นับจาก On Air เล่ห์รักโลกมารยา ปี ๒๐๐๘ ที่พระเอกเป็นผู้กำกับ นางเอกเป็นนักเขียน ก็เพิ่งมาเจอละครเบื้องหลังละครอีกเรื่องนี่แหละที่นางเอกเป็นนักเขียน พระเอกเป็นผู้จัดละคร ซึ่งก็สนุกไม่แพ้ On Air แต่จะชอบเรื่องนี้มากกว่าตรงที่มันมีความฮา
ซีรีย์เรื่องไหนที่ต้องรอออนแอร์ดูแบบไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่สนุกจริงก็มีสิทธิ์จะหลุดไปจากความสนใจได้ง่ายๆ เพราะจะมีมาให้ดูแค่สัปดาห์ละ ๒ ตอน แต่The King of dramas คือละครเกี่ยวกับเบื้องหลังการทำละคร มันจึงมีความน่าสนใจอยู่เป็นทุน บวกกับนักแสดงฝีมือดี และการดำเนินเรื่องสนุกแบบมันส์พะย่ะค่ะ ประหนึ่งดูซีรีย์พีเรียดชิงบัลลังก์ รวมแล้วจึงเป็นละครที่สนุก แม้ว่าเรตติ้งจะไม่สูงนัก แค่ประมาณ ๑๐ % เท่านั้น
The king of dramas เอง ช่วงแรกก็เกลียดพระเอก แต่ไม่รู้ว่าผู้ชมท่านอื่นรู้สึกเหมือนเราหรือเปล่านะ ว่าเช็คที่แอนโทนี่สั่งจ่ายให้ครอบครัวของคนตายใบนั้น เขาทำเราอึ้งนะ มันทำให้รู้สึกยั้งความเกลียดเอาไว้ ยังไม่อยากฟันธงตัดสินพระเอกซะทีเดียว ต้องรอดูกันไปก่อน ดังนั้นแม้ต่อมาเขาจะยังเลวอีกเยอะ ก็ยังคงยั้งใจว่า เขาอาจจะมีมีพื้นเพบางอย่างมา เขาคงไม่เลวร้ายมาจากรากแก่นของจิตใจ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ตามสไตล์ซีรีย์เกาหลี ตอนดู Cain and Abel อยู่คืนก่อนโน้น ก็ทำให้นึกถึงประเด็นนี้อยู่เหมือนกัน ความรู้สึกยอมรับและเสียสละของนางเอกที่ควรจะมีให้พระเอกด้วยความเข้าใจมันเกิดขึ้นช้าไปนิดนึง กว่านางเอกจะยอมบอกความจริงกับพระเอก มันก็รู้สึกไปแล้วว่าทำไมนางเอกเห็นแก่ตัวจัง แล้วนั่นมันก็เป็นเพราะเราไม่รู้สึกเชื่อไปด้วยว่าโดยความเป็นมาของนางเอกเธอจำเป็นต้องรั้งพระเอกไว้แบบนั้นจริงๆ มันก็ไม่ผิดอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าทำแบบนั้นมันไม่เท่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังชอบ Cain and Abel อยู่ดี ไว้ดูจบแล้วจะมาเวิ่นเว้อ
นักเขียนอีโกอึน ตัดสินใจปรับเปลี่ยนการเขียนบทขึ้นมากระทันหัน เพราะเธอเห็นว่ามันจำเป็นที่คนดูต้องเข้าใจการกระทำของตัวละครมากกว่านี้ จึงเป็นตัวอย่างหนึ่งค่ะ ที่ทำให้ดู The King Of Dramas แล้วรู้สึกสนุก เพราะมันได้คิดตามไปด้วยว่าเคยรู้สึกอย่างนั้น อย่างนี้กับฉากไหนในละครเรื่องใดบ้าง แถมยังได้ฮาเป็นระยะๆ
เข้าใจแล้ว กิตติศัพท์ความเศร้าอันเล่าลือที่ได้เคยยินชื่อเสียงมานานเกี่ยวกับ I'm sorry I love you
เข้าใจแล้ว ทำไม I'm sorry I love you จึงเป็นชื่อเสียงของนักเขียนบท Lee Kyung Hee ที่ใช้เป็นจุดขายได้อย่างหนึ่งสำหรับซีรีย์เรื่องอื่นๆ ที่เธอเขียนบท
