Cause it's a bittersweet symphony, this life
Group Blog
 
All Blogs
 
3. สอบข้อเขียน part 1


หลังจากรอ ร๊อ รอ รอนานนนนน เกือบเดือน
รอจนคนสุดท้ายพรีสกรีนเสร็จ
ในที่สุดการบินไทยก็ประกาศผลคนที่มีสิทธิ์สอบรอบข้อเขียนแล้วววว
ขึ้นเวบในวันที่ 26 เมษายน 2556
เล่นเฟสบุคอยู่ดีๆ มีรุ่นน้องแชทมาถามว่าพี่แพทผ่านเปล่า
ใจไปอยู่ตาตุ่ม รีบเข้าไปเช็ค และแล้วก็มีชื่อแล้วค่าาา





ด่านต่อไปสอบข้อเขียนค่ะ มีคนผ่านประมาณ 1800 กว่าคนจาก 3400 กว่าคน
โดยจะสอบกันวันเสาร์ที่ 4 พค 2556 เวลา 8 โมง ที่ยิมเนเซียม 1 มธ รังสิต
รอบเดียวเท่านั้น ใครมาไม่ได้ คือตกค่ะ
หลังจากประกาศปุ๊บ เราก็เริ่มร้อนใจค่ะ
เพราะไม่ได้เตรียมตัวอะไรก่อนที่จะประกาศเลย
และจากที่อ่านรีวิวคุณ peterboi 
ในหน้านี้  

และได้เห็นข้อสอบความรู้รอบตัว ปี 2011 ที่หน้านี้




เลยรู้สึกว่ายากมากๆๆๆๆ แทบจะตอบไม่ได้ซักข้อ
ก็เลยนอยด์มากๆๆๆเลย กลัวตกรอบนี้
เพราะรอบอื่นเรายังควบคุมตัวเราได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา
รอบนี้แบบ ไม่มั่นใจว่าที่ทำมันจะถูกรึเปล่า
ยิ่งได้ยินมาว่า เค้าจะตัดคนที่คะแนนสูงไปและต่ำไปออก
ยิ่งนอยด์เข้าไปใหญ่ แล้วถ้าเราทำได้เยอะล่ะ ต้องตอบผิดๆบ้างงี้หรอ แล้วถ้าน้อยไปล่ะ โอ๊ย ปวดหัว
ขอเรียกว่าเป็นรอบวัดดวงเลย





แต่ความรู้ความสามารถที่มีตอนนี้ มีแต่จะโดนตัดคะแนนน้อยไปมากกว่า
อย่าเพิ่งไปกังวลเรื่องคะแนนมากไปเลย
ก็เลยต้องฟิตซะละ
เรื่องอ่านหนังสือเตรียมสอบ เป็นเรื่องที่สำคัญมากนะในการสอบข้อเขียนการบินไทย
ในความคิดเรานะ 
(แต่เพื่อนเราบอกไม่ได้อ่านไรเลย สุดท้ายนางก็ผ่านนะ งงเหมือนกัน)
เพราะสอบความรู้รอบตัว เป็นอะไรที่ค่อนข้างเฉพาะเหมือนกัน
โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับบริษัทการบินไทย ที่ตอนนี้ฉันเป็น 0 จ้า




อย่างที่มีคนรีวิว เราขอแบ่งข้อสอบเป็น 3 part ละกัน เป็นchoice หมด
1. aptitude test เป็นข้อสอบความถนัด วัดเชาว์ปัญญา มักจะเป็นเรื่องภาพ กับ ตัวเลข
2. personality test เป็นข้อสอบวัดทัศนคติ ฉันเป็นคนยังไง มีความคิดแบบไหน
3. general knowledge วัดความรู้รอบตัว ข่าวสารบ้างเมือง ความรู้เกี่ยวกับการบินและบริษัท
โดยทั้ง 3 part คำถามและคำตอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด




หลังจากประกาศผล ก็เหลือเวลาเตรียมตัวอีกไม่กี่วัน
เราก็ค่อนข้างฟิตนะ
เพราะความที่ไม่มีคนรู้จักอยู่ในแวดวงนี้เลย
เลยไม่มีพวกข้อสอบเก่าที่เค้าซีรอกแจกๆกัน
ก็ต้องหาเอง
เริ่มจาก ไปเสิชข้อสอบ aptitude test จากเวบเอา ส่วนใหญ่เป็นเวบฝรั่ง
ฝึกๆทำไป
แล้วก็เสิช ความรู้รอบตัว 2556 จากเวบ
มีหลายคนทำสรุปไปเตรียมสอบเข้ามหาลัย หรือ ข้าราชการ
เราก็มานั่งอ่านค่ะเยอะมาก




โชคดีที่เพื่อนแฟนเราเคยสอบนักบิน และติวให้คนจะสอบนักบินบ่อยๆ
เค้าก็มาช่วยบอกข้อสอบข้อเขียนที่เคยไปสอบมา ว่าเป็นไงบ้าง
แล้วเค้ามีสรุปข้อสอบ aptitude เยอะมากๆๆ มาให้เรายืม
เราก็เอามาฝึกทำ 
ซึ่งตรงนี้ก็สำคัญนะเราว่า ถ้าไม่ฝึกทำไปก่อน จะไปเอ๋อในห้องสอบได้
ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่แล้วมันจะฝึกกันในเวลาสั้นๆยากหน่อยก็เถอะ
แต่ถ้าขยันๆและลองทำแบบยากๆไปก่อน ก็น่าจะสบายกว่า เพราะได้ฝึกคิดแล้ว
โดยเฉพาะอนุกรมตัวเลข ที่การฝึกมันจะช่วยมากๆๆๆๆๆ
เพราะมันมีการคิดอยู่ไม่กี่แบบหรอก จะได้จำแบบการคิดได้
เราเองก็ฝึกๆทุกพาร์ทอยู่บ้าง แต่เนื่องจากเวลามีน้อย
บวกกับต้องอ่านความรู้รอบตัวอีก
เราก็เลยฝึกพาร์ทอื่นได้นิดเดียว ที่เหลือลุยเรื่องอนุกรมตัวเลขอย่างเดียว





ส่วน part general knowledge หลังจากอ่านผ่านๆตามเวบแล้ว
เราก็ไปซื้อหนังสือ รวมความรู้ทั่วไปปี 2556 มา 2 เล่ม ที่ศูนย์หนังสือจุฬา
เอามาอ่านๆๆๆ แล้วก็ถามตอบกับแฟน สนุกดีนะ อ่านจนจบเล่มเลย
แต่ถามว่าจำได้มั้ย จำไม่ได้ค่าาาา
พอวันหลังๆอะไรที่เราคิดว่าสำคัญ เราก็noteไว้ในสมุด
เช่น รายชื่อนายก ประธานาธิบดี ประเทศดังๆ มีชื่อไรบ้าง ก็มานั่งโน๊ตเลย
แข่งกีฬา ปีไหนจัดที่ไหน งี้ โน๊ตไว้เลย สรุปแล้วโน๊ตยาวหลายหน้ามากๆ
ส่วนอีกอันที่ยาก คือ ความรู้เกี่ยวกับการบินไทย
อาศัยเปิดเวบเอา และข้อมูลที่แชร์ๆจากบอร์ด
ออกแน่ๆ เตรียมไว้เลย พวก เครื่องบิน รูทบิน วันสำคัญในการบินไทย วันแรกของ....ต่างๆ
สถานที่ บริการ สโลแกน ผู้บริหาร โลโก้ etc.
ซึ่งสิ่งพวกนี้เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยจริงๆ
ก็หาข้อมูลทีละอย่างๆ และก็จดไว้
รูทบินนี่เราก็เปิดเวบหน้าแรก ทำตัวเป็นผู้โดยสารจะจองไฟลท์เลย 
ไล่ๆดูให้คุ้นชื่อเมืองให้มากที่สุด 
มันช่วยนะ เพราะข้อสอบเป็น choice เห็นไอ้ที่ไม่คุ้นก็จะรู้เลย





