All Blog
จัดรักให้ลงล็อค บทที่25





บทที่25

ร่างสูงในชุดนักศึกษานอนทอดตัวราบไปกับผืนหญ้าสีเขียวขจีข้างสระน้ำของมหาวิทยาลัย ต่างหูเงินกับห่วงหูสะท้อนกับแสงตะวันเป็นประกาย เน็คไทถูกปลดกองไว้กับหนังสือเรียนข้างๆตัว ดวงตาเป็นประกายสองชั้นมองเหม่อไปบนฟากฟ้าแล้วยิ้ม จึงตกเป็นที่จับจ้องของคนผ่านไปมา

“เสียดายอ่ะ หน้าตาดีไม่น่าเพี้ยนเลย” นักศึกษาสาวๆที่โฉบเฉียดมาใกล้ต่างพูดทำนองนี้กันเกือบทุกคน

หากแต่คนถูกมองและถูกนินทาไม่ใส่ใจหรือหากมองให้ดีคือ อานนท์หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเสียแล้ว ไม่รับรู้สิ่งรอบกายภายนอกใดๆทั้งสิ้น ในความคิดคำนึงคงมีแต่ภาพใบหน้ากับเสียงหวานใสของหญิงสาวที่พบเพียงไม่กี่นาทีที่ผับหรู แต่ก็ติดตรึงใจไม่คลายแม่จะผ่านมาหลายชั่วโมงเต็มทีแล้วก็ตาม

เขาหวังและเฝ้ารอโอกาสที่จะได้รู้จักเธอตลอดคืน แต่ไม่มีวี่แววเงาของเธอหลังจากหายไปในห้องน้ำหญิง เธออาจจะออกมาแล้วและพากันกลับไปในช่วงที่เขาถูกชักชวนให้คุยกับสาวหน้าใหม่ที่แวะเวียนมาที่โต๊ะไม่ขาดสาย

น่าเสียดายนัก เขาไม่น่าพลาดไปเลยจริงๆ คืนนี้แหละ เขาจะไปที่นั่นอีก เผื่อจะมีโอกาสได้พบกับเธออีก ครั้งนี้จะไม่ปล่อยให้เสียเวลาอีกต่อไป



สองสาวที่ยึดพื้นที่ในร้านกาแฟมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ใบหน้าเนียนเปลี่ยนไปตามอารมณ์ที่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คนหนึ่งฮึดฮัดกระแทกแก้วกาแฟเย็นรสกลมกล่อมอักแน่นด้วยเกล็ดน้ำแข็งเย็นฉ่ำจนกระไอน้ำเกาะพราวเต็มข้างแก้ว คนสั่งหวังจะนำมาช่วยลดความร้อนในอารมณ์ๆได้บ้าง แต่ดูท่าแล้วจะไม่เป็นผลใดๆ

“บ้ามากๆ คิดทำอะไรได้ตั้งเยอะแยะ แต่กลับมองข้ามเรื่องสำคัญไปได้“ แพรพรรณส่ายหน้าอย่างระอาในความประหลาดของพี่ชายหรืออาจจะเป็นผู้ชายทุกคนก็ได้ที่ประหลาดแบบนี้ อย่างที่เคยดูในละครไง ตอนนางเอกรักพรพะเอก ก็แกล้งทำเฉย พอนางเอกไปมองคนอื่นก็ไม่ยอม คอยขัดขวางต่างๆนานา พอถามก็ไม่ยอมเปิดปากบอกเหตุผล น่ารำคาญที่สุด

แล้วดูพี่ชายเธอสิ มีอย่างที่ไหน เอ่ยปากขอกับแม่เป็นสมัครแฟนลูกสาว เจ้าตัวก็นั่งเอ๋ออยู่ไม่ขอเขาสักคำเดียว พอสมใจแล้วก็ไป พอเช้าก็โผล่หน้ามาสวมแหวนเสร็จก็กินข้าวสบายใจไปทำงานอย่างรื่นรมย์

“หนูนิ คงไม่ได้คิดหรอกนะว่า ที่พี่ภูทำทั้งหมดนั่นแค่รับผิดชอบที่ไปแต๊ะอั๋งน่ะ” คำถามหยั่งเชิงโดนใจคนฟังไปส่วนหนึ่ง นิศากรเลยสะดุ้งนิดๆ เบนสายตาไปทางอื่นไม่กล้าสบเข้ากับดวงตาโตหวานที่เหมือนมีเลเซอร์คอยสแกนความรู้สึกคนที่เผลอไปมองเข้าได้

“ไม่นะ!” ถึงจะแค่มองปราบเพียงแวบเดียว แต่ไม่ทุกอากัปกิริยาของนิศากรไม่ได้รอดพ้นสแกนเนอร์อย่างแพรพรรณไปได้ “โอ๊ย ตายๆๆๆ ห้ามคิดอะไรแบบนั้นเชียว นางเอกเกินไปแล้วนิศากร” แพรพรรณเรียกชื่อเต็มแบบดุๆทำเสียงออกคำสั่งเหมือนอาจารย์

