Group Blog All Blog
|
การเข้าถึงตนเอง
-ธรรมชาติของสัตว์คือใช้กำลัง พฤติกรรมเกิดจากความต้องการตามธรรมชาติแบบตรงๆ ไม่ได้ผ่านกระบวนการคิด เช่น หิวก็กิน ง่วงก็นอน ร้อนก็อาบน้ำ แสดงออกผ่านความต้องการทางกายเสียเป็นส่วนใหญ่ -ธรรมชาติของมนุษย์ มีพฤติกรรมระหว่างสองส่วนคือการใช้กำลังและสมองมีส่วนเพิ่มเติมเข้ามาคือจิตใจหรือความรู้สึก หากใช้สมองคู่กับกำลังจะมีก็จะมีพฤติกรรมอีกแบบหนึ่ง ปัญญา คือการใช้สมองควบคู่กับหัวใจ สองสิ่งหลังนี้จะทำให้เข้าใจความจริงแท้มากขึ้นๆ -คนเราทุกคนจะมีชุดความคิดความเชื่อของตนเองอยู่ชุดหนึ่ง การเข้าใจกระบวนการเกิดชุดความคิดของคนอื่นจึงเรียกว่าการเข้าถึง การเข้าใจกระบวนการเกิดชุดความคิดของตนเองเรียกว่าผู้รู้แจ้ง -ผู้คนจำนวนหนึ่ง ประเมินความถูกผิดด้วยการนำชุดความคิดความเชื่อของตนเองไปเปรียบเทียบกับชุดความคิดความเชื่อของคนอื่นหากไม่ตรงกับตนเองก็จะตัดสินว่าผิด เมื่อไม่ได้รับการยอมรับก็จะใช้กำลังที่เหนือกว่าเข้าจู่โจมบังคับ ซึ่งก็คือพฤติกรรมของสัตว์ในประเภทแรก -การสร้างกระบวนการคิดเพื่อให้เกิดชุดความเชื่อที่ดีที่ถูกต้องแก่คนรุ่นหลังๆ เรียกว่าการปลูกฝั่งและหล่อหลอม เป็นกระบวนการทางปัญญา ไม่ใช่อำนาจ หรือระบบเส้นสาย คดโกง และคอรัปชั่นอย่างแน่นอน น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ คนจิตใจหยาบจะมาทำให้ผู้อื่นพัฒนาขึ้นได้อย่างไร... คุณค่า
ตอนเป็นเด็ก เราถูกเอาขนมมอบเป็นรางวัล เป็นผู้ใหญ่เอาผลประโยชน์มาให้ ทำงาน ก็เอายศ ตำแหน่งมาเป็นตัวกำหนด ตอนเราไปสวนสัตว์ หลังจากที่สัตว์แสดงตามคำสั่งแล้วจะได้อาหารเป็นรางวัล สัตว์พอใจคนดูก็พอใจ จริงๆคุณค่าของมนุษย์ ไม่ใช่แค่ได้รับสิ่งที่เป็นรางวัลเท่านั้น แต่มันคือคุณค่าต่อผู้อื่น หลายคนที่ไม่ได้ทำเพื่อสิ่งที่นำมาให้ แต่ทำด้วยใจ นั่นเรียกว่าคุณค่า น้ำใจได้ระเบียบ
ถ้าเรานั่งอยู่บนรถเมล์ แล้วมีคนบอกว่าคนไทยมีน้ำใจ เราอาจจะไม่เชื่อ เพราะจ่ายเงินเท่ากัน อีกคนได้นั่ง แต่อีกคนต้องยืน ถ้าเราต้องไปเข้าแถวเพื่อทำอะไรบางอย่าง หรือถ้าเราขับรถไปในเมืองใหญ่ๆ เราจะเห็นความสำคัญของระเบียบวินัยมากขึ้น ที่สำคัญคือเรามักชื่นชมความมีระเบียบวินัยของคนอื่น แต่ตัวเองตามอำเภอใจ ถ้าต้องการพิสูจน์ ความมีน้ำใจของคนไทย ลองไปดูที่ห้องผู้ป่วยรวมในโรงพยาบาลดูนะครับ แล้วท่านจะรู้จริง แบบไม่ต้องจำคำพูดคนอื่นมาพูดต่อเท่านั้น สายคล้องเหรียญ
สายคล้องเหรียญ ขอแสดงความยินดี กับนักกีฬาทุกท่านทุกชาติ ทุกภาษา ที่ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนประเทศของตนเข้าแข่งขัน ในกีฬาของมวลมนุษยชาติโอลิมปิคเกมส์ เพราะท่านคือสุดยอดประชาชนของประเทศแล้ว และขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาทุกท่านที่ได้รับเหรียญ(สงสัยเหมือนกันว่าทำไมจึงทำแค่สามเหรียญ) โดยเฉพาะนักกีฬาของไทย สุดยอดมาก คนไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติใดในโลกอยู่แล้วถ้าใช้ความรู้ความสามารถในทางสร้างสรร เราภูมิใจในตัวของท่าน เราภูมิใจในเหรียญรางวัลร่วมกัน เรามีความสุขกันทั้งประเทศ เมื่อพูดถึงเหรียญรางวัล อยากเชิญชวนทุกท่านพูดถึง ริบบิ้น หรือสายคล้องเหรียญด้วยเพราะคุณค่าคงไม่ด้อยไปกว่ากัน ไม่มีสายก็คล้องเหรียญไม่ได้ ไม่มีองค์ประกอบอื่นๆมากมาย เราก็คงไม่มีนักกีฬาเก่งๆแบบนี้ ชื่นชมทุกๆท่านด้วยความเคารพ มนุษย์แข่งขันเพื่อเรียนรู้การปรับตัว มนุษย์เรียนรู้การปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ต้นธารแห่งความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวง เริ่มต้นที่บิดามารดา ทุกคนคือนักสู้ ทุกคนคือนักกีฬา รักครอบครัว รักเพื่อนบ้าน รักชุมชน รักประเทศชาติ คือเส้นทางสู่สังคมดีงาม คือสายคล้องเหรียญแห่งความรักความสามัคคี ลงมือทำ ด้วยตนเอง คนทำเท่านั้นจึงจะรู้ จึงจะเข้าใจ เราเรียนรู้อะไร?ในวันเวลาที่ผ่านมา....
