Group Blog
 
All blogs
 
Good Luck ! ยิ่งดูก็ยิ่งชอบทาคุยะ



เรื่องย่อ (ที่มา : JKDRAMAS.COM)

Good Luck เป็นซีรีส์ญี่ปุ่นที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานของบุคลากรในวงการบริการเครื่องบินโดยสารตั้งแต่กัปตันนักบิน พนักงานต้อนรับ อีกมุมของฝ่ายเทคนิคดูแลเครื่องบินโดยสารที่ดูเหมือนจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของความพร้อมที่เครื่องบินจะทยานสู่ท้องฟ้า โดยผ่านตัวละครสำคัญของเรื่อง ฮาจิเมะ ชินไค (Hajime Shinkai ) ที่มีความมุ่งมั่นอยากจะเป็นนักบิน และยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างนักบินอาวุโสหรือเพื่อนร่วมงานด้วยกัน

ฮาจิเมะ ชินไค หนุ่มวัย 29 ปี ที่มีความฝันอยากเป็นกัปตันตั้งแต่เด็ก แล้ววันหนึ่งฝันของเขาก็กลายเป็น จริงเมื่อได้ร่วมงานเป็นผู้ช่วยนักบินให้กับสายการบิน All Nippon Airways (ANA) และเขากำลังจะก้าวเป็นนักบินเต็มตัวในไม่ช้าอย่างไรก็ตามกว่าที่เขาจะไปถึงจุดที่เขาฝันได้นั้นยังต้องมีการเรียนรู้อีกมากมายอยู่ข้างหน้า

วันหนึ่ง ชินไคได้รับหน้าที่บินจากฮอโนลูลูกลับมายังสนามบินนาริตะ กับหัวหน้านักบิน โคซากุ มิซูชิมะ ( Kousaku Mizushima) ในขณะที่กำลังจะนำเครื่องบินร่อนลงยังสนามบิน ปรากฏว่าจู่ๆ กัปตันโคซากุ เกิดไม่สบายขึ้นมากระทันหันจนเขาไม่สามารถควบคุมการร่อนเครื่องบินลงได้ ฮาจิเมะ จึงเป็นผู้นำเครื่องร่อนลงสู่สนามบินแทน กระนั้นการร่อนลงสนามบินของเขากลับไม่ราบรื่นนักจนผู้โดยสารตื่นตระหนกตกใจ พอชินไคลงจากเครื่องบินเขาก็ถูก อายูมิ โอกาว่า (Ayumi Ogawa) ช่างเทคนิคดูแลเครื่องยนต์ครื่องบินต่อว่า

"ช่วยถนอมเครื่องหน่อยได้ไหม!"

เป็นครั้งแรกที่ชินไคได้พบกับโอกาว่า ซึ่งเธอได้มาตรวจสภาพเครื่องยนต์เครื่องบินหลังจากที่ชินไค นำเครื่องบินลงจอด และบอกกับเธอว่า

"มันเป็นการร่อนลงจอด!"



บทวิจารณ์ : โดยคุณต่อพงษ์ จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ที่เคยวิจารณ์เรื่อง Nodame ได้ถูกอกถูกใจมาก เรื่อง good luck นี่ก็เช่นกัน  บทวิจารณ์นี้คุณต่อพงษ์ตั้งใจจะเปรียบเทียบถึงละครไทย เรื่องสงครามนางฟ้า  ถ้าอยากอ่านแบบเต็มๆ ก็ต้องไปอ่านตรงที่มาตามลิงค์ค่ะ (แบบว่าจิกกัดไม่เลี้ยง)//www.boybdream.com/manager-news-content.php?newid=12654



"........เรื่องของแอร์ และนักบินไปจนกระทั่งเรื่องของทีมที่จะทำให้เครื่องบิน และผู้โดยสารปลอดภัยนั้น ความจริงแล้วถ้าจะทำให้ออกมาจริงๆ จังๆ เน้นที่จะเสนอเรื่องความรู้ความสามารถ และความพยายามที่กว่าจะมาเป็นแอร์ได้นั้นมีอยู่เยอะนะครับ

