ผลักหัวใจ ให้รับรัก ตอนที่3 จบแล้วจ้า


อึ๋ย เอาแล้วมั้ยล่ะ เขามาทวงของเขาคืนแล้ว จากบทสนทนาก็สามารถบ่งบอกได้ว่าสนิทสนมกัน จะประมาณไหนก็แล้วแต่เถอะ ถึงจะหน้าตาน่ารักอย่างนั้น แต่ตาเขียวๆกับรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาก็ทำให้หวาดผวา ฉันเปล่านะ อย่ามองแบบนั้นอีตานี่ก็กล้าหาญชาญชัยเหลือเกิน ไม่รู้สึกรู้สาอะไรซักนิดเหรอ แล้วเรื่องอะไรมาทะเลาะกันที่หน้าบริษัทกันล่ะ เธอไม่อยากเป็นข่าวว่าเป็นมือที่สามนะ

สาลินทั้งกรุ่นโกรธและเสียใจ พยายามกระตุกข้อมือออกจากมือใหญ่ ไม่ได้แอบทำนะอย่างในละครนะ ทั้งดึงทั้งกระชากเลยหล่ะ แต่ชานนท์กลับยิ่งยึดไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเข้าไปอีกแถมยังมองเธอดุๆอีกแน่ะ

“ไม่ได้ผิดนัด บอกแต่แรกแล้วว่าไม่ไปๆ ก็ไม่มีใครฟัง พี่มีเรื่องต้องทำเยอะแยะไม่มีเวลาไปงานนัดบอดของเธอกับแม่หรอก”

“ทำงี้ได้ไง หนูนุ่นก็แย่อยู่คนเดียวน่ะสิ แม่ต้องวีนแตกแน่ๆ”

สาวน้อยเดินเท้าสะเอวแก้มป่องเข้ามาใกล้ อะไรกันนักหนานะ พาสาวมาหาดันหนีซะอีก มีแต่คนเขาดีใจ พ่อพี่ชายตัวดีของเธอไม่เอา ไม่ใช่ว่าจะกลัวว่าพี่ชายหาแฟนไม่ได้หรอกนะ แต่ผู้หญิงมาตามหลงเสน่ห์พี่ชายเธอนี่สิ แต่ละคน หลากหลายรูปแบบ ยิ่งคนที่บุกตามมาถึงบ้านช่อง วุ่นวายให้ปวดหัวนี่สิ ไล่ก็ไม่ไป พูดก็ไม่ฟัง อย่างเมื่อคนที่พ่อคุณเคยคบหาเมื่อสมัยยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย แรกๆเธอดีน่ารัก ไปๆมาๆกลับดีแตก ตามหึงหวงไม่เว้นแต่ละวัน จนต้องเลิกรากันไป ห่างไปได้สามเดือน แม่คุณกลับมาแอบบุกบ้าน ถือวิสาสะเข้าไปดักพี่ชายเธอถึงในห้องนอน เล่นเอาวุ่นกันทั้งบ้าน

“ช่วยไม่ได้ครับคุณน้องสาว” ชานนท์วางมือบนไหล่บางของสาวน้อย ก่อนคว้าหมับเข้าที่ใบหู

หา....เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ น้องสาว เหรอ ใช่รึเปล่า

“อ้อ...ก่อนจะถูกแม่วีน เธอต้องชดใช้บาปกรรมที่ก่อไว้ซะก่อน” เขาบิดมือที่จับใบหูเธอไว้ สาวน้อยหน้าเหยเก

“โอ๊ย...เรื่องอะไรกันเนี่ย”

“เรื่องอะไรมาเที่ยวยุ่มย่ามเปลี่ยนข้อมูลในมือถือของคนอื่นเขาฮะ ยัยน้องตัวดี”

“ฮือ...ทำอย่างนี้กับน้องต่อหน้าคนอื่นได้ไงกัน พี่นนท์” สาวน้อยร้องอุธรณ์ ชานนท์จึงปล่อยมือออก สาวน้อยเขย่งกระซิบข้างหูพี่ชาย

