Cymbidium devonianum - กระเรกระร่อนใบพาย หรือ กระเรกระร่อนภูหลวง   Cymbidium devonianum - กระเรกระร่อนใบพาย หรือ กระเรกระร่อนภูหลวง เป็นซิมบิเดียมที่ลักษณะพิเศษคือปลายใบกว้างประมาณ 15 ซม. แล้วค่อยๆสอบแคบลงมายังโคนใบ ก้านใบยาวประมาณ 60 ซม. ดอกกว้างประมาณ 3 ซม. ดอกมีสีน้ำตาลแดง กลีบปากแดงเข้ม ช่อยาวห้อยหรือเลื้อยไปบนพื้นดิน ช่อยาวประมาณ 30-50 ซม. จำนวนต่อช่อมากประมาณ 40-50 ดอกต่อช่อ       Cymbidium devonianum ได้รับความนิยมอย่างสูงในการปรับปรุงพันธุ์ซิมบิเดียมแนวใหม่ๆเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถให้ลูกไม้ที่ช่อห้อย จำนวนดอกต่อช่อสูง และกลีบปากที่เข้มโดดเด่นเป็นอย่างมาก เช่น Cym. Devon Gala, Cym. Devon Elf, Cym. Miss Muffet, Cym. Dorothy Stockhill , Cym. Kiwi Jewels เป็นต้น       ในปัจจุบันซิมบิเดียมทนร้อนสาย devonianum ยังมีน้อยอยู่ มีเพียง Cym. Devon Elf และ Cym. Pakkret Muffin เท่านั้น แต่ในอนาคตซิมบิเดียมทนร้อนสาย devonianum จะมีความหลากหลายอย่างแน่นอน       ซิมบิเดียม devonianum ไม่สามารถปลูกเลี้ยงบนพื้นราบได้เนื่องจากต้องความหนาวเย็นและต้องการน้ำสะอาดในการปลูกเลี้ยง ถือเป็นไม้ต้องห้ามอีกตัวหนึ่ง อย่าคิดเลี้ยงไม้ชนิดนี้เด็ดขาด เป็นที่น่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งคือ ประชากรในธรรมชาติที่น้อยนิดกำลังร่อยหลอลงเรื่อยๆ หลายๆกอที่เคยเห็นอยู่กลับหายไปเมื่อผมกลับไปเยือนอีกครั้ง น่าเศร้ามากเพราะไม้ที่นำออกจากแหล่งที่จะอยู่จะต้องตาย 100%   ฤดูออกดอก มีนาคม-เมษายน ถิ่นกระจายพันธุ์ ภาคเหนือของอินเดีย ภูฐาน เนปาล ที่ระดับความสูง 1700-2200 เมตร ยูนานของจีน ลาว และภาคเหนือของเวียดนาม ส่วนประเทศไทยพบที่ภูหลวง จ. เลย ที่ความสูง 1450 เมตร และล่าสุดพบประชากรกลุ่มใหม่ที่ดอยเชียงดาว จ. เชียงใหม่อีกด้วย   Create Date : 25 กรกฎาคม 2554     3 comment Last Update : 25 กรกฎาคม 2554 21:40:14 น.     Counter : 5575 Pageviews.   Share Tweet

Cymbidium chloranthum - ซิมบิเดียมคลอรันทัม   Cymbidium chloranthum - ซิมบิเดียมคลอรันทัม เป็นซิมบิเดียมขนาดเล็ก มีลักษณะหัวค่อนข้างแบนกว้างอย่างชัดเจน กว้างประมาณ 4-5 ซม. ใบค่อนข้างกว้าง 2-3 ซม. สูงประมาณ 30-40 ซม. กลีบดอกค่อนข้างกลม สีเหลืองอมเขียว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่อตั้ง จำนวนดอก ประมาณ 30-40 ดอกต่อช่อ แต่ขนาดดอกค่อนข้างเล็กประมาณ 2.5-3 ซม.       Cymbidium chloranthum เหมาะสำหรับปรับปรุงพันธุ์ซิมบิเดียมทนร้อน เนื่องจากจะให้ช่อตั้ง จำนวนดอกมาก กลีบดอกค่อนข้างกลม และมีสีเขียวซึ่งเป็นสีที่หาได้ยากในกลุ่มซิมบิเดียมทนร้อน   ซิมบิเดียมคลอรันทัมมีลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ การเปลี่ยนสีดอกเป็นสีแดงเมื่อดอกกำลังจะโรยหรือเมื่อถูกผสมแล้ว       ลูกผสมสายคลอรันทัม ณ ตอนนี้มีเพียง Cymbidium Promised Land และ Cymbidium Ensichlor แต่คาดว่าในอนาคตจะมีลูกผสมสายนี้เพิ่มมากขึ้น   ฤดูออกดอก : ตลอดทั้งปีแต่มักจะให้ดอกช่วงฤดูฝน การกระจายพันธุ์ : ป่าฝนเขตร้อนในประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และภาคใต้ของไทย     Create Date : 06 ตุลาคม 2553     10 comment Last Update : 6 ตุลาคม 2553 21:32:09 น.     Counter : 1492 Pageviews.   Share Tweet

