Group Blog
All Blog
|
กรรมสิทธิ์หัวใจ ตอนที่ ๒๓ ตอนที่ ๒๓ เสียงเคาะประตูห้องทำงานที่ดังขึ้นสองครั้งเรียกความสนใจของพีรพัฒน์ให้เงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยปากอนุญาต คนที่อยู่ด้านนอกก็ถือวิสาสะผลักประตูเข้ามาเสียแล้ว พีรพัฒน์ไม่ได้มีเวลาพอจะนึกขุ่นใจเมื่อพบว่าผู้ที่ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องเขานั้น ก็คือกรรมการบริหารผู้ถือหุ้นเป็นอันดับสองของเอพีกรุ๊ป...คุณอมร วรโชติ ชายหนุ่มรีบปิดแฟ้มเอกสารก่อนลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวทักทายให้คนที่อาวุโสสูงกว่าตามมารยาท สวัสดีครับคุณอา อ่า สวัสดีๆ คุณอมรรับไหว้ เดินเข้ามาหาเขาถึงโต๊ะทำงาน ว่างอยู่หรือเปล่า หวังว่าอาคงไม่ได้มารบกวนหรอกนะ ไม่ครับ เชิญคุณอานั่งก่อน พีรพัฒน์บอก ผายมือให้คุณอมรไปยังชุดโซฟารับแขก แต่หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบสามเลือกหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม อาว่าจะมาขอบคุณ แล้วก็ขอโทษแทนยายรัก ที่พักนี้รบกวนพีบ่อยๆ คุณอมรกล่าว พีรพัฒน์คลี่ยิ้มบางๆขณะหย่อนตัวกลับลงนั่ง ไม่เป็นไรหรอกครับ เขาตอบ ตั้งแต่ที่ต้องเข้ามาจัดการเรื่องมรดกของป้าอังพีรพัฒน์ก็เริ่มชินกับการที่ต้องพบหน้าหทัยรักบ่อยๆแล้ว เพราะด้วยหน้าที่การงานที่เขาต้องรับผิดชอบในเอพีกรุ๊ปนี่ก็อย่างหนึ่งละ ยายรักเป็นคนเอาแต่ใจ เสียงคุณอมรเอ่ย ผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ราวคนที่เหนื่อยหน่ายกับชีวิตเสียเต็มประดา บางทีอาก็คิดนะว่าอาน่ะเลี้ยงลูกมาแบบผิดๆหรือเปล่า เห็นเขากำพร้าแม่ตั้งแต่เล็กๆก็สงสาร เลยเอาใจเขา ตามใจเขาสารพัดจนมากเกิน พอมาเกิดเรื่องเมื่อวาน อาเลยไม่รู้จะทำยังไง พีรพัฒน์เข้าใจที่คนสูงวัยกว่าพูด แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่เขาก็แน่ใจ จากอาการฟูมฟายเคียดแค้นของสาวสวยคนนั้นที่ระบายกับเขา รวมถึงความปั้นปึ่งที่แสดงตั้งแต่เมื่อคืนกระทั่งการมาขอทานข้าวเช้าที่บ้านสุริยะธาดา หทัยรักคงอาละวาดกับคุณอมรอย่างหนักทีเดียว เป็นธรรมดาครับ รักเขารักคุณอา คงไม่อยากให้คุณอาแบ่งความรักให้ใคร แต่สายสุนีย์เขาก็เป็นคนดี คุณอมรพูด ตอนแรกอาก็คิดว่าจะค่อยๆบอก ไม่อยากให้บัวช้ำน้ำขุ่น