จากที่ดูข้อสอบความรู้รอบตัวปีที่แล้ว 
เหมือนเป็นโลกที่เราไม่รู้จัก
ดูแล้วคิดเลย อ๋อเค้าเอาแค่ตอบได้ 10%ขึ้นก็พอใช่ป่าว ยากขนาดนี้
แต่พอได้อ่านได้ศึกษา ก็เลยเริ่มรู้ และคิดว่าถ้าเค้าจะเอาคนตอบได้ 70%ขึ้นไปก็ไม่แปลก
เพราะพอมีความรู้ ก็ไม่คิดว่ามันยากเกินไปแล้ว
เหมือนตอนเรียนมัธยมแล้วเคยไปเปิดหนังสือเลขของเทอมหน้า
หรือเอาการบ้านของพี่มาเปิดดูไรงี้
ก็อาจจะคิดว่าโหอะไรเนี่ย ไม่รู้เรื่องเลย เราต้องเรียนงี้หรอ จะรู้เรื่องหรอ
แต่พอมาได้เรียนจริงๆ มันก็ค่อยเป็นค่อยไป สุดท้ายไอ้ที่เปิดดูมันไม่ใช่สิ่งที่ยากเลย
ถึงมันจะน่าตกใจตอนแรกก็เถอะ





ส่วน personality test ยอมรับว่าตอนแรกนี่เป็น part ที่เรากังวลที่สุด
เพราะข้อสอบพวกนี้มักมีทริคอะไรเยอะแยะที่เราไม่รู้
แล้วเราก็ไม่รู้ว่าควรจะเลือกยังไงให้ผ่าน
เพราะเราก็เป็นมนุษย์ปุถุชนทั่วไป 
ถ้าเลือกดีเกินไป เอ๊ะมันจะเฟครึเปล่า เดี๋ยวข้อสอบรู้ว่าคุณ liar อีก
แต่ถ้าเลือกไม่ดีแต่เป็นตัวเอง ก็ตกสิ เพราะเค้าคงไม่เอาคนแบบนี้อยู่แล้ว
เพื่อนบางคนบอกว่า ให้คิดไว้ว่าเราเป็นคนแบบนี้ๆ แล้วเลือกให้สัมพันธ์กัน
เครียดมาก ไปถามเพื่อนที่เป็น hr ที่อื่น เค้าก็บอกให้ตอบตามความจริงไป (ไม่ช่วยไรกุเลยSmiley)
แล้วเรานอยด์จากที่ตกของบางกอกมาด้วย 
งงมากว่าจะต้องเลือกยังไงให้ผ่าน
(ข้อสอบที่ 2 ปีที่แล้วก็ผ่าน หรือยิ่งโตขึ้นทัศนคติยิ่งแย่ลงวะ)
เราว่าการผ่าน สำคัญมากเลยคือรู้ว่าต้องตอบยังไง จะได้เดินเกมถูก
แต่ประเด็นคือไม่มีใครรู้นี่สิ
หลังจากตกบางกอกมา ก็เลยหาข้อมูลจากบอร์ด และมาคิดว่าที่ควรจะทำ
-เน้นคำตอบ teamwork ช่วยเหลือ ยอม เสียสละ เห็นใจผู้อื่น
-ไม่เป็นผู้นำจนเกินไป
-วางแผน มีระเบียบ เคารพกฎ
ไม่ต้องกลัวเลือกดีเกินไปแล้วจะเฟค เพราะมันมีคนที่เป็นอย่างนั้นจริงๆ :P Smiley
คหสต ล้วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่เราก็คิดไว้ว่าจะเลือกแบบนี้
(hrมาอ่าน คงเกลียดเรา เพราะเค้าคงอยากได้คนที่ตอบตามจริง 
คุณสมบัติผ่านแบบเป็นตัวเอง Smiley)




พอวันสอบใกล้เข้ามา เวลานอนยิ่งน้อยลง เพราะที่ต้องอ่านมีเยอะเหลือเกิน
พร้อมกับคำถามว่าจะต้องทำข้อสอบอย่างไรให้ผ่าน
ไม่ชอบเลยอะไรที่มันอยู่เหนือความควบคุมของเรา
ทั้งเรื่อง คะแนนสูงไปก็ตก ? 
เค้าเอาคนช่วงที่ได้เกินมีนมานิดหน่อย ? เค้าไม่เอาคนสุดโต่ง ?
ทั้งเรื่องที่พูดกันว่า ไม่ควรกามั่ว เพราะเค้าไม่ได้นับแต่แต้มทำถูก เค้าดูเปอร์เซ็นต์ด้วย ?
ซึ่งก็ไม่มีใครให้คำตอบที่แน่นอนได้
นอยด์ไปนอยด์มาจนถึงวันสอบ
แต่พอรู้มาว่าข้อสอบออกแบบมาให้ทำไม่ทันอยู่แล้ว
ก็ตัดสินใจว่าจะพยายามทำให้ได้มากที่สุด โดยไม่กามั่ว
สำหรับเราไม่กลัวเรื่องคะแนนสูงไป เพราะในบอร์ดดูทุกคนฟิตกันมากและเก่งๆกันทั้งนั้น
เข้าห้องสอบด้วยความหนักแน่นว่าจะตอบวิธีนี้




มาถึงวันสอบ ถึงเกือบ 8 โมงแน่ะ ไปถึง คนเยอะมากๆๆๆๆ ยืนรอกันหน้าศูนย์สอบ
ก็ไม่รู้อะไรยังไง ก็ยืนรอกับเค้า สักพักใหญ่ๆเลย ก็เปิดให้เข้าไป
นั่งตามแผนผังที่เค้าประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้ว
เราเอาของทุกอย่างฝากไว้ในรถพ่อเพื่อน แต่เห็นหลายคนก็เอากระเป๋าเข้าไปนะ
วางไว้ข้างล่างเก้าอี้เอา
เราเอาเข้าไปแค่ ปากกา ดินสอ ยางลบ บัตรประจำตัวผู้สมัคร บัตรประชาชน
เข้าไปก็จะมีกัปตัน เป็นคนพูดต้อนรับ ประกาศกฏ กติกาต่างๆ 
มีพี่ๆนักบินตรวจความเรียบร้อยในแต่ละแถว
และมีผู้คุมสอบเดินๆ ถือกระดาษปากกา ตรวจตราอยู่หลายคน จดไรไม่รู้ด้วย
และเมื่อเริ่มสอบจะมี professor ฝรั่ง เป็นคนบอกว่าให้ทำ part ไหนยังไง
เราต้องเปิดหน้าตามเค้าบอก ห้าพลิกกลับหรือเปิดหน้าไปก่อน ไม่งั้นถือว่าโกงค่ะ






เอิ่ม บลอคเราอัพไม่ได้ มันบอกว่ายาวไป 
เออ งงมากเลยอัพอะไรได้ยาวขนาดนี้
ต้องแบ่งpart งั้นเรารวบรัดตัดหน้านี้เป็น part 1 ก่อนละกันนะ
หน้าต่อไป จะอัพถึงที่เราทำข้อสอบในปีนี้
aptitude test ก่อนนะ
















Create Date : 18 กรกฎาคม 2556
Last Update : 9 สิงหาคม 2556 2:03:55 น. 1 comments
Counter : 11267 Pageviews.

 
อยากเห็น part ต่อไปต้องเข้าไปยังไงครับ


โดย: นิค IP: 1.46.67.126 วันที่: 10 มิถุนายน 2560 เวลา:16:30:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

puppypat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Stand by me, nobody knows the way its gonna be
Friends' blogs
[Add puppypat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.