พราะทุกอย่างมันแน่นแบบนี้ (สนุก กุ๊กกิ๊ก ฝีมือคนเขียนบท และคนทำถึง ดูแล้วได้ความรู้ ดูแล้วเชื่อว่าอาชีพที่เขาพูดถึงมีเกียรติ) เพราะฉะนั้น Good Luck จึงได้รับความนิยมสูงมาก ในปี 2003 ละครเรื่องนี้ทำให้คนดูชาวญี่ปุ่นต้องนั่งติดอยู่กับจออย่างตาไม่กระพริบด้วยเรตติ้งที่สูงถึง 35 เปอร์เซ็นต์ เฉพาะตอนเปิดตัวของซีรี่ส์ก็มีคนดูปาเข้าไป 31.6 เปอร์เซนต์แล้ว ถือเป็นอันดับ 3 ของละครที่ ทาคูยะ คิมูระ แสดง โดยก่อนหน้านั้นมีเพียง Beautiful Life (เรื่องราวของช่างตัดผมกับบรรณารักษ์สาวพิการ) และ Hero (เรื่องของอัยการประหลาดที่ไม่ยอมทำตามวิถีของข้าราชการอัยการประจำที่ชอบเป่าคดี)ที่มีเรตติ้งดีกว่า

ผมเองดูเรื่อง Good Luck ไปหลายรอบแล้ว ก็ได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งว่า ละครดีนั้น คนเขียนบทต้องทำการบ้านเยอะ นักแสดงเองก็ต้องทำการบ้านเยอะ เช่นเดียวกับงานสร้างมันก็ต้องดูจริงจังใช้เวลานานก็ได้ แต่ต้องออกมาให้ดี เบื้องหลังถ่ายทำนั้นเขาเตรียมงานเป็นปี ทาคูยะ และชิบาซากิ โค ต้องเตรียมตัวเรียนเรื่องเครื่องอยู่ 6 เดือน เพื่อการนี้

ด้วยเหตุนี้ บ้านเราก็เลยจะไม่มีทางที่จะสร้างละครเนื้อหาดีๆ แบบนี้อย่างเด็ดขาด เพราะวัฒนธรรมของผู้สร้างบ้านเรานั้นไปเน้นเรื่องวิชาชีพจริงๆ ไม่ได้ และยัดแต่เรื่องขายฝันเสียมาก อีกทั้งคนเขียนบทเอย ผู้กำกับเอย ไม่ได้ทำการบ้าน อาศัยแต่คิดว่าจะเป็นแบบนั้น คิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ แล้วก็เติมเต็มพฤติกรรมต่ำๆ ลงไปให้เต็ม จะต้องมีนางอิจฉาที่ทำตาประหลับประเหลือกพร้อมที่จะแสดงพฤติกรรมไพร่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นที่มาของตัวละครที่จะต้องฉาบฉวย ไร้สาระ และคิดในทางต่ำเอาไว้ก่อนเสมอๆ

ยืนยันว่าควรอย่างยิ่งที่จะต้องไปหาเรื่องนี้มาดูกันให้ได้ครับ... ซึ่งผมมั่นใจว่า เว็บไซต์ประเภทสั่งดีวีดีชุดจากญี่ปุ่นในบ้านเรานั้น เขาน่าจะมีเรื่องนี้อยู่ในสต็อก หรือไม่ก็ไปร้านอ้วนแว่นที่ฟอร์จูนรัชดาก็ได้น่าจะมีเหมือนกัน เอามาดูกันเถอะครับ จะได้รู้ว่า จริงๆ บนเครื่องบรรดาพนักงานเหล่านี้เขาต้องทำอะไรกันบ้าง........."




ตอนที่กำลังทำ blog นี้อยู่ เราเปิดทีวีเรื่อง พระจันทร์สีรุ้ง และตัวร้ายก็กำลังปล้ำนางเอก โดยมีพระเอกมาช่วย ความจริงก็ไม่อยากจะวิจารณ์ละครไทยของเราเองนักหรอกนะ แต่นี่แหละ สาเหตุแห่งความเซ็ง เมื่อไหร่ตัวอิจฉาหญิงจะเลิกกรี๊ด เลิกวางยาในแก้วน้ำเพื่อจับพระเอก หรือเมื่อไหร่ตัวอิจฉาชายจะเลิกคิดข่มขืนนางเอกเสียที