“นี่ คนนี้น่ารักดีใช้ได้ ไม่แนะนำหน่อยเหรอ” จากที่เห็นก่อนจะวีนพี่ชายคนเท่ห์ของเธอ ชานนท์กำลังทั้งดึงทั้งลากและเกลี้ยกล่อมหญิงสาวคนนี้ เธอทั้งขำทั้งสมน้ำหน้า ไม่นึกว่าจะมีสาวไหนทำท่าหลีกหนีอย่างนั้นกับพี่ชายเธอ

“นี่ยัยหนูนุ่นตัวแสบ ต้นเหตุที่ทำให้คุณประทุษร้ายผม น้องสาวผมเองครับสาลิน” ชานนท์แนะนำตามคำบอกของน้องสาว ทีนี้เป็นสาลินที่ตวัดหางตามองชานนท์ สาลินยิ้มอ่อนๆส่งให้หนูนุ่น ถึงว่าทำไมที่เห็นคราวแรกเธอถึงได้นึกว่าสาวน้อยคนนี้หน้าตากระเดียดไปทางเขา

จ๊อก...ก...ก...ก...ก

เสียงท้องเจ้ากรรมกลับมาดังอีกรอบ ประท้วงว่าเลยเวลาอาหารมานานแล้ว สองพี่น้องหลุดเสียงหัวเราะขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย สาลินหน้าแดงที่ทำเปิ่นต่อหน้าคนเพิ่งรู้จัก จะให้ทำไงได้ ก็เธอหิวจนตาลาย ร่างกายมันก็เลยเรียกร้องอย่างนี้

“อุ๊บ!ขอโทษค่ะ หนูนุ่นไม่ได้ตั้งใจ พี่นนท์ก็ ยืนบื้ออยู่ทำไมเล่า รีบไปหาอะไรทานกันดีกว่าน่ะ หนูนุ่นก็หิวเหมือนกัน”

ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารทันที

“เชิญครับ รับประกันโดยเชลชวนชิมนายชานนท์”

‘อ้ะๆไม่ต้องมาทำยิ้มหน้าตาสุขกายสบายใจอย่างนั้น ข้อหาของคุณยังไม่หมด คนเจ้าชู้อย่างคุณ ฉันไม่ใจอ่อนยวบยาบง่ายๆหรอก อย่างน้อยก็ตอนนี้หล่ะ แต่นาทีนี้ ขอกินก่อนหล่ะน้า’

********** ***************** ********** ********

กลิ่นหอมเย็นจากในแจกันใบเล็กผอม ทำรูปร่างเลี้ยนแบบคล้ายหลอดทดลอง ดอกมะลิซ้อนวางเสียบอยู่ในฐานตั้ง ทำจากลวด ขดเป็นเถาไม้เลื้อยแลดูน่ารัก สาลินวางมันไว้เคียงคู่กับรูปใบเล็กในกรอบสีขาว รูปของเธอเอง กระดาษใบเล็กๆสีอ่อนหลายใบ ข้างในเขียนข้อมความสั้นๆไว้ สาลินหยิบมาจากกระเป๋าสตางค์ อ่านอีกครั้งเรียงกันไปแต่ละใบตามวันที่ได้รับ

กระดาษแผ่นน้อยเหล่านี้ ผูกติดมากับมะลิซ้อนสีขาวจาก ชานนท์ เขายื่นมันจ่อหน้าเธอพร้อมรอยยิ้มบาดใจกับแววตาพราวระยับ

“คุณว่าน่ารักมั้ย”

“ค่ะ น่ารักดีค่ะ”

“หอมด้วยนะครับ หอมเย็นชื่นใจ”

“ค่ะ หอมจริงๆค่ะ แล้วไงคะ”

ชายหนุ่มยิ้มชักมือกลับมาจ่อดอกไม้ที่จมูกตัวเองก่อนสูดกลิ่นหอมยาวนาน ทำไมไม่รู้ สาลินร้อนที่หน้าอีกแล้ว

“กลีบสีขาวนุ่มละมุน ดอกเล็กๆน่ารักดีจัง แถมกลิ่นหอมอีกตะหาก เหมือนคุณเลย ผมชอบที่สุด” คำพูดเหมือนบอกเล่าความคิดไปเรื่อยเปื่อย สุดท้ายวกกลับมาลงท้ายที่เธออย่างจัง อีกทั้งประโยคสุดท้ายที่เขาบอก ยิ่งทำให้หญิงสาวใจเต้นแรงจนกลัวว่ามันจะทะลุเสื้อออกมา อุณหภูมิในหน้าพุ่งขึ้นอีก