บุคคลที่มองไม่เห็นจุดอ่อนของตนเอง ไม่เข้าใจและยอมรับในข้อบกพร่องของตัวเอง เป็นบุคคลที่ไม่พร้อมที่จะพัฒนา หรือไม่อาจเป็นบัวพ้นน้ำได้ในเวลาอันใกล้ ในขณะที่เราตำนิ และะด่าทอคนอื่น อาจมีความรู้สึกว่าตนเองเก่ง ฉลาดกว่า แท้จริงคืออาการที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ที่สำคัญเป็นการสะสมนิสัยที่ไม่ดีให้กับตนเอง เราอาจจะดีน้อยกว่าคนที่เราตำนิ ด่าทอด้วยซ้ำ ข้อเท็จจริงคือ ไม่มีเราเขาก็อยู่ได้ ประเด็นสำคัญคือ มีเรากับไม่มีเราแบบไหนมีคุณค่ามากกว่ากัน หลายครั้งที่เราคิดว่าเราเป็นคนดี เป็นผู้วิเศษ จริงๆเราอาจดีสำหรับบางคน อาจไม่ดีสำหรับบางคนก็ได้ ไม่มีใครพัฒนาใครได้หรอก เว้นแต่เขาจะพัฒนาตัวเอง ดังนั้น การที่ต้องการให้คนอื่นเป็นเหมือนที่ตนเองคิดนั้นเป็นความรู้สึกที่เห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง เพราะไม่มีเราเขาก็อยู่ได้ ไม่มีอะไรถูก อะไรผิด ทุกอย่างล้วนคิดไปเอง เป็นคำกล่าวของกวีผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่ง ชื่อเชคเปียร์ คงต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะเข้าใจ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวอาจจะไม่ตรงหรือไม่ถูกเลยก็ได้ กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ น่าจะครอบคลุมทั้งกายและใจ เพื่อให้คนมีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่แข็งแกร่ง เข้าใจ ยอมรับความจริง คือรู้แพ้ รู้ชนะ น่าจะหมายความว่าแพ้ก็ได้ ชนะก็ช่าง เพราะมันคือการกีฬา ขอให้ทำให้ดีที่สุดก็พอ ปัจจุบันหลายอย่างเปลี่ยนไป ประโยชน์จากกีฬาก็เปลี่ยนไป การกีฬากลายเป็นธุรกิจ สามารถสร้างรายได้มหาศาลทั้งตัวนักกีฬาเอง และผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายของกีฬาจึงกว้างออกไป แพ้ชนะกลายเป็นเรื่องสำคัญ ความรู้สึกดีใจสุดๆหรือเสียใจสุดๆจึงเกิดขึ้นได้ในแต่ละเกมส์ บางทีที่คิดว่ากีฬาพัฒนาคนอาจจะจริงบางส่วน หากมองทางด้านจิตใจที่มุ่งไปที่ผลประโยชน์ หรือเอาผลประโยชน์มาล่อแล้วทำให้ความมีน้ำใจนักกีฬาสูงขึ้นเรื่อยๆก็คงจะดี ปัจจุบันผมเองไม่ค่อยได้เล่นกีฬาสักเท่าไหร่ แต่ก็ร่วมทายผลการแข่งขันบ่อยๆ หวังว่าจะได้รางวัลใหญ่ๆกับเขาบ้าง ขอให้ทุกท่านโชคดีในเกมส์นะครับ |
puangin41
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |