจำได้ว่าเล่นสร้างบ้านจากหมอนอิง หรือเบาะโซฟาเป็นประจำ บวกกับความเป็นของเล่น มีการเคลื่อนไหวต่างๆ มีความเป็นบ้าน เป็นครอบครัว จึงกลายเป็นที่นั่งที่มีลักษณะโอบอุ้มเหมือนกับ “รัง” ให้พ่อลูกได้มุดเข้าไปหลบอยู่ข้างในและมีขาที่สามารถโยกได้ มันจึงเป็นได้ทั้ง “ที่นั่ง” และ “ที่เล่น” ในเวลาเดียวกัน ซึ่งทีมดีไซน์เลือกใช้งานหวายสาน เส้นสายดีไซน์ที่เรียบง่ายและใช้วัสดุสุดคลาสสิคอย่างหวาย จึงไม่ตกยุค ไม่ว่าลูกคุณพิชิตจะโตไปแค่ไหนก็ตาม ปุ้ยเองพอได้อ่านแรงบันดาลใจนี้ รู้สึกประทับใจ และชอบแรงบันดาลใจนี้มากๆ รู้สึกถึงความน่ารักและความอบอุ่นของพ่อคนนี้ที่รักและมอบความฝันให้ลูกสาวด้วยความห่วงใยและหวังดี พอได้เห็นผลงานที่นั่งนี้แล้ว ขอบอกเลยว่า ทีมดีไซน์ได้ตอบโจทย์แรงบันดาลใจจากของเล่นและชีวิตในวัยเด็กของคุณพ่อ ที่ฝากความห่วงใยส่งผ่านความรัก สู่ฝันอันอบอุ่นและการเติบโตของจินตนการที่อยู่ในอ้อมโอบที่ยิ่งไหญ่ของพ่อ ในที่นั่งที่พ่อสามารถอุ้มลูกสาว แกว่งไกวไปกับจินตาการ แอบร้องเพลงให้ลูกฟังแบบที่ไม่ต้องอายใคร กล่อมลูกให้นอนบนฟุงนุ่มๆ ในเปลเดียวกัน เล่านิทานก่อนนอนในพื้นที่ส่วนตัวของพ่อลูก แหม๋...มันช่างน่ารักซักนี่กระไร ใช่มั้ยหละคะ ใครเห็นแล้วก็ต้องปลื้มเหมือนกันแน่ๆ ค่ะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ปุ้ยคิดในใจว่า ถ้าเพิ่มหลอดไฟนวลๆ มีสวิต์เปิดปิดได้ ก็จะทำให้พ่อลูกสามารถอยู่ด้วยกันได้ทั้งวันทั้งคืนเลยนะคะเนี่ย ในกรณีนี้ อาจจะต้องใช้ไฟฉายเหมือนตอนเด้กๆ ที่เราเล่นคลุมโปงเล่าเรื่องผีกัน แน่ๆ        5th Seat: Metro – Feminine ไม่ใช่ “เก้าอี้” แต่เป็น “ที่นั่ง ดนตรี” สำหรับเจ้าของและน้องหมา ใครเป็นบ้าง? กลับมาจากบ้านเหนื่อยๆ ก็อยากทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวโปรด นั่งฟังเพลงเพราะๆ พร้อมเล่นกับน้องหมาที่รอคอยจะเจอเรามาทั้งวัน โจทย์สุดท้าย คุณศศิมา อิศรางกูร ณ อยุธยา (พีช) Business Development Manager (Index Creative Village) ยักษ์ใหญ่ในวงการอีเวนท์ของเมืองไทย อยากจะให้ที่นั่งเธอมี “ดนตรี” อยู่ด้วย และเป็นเก้าอี้สไตล์โมเดิร์นวินเทจที่มี ที่ให้สุนัขคู่ใจได้นั่งผ่อนคลายข้างๆ กัน วินเทจ + โมเดิร์น + ดนตรี แถมยังต้องมีที่ให้น้องหมาอยู่ด้วย? ทีมดีไซน์ตีโจทย์ด้วย การทำให้เป็น Daybed ที่มีขนาดพอดีตัวกับคุณพีช และมีพื้นที่พอกับน้องหมาตัวเล็กๆ ของเธอ ได้มาป้วนเปี้ยนอยู่บนที่นั่งด้วย พร้อมเลือกวัสดุผ้าที่ทำความสะอาดง่าย และเป็นลายผ้าที่เธอชอบอีกด้วย ที่สำคัญเลยการใส่เสียงเพลงลงไปในที่นั่ง ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของเจ้าของ ซึ่งคุณพีชเธอมักจะฟังเพลงโดยใช้สมาร์ทโฟนส่วนตัว ผลลัพธ์ที่ออกมา น่าทึ่งมากๆ ค่ะ ยิ่งพอได้ไปสัมผัสใกล้ๆ ยิ่งรู้สึกถึงความพิเศษของที่นั่งตัวนี้ ด้วยการใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในทุกส่วนประกอบ และใส่คาแรคเตอร์ที่ตรงใจความต้องการด้วย รูปทรงของที่นั่งเป็นโวฟาตัวใหญ่สไตล์วินเทจที่ดูผู้หญิ๊งผู้หญิง เทคเจอร์เป็นผ้ากำมะหยี่ที่ให้ความหรูหราเหมือนเจ้าของ และใช้ผ้า PASAYA ที่มีลายเฉพาะทำจากเศษผ้าที่ทอมาผิดพลาด แต่กลับให้ลายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ก็เลยทำให้ที่นั่งตัวนี้ไม่เหมือนใคร ที่สำคัญเลย มีพื้นที่สำหรับน้องหมาตัวน้อยๆ ของคุณพีช ซึ่งเป็นเบาะนอนเล่นที่สามารถดึงออกมาทำความสะอาดได้ พอดึงเบาออกก็กลายเป็นหลุมเล็กๆ ให้น้องหมากลิ้งเล่น แล้วก็ตอบโจทย์เสียงเพลงด้วยการใส่ Dock เสียบไอโฟน และลำโพง ฝังลงในเก้าอี้ ดูแล้วเป็นเก้าอี้ดีไซน์เก๋ๆ แสนน่ารักอบอุ่น และดูทันสมัยมากๆ เหมาะกับสไตล์ของคุณพีชเลยค่ะ   ทีนี้ มาดูผลงานดีไซน์จากแคมเปญ "Seat Happens" นี้ แบบเต็มๆ กันเลยค่ะ แคมเปญ Seat Happens นี้ ปุ้ยชอบมาก ทั้งเรื่องไอเดียและได้เห็นความตั้งใจสื่อสารความต้องการของลูกบ้านในแง่การตอบโจทย์ของไลฟ์สไตล์ รวมทั้งอีกหลายๆ แคมเปญที่ปุ้ยได้สัมผัส ทำให้ปุ้ยรู้สึกชื่นชมแบรนด์แสนสิริมากๆ แสนสิริไม่ใช่เพียงแค่สร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ใส่ใจในความต้องการของลูกบ้านในระดับของวิถีชีวิต สร้างจินตนาการและความสุขอย่างลงตัว ให้ลูกบ้านได้รู้สึกว่าเค้าไม่ได้ซื้อบ้าน แต่เป็นการฝากฝังชีวิตไว้ให้กับแบรนด์นี้ได้ดูแลให้สุขสบายทั้งกายและใจค่ะ หวังว่าบล็อกนี้ จะทำให้ได้ไอเดียเก๋ๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจกับไลฟ์สไตล์สนุกๆ กันได้บ้างนะคะ ไว้มีเรื่องราวสนุกๆ ปุ้ยจะมาอัพเดตให้อ่านกันอีกนะคะ บั๊ยบายค่าาา Reference: SANSIRI SEAT HAPPENS Pictures:  SANSIRI and NICHIEME

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปุ้ยได้รับเชิญไปงานเปิดตัว “ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ” (EUCERIN AQUAporin ACTIVE) ซึ่งงานอีเวนท์จัดขึ้นด้วยธีมสีฟ้าขาวจากแรงบันดาลใจของสีสันของผลิตภัณฑ์ งานเล็กๆ น่ารักและเป็นกันเอง ที่เชิญบรรดาบิวตี้บล็อกเกอร์ ไปรับฟังเรื่องราวดีๆ ของผิว  ปุ้ยก็ได้รับความรู้ใหม่ว่า "น้ำ" มีความสำคัญต่อผิวและช่วยให้ผิวพรรณของเราสวย สุขภาพดีและเปล่งปลั่ง รวมถึงไม่แห้งกร้านและป้องกันการเกิดริ้วรอยได้อย่างดี บางครั้งเราดูแลผิวด้วยเทคโนโลยีมากมายทั้งเลเซอร์ ทั้งการปรับเทคเจอร์ด้ายกายภาพ โดยลืมจุดพื้นฐานที่สำคัญของผิว นั่นก็คือ "ความชุ่มชื้น" ที่มาจากธรรมชาติอย่างปริมาณน้ำที่อยู่ในเซลล์ผิวค่ะ  ฟังแล้วต้องรีบหยิบน้ำมาดื่มเลยอะค่ะ 555 แต่ว่าในระหว่างวันแม้เราดื่มน้ำเยอะก็ตาม เราต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมทั้งแสงแดดอากาศร้อนข้างนอก และอากาศเย็นจากห้องแอร์ข้างในออฟฟิต ทำให้ผิวของเราขาดน้ำและแห้งกร้าน