กระดาษม้วนๆแผ่นเล็กๆถูกคลี่ออก คราวนี้มีหลายใบซ้อนกัน ข้อความสั้นๆในนั้นเขียนไว้ว่า

‘คุณรู้รึเปล่า วันนี้วันอะไร ห้ามตอบว่าวันศุกร์’

สาลินขมวดคิ้ว มองปฏิทินตั้งโต๊ะ ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นวันสำคัญหรือมีความหมายอะไรเป็นพิเศษ เธอคลี่กระดาษแผ่นต่อไปออก

‘ไม่ต้องคิดให้เมื่อย คุณไม่รู้หรอก เพราะในโลกนี้ผมรู้เพียงคนเดียวเท่านั้น ผมยังไม่บอกคุณหรอก ปล่อยให้งงเล่นดีกว่า’

“อ้าว...แล้วถามทำไมไม่ทราบยะ ไม่อยากรู้ด้วย” คราวนี้เธอเผลอออกเสียงมาตามความคิดอีกแล้ว

‘เย็นนี้คุณว่างมั้ยครับ ถ้าคุณมีนัดแล้วก็โทรไปบอกเลิกนัดเขาซะ ยังไงคุณก็ต้องไปกับผมอยู่ดี’

“ทำไมฉันต้องทำตามด้วยไม่ทราบ ถ้าไม่ไปมีอะไรมั้ยล่ะ” ตอนนี้สาลินกำลังพูดกับกระดาษอยู่คนเดียว ใครเห็นคงขำและสงสัยไม่ใช่น้อย

‘คุณก็รู้ใช่มั้ย ผมมีวิธีทำให้คุณไปกับผมได้’

เธอหน้าร้อนขึ้นมาอีกแล้ว คนเอาแต่ใจ ไม่คิดเลยว่าอยู่ดีๆเธอจะต้องถูกเขาบังคับได้ง่ายๆอย่างนี้ แปลว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา หลายครั้งเธอเถียงชนะเขา แปลว่าแค่อ่อยให้อย่างนั้นเหรอ วิธีที่เอ่ยถึงนี้ คงไม่ใช่แบบเดียวกับครั้งโทรศัพท์เจ้ากรรมนั่นหรอกนะ อ้อมแขนอุ่นๆนั่น สายตาหวานแวววาวนั่น โอ๊ย! ไม่เอาน้า ใจมันสั่นวูบวาบยังไงไม่รู้

‘ปล. หันหลังหน่อยสิครับ’

หือ สาลินเลิกคิ้ว ใจไม่อยากทำตามแต่ตัวมันไปเอง ไม่ยักตรงกับใจ

“สวัสดีตอนเช้าครับ” ชานนท์เกาะขอบกั้นรออยู่แล้วพร้อมแก้วกาแฟหอมกรุ่นในมือ รอยยิ้มสดชื่นกว้างขึ้น เดี๋ยวนี้เธอหน้าแดงบ่อยๆ จะสาเหตุจากอะไรอื่นอื่น ถ้าไม่ใช่หน้าคมตาหวานกับรอยยิ้มบาดใจตรงหน้านี่

ตั้งแต่วันนั้นที่เธอถูกชานนท์ลากออกจากออฟฟิศไป หลายคนโดยเฉพาะสปายที่แฝงตัวมาในคราบของแม่บ้านทำความสะอาดทั้งหลายแพร่ข่าวไปทั่ว จากที่เธอถูกลากออกไปกลายเป็นทั้งสองควงกันกระหนุงกระหนิงออกไปทานข้าวพร้อมกัน เหมือนที่ตอนเด็กเธอเล่นเกมในค่ายลูกเสือโดยแท้ เกมที่ส่งต่อเรื่องราวจากคนแรกไปจนถึงคนสุดท้าย แล้วให้ออกมาเล่า ปรากฎว่าคนแรกกับคนสุดท้าย เล่ามาคนละเรื่องคนละทาง รายละเอียดเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม เธอเล่นเกมนี้ไม่เคยขาดเลยซักปี รวมถึงตอนรับน้องก็ยังตามติดมาอีก แต่ไม่เคยคิดว่าเธอจะกลายเป็นข่าวที่บิดเบือนนั้นเสียเอง ส่วนชานนท์ เขายิ่งตอกย้ำหลายวิธีการให้ข่าวกระพือไปมากขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่นตอนนี้