และเข้าใจแล้ว ทำไมเมื่อเอ่ยถึงนักแสดงคนนี้จึงต้องมีคำต่อท้ายชื่อ "โซจีซบ" "จาก I'm sorry I love you"
ตอนนี้ ...เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งดีแล้วเอย
ไม่ว่าจะเคยดูซีรีย์เศร้าโศกเรื่องไหน รันทดสักปานใดมา ไม่ว่าจะเคยยกเรื่องขมขื่นใดขึ้นหิ้งบูชา เมื่อได้เจอกับ I'm sorry I love you เรื่องเหล่านั้นโดนเขี่ยตกหิ้ง...ระเนระนาด
แต่นี่หมายถึงแค่ความรู้สึกเศร้าไปกับตัวละครนะ เพราะหากจะมองในแง่เนื้อหาสาระด้วยแล้วคงไม่ง่ายจะชนะเรื่องอื่นนัก เฉพาะถ้าเทียบกันเองกับผลงานเขียนบทของนักเขียนคนเดียวกัน การหักมุมแบบกระชากใจก็ยังเป็นของ Sangdoo, Let's Go to School ส่วนความประทับใจก็ยังเป็น Thank you เรื่องของเด็กหญิงลีบอมที่ติดเชื้อเอดส์ กับผู้พิทักษ์นางฟ้าหมายเลขหนึ่ง คุณหมอมินกีซอ เพราะโดยสาระของเรื่องนี้ ค่าของคำ "ขอบคุณ" มันรู้สึกให้ความหวังมีกำลังใจ
อยากจะขอบคุณใครคนหนึ่งที่ส่งข้อความหลังไมค์มาช่วงที่เขียนบล็อก Princess Jamyung Go และแนะนำให้ดูซีรีย์เรื่องนี้ พร้อมกับบอกว่าจะรออ่านบล็อก ซึ่งในตอนนั้นได้ตอบไปว่า อย่ารอเลย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ดู ดูแล้วไม่รู้จะชอบหรือเปล่าด้วย เพราะได้ยินว่าเป็นละครที่เศร้ามากกกกก แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นคำแนะนำที่น่าสนใจบวกกับตอนเขียนบล็อก Innocent Man ทำให้ทราบว่านักเขียนบทท่านนี้ เขียนเรื่อง Thank You ด้วย แรงผลักจึงมาแรงเลย ลองเปิดดูตอนแรกสักนิดนึง ลองแล้วจึงติดใจและกลัวจะไม่อินพอจึงต้องสั่งซื้อแผ่นมาเพื่อจะดูกับทีวี (จอใหญ่กว่าคอมฯ)และต้องดูเสียซาวแทร็คซับไทยเท่าน้าน
นอกจากพระเอกนางเอกแล้ว บทบาทที่ชอบเป็นพิเศษ คือ เด็กชายคัลชิผู้มีแม่เป็นหญิงสาวปัญญาอ่อน เด็กน้อยที่รู้สึกอบอุ่นขึ้นเมื่อมีลุงมูฮยอกฝาแฝดของแม่มาอยู่กับเขา เพียงแต่คัลชิไม่รู้ว่าความอบอุ่นที่มีลุงเป็นที่พึ่งนั้นมันจะมีอยู่เพียงไม่นาน แล้วก็ครอบครัวที่บ๊องส์ๆ ของนางเอก แม่จอมขี้บ่น พี่สาวจอมขี้เกียจ และน้องสาววัยนักเรียนที่ตลกน่ารัก เวลาอยู่ด้วยกันแล้วค่อนข้างจะวุ่นวายแต่ดูอบอุ่นดี ส่วนบทบาทของแม่ "โอดอลฮี" นักแสดงท่านนี้ Lee Hye-Young ก็มีฝีมือแก่ขลังสมวัยอาวุโส แต่ถ้าเทียบกับบทบาทใน Can You Hear My heart เรื่องนี้ถือว่ายังไม่โดดเด่นเท่าไร ก็อย่างว่าล่ะนั่นคงเป็นเพราะบทลูกชายมูฮยอกกินเด่นคนเดียวตลอดเรื่อง แล้วไหนจะมีลูกชายชอยยุนอีกคน
ตอนดูข้อมูลนักแสดงเพิ่งรู้ว่า โซจีซบ เป็นหนึ่งในนักแสดงนำเรื่อง Something Happened In Bali (รักสุดใจฝากไว้ที่บาหลี) แต่คงจะไม่ตามไปดูหรอกนะคุณพี่ เพราะกิตติศัพท์ตอนจบของเรื่องนี้น่ะ น่าขยาดกว่า I am sorry ซะอีก
Young Warriors of the Yang Clan ยอดขุนศึกตระกูลหยาง (มาประกวดหยางแมนกันเถอะ)
Title : 少年杨家将 (Shao Nian Yang Jia Jiang) English Title : Young Warriors of the Yang Clan Director : Li Guo Li Written By : Wang Li Zhi (王莉芝), Zhang Mian (张冕) Episode : 43 Year : 2006
Trailer
Yong Warriors of the Yang Clan (ปี ๒๐๐๖) เป็นซีรีย์ที่มีทุกอย่างตามที่ชอบจะเห็นรวมอยู่ในเรื่องเดียว 'รักเกียรติศักดิ์ตระกูล รักชาติบ้านเมือง รักสายเลือดพี่น้องครอบครัว และข้ารักเจ้า' ดูแล้วสุดคุ้ม เพราะมันดำเนินเรื่องสนุกแบบชักแม่น้ำทั้งเจ็ดไหลรวมความรู้สึกไปสู่เจตนารมณ์สุดพีค ณ จุดเดียว คือ การตายเกือบล้างตระกูลของบรรดาขุนศึกตระกูลหยางที่พลีเลือดเนื้อและจิตวิญญาณเพื่อการปกป้องบ้านเมือง (หยาง born to be เกิดมาเพื่อสิ่งนี้) ช่วงท้ายๆ จึงร้องไห้จัดหนักแบบเต็มอารมณ์ไปเลยรวดเดียว สะใจหายเครียด แต่เช้าวันรุ่งขึ้นก็มีอาการตาบวมเล็กน้อย โชคดีไม่มีใครถามว่าเป็นอะไร เพราะคงอึกอักยากจะตอบ ว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับชีวิตหรืออกหักมาจากใครหรอก แค่ดูหนังแล้วอินนี่แหละ ทั้งที่เมื่อตอนเด็กเคยดู "ยอดหญิงตระกูลหยาง" จึงพอรู้จุดจบก่อนเกิดเป็นตำนานนักรบหญิงม่ายอยู่แล้ว แต่ก็ยังมิวายอินเว่อร์อยู่ดี (ก็ความอินมันไม่เข้าใครออกใคร)
อุปสรรค ๓ :- "หากเอาซงจุงกิและมุนแชวอนมาชั่งรวมกัน ยังไม่หนักเท่า'จองเรียววอน'คนเดียวเลย" ซีรีย์เรื่องนี้จึงโดนนางเอกจองเรียววอนเบียดบังแย่งคิวไปถึง 3 เรื่องทั้ง Princess Ja myung Go , History of the Salary Man แล้วก็ล่าสุดคือ The King of Drama ที่กำลังออนแอร์ผ่านไปครึ่งเรื่องและกำลังทำให้ผู้เขียนเป็นโรค "จองเรียววอนลิซึ่ม" อยู่ในช่วงนี้ ทำให้ไม่ได้ติดตามดู Innocent Man อยู่ทุกสัปดาห์ ซีรีย์จบไปเดือนนึงจึงเพิ่งจะดูจบ
มุนแชวอน รับบทเป็นนางเอกของซงจุงกิ ตอนแรกยังคิดว่าน่าเป็นห่วงซะจริงๆ เพราะในสายตาของผู้เขียนเธอไม่ใช่นักแสดงหญิงที่สวยมากถึงขั้นจะดูเหมาะสมกับพระเอกหล่อระดับเทพได้ เธอเป็นประเภทสวยจืดๆ ต้องดูไป อินไป แล้วจะเริ่มรู้สึกว่าเธอสวยจัง สวยจังเลย ดูไม่เบื่อ แบบนี้ล่ะมั้งที่เค้าเรียกว่า "สวยพิศ" ก็ขนาดคิดว่าเธอเป็นคนไม่สวยมากนัก ยังทำตัวประหนึ่งเป็นเลสเบี้ยนด้วยการแคปรูปหน้าเธอมาเยอะมากกกกกก จากนางร้ายน่าชัง (แต่ฉันชอบ) ใน Brilliant Legacy นางเอกน่าหมั่นไส้เพราะนิสัยไม่ดีใน It's Ok daddy's girl นางเอกผู้หนักแน่นกับการบูชาความรักใน The Princess's man และมาถึงเรื่องนี้ Innocent Man นางเอกที่ยามปกติเย็นชา ยามไม่ปกติ(ความจำเสื่อม)ยิ่งเย็นยะเยือกอย่างน่าใจหาย มีผลให้นับจากนี้ผู้เขียนขอปักใจยกมุนแชวอนให้เป็นนางเอกฝีมือระดับจัดจ้านคนหนึ่ง เพราะไม่ว่าจะบทไหนเธอก็เข้าถึงบทบาทได้ดีเหลือเกิน