ซึ่งเราจำเป็นต้องหามายเจอร์ไรเซอร์ ที่สามารถเติมและกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวของเราได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งยูเซอรินได้คำนึงถึง ปัจจัยสำคัญนี้และได้คิดค้นวิจัยตัวช่วยที่ทำรักษาสมดุลและระดับความชุ่มชื้นของเซลล์ผิว ด้วยสารชนิดใหม่ “กลูโค-กลีเซอรอล” (Gluco-Glycerol) ลิขสิทธิ์เฉพาะของยูเซอริน  สามารถเพิ่มและส่งผ่านโมเลกุลน้ำในผิวเซลล์ต่อเซลล์ทันทีที่ใช้ เพื่อช่วยฟื้นฟูชั้นเกราะความชุ่มชื่นให้แข็งแรง พร้อมเติมและกักเก็บความชุ่มชื่นให้กับผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ไอเดียของ ผลิตภัณฑ์ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ ชุดนี้ คำว่า “อควาพอริน” (Aquaporin) เป็นช่องทางลำเลียงน้ำทั้งภายในเซลล์และระหว่างเซลล์ มีส่วนสำคัญในการส่งผ่านความชุ่มชื่นและรักษาสมดุลของน้ำภายในเซลล์ ซึ่งยูเซอรินได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานวิจัยของ “ปีเตอร์ อากเร่” (ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2003) จึงเป็นที่มาของชื่ผลิตภัณฑ์ค่ะ มาอีเวนท์ครั้งนี้ ได้รับความรู้ดีๆ แล้วก็ได้ผลิตภัณฑ์ของยูเซอรินกลับไปเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยค่ะ แถมเจ้าภาพก็ใจดี เป็นกันเองแล้วก็น่ารักมากๆ สำหรับสาวๆ ที่อยากจะผิวสวยสุขภาพดีนะคะ ปุ้ยแนะนำว่า ก่อนที่เราจะเยียวยาหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ของผิวนั้น เราควรปรนบัติผิวให้เกิดความชุ่มชื้นเพียงพอที่จะรับการดูแลตามปัญหาผิว เพื่อให้การดูแลผิวนั้นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาวนั่นเองค่ะ ขอจบบล็อกนี้ ด้วยการฝากข่าวประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ นะคะ ขอบคุณค่ะ “ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ” ฟื้นฟูชั้นเกราะความชุ่มชื่น พร้อมส่งผ่านโมเลกุลน้ำได้แบบเซลล์ต่อเซลล์ ผิวชุ่มชื่นขึ้นมากกว่า 150% ภายใน 24 ชั่วโมง!!! ด้วยชุดผลิตภัณฑ์แรงบันดาลใจจากรางวัลโนเบล ยูเซอรินเวชสำอางอันดับหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณทั่วโลกให้ความไว้วางใจส่งชุดผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ”ชุดนวัตกรรมเพิ่มความชุ่มชื่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรางวัลโนเบล สาร “กลูโค-กลีเซอรอล”ลิขสิทธิ์เฉพาะของยูเซอรินที่ช่วยเสริมการทำงานของอควาพอรินโปรตีนซึ่งทำหน้าที่เป็นช่องทางผ่านเข้าออกของน้ำระหว่างเซลล์จึงช่วยเพิ่มและส่งผ่านโมเลกุลน้ำแบบเซลล์ต่อเซลล์ทันที พร้อมช่วยฟื้นฟูชั้นเกราะความชุ่มชื่นของผิวและป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวสูญเสียความชุ่มชื่นได้มากกว่า 150% ภายใน 24 ชั่วโมง!!! ชุดผลิตภัณฑ์ยูเซอรินอควาพอริน แอคทีฟ คิดค้นขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานของ “ปีเตอร์ อากเร่” นักเคมีและนักชีววิทยาโมเลกุลชาวอเมริกันผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2003 จากการค้นพบ“อควาพอริน” (Aquaporin) ซึ่งเป็นช่องทางลำเลียงน้ำทั้งภายในเซลล์และระหว่างเซลล์มีส่วนสำคัญในการส่งผ่านความชุ่มชื่นและรักษาสมดุลของน้ำภายในเซลล์หลังจากการค้นพบ “อควาพอริน”ยูเซอรินจึงได้เริ่มศึกษาวิจัยการทำงานของช่องทางลำเลียงน้ำโดยธรรมชาตินี้เพื่อคิดค้นสุดยอดนวัตกรรมในการให้ความชุ่มชื่นกับผิวถึงระดับเซลล์หลังจากการวิจัยที่สถาบันวิจัยของยูเซอริน ในประเทศเยอรมนี ที่ใช้เวลานานหลายปี ทำให้ยูเซอรินได้ค้นพบสารชนิดใหม่ “กลูโค-กลีเซอรอล” (Gluco-Glycerol) ลิขสิทธิ์เฉพาะของยูเซอริน “กลูโค-กลีเซอรอล” เป็นสารที่สกัดได้จากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (blue-green algae หรือ cyanobacteria) โดยสารชนิดนี้ช่วยรักษาสมดุลและระดับความชุ่มชื่นให้กับสาหร่ายมานานกว่า 3,500 ปี แม้เมื่ออยู่ในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง  นักวิจัยยูเซอรินค้นพบว่าสาร “กลูโค-กลีเซอรอล”มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการผลิต “อควาพอริน 3” ในเซลล์ผิวมนุษย์และเพิ่มช่องทางการลำเลียงน้ำเพิ่มขึ้นทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นลึกลงไปในชั้นของหนังกำพร้า เมื่อ “กลูโค-กลีเซอรอล”ช่วยเพิ่มจำนวน “อควาพอริน” ภายในเซลล์และระหว่างเซลล์ผิวหนังแล้วจึงสามารถเพิ่มและส่งผ่านโมเลกุลน้ำเซลล์ต่อเซลล์ทันทีโดยผลการทดสอบเซลล์ผิวจำลองที่ได้รับสาร “กลูโค-กลีเซอรอล” พบว่าปริมาณ“อควาพอริน” เพิ่มขึ้นถึง 156% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงแรกที่ใช้ ทำให้ผิวชุ่มชื่นทันที  นอกจากนั้นแล้ว “กลูโค-กลีเซอรอล”ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยฟื้นฟูชั้นเกราะความชุ่มชื่นผิว และสามารถป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวสูญเสียโมเลกุลน้ำได้ถึง 150% ทำให้ผิวที่ชุ่มชื่นและไม่กลับมาขาดน้ำอีก หลังจากการใช้ “ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ” อย่างต่อเนื่องเป็นประจำพบว่า  ·  ชั้นผิวได้รับการเติมความชุ่มชื่นอย่างเต็มประสิทธิภาพ ·  ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื่น ·  ฟื้นฟูชั้นเกราะความชุ่มชื่นผิว ·  ผิวไม่กลับมาขาดน้ำและหยาบกร้านอีก   เภสัชกรบดินทร์ หลักทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ กล่าวว่า “คุณผู้หญิงหลายท่านสงสัยว่าทำไมผิวพรรณยังแลดูเหมือนขาดน้ำแห้ง และหยาบกร้าน ทั้งที่ทาครีมหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์อยู่เป็นประจำสิ่งที่ยูเซอรินค้นพบก็คือ ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่หลีกเลี่ยงได้ยากจากการเผชิญความร้อนจากแสงแดดหรือไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ ทำลายชั้นเกราะความชุ่มชื่นผิวให้บางลงทำให้ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื่นได้ง่ายการบำรุงผิวด้วยครีมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทั่วไปจึงไม่สามารถเติมและกักเก็บความชุ่มชื่นได้อย่างต่อเนื่อง ผิวเลยกลับมาขาดน้ำ แห้งและหยาบกร้านได้ง่ายในระหว่างวันและอาจนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆในระยะยาว เช่น ผิวบอบบางแพ้ง่าย ริ้วรอยจากผิวขาดน้ำผิวหมองคล้ำ และรูขุมขนกว้าง   นี่จึงเป็นเหตุผลให้ยูเซอรินคิดคว้าเพื่อให้ได้มาซึ่ง “ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ” เพื่อช่วยฟื้นฟูชั้นเกราะความชุ่มชื่นให้แข็งแรง พร้อมเติมและกักเก็บความชุ่มชื่นให้กับผิวอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจากผลการพิสูจน์ประสิทธิภาพหลังใช้ผลิตภัณฑ์พบว่าเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ผิวจะมีระดับความชุ่มชื่นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแสดงให้เห็นว่าชั้นผิวได้รับการเติมความชุ่มชื่นอย่างเต็มประสิทธิภาพผิวจึงไม่สูญเสียความชุ่มชื่น และไม่กลับมาขาดน้ำและหยาบกร้านอีก”

ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครีม  สูตร ริช สำหรับผิวแห้ง ขาดน้ำ   • เติมความชุ่มชื่นสู่ชั้นผิวลึก  • กักเก็บและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื่นยาวนานต่อเนื่อง   40 ml. ราคา 1,100 บาท

ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครีม สูตร ไลท์ สำหรับผิวธรรมดา – มัน ขาดน้ำ • ให้ความชุ่มชื่นสู่ชั้นผิวเต็มประสิทธิภาพ • ซึมซาบสู่ผิวเร็ว ไม่ทำให้หน้ามัน 40 ml. ราคา 1,100 บาท

ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครีม สูตร  SPF 15 + UVA สำหรับทุกสภาพผิว ขาดน้ำ ไวต่อแดด • ฟื้นฟูและเพิ่มความชุ่มชื่นให้ชั้นผิว • ปกป้องอีกขั้นด้วยยูวีฟิลเตอร์ จากแสงแดดที่ทำร้ายผิว 40 ml. ราคา 1,100 บาท

ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ รีเฟรชชิ่ง เจล โลชั่น สำหรับทุกสภาพผิวกาย ขาดน้ำ • สูตรเข้มข้นแต่เนื้อบางเบา • ผิวได้รับความชุ่มชื่นทันทีและยาวนานต่อเนื่อง  • พร้อมกักเก็บและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื่นจากผิว  400 ml. ราคา 490 บาท

ชุดผลิตภัณฑ์ “ยูเซอริน อควาพอริน แอคทีฟ” มีจำหน่ายที่ร้านบู๊ทส์เท่านั้น และมีให้เลือกทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า
และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย ที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิว เช่น ผิวธรรมดาถึงผิวมันขาดน้ำ ผิวแห้งขาดน้ำ และสำหรับทุกสภาพผิวขาดน้ำไวต่อแดด