สำหรับเรื่อง Good luck นี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เน้นการต่อสู้หน้าที่การงาน และแม้ความรักของพระเอกนางเอกจะไม่ได้หวานฉ่ำ หรือโรแมนติคมากมาย แต่ก็ไม่ได้จืดชืดอะไร ทว่ากลมกลืนไปกับเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี เป็นซีรีย์อีก เรื่องหนึ่งที่ชอบอย่างมากมาย และก็ปฏิเสธไม่ได้อีกตามเคย ว่าถูกอกถูกใจทาคุยะเหลือเกิน ความจริงในบทบาทการแสดงแต่ละเรื่อง เชื่อว่านักแสดงฝีมือดีๆ ก็คงจะเล่นได้ดีทุกคน แต่ว่า ต่อให้แสดงในบทเดียวกัน อารมณ์เดียวกัน บุคลิกที่ออกมาย่อมมีความแตกต่างอยู่แล้ว การที่ชอบทาคุยะและหาซีรีย์มาดูมากมาย ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่เก่ากึกอย่าง Stay Gold ก็อาจจะเป็นเพราะความชอบในบุคลิกของทาคุยะเองด้วยส่วนหนึ่ง อากัปกิริยา ไม่ว่าจะสายตาชำเลืองมอง ตอนโกรธ ตอนดีใจ เสียใจ ตอนอึดอัด ตอนเขิน มันดูธรรมชาติมากๆ ผิดกับในละครไทย และละครไต้หวัน ที่พระเอกส่วนใหญ่จะดูเก๊กให้เป็นพระเอกอยู่ตลอดเวลา เรื่องของความเป็นธรรมชาติ จะเห็นในซีรีย์เกาหลีและญี่ปุ่นมากกว่า โดยเฉพาะ TAKUYA สุดที่รักกกกกกก ที่การแสดงของเค้าได้ใจไปมากมายทุกเรื่องที่เคยดูมา

นอกเหนือจากคำวิจารณ์ของคุณต่อพงษ์แล้ว มีอีกมุมนึงที่อยากจะบอกเล่าความรู้สึก นั่นก็คือ ปกติก็ไม่ได้คิดว่าอาชีพต่างๆ ในสายการบินมันมีความเท่หรือน่าทำอะไรมากมาย คนขับเครื่องบิน ก็จะมีอะไรนอกจากขับเครื่องบินส่งผู้โดยสาร สจ๊วต แอร์โฮสเตสจะเป็นอาชีพที่คนใฝ่ฝันอะไรนักหนา ในเมื่อมันก็แค่อาชีพบริการอาชีพหนึ่ง แต่พอได้ดูแล้ว เนื้องานของพวกเขา ก็ยังเป็นแบบที่พวกเราคิด แต่ว่าสิ่งที่มากกว่าก็คือการชี้ให้เห็นถึง "คุณค่า"ของงานที่เคยคิดว่า ''แค่นั้น"

คุณค่า นี่แหละที่สำคัญ เพราะมันทำให้นึกถึงตัวเองขึ้นมากระทันหัน นึกถึงการทำงานของตัวเอง ที่ความจริงแล้ว คิดให้ดี ก็เหมือนกับการทำงานแลกเงินไปวันๆ ไม่ค่อยได้มาคิดหรอกว่า งานนี้งานนั้นมันมีคุณค่ากับใครอื่นยังไง การทำแบบสุดฝีมือ การทำแบบขอไปที หรือหากทำผิดพลาด มันจะส่งผลกระทบกับใครบ้าง และมากน้อยแค่ไหน และการทำงานที่ดีมันน่าภูมิใจอย่างไร

ดูเรื่องนี้แล้ว ทำให้ฉุกคิดถึงเรื่องเหล่านี้ และได้ข้อคิดเลยว่า ถ้าเรามองให้เห็นคุณค่าของงานทุกงานที่เราทำ ก็จะรู้ว่าควรใส่ใจกับอะไร และทุ่มเททำมันออกมาให้ดีที่สุดแค่ไหน ถ้าเราทำได้อย่างนั้น มองงานของตัวเองให้ลึกลงไป ให้เห็นถึงคุณค่า ต่อให้เป็นงานเล็กงานน้อย ก็จะนำความภูมิใจมาให้เสมอ ที่สำคัญคือ นั่นเป็นการทำงานอย่างมีความสุขแน่นอน


ขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพ
//www.JKdramas.com
//www.thaiflight.com
//www.manager.co.th





Create Date : 24 มิถุนายน 2552
Last Update : 13 กรกฎาคม 2554 12:36:44 น. 9 comments
Counter : 11857 Pageviews.