ซงจุงกิ ยิ่งไม่ต้องกลัวความผิดหวัง เพราะเคยทำผลงานประทับใจมาแล้วในเรื่องรากไม้ Deep Rooted Tree ที่แม้จะออกมาแค่ ๔ ตอน แต่เป็น ๔ ตอนที่ยังจดจำเอาไว้ชื่นชมกันอยู่ และจุงกิก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งใน Innocent Man ที่แต่ต้นจนจบได้สวมวิญญาณคังมารูแบบไม่มีหลุดคาแรคเตอร์แม้สักแว่บเลย นิ่มๆ เย็นๆ แต่เล่นแรง มิเสียแรงที่อุตส่าห์ตัดใจยอมออกจากรายการเรตติ้งยอดนิยมอย่าง Running Man เพื่อหันมาทุ่มเทให้กับงานการแสดงอย่างเต็มที่ ปีนี้ซงจุงกิยังตบท้ายความฮอทส่งท้ายปีด้วยภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ Wolf boy เข้าไปอีกเรื่อง ช่วงนี้ต้องถือว่าเขาเป็นนักแสดงหนุ่มหล่อที่กำลังรุ่งสุดๆ
เรื่องนี้ได้นักเขียนบท Lee Kyeong-Hee ที่มีผลงานสร้างชื่อใช้เป็นพาดหัวโฆษณาหากินได้ตลอดคือ I'm sorry I love you และ Will It Snow For Christmas? ที่ผู้เขียนเองก็ยังไม่เคยดูสักเรื่องหนึ่ง แต่ก็กำลังเล็งๆ เรื่องแรกไว้อยู่เพราะอยากจะมีประวัติเคยรับชมผลงานของพระเอกหน้าหยก "โซจีซบ" กับเขาสักเรื่อง แถมเรื่องนี้ยังมี "จองคยองโฮ" ตอนเอ๊าะๆ รับบทพระรองเป็นน้องชายพระเอกอีกด้วย แต่ไหงตัวเองกลับคิดว่าดู Innocent Man แล้วพาลลดทอนความอยากดู I'm sorry ไปไม่น้อย ยังคงยืนยันว่าชอบพลอตเรื่อง Innocent Man แต่เพราะไม่ค่อยชอบการเขียนบทสักเท่าไหร่ บางทีมันก็มึนๆ งงๆ ไม่เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครบ้าง สะดุดกับบทบาทของตัวละครสมทบบ้าง เพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยไหลรื่นไปด้วยกันกับอารมณ์ของเรื่องและตัวละครหลัก
แต่ก็บ่นไปงั้นๆ เพราะถ้าลองชั่ง ความไม่รื่นของ Innocent Man กับความสุดประทับใจของ Thank you แล้ว ผู้เขียนบท Lee Kyeong-Hee ก็ยังมีภาษีเหลืออยู่อีกมากนัก ยิ่งได้รู้ว่าเขียนความสะเทือนใจเรื่อง Sangdoo, Let's Go to School! ด้วย เชื่อเลยว่าท่านเค้าถนัด "ความรันทด" ในระดับตัวแม่ นี่ยังไม่นับ A Love to Kill อีกเรื่องที่ยังไม่เคยดู เพราะพลอตมันออกรันทดชัดเจน "แค้นเพื่อรัก"
ไหนๆ ก็ซึมซับความเศร้าของท่านนักเขียน Lee Kyeong-Hee มาตั้ง ๓ เรื่องแล้ว ดังนั้น ผลงานรันทดระดับขึ้นหิ้งอย่าง I'm sorry I love you ก็ยังคงเป็นอะไรที่น่าลอง
The Princess's Man รักแบบโรมิโอกับจูเลียต โรแมนติกหรือไร้สติ
Title: The Princess' Man Director: Kim Jeong-Min, Park Hyun-Suk Writer: Jo Jung-Joo, Kim Wook Network: KBS2 July 20, 2011 - October 6, 2011 Wed. & Thu. 21:55 Episodes: 24 TV Ratings: 23.8% (TNmS Nationwide Weekly Average)