“ถึงพี่ภูจะสุภาพบุรุษสุดจะซุปเปอร์แมน แต่ก็ไม่คิดจะเอาเชือกมาตัวเองเข้าไปอย่างนั้นหรอก สุภาพบุรุษสมัยใหม่ย่ะ ไม่โง่ แม่สอนว่า ไม่รักก็อย่าฝืน แล้วก็ถ้ารู้แล้วว่ารักก็จงรีบตะครุบไว้”

“สุภาษิตอะไรกัน อันแรกก็พอเข้าใจ แต่อันหลังนี่เราเดาว่าแพรคิดเองซะมากกว่า” แพรพรรณหัวเราะคิกคัก ยอมรับหน้าชื่นตาบาน

“ใช่ เราคิดเอง แหม...โลกเรามันหมุนเร็วขึ้นทุกวัน คนก็เดินเร็ว ยิ่งคนดีๆมั่นคงจริงจังยิ่งเดินเร็ว เพราะเขาจะไม่คอยเหล่สาวๆดะไปตามข้างทางหรอก เพราะฉะนั้นพอเขาผ่านมาเราก็เลยต้องรีบโดดไปตะครุบไว้ไงเล่า”

นิศากรพยักหน้าเป็นเชิงว่า เข้าใจแล้วจ้า แต่ก็อดถึงไม่ได้ในมุมที่ตรงกันข้าม

“บางทีคนเดินเร็วไม่มองข้างทางก็เพราะว่าไม่มีเวลามองต่างหาก เมียวิ่งตามมาข้างหลังไง แอบไปมีกิ๊กแล้วโดนจับได้ เลยต้องรีบหนี ไม่ก็อาจจะเป็นโจร ตั้งหน้าตั้งตาเดินเข้าร้านทอง ไปปล้นทอง”

แพรพรรณค้อนขวับเข้าให้ ค่าที่ทำคติประจำตัวที่คิดมาดีแล้วเสียหายยับเยิน เลยโวยวายเปลี่ยนเรื่องซะ

“จะยังไงก็เหอะ สรุปว่าพี่ภูน่ะ ขอคบด้วยความจริงใจ ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่เกี่ยวกับความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ความรักนะ ไม่ใช่ธุรกิจ ทำผิดแล้วจะได้ต้องชดใช้ ถึงพี่ภูจะเป็นนักธุรกิจเต็มตัวก็เถอะ แต่เขาก็แยกออกเสมอ เชื่อถือได้นะ”

นิศากรไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธออกมา หากแต่ในดวงตาคงความไม่แน่ใจอยู่ลึกๆ สายตาสแกนเนอร์จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมใส ก็พบความไม่แน่ใจนั้นอยู่ แพรพรรณลอบถอนหายใจ เสียใจ

ไม่น่าปากไวและอยากรู้อยากเห็น จนไปสะกิดใจเพื่อนเข้าเลย น่ากระโดดเตะปากตัวเองนัก ยัยแพรเอ๊ย

แต่มันพลั้งปากไปแล้ว มีวิธีแก้อยู่ทางเดียวคือ ต้องทำให้นิศากรมั่นใจให้ได้ว่าภูดิสรักจริงๆ ไม่ได้ทำเพื่อสิ่งอื่นใดเลย เรื่องต่างๆทุกอย่างจึงถูกขุดคุ้ยมาหว่านล้อมเพื่อนสาว

“อย่าคิดมากน่า บอกแล้วว่าไม่รักก็ไม่ฝืนหรอก เราเป็นน้องนะ ก็ต้องรู้จักพี่ชายตัวเองดีสิ ถึงไม่บอกว่ารัก แต่ที่รีบตะเกียกตะกายไปหาเราสองคนเมื่อคืนก็เพราะเป็นห่วงมากใช่ไหมล่ะ แล้วยังหาข้ออ้างต่างๆนานาให้ไปหา ไปดูแลตอนเจ็บอีก ไม่ชอบก็คงปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้ว แล้วยังที่ร้านอาหารอีกที่พี่ภูไปง้อ แล้วก็ยัง...”