‘อึ๋ย มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ยังมายิ้มใส่อีก แล้วทำไมต้องมองอย่างนั้นอีกแล้ว แววตาอย่างนั้น ยิ่งทำให้ใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ โอ๊ย พอซะที’

“อ้าว เงียบไปเลย เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงแจ๋วๆอยู่เลย” เสียงทุ้มเอ่ยล้อ หัวเราะร่วนในลำคอ

“มาแอบฟังคนอื่นเขา เสียมารยาทที่สุด” สาลินกลบเกลื่อนด้วยอารมณ์ขุ่น กอดอกเชิดหน้าเล็กน้อยเป็นทีตำหนิ แต่แก้มใสยังคงออกอาการแดงเรื่อๆอยู่อย่างปิดไม่มิด

ชานนาท์ก้าวเข้ามาภายในบริเวณโต๊ะของหญิงสาว พิงขอบโต๊ะไว้แล้วหมุนเก้าอี้ให้เธอมาหันหน้ามาสบตาเขา

“ผมแค่จะมาบอกว่า.....”ชานนท์เว้นช่วงไว้ สาลินกลั้นหายใจรอคอยอย่างตั้งใจจนแทบจะหมดลม ชานนท์มองแล้วอมยิ้ม

“คิดถึงคุณจัง”

*********** ********** ***********

ข้อกล่าวหาในตัวชานนท์ที่เธอตั้งให้ เขาเริ่มคลี่คลายให้กระจ่างแก่สายตาเธอ สาวๆหลายคนที่เป็นหัวข้อซุบซิบนินทา ยังคงวนเวียนมาในรัศมีสายตาเสมอ ตัวอย่างเช่นวันนี้

สาวสุดเซ็กซี่ เดินนวยนาดเข้ามาในส่วนพื้นที่ของชานนท์ สาลินมองผ่านกระจกกั้นไปจากโต๊ะข้างๆ เสียงหวานจ๋อยดังลอดมากระทบแก้วหูหญิงสาว

“เอกสารที่ขอมาพร้อมกับคนสวยแล้วจ้า” แขนขาววางซองสีน้ำตาลลงบนโต๊ะ

“ขอบคุณครับ ขอโทษด้วยที่ต้องรบกวน คุณจะ จะ จ๋า” ท้ายประโยคชานนท์อึกอักเล็กน้อย เนื่องจากเนินอกที่พ้นคอเสื้อผ่าลึกปรากฎต่อสายตาอย่างจังเมื่อเขาหมุนตัวละจากหน้าคอมพิวเตอร์มาทางเสียงหวานนั้น เธอก้มลงมือเท้าโต๊ะเอียงคอดูหน้าจอร่วมด้วย

สาลินหลบไปแอบข้างตู้เอกสารแอบดูเหตุการณ์นั้นเงียบๆ เธอมาเซฟข้อมูลที่โต๊ะข้างๆชานนท์ แต่เพราะตานั่นง่วนอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ไม่เงยหน้ามองสิ่งแวดล้อมรอบกายแม้แต่น้อย ว่าแต่ทำไมต้องเธอแอบด้วยล่ะ ไม่มีใครหันมาสนใจเธอซักคนเดียว เธอจึงทิ้งตัวกลับลงนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม ติดตามเหตุการณ์ข้างตัวอย่างใกล้ชิดติดขอบ

สาวสวยเซ็กซี่นามว่าจ๋าหัวเราะร่วน ชานนท์เลื่อนเก้าอี้ถอยออกมาสูดหายใจเข้าลึกๆทีหนึ่ง ปรับสีหน้าเป็นปกติ ดึงแผ่นข้อมูลออกจากเครื่อง

“ผมอยากจะฝากแผ่นดิสก์ไปคืนคุณสมศักดิ์ด้วยได้มั้ยครับ”

“ยินดีรับใช้เสมอค่ะ มีอะไรจะฝากอีกมั้ยคะ อย่างเช่น...” หญิงสาวยกนิ้วชี้เล็บเป็นสีขาว ประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ จิ้มลงที่อกข้างซ้ายชานนท์ “หัวใจ”

“ไม่ต้องครับ” เขาตอบหนักแน่น “เพราะผมเอาไปฝากคนอื่นไว้แล้ว” ชานนท์อมยิ้มในหน้าปรายตามองไปที่มะลิซ้อนสีขาวดอกเล็กบนโต๊ะ

“คุณนนท์น่ะ ใจร้าย” สาวเซ็กซี่ค้อนขวับ กระทืบเท้าออกไปไม่เหลียวหลัง ชานนท์หันกลับเข้าหาคอมพิวเตอร์ต่อไป

“ว่าไงครับลิน ทำไมนานจังล่ะ หาไม่เจอเหรอครับ” ชายหนุ่มเจ้าของโต๊ะเดินกลับมาพร้อมกาแฟสองแก้วเผื่อสาลินแก้วหนึ่ง

“อ๋อ เจอแล้วค่ะ กำลังเซฟอยู่น่ะค่ะ ไฟล์มันค่อนข้างใหญ่เลยต้องเสียเวลาย่อก่อนน่ะค่ะ”

ชานนท์ละสายตาจากจอภาพเบื้องหน้า ลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อดูให้แน่ใจว่าเจ้าของเสียงนี้ใช่สาลินหรือเปล่า สาลินยกกาแฟขึ้นจิบ

“คุณเห็นหมดเลยล่ะสิ สาวสุดเซ็กซี่มาโปรยเสน่ห์นายนนท์อีกแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยตบท้ายด้วยเสียงถอนหายใจ

“หึงมั้ยล่ะคุณลิน” สาลินสำลักกาแฟพรวด กระเด็นเลอะแก้มและคาง

“อ้าว เลอะเทอะเลยคุณ” ชายหนุ่มดึงทิชชู่ส่งให้ เธอรับมาเช็ดแต่ยังคงเหลืออยู่ ฝ่ายชายเอ่ยขอโทษก่อนนำทิชชู่อีกแผ่นซับหยดกาแฟตรงปลายคางให้ ชานนท์ถอดแว่นโยนโครมลงบนโต๊ะ ขยำกระดาษเป็นก้อนเขวี้ยงไปตรงกลางกระหม่อมเพื่อนดังโป๊ก!กระเด้งตกลงบนโต๊ะ

“เฮ้ย!อะไรวะ ใครมันบังอาจปาหัวฉัน” ชายหนุ่มสอดส่ายหาที่มาของก้อนกระดาษ สายตาคมกล้าของชานนท์ลอยมาปะทะสายตา เขานิ่งงันไปชั่วครู่ รับรู้ถึงรัศมีฉุนเฉียวแรงกล้าที่ส่งมาไม่หยุดหย่อน

“อุ๊ยโหย๋ กาแฟขมจัง ไปเปลี่ยนถ้วยใหม่ดีกว่า” ว่าแล้วเขาก็เดินกลับออกไปทางเดิม สาลินมองตามแล้วเลยกลับมาที่คนที่อยู่อีกฝั่งของที่กั้น หัวใจพองโตกับการกระทำของเขา ดวงหน้าคมกระตุกยิ้มอย่างพอใจ

หึ สมน้ำหน้า บังอาจเอามือมาแตะ หวงโว้ย ห้ามยุ่ง รู้ไว้ซะ!

-------------------- -------------------------- ------------------------

สายลมเย็นประทะผิวกาย ริมน้ำในสวนสาธารณะร่มรื่น ผู้คนที่มาออกกำลังกายเริ่มบางตาลง ท้องฟ้าจากที่เป็นสีฟ้าสว่างเริ่มกลายเป็นสีส้ม ใกล้จะมืดแล้ว ตานี่จะเอายังไงกันแน่นะ พอเลิกงานปุ๊บ ก็มาวางอำนาจ จัดการโกยข้าวของเธอลงลิ้นชัก ปิดคอมพิวเตอร์ เก็บกระเป๋าแล้วก็ลากเธอมาที่นี่ เนี่ยน่ะเหรอ วิธีการอย่างที่ว่าในโน๊ตแผ่นน้อยเมื่อเช้านี้ เขาไม่พูดอะไรซักคำ เอาแต่นั่งจ้องๆๆๆแล้วก็ถอนหายใจเฮือกๆ