 
ปิ๊งป่อง ถูกต้องแล้วน้องคนนั้นก็คือยูโตะนั่นเอง แล้วก็ใน Nobuta ด้วยจ้า เขียนถึงทาคุยะ แปลว่าช่วงนี้เทศกาลทาคุยะอยู่สิเนอะ เราก็ชอบน่ะเฮียเค้าเล่นได้สุดยอด แต่เรื่อง Good Luck ยังดองอยู่เลย ต้องรีบไปดูแล้วง่ะ


โดย: MamLHC วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:11:02:38 น.  

 
ลืมบอกไปว่าเราก็ชอบบทความของคุณ ต่อพงษ์เหมือนกันเค้าเขียนโดนใจมากๆ เราว่าคนนี้เค้าดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นเยอะพอๆ กะพวกเราเลยอ่ะ


โดย: MamLHC วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:11:04:28 น.  

 
เรื่องนี้เป็นซีรีส์ในดวงใจเรื่องหนึ่ง แถมอยู่ลำดับต้นๆรองจากEngineและHero และเป็นซีรีส์ที่แนะนำให้เพื่อนที่ไม่เคยดูซีรีส์ญี่ปุ่นมาก่อนดู ซึ่งชอบกันทุกคน มีคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่าไปหาซื้อภาค2ถึงแม่สายแต่ไม่มี เลยถามเขาว่าใครบอกว่ามีภาค2 เขาบอกว่าก็หนังจะจบอย่างนั้นได้ยังไง ต้องมีภาค2แน่ๆเฮ้อ!จนป่านนี้เขายังตามหาภาค2อยู่เลยค่ะ ร๊ากกกกกป๋ายะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.44.41 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:0:24:52 น.  

 
ปล.ถ้าชอบบทวิจารณ์ซีรีส์ญี่ปุ่นของคุณต่อพงษ์ หาอ่านได้ที่หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการ ทุกวันศุกร์ ในคอลัมภ์ซีรีส์ที่รัก
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคุณต่อพงษ์วิจารณ์เรื่องKarei Naru Ichizokuหนังของป๋ายะค่ะ เรื่องนี้ป๋าแสดงได้สุดของสุดยอดจริงๆ คุณต่อพงษ์วิจารณ์เรื่องนี้เพราะนึกถึงเรื่องน้องเพชรกับคุณไกรสรค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.43.86 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:0:41:14 น.  

 
เรื่องนี้ตอนไอทีวีมาฉาย

ไม่ได้ตามดูสักตอน

ต้องเร่งหาด้วยเช่นกัน

ปล. ไม่ชอบงานต่อพงษ์บอกตรงๆ

เพราะความสามารถการเขียนกับเวลาจัด
รายการ

ดูเหมือนไม่ได้จดจำนักแสดงได้สักคนเลย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 22 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:00:53 น.  

 
อีกอย่างเขียนด้วยอคติทางการเมือง

แต่กลายเป็นว่า ผมชอบบทความของคุณมากกว่า

ตรงใจได้มิติอีกด้านดีจัง


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 22 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:01:43 น.  

 
นอกจากอาชีพหมอที่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของคนจำนวนมากที่มารักษาแล้ว อาชีพนักบินก็เป็นอีกหนึ่ง ที่ต้องนึกถึงคำๆ นี้ทุกครั้งที่พวกเขาปฏิบัติหน้าที่

แต่เนื่องจากเป็นอาชีพที่ไกลตัว ทำให้เราอาจหลงลืมไปได้ จนกว่าเราจะประสบปัญหาขึ้นกับตัวเรานั่นแหละ เหมือนถ้าเราเกิดป่วยเป็นโรค อยากจะหายไวๆ นักบินก็เหมือนกัน ถ้าเราไม่ตกหลุมอากาศหนักๆ ระหว่างโดยสารเครื่อง หรือบินผ่านหมู่เมฆฝน หมอก ทัศนิยภาพที่แย่สุดๆ เราก็คงไม่นึกถึงเรื่องเหล่านี้

ที่เราอาตี้เขียนอย่างนี้เพราะว่า เราเองเคยประสบพบเจอกับความเสี่ยงที่เครื่องบินจะตกมา ในคราวนั้นเรามาจากประเทศจีน เพื่อกลับบ้านที่กรุงเทพฯ แต่ทำไมกัปตันถึงขับไปลงที่เชียงใหม่ แถมให้เรารอเครื่องนานมากๆ จากนาทีเป็นชั่วโมง

การเดินทางทำให้เราเหนื่