“พอแล้วพอแล้ว รู้หมดทุกเรื่องนั่นแหละน่ะ” นิศากรรีบเบรก ก่อนที่เรื่องในอดีตทั้งหมดจะถูกงัดมาฟื้นความจำ

“รู้แล้วก็พิจารณาด้วย แล้วก็จะเห็นความรักและจริงใจของพี่ภู”

คำหว่านล้อมทุกอย่างดูจะได้ผลดี ใครบางคนบอกว่า สำหรับพวกผู้ชายแล้ว แปดสิบเปอร์เซนต์คิดว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดทั้งนั้น หนึ่งในนั้นอาจรวมถึงคนตัวสูงตาคม เจ้าของแหวนวงเล็กบนนิ้วนางนี้

และในทางตรงกันข้าม ฝ่ายหญิงให้ความสำคัญกับคำพูด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการกระทำจะไม่สำคัญ ในเรื่องของความรัก ผู้หญิงทุกคนอยากได้ความมั่นใจจากคนรักทั้งนั้น ไม่มีใครอยากคิดเองเออเอง

แค่คำว่ารักเพียงคำเดียว เคยบันดาลให้คนเรามีพลังมากมาย เธอเองก็อยากได้ยินคำนั้นเหมือนกัน

เอาเถอะ สักวันเธอคงมีโอกาสได้ฟังนั่นแหละ ไม่รู้เมื่อไหร่ ภูดิสอาจจะคิดได้พรุ่งนี้แล้วก็รีบมาบอกก็ได้ แค่รอเท่านั้น

“โอเค เชื่อก็เชื่อ มันก็แค่คำคำเดียวแหละนะ ลืมๆไปบ้างก็ไม่หนักหนาอะไร” นิศากรยิ้มบางๆ ยักไหล่นิดๆทำท่าไม่ยี่หระ แพรพรรณเลยพลอยโล่งอก สั่งเค้กของโปรดมากินเพิ่มอีกสองชื้นสองสาวชนช้อนกันดังกิ๊งเป็นการฉลอง

“ยินดีต้อนรับหนูนิ เพื่อนซี้และว่าที่พี่สะใภ้เข้ามาสู่ครอบครัวของเราอีกชั้นหนึ่ง เย้ๆๆๆ”

นิศากรทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ว่าแก้มน่ะ แดงไปจนถึงแขนแล้ว



ส่วนเจ้าตัวคนที่ทำให้สองสาววุ่นวายก็จามเพราะโดนยกเป็นประเด็นถกเถียงนั่งในห้องประชุมถี่จนเลขาคุณแม่ยังสาวยื่นพาราเซ็ตตามอนมาให้สองเม็ดพร้อมน้ำอุ่นอีกหนึ่งแก้วโตๆ ที่ไปหามาระหว่างพักครึ่งการประชุมด้วยความหวังดี คิดว่าเจ้านายคงเป็นหวัดอาการเริ่มแรก

ภูดิสส่ายหน้าปฏิเสธ พลางยกมือแตะซอกคอและหน้าผาก สำรวจไข้ด้วยตัวเอง

“ผมไม่ได้เป็นหวัดนะ ไม่ต้องกินหรอก”

“งั้นจามแทบทุกห้านาทีทำไมล่ะคะ จะว่าแพ้ฝุ่นก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะก่อนหน้าจะประชุมก็สั่งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดจนเนี้ยบแล้ว” นันทาวินิจฉัยแล้วเอานิ้วปาดโต๊ะประชุมตัวใหญ่ให้ดู ปรากฎว่านิ้วนั้นสะอาดหมดจด

“เอ ไม่รู้สิครับ แต่ผมแน่ใจว่าแข็งแรงดีนะ” ชายหนุ่มยืนยัน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิดๆอย่างสงสัย

“หรือว่า จะมีคนคิดถึงคะ” ภูดิสมองคุณเลขาด้วยสายตาที่เป็นคำถาม นันทาจึงอธิบายไปว่า “อย่างที่เขาว่าเวลาเราจามแสดงว่ามีคนคิดถึงไงคะ”

ชายหนุ่มทำท่าคิดอยู่ชั่วครู่ มุมปากก็ขยับยกขึ้น ดวงตาคมเป็นประกายวับวาวเพราะใจกระหวัดไปถึงสาวน้อยผมยาว ดวงหน้าหวานใสกับตากลมๆ ผิวขาวนวลเนียนมีสีแดงอ่อนระเรื่อที่สองข้างแก้ม สาวน้อยที่พยายามตีหน้าดุกลบความเขิน ไม่ได้ตั้งใจแกล้งจ้องมองตลอดเวลาหรอกนะ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ ทานอาหารร่วมโต๊ะกันมาก็หลายหน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำให้เขารู้สึกว่าจะอิ่มทั้งท้อง ตาและใจได้ขนาดนี้เลย

นันทามองเห็นรอยยิ้มสดใสๆของเจ้านายแล้วก็ยิ้มตาม ในใจอยากซักถามให้รู้ แต่จากสถานภาพและระดับความสนิทสนมรู้สึกจะไม่สมควร อาจมีบ้างที่ยิ้มแย้มล้อเล่นกันเป็นการคลายเครียด หากก็นั่นเป็นบางครั้งคราวเท่านั้น บุคลิกท่าทางสุภาพนิ่งๆสงบๆนั้น ทำให้คนรู้สึกเกรงใจและอีกอย่างการเป็นลูกน้องที่ดี ไม่ควรสอดรู้สอดเห็นเรื่องส่วนตัวเจ้านาย นอกจากเรื่องมันผ่านมาให้เห็นเอง