Cymbidium bicolor - กระเรกระร่อนสองสี  Cymbidium bicolor - กระเรกระร่อนสองสี เป็นซิมบิเดียม 1 ใน 5 ชนิดของซิมบิเดียมในกลุ่มกระเรกระร่อนหรือ Section Cymbidium มีลักษณะคล้ายคลึงกับกระเรกระร่อนธรรมดามาก (Cymbdium aloifolium) มีลักษณะค่อนข้างเล็กกว่า ใบแคบกว่า ใบแข็งตั้งเป็นมัน ยาวประมาณ 50-70 ซม. กว้างประมาณ 1-3 ซม. ดอกกว้างประมาณ 4-5 ซม. ช่อห้อยยาว และที่สำคัญคือฤดูออกดอกต่างกัน ซึ่งกระเรกระร่อนสองสีให้ดอกช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อน แต่กระเรกระร่อนธรรมดาให้ดอกช่วงกลางฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงอากาศร้อนสูงสุดในรอบปี ฤดูออกดอก : พฤษจิกายน-มีนาคม แหล่งกระจายพันธุ์ : พบในเขตร้อนที่ระดับความสูง 0-1,500 เมตร ตั้งแต่อินเดีย เนปาล ศรีลังกา คาบสมุทรอินโดจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจีนตอนใต้ ------------------------------------  การจำแนกกระเรกระร่อนสองสีออกจากกระเรกระร่อนธรรมดา นอกจากช่วงฤดูออกดอกที่ต่างกันแล้ว ลักษณะการกระจายสีที่กลีบปากซึ่งเป็นจุดสังเกตุที่มองเห็นได้ง่ายที่สุด กระเรกระร่อนสองสี สีที่กลีบปากจะกระจายไม่เป็นระเบียบ พูดง่ายๆ คือ เปรอะๆ รูปข้างบนจะเห็นว่ากระเรกระร่อนธรรดามีสีที่กลีบปากเป็นเส้น และเป็นระเบียบกว่ากระเรกระร่อนสองสี     Create Date : 26 มีนาคม 2553     6 comment Last Update : 26 มีนาคม 2553 23:15:38 น.     Counter : 2311 Pageviews.   Share Tweet

Cymbidium finlaysonianum alba - กระเรกระร่อนปากเป็ดเผือก   Cymbidium finlaysonianum alba - กระเรกระร่อนปากเป็ดเผือก เป็นอีกฟอร์มหนึ่งของกระเรกระร่อนปากเป็ดที่หายาก ลักษณะลำต้นขนาดใหญ่ ใบหนาแข็งสีเขียวเข้ม ยาวได้ถึง 1 เมตรเศษๆ กลิ่นดอกหอมหวาน สีเหลืองใส ปากสีขาว ช่อยาว จำนวนดอกต่อช่อมาก ดอกกว้างประมาณ 4-6 ซม. แต่ดอกบานไม่ทน แต่ให้ดอกบ่อยๆในเขตร้อน     กระเรกระร่อนปากเป็ดเหมาะเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงพันธุ์ซิมบิเดียมทนร้อน เช่นลักษณะใบหนาแข็งซึ่งทนทานต่อความแห้งแล้ง โตเร็ว แตกกอเร็ว ดอกหอม ส่งเสริมความทนร้อนในระดับลูกผสม ช่อยาว จำนวนดอกมา และขยันให้ดอกซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดี คาดว่าในอนาคตซิมบิเดียมตัวนี้จะเป็น 1 ในสายพันธุ์ที่จะถูกนำมาปรับปรุงซิมบิเดียมทนร้อนเป็นอันดับต้นๆอีกตัวหนึ่ง แต่ข้อเสียคือ ขนาดลำต้นขนาดใหญ่ กลีบดอกบาง ดอกบานไม่ทนและช่อดอกเปราะแตกหักง่าย แต่จะแก้ไขได้โดยการเจือจางสายเลือดในลูกผสมระดับที่ 2 เป็นต้นไป ฤดูออกดอก ตลอดทั้งปี แต่จะมากช่วงมีนาคม - มิถุนายน เขตการกระจายพันธุ์ ป่าดิบชื้นเขตร้อนที่ระดับน้ำทะเล 0 - 500 เมตร จระจายพันธุ์แถบตอนล่างของคาบสมุทรอินโดจีน เช่น เวียดนามตอนใต้ กัมพูชา ไทย พม่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย   Create Date : 02 มีนาคม 2553     5 comment Last Update : 2 มีนาคม 2553 23:10:24 น.     Counter : 1606 Pageviews.   Share Tweet

Cymbidium ensifolium var. acuminatum หรือ จุหลันนิวกินี   Cymbidium ensifolium var. acuminatum หรือ จุหลันนิวกินี เป็นจุหลันสายพันธุ์ใหญ่ที่สุด ใบยาวได้ถึง 120 ซม. ช่อดอกสั้น ดอกกว้างได้ถึง 5 ซม. ใบแข็งกว้างและตั้ง ขอบใบเป็นฟันจัก ทรงต้นดูหยาบมากไม่นุ่มนวลเหมือน var. haematodes ที่พบในเมืองไทย จุหลันสายพันธุ์นี้พบเฉพาะบนเกาะนิวกินีเท่านั้น   จริงๆไม้ต้นนี้ ผู้นำเข้าเอามาจากทางอินโดนีเซีย แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าส่วนไหนของประเทศ คาดว่ามาจากเกาะนิวกินีฝั่งอินโดนีเซีย เพราะเกาะนิวกินีครึ่งหนึ่งเป็นของอินโดนีเซีย และอีกครึ่งหนึ่งเป็นของประเทศนิวกินี แหล่งกระจายพันธุ์: เกาะนิวกินี ฤดูออกดอก: ธันวาคม-มกราคม   Create Date : 06 มกราคม 2553     4 comment Last Update : 7 มกราคม 2553 0:03:27 น.     Counter : 1094 Pageviews.   Share Tweet