แต่ไม่นึกว่ายายรักจะเห็นเข้าก่อนจนไปจ้างนักสืบมาสืบเรื่องของอาอย่างนี้ พีรพัฒน์ไม่ได้เอ่ยอะไร เขาไม่มีความเห็นใดๆกับเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างพ่อลูก แม้หทัยรักจะพยายามลากเขาไปเกี่ยวด้วยการให้เขาลงคำสั่งไล่พนักงานทำความสะอาดที่ชื่อสายสุนีย์ออกก็ตาม แต่ยังไงอาต้องขอบใจพีมากนะ ที่เข้าใจและช่วยพูดให้จนยายรักยอมอ่อนลงมาก ไม่เป็นไรหรอกครับ ที่จริงผมเองก็อยากให้รักเขาเป็นคนใจเย็นแล้วก็มีเหตุผลมากขึ้น เพื่อตัวของเขาเองด้วย พีรพัฒน์บอก ไม่ได้คิดอะไรนอกจากความหวังดีที่มีให้สาวสวยคนนั้น แต่ทว่าจู่ๆคนสูงวัยกว่าก็ยื่นมือมากระชับไหล่เขาไว้อย่างไวด้วยท่าทางของลูกผู้ชาย อาดีใจนะที่พีรู้สึกดีๆกับลูกสาวอา ขอบใจมาก! เอ่อ... กับท่าทีและสายตาเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมอย่างนั้นก็ทำให้พีรพัฒน์พูดอะไรไม่ออก! เพียงเพราะไม่อยากให้คู่สนทนาต้องรู้สึกเสียหน้าชายหนุ่มจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆกับความเข้าใจไปเองของคุณอมร เอาละ หมดธุระแล้ว อาคงไม่รบกวนแล้วล่ะนะ ว่าแล้วคุณอมรก็หมุนตัวทำท่าว่าจะออกจากห้องทำงานพีรพัฒน์ แต่จู่ๆเขาก็ชะงัก หันกลับมา อ้อ! ไม่สิ ยังไม่หมดนี่นา เสียงคุณอมรว่า เพราะจริงๆอายังมีอีกเรื่องที่อยากขอแรงให้พีช่วย!
เพราะคุณอมรนั้นอยากจะพาหญิงที่ชื่อสายสุนีย์เข้ามาอยู่ในบ้านด้วยในฐานะภรรยา ที่จริงชายหนุ่มลำบากใจมากกับการขอร้องแบบนั้นเพราะนั่นมันเป็นเรื่องของครอบครัว ส่วนตัวเขาน่ะเป็นคนนอก ไม่อยากยุ่ง แต่คนสูงวัยกว่าก็ยืนยันหนักหนา
และนั่นดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นวันนั้น หทัยรักก็จะขอตามไปบ้านสุริยะธาดาเพื่อทานข้าวเช้าข้าวเย็นกับเขาด้วยทุกวันจนพีรพัฒน์ตระหนักว่าเขาคงต้องช่วยแก้ปัญหาพ่อลูกไม่ถูกกันให้คนคู่นี้จริงๆ เพราะอย่างนั้น เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่สองที่หทัยรักจะต้องเปิดประตูห้องทำงานเขาเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมประโยคอ่อนหวานแบบเดิมว่า พีคะ เย็นนี้รักขออนุญาตไปทานอาหารเย็นที่บ้านพีด้วยนะคะ รักยังไม่อยากจะญาติดีกับ รัก นี่ตั้งหลายวันแล้ว คุณยังไม่ยอมคุยกับคุณอาอมรอีกหรือ หทัยรักคอแข็งขึ้นมาทันที ทำไมคะ สาวสวยเชิดหน้า หรือพีก็เริ่มรำคาญรัก เบื่อรัก เกลียดรักแล้วเหมือนกับคุณพ่อน่ะ! กับคำกล่าวหาที่แสดงให้เห็นวุฒิภาวะของอีกฝ่ายก็ทำให้พีรพัฒน์อดจะผ่อนลมหายใจออกไปไม่ได้ ผมก็เคยบอกคุณแล้ว ว่าผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย ชายหนุ่มพูด พยายามจะไม่นึกรำคาญสาวสวยตรงหน้า แต่รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเอาการ ทำไมล่ะรัก วันนั้นคุณยังบอกผมเลยว่าคุณจะใจเย็นลง แล้วลองคุยกับคุณอาอมรใหม่ แต่ทุกวันนี้ผมยังเห็นคุณเอาแต่ปั้นปึ่ง หลบหน้าแล้วก็ไม่ยอมพูดจากับคุณอาอมร พี! นี่คุณพ่อให้พีมากล่อมรักใช่มั้ยคะ?! ทว่าชายหนุ่มไม่ได้ตอบ สาวสวยจึงขมวดคิ้วมุ่น พีไม่เข้าใจหรอก! หทัยรักว่า สะบัดตัวลงนั่งบนโซฟารับแขกอย่างขัดใจ พีน่ะไม่รู้หรอกว่าคุณพ่อต้องการอะไร คุณพ่อต้องการจะเอานังนั่นเข้ามาเชิดหน้าชูตาอยู่ในบ้านนะคะ รักรับไม่ได้หรอกค่ะ! คนฟังพ่นลมหายใจออกมา เรื่องนี้น่ะทำไมเขาจะไม่รู้ รัก พีรพัฒน์เอ่ย ผมอยากให้คุณลองเปิดใจนะ คิดถึงความรู้สึกของพ่อคุณบ้าง แต่ไหนแต่ไร ที่ผ่านมาพ่อคุณรักคุณ ห่วงคุณ ตามใจคุณมากขนาดไหน คุณต้องการอะไรท่านไม่เคยขัด แล้ววันนี้หากมีสักเรื่องที่จะเป็นความสุขของท่าน คุณจะทำเพื่อท่านบ้างไม่ได้หรือ พี! หทัยรักร้องเสียงสูง ดีดตัวลุกขึ้นมาและจ้องหน้าพีรพัฒน์อย่างผิดหวัง ริมฝีปากเคลือบลิปติกสีกุหลาบถูกเม้มเข้าหากันจนบางเฉียบ ใช่สิ! ก็เพราะว่าเธอน่ะเป็นทั้งที่รัก เป็นคนๆเดียวที่คุณอมรเคยห่วงใยและตามใจทุกอย่าง แล้วคิดว่าถ้าหากจู่ๆมีนังผู้หญิงที่ไหนไม่รู้โผล่มาดึงความเป็นหนึ่งไป ใครจะทนได้! ทว่าแววคล้ายๆจะเหมือนเอือมระอาในสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าก็ทำให้สาวสวยเริ่มจะคิดได้ว่า การโวยวายงี่เง่าเอาแต่ใจ หรือแม้กระทั่งบีบน้ำตา ดูจะไม่ใช่วิธีการเอาชนะคนที่น่าประทับใจนัก! สาวสวยเชิดหน้าขึ้นมา ไว้ท่าเย่อหยิ่งดุจนางพญาอีกครั้ง ก็ได้ค่ะ ถ้าคิดว่านี่จะเป็นความสุขของคุณพ่อ รักยอมก็ได้! พีรพัฒน์ได้แต่กะพริบตา หลังจากการยื้อไม่พูดคุยกันมาสองอาทิตย์ บทจะง่ายก็ง่ายกว่าที่คิดเหมือนกัน แต่ทว่า... สาวสวยเดินดุ่มๆเข้ามา ตะปบมือลงบนโต๊ะทำงานพีรพัฒน์ก่อนประกาศก้องตรงหน้าเขานั่นแหละว่า แต่วานพีไปบอกคุณพ่อด้วยนะคะ ว่ารักมีข้อแม้ รักจะไม่ยอมให้มันมาถือสิทธิ์ว่าเป็นญาติรัก