ใครกันที่ทำให้เจ้านายเธอยิ้มกริ่ม ตาพราวได้ขนาดนี้ เลขาสาวไม่แน่ใจนักว่าจะเป็นอย่างที่หวังรึเปล่า สาวน้อยน่ารักคนนั้น เพื่อนสาวของเจ้านายหญิงคนเล็ก ผู้หญิงคนแรกที่ชายหนุ่มพามาถึงห้องทำงาน คนตัวเล็กหน้ามุ่ยแลบลิ้นไล่หลังผู้ชายในฝันของสาวๆ หน้าบึ้งไม่พอ หนักเข้าก็วิ่งหนีเอาเสียอย่างนั้น น่าตลกดีแท้ ที่คนวิ่งหนีผู้หญิงสาวๆสวยๆกลับต้องมาวิ่งตามผู้หญิงตัวเล็ก

ผู้ร่วมประชุมต่างทยอยกลับเข้าสู่ที่ของตน เป็นสัญญาณการเริ่มประชุมอีกครั้ง ประธานที่จามไม่หยุดเมื่อครู่ ตอนนี้หายแล้ว แต่มุมปากที่แย้มละมุนเมื่อครู่กลับคลายลง คิ้วขมวดน้อยๆด้วยซ้ำ เจ้าตัวรู้ว่าไม่ใช่เพราะปัญหาที่กำลังถกกันอยู่ขณะนี้ หากแต่เป็นเพราะชายหนุ่มกำลังคิดว่า สาเหตุที่ตัวเองหยุดจาม เพราะไม่มีใครคิดถึงน่ะสิ!



-----------โปรดติดตามตอนต่อไป-------------


//punnarm-farin.bloggang.com


*;...คุยกันนิดหน่อยกับฟ้าริน...;*
ฟ้ารินไปตะลุยงานคอมมาร์ทมา คนเยอะมากกกกกกกค่ะ เยอะกว่างานหนังสือเสียอีก งานนี้ก็เสียไปหลายค่ะ เฮ้อ จนๆๆๆๆ แต่ก็มาพร้อมหน้าจอใหม่ ไฉไลกว่าเดิม แล้วก็ได้มานั่งพิมๆๆๆอยู่อย่างนี้แหละค่ะ

ปัญหาหมดไปพร้อมกันกับเวลาเปิดเทอม โอ๊ยๆๆๆๆๆ นี่มันไม่ใช่ปิดเทอมนี่นา ปิดเทอมน่ะ มันต้องนานๆๆๆๆๆๆสิ นี่มันแค่14วันเองอ้ะ ฮือๆๆๆๆ ปิดกับเปิดเทอมนี่มันไม่ได้ต่างกันเล้ย มีงานให้ทำไม่หยุดสิน่า น่าเห็นใจไหมคะ ทุกคน

kakok_riwkiw - โอย หวิดไป คิดถึงหมดนัดเหรอจ๊ะ เดี๋ยวนะ ไปตามมาให้

keroobob - นั่นสิคะ ดีใจมากไปจนลืม อย่านี้มันน่าเอาคืนเน้อ

azui07 - ไปเยี่ยมบล็อคแล้วนะคะ

Ormmie - 555 คนมันกำลังดีใจเลยคิดไรไม่ออก เหมือนฟ้าริน ดีใจได้จอใหม่เลยลืมกินข้าวเลย มัวแต่ประเดิมของใหม่อยุ่

วิมานเพธยาธร - ใช่ค่ะ บางทีมันก็พูดยากนา จะพูดยังไงให้ซึ้งจริงๆว่า รัก




Create Date : 06 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 17:37:00 น.
Counter : 233 Pageviews.

2 comments
  
ฉากนี้ไม่มันเลยอ่ะ...อยากมีหวีดๆหรือไม่ก็วิวาทะบ้างล่ะ
โดย: keroobob IP: 202.67.122.146 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:09:36 น.
  
แล้วนายอานนท์นี่จะมาทำให้เรื่องมันปวดหัวมากขึ้นมั๊ยน้อ

เอาหนูนิ มาเจอกะพี่ภูอีกทีดีกว่าค่ะ บอกรักหนูนิสักทีนะ
โดย: Ormmie IP: 125.24.67.14 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:53:18 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปั้นน้ำกะฟ้าริน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








  • งานเขียนใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก หรือ ดัดแปลงเนื้อหา นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่นๆ ทุกรูปแบบ

  • Thanks design by freepik


Designed by Freepik