“อะไรของคุณเนี่ย ถอนใจอยู่ได้ แล้วมันเรื่องอะไรมานั่งจ้องคนอื่นเขม็งแบบนี้กัน”

ชานนท์ยกมือกอดอก จ้องสาลินเงียบเหมือนเดิม เอาไงล่ะทีนี้ ความกล้าหาญชาญชัยของเขามันเหือดหายไปไหนหมดนะ ตอนนี้ใจเขามันสั่นหวิวราวกับมีคนมาเขย่ามันอย่างแรง ไม่ยอมหยุดเสียด้วย เขาไม่แน่ใจเท่าไหร่ ว่าคราวนี้เขาจะไม่ผิดหวังอีก ถ้าเขาจะขอเธอ ให้มาเป็นคนรักของเขาอีกครั้ง แต่ถ้าเธอตอบว่า ไม่ เขารู้ว่าเขาคงไม่แค่ “ผิดหวัง” แต่จะกลายเป็น “เจ็บปวด เศร้า เสียใจอย่างที่สุด” เพราะมันไม่ใช่แค่ความรู้สึก “ชอบ” อย่างที่เคยเป็นมา แต่ตอนนี้เขาทั้งหวงและห่วงเธอจับใจ ไม่พอใจหงุดหงิดอารมณ์เสียหากมีใครมาแตะต้องตัวเธอแม้แต่น้อย คิดถึงเธออยู่ตลอดเวลา คอยมองหาเสมอว่าเธอทำอะไรอยู่กับใครที่ไหน อยากได้ยินเสียงหวานใสจนต้องหนีงานไปชวนคุยชวนทะเลาะอยู่เกือบทุกชั่วโมง แบบนี้ มันแปลว่า “รัก” สินะ

“ว่าไงล่ะคุณ ตกลงเรามาทำอะไรที่นี่กันล่ะคะ หรือว่าวันนี้มีคอนเสิร์ตที่นี่หรือไงคะ”

สาลินถาม ตากลมใสแจ๋ว ดวงหน้าขาวมีเครื่องหมายคำถามปรากฎ แต่ไม่ได้คำตอบอยู่ดี เธอชักเซ็งแล้วก็โมโห ถามก็ไม่บอกอะไรซักอย่าง จะเอายังไงนะ เดี๋ยวแม่จิ้มตาบอดเลย ความจริงตอนแรกเธอเขินนะ ต่อมากลายเป็นงง สุดท้ายตอนนี้เธอทั้งงงทั้งเซ็งทั้งเริ่มจะหงุดหงิด เพราะฉะนั้นเธอควรหาอย่างอื่นทำแก้อารมณ์ต่างๆเหล่านี้ซะ

อ๋า นั่นไง ไอศกรีมสุดโปรดของฉัน ฮ่าๆ

สาลินย้ายตัวเองไปสั่งไอศกรีมที่รถเข็น ชานนท์ใจหายวาบตอนเธอลุกไปไม่บอกกล่าว เขาลุกพรวดตามเกือบจะคว้าแขนเธอไว้ ถ้าเธอไม่หยุดที่รถเข็นขายไอศกรีมเสียก่อน

“เอาบ้างมั้ยล่ะคุณ” เสียงใสลอยมา

ชานนท์ทำหน้าปูเลี่ยนไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี เฮ้อ! ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย เขากำลังเครียดว่าจะบอกรักเธอยังไง ไม่ให้เธอปฎิเสธได้อีก แต่ดูยัยคนตัวเล็กนี่สิ นั่งกินไอติมหน้าตาเฉย

“เป็นไรไปล่ะคุณ ทำหน้าแปลกๆชอบกล ปวดท้องหรือไง นี่!ฉันไม่ได้บ้านะให้ฉันพูดคนเดียวอยู่ได้ คุณนี่ยังไงกันนะ

พอได้ยินเสียงแหวฉอดๆๆ อาการใจสั่นใจหวิวก็คลายลง

“ฉันละงงกับคุณจริงๆเลย โลกมันเอียงมากไปคุณเลยมีทำอะไรประหลาดๆออกมารึไงกัน หรือว่าคุณ...”

“ผมรักคุณ”

เขาอยากจะสรรหาคำพูดมากมายมาหว่านล้อมและกีดกันการปฏิเสธที่อาจเกิดขึ้น แต่เขาคิดไม่ออกเลย นอกจากคำๆเดียวที่เวียนวนอยู่เต็มไปหมดในหัวสมอง ชานนท์สูดหายใจเข้าลึกยาวสาลินชะงักกึก ไม่คิดว่าอยู่ดีๆเขาจะขัดขึ้นมาด้วยประโยคนี้

“คะ” คำเดียวเช่นกันที่เธอสามารถเอื้อนเอ่ยออกมาได้

“ผมรักคุณ” เขาย้ำหนักแน่นอีกครั้ง นอกจากคำพูดแล้ว ดวงตาที่มองสบกันและกันก็บอกย้ำความหมายเช่นเดียวกัน

“หา...เอ่อ” สาลินกระพริบตาปริบๆ เหมือนกันว่าตอนนี้หน้าตาเธอเป็นอย่างไร แต่เธอว่ามันคงจะแดงอีกแล้ว เพราะเธอรู้สึกร้อนไปจนถึงหู แล้วก็คงจะเหวอไม่ใช่น้อยเลย

“ผมรักคุณ รักคุณนะลิน ผมรักคุณ”

“โอ๊ย รู้แล้วๆๆ แล้วยังไงต่อเล่า คนบ้า”

ชานนท์เลิกคิ้ว อุ๊บส์ นี่เธอเผลอพูดออกมาตามใจคิดอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย สาลินจับแก้มสองข้างบิดบังหน้าที่แดงเรื่อขึ้นอีก ชานนท์หัวเราะเสียงดัง

“ขอโทษ ผมคิดอะไรอย่างอื่นไม่ออก” คราวนี้กลายเป็นชานนท์ที่เกาท้ายทอย กระอักกระอ่วน ขัดเขินยังไงชอบกล คราวที่แล้วไม่ยักมีอาการอย่างนี้

บางทีเขาอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลข่มมันไว้ แต่หนนี้ ไม่มีฤทธิ์อย่างว่ามากลบความเขินอายอีก มันจึงแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างนี้ ชานนท์ตัดสินใจข่มความรู้สึกนั้นไว้ ดึงสองมือนุ่มของเธอมากุมไว้ เสียงทุ้มเอ่ยต่อเว้าวอน

“คุณจะคบกับผมได้รึเปล่าครับ ให้โอกาสผมสักครั้งเถอะนะ นะครับลิน นะ”

หญิงสาวนิ่งเงียบไป หัวใจเต้นโครมคราม เอาอีกแล้ว สายตาแบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้ ทำให้เธอเหมือนต้องมนตร์ ทำให้เธอต้องใจอ่อนยวบยาบ ยอมให้เขามาหลายครั้งแล้ว

“ผมรักคุณนะ ตกลงเป็นแฟนผมนะครับลิน นะครับ นะ” เขาวิงวอนสมทบเข้าไปอีก

“ฉันตกลงอยู่แล้วไม่ต้องทำตาทำเสียงแบบนั้นก็ได้ มันหวั่นไหวนะ”

ชานนท์ยิ้มแก้มปริกับคำตอบรับแบบเผลอๆของเธอ ชายหนุ่มจรดมือนุ่มที่กุมอยู่กับริมฝีปากจุมพิตแผ่วเบา โล่งอกเหมือนตัวจะลอย ขาไม่ติดพื้นยังไงไม่รู้

“ขอบคุณครับลิน ขอบคุณมากครับ”

“หา อุ๊ย นี่ฉันเผลอพูดออกมาอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย” สาลินตาโต เสียฟอร์มหมดเลยฉัน ทำไมนะ ฉันต้องเป็นแบบนี้ทุกทีเวลาสบตากับเขานะ เธอก้มหน้างุดเพราะเขินอาย

“ไม่รู้ล่ะ ยังไงคุณก็ตกลงแล้ว ห้ามคืนคำเด็ดขาด” ชานนท์โอบเอวเธอเข้ามาใกล้ เชยคางเธอขึ้นมา ก้มลงหน้าผากชนกับเธอ เป็นการบังคับให้สบตาเขาอีกครั้ง สาลินนิ่งงัน

“ผมรักคุณ คุณก็รักผมใช่มั้ย” สาลินต้องมนตร์จากดวงตาคมนั้นอีกครั้ง

“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับ แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่พอใจกับคำตอบนั้น

“บอกผมสักหน่อยได้ไหม ว่าคุณก็รักผม นะครับลิน นะ” เสียงทุ้มวิงวอนคะยั้นคะยอ

“ค่ะ ฉันก็รักคุณค่ะ” รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้น ตาคมเป็นประกายพราว

“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มจุมพิตแผ่วเบาๆที่แก้มใสละเลยมาที่ริมฝีปากนุ่มแตะเบาๆ สาลินกระพริบตาปริบๆ ทำอะไรไม่ถูก แก้มใสแดงแจ๊ดขึ้น หลุดจากมนตราที่ชายหนุ่มร่ายไว้

“ตาบ้า ทำอะไรน่ะ ใครให้ทำอย่างนี้” สาลินหยิกเข้าที่แขน ชานนท์ร้องอูย

“หัวใจครับ ผมไม่ชอบฝืนใจตัวเองซะด้วย” ชานนท์ทำตาพราวเจ้าเล่ห์ รวบตัวเธอให้เข้ามาใกล้ขึ้นอีก ตาคมสอดส่ายหันซ้ายหันขวาไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้น เขาได้ที หน้าคมฉกวูบขโมยจุมพิตจากเรียวปากนุ่มอีกครา หากคราวนี้ประทับแนบแน่นราวกับจะให้ตรึงตราไปถึงหัวใจ

ท่ามกลางแสงสีทองสุดท้ายของดวงตะวัน สองหนุ่มสาวคลอเคลียกันไม่ห่าง ชานนท์ทั้งผลักทั้งดันให้เธอรับรักเขาได้สำเร็จ ต่อไปต้องผลักให้เธอตกหลุมเป็นเจ้าสาวของเขาให้ได้ เขายิ้มกริ่มกับแผนอนาคตในใจ คงไม่ยากไปกว่าให้เธอรับรักเขานักหรอก แต่ถึงจะยากเย็นต้องผลักต้องกระชากเพียงไร เขาก็ยินดี หากจะได้เธอมาอยู่คู่กับเขาตลอดไป

-----------จบแล้วจ้า--------

By.ฟ้าริน

แหม...ยาวเฟื้อยเลยค่ะ ไม่นึกว่าจะยาวขนาดนี้นะเนี่ย แฮะๆ เขียนไปเขียนมาเพลินมือไปหน่อย เรื่องต่อไป เอาเรื่องไหนดีน้า




Create Date : 27 มีนาคม 2550
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 18:44:56 น.
Counter : 424 Pageviews.

8 comments
  
ขอบคุณนะที่มาอยู่ด้วยกัน
โดย: WMBY (NEZ ) วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:11:42:09 น.
  
จบแล้ว ในที่สุดก็ Happy คะ
โดย: cha-jang IP: 61.90.165.185 วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:16:31:00 น.
  
แวะมาเยื่มเพื่อนบ้าน blogyellow
โดย: mooemp วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:19:06:06 น.
  
รออ่านเรื่องต่อไปอยู่จ้ะ

ขอบคุณที่ไปเม้นท์ให้นะก๊าบบบ
โดย: จมูกหมู81 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:16:14:35 น.
  


พี่กี้มาส่งความสุขในวันปีใหม่ไทยครับ
เย็นกายเย็นใจ พบแต่สิ่งดีๆ น้า
โดย: วลีวิไล วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:15:24:41 น.
  
สวัสดีปีใหม่ไทยนะคร๊าบ
โดย: พีทคุง (redistuO ) วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:22:23:05 น.
  
เค้าเปลี่ยนเมล์ใหม่นะ cadeaujung@hotmail.com
โดย: kwan IP: 61.91.35.28 วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:18:13:36 น.
  


อ้าวเพิ่งแวะมาก็จบซะและ


ไม่เป็นไรแล้วจะหาโอกาสมาตามอ่านทีหลังจ้า
โดย: ณ มน วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:2:44:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปั้นน้ำกะฟ้าริน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








  • งานเขียนใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก หรือ ดัดแปลงเนื้อหา นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่นๆ ทุกรูปแบบ

  • Thanks design by freepik


Designed by Freepik