และรักไม่อนุญาตให้คุณพ่อจัดงานแต่งงานกับมันออกหน้าออกตาเด็ดขาด ตามนี้นะคะ! ประกาศก้องแล้วสาวสวยก็หมุนตัวจากไป นึกเข่นเขี้ยวในใจ วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอกน่า ลองให้มันเข้ามาอยู่เถอะ แล้วนังผู้หญิงหน้าไม่อายนั่นจะได้รู้ว่า คนที่จะมาแย่งความเป็นหนึ่งของหทัยรักน่ะจะต้องเจอกับอะไร! ........... แม้จะประกาศไปว่าจะไม่ยอมให้มีการจัดงานแต่งงานออกหน้าออกตาเด็ดขาด แต่อย่างไรเสียอมร วรโชติก็ไม่ใช่บุคคลไร้ชื่อเสียง และแน่ละ คำว่า เล็ก ของหทัยรักน่ะต้องหมายถึง เล็ก จริงๆ รวมทั้งข้อห้ามอีกสารพัด ห้ามใช้พื้นที่ตึกใหญ่ที่รักอยู่ ห้ามจัดสถานที่ด้วยดอกไม้หรูหรา ห้ามจ้างวงดนตรีบรรเลงในงาน แล้วก็ห้ามจ้างภัตตาคารมาจัดเลี้ยง เข้าใจนะคะ! คุณอมรว่าอะไรลุกสาวสุดที่รักไม่ออก นอกจากมาระบายความดื้อดึงเอาแต่ใจของหทัยรักให้พีรพัฒน์ฟัง เฮ้อ! อาละกลุ้มจริงๆ คุณอมรบ่น คนฟังคำบ่นก็ได้แต่กะริบตา อยากบอกเหมือนกันว่าเขาเองก็กลุ้ม แต่กลุ้มที่ดูเหมือนตัวเองจะถูกลากเข้าไปยุ่งกับปัญหาของครอบครัวนี้มากเข้าทุกทีเสียแล้ว จะไม่เอ่ย ไม่พูดอะไรที่อาจชัก งาน ที่ไม่ต้องการเข้าตัวเองเด็ดขาด พีรพัฒน์ได้แต่ยิ้ม เออ! แต่เรื่องนี้อาคิดหาทางออกไว้แล้วล่ะ อาน่ะ ทำงานมาจนเป็นถึงระดับผู้บริหารแล้ว มิหนำซ้ำยังเป็นพ่อยายรัก ถ้าอาจะหาทางพลิกแพลงเอาชนะลูกสักครั้งไม่ได้ก็คงจะเกินไป! คุณอมรทำสีหน้ายิ้มกริ่มอย่างผู้มีชัยก่อนยื่นมือมาคว้าไหล่พีรพัฒน์ แต่ว่างานนี้น่ะ อาคงต้องขอแรงให้พีช่วยอาอีกสักหน่อยล่ะ! แล้วคนพูดก็หัวเราะหึๆในคอด้วยทีท่ามาดมั่นขณะที่คนฟังได้แต่หลับตาลง นี่ขนาดไม่ได้พูดอะไรเลยสักแอ่ะ แต่งานก็เข้าจนได้ ให้ตายเถอะ! ทว่างานนี้ไม่ได้เข้าแค่พีรพัฒน์คนเดียวเท่านั้น แต่เรียกว่าเข้าทุกคนที่อยู่ในบ้านสุริยะธาดาต่างหาก ทั้งนี้เพราะข้อห้ามของหทัยรักคือห้ามจ้างคนมาจัดงาน เพียงแต่คิดจะให้เด็กๆรับใช้ในบ้านช่วยกันจัด แต่ลำพังแค่เด็กๆในบ้านของตนซึ่งมีอยู่นั้นคงไม่พอ คุณอมรเลยขอแรงพีรพัฒน์ให้คนของบ้านสุริยะธาดามาช่วยด้วย มันดูไม่ใช่เรื่องยากเหลือบากกว่าแรงหากจะไม่คิดเดาไปก่อนว่าหทัยรักจะอาละวาดอะไรบ้างในวันงาน แต่เขามีสิทธิ์จะปฏิเสธไม่ช่วยคุณอมรได้หรือในเมื่อฝ่ายนั้นขอเพียงแต่แรงคน! ชายหนุ่มจึงได้แต่กลับมาพูดตรงๆกับนางบัวศรี นายก้าน และแน่นอน...รวมถึงเด็กในปกครองเขาด้วย บ้านคุณอมรเขาก็มีคนอยู่แค่ไม่กี่คน เพราะอย่างงั้นฉันขอแรงทุกคนให้ช่วยเขาหน่อยก็แล้วกัน และเพราะงานเลี้ยงที่บ้านคุณอมรจะมีขึ้นตอนวันเสาร์หน้า วริณสิตาจึงมีเวลามาถามไถ่รายละเอียดจากคนที่คิดว่าน่าจะรู้เรื่องดี อ๋อ เราไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากหรอกจิ๊บ เราไม่ได้อยู่บ้านนั้น อ้าว! แล้วคำบอกเล่าก็ทำเอาคนถามงงเป็นยกใหญ่ การนนท์ยิ้มกว้าง แอบดีใจอยู่ละที่วริณสิตาอยากรู้เรื่องตน ก๊อ...มันเป็นอย่างงี้ไง เด็กหนุ่มขยับเข้ามาใกล้แล้วเริ่มเล่า คือเรากับพี่รักน่ะเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน พ่อพี่รักเป็นลุงของเรา เราก็เลยไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับเขาเพราะบ้านเราจริงๆอยู่ที่ปากช่อง อ้าว เหรอ วริณสิตาเพิ่งรู้ ตลอดมาเข้าใจไปเสียสนิทว่าการนนท์เป็นน้องชายแท้ๆของหทัยรักเพราะเห็นนามสกุลเดียวกัน อีกทั้งสภาพที่มีรถขับมามหาวิทยาลัยเองอีก ยังบ่อยๆเลยที่เคยแอบสงสัยตงิดๆอยู่ในใจว่า การนนท์มาเลือกเรียนคณะเกษตรทำไม เพราะทั้งๆที่ถ้าเป็นญาติ แถมร่ำรวยอย่างสาวสวยคนนั้นก็น่าจะต้องเรียนไปเป็นนักบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พันล้านอะไรนั่นแล้วซี แต่นี่...
นั่นสิ! ก็คนทำธุรกิจเกษตร ร่ำรวยมีอันจะกินก็มีแยะไปนี่ แฮะๆ วริณสิตายิ้มแหย รู้สึกเปิ่นชะมัดที่ดันไปคิดว่าคนที่ไม่เหมือนกันเลยสักนิดจะเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน เออ! ว่าแต่ผู้ปกครองจิ๊บ สั่งให้จิ๊บไปช่วยงานที่บ้านลุงอมรเหรอ อือ คนถูกถามพยักหน้า คุณพีบอกว่า ลำพังแค่คนที่บ้านคุณอมรคงไม่พอน่ะ หนุ่มน้อยหัวเราะเบาๆ อืม! เราก็ว่า แค่ต้องแบ่งคนไว้รับมือพี่รักตอนอาละวาดก็น่าจะแย่แล้ว จากประโยคนั้นก็ทำให้รู้ว่าการนนท์เองก็คงรู้จักอุปนิสัยลูกพี่ลูกน้องดีอยู่ไม่ใช่น้อย แต่เรื่องแบบนี้ใช่เรื่องที่ควรแสดงความคิดเห็นเสียที่ไหน แม้เธอจะนึกเห็นด้วยชนิดหมดใจเลยก็ตาม Free TextEditor งานแต่งของพ่อรัก
โดย: fon IP: 49.48.113.69 วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:18:37:47 น.
|
parinnada
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?] แนะนำตัว
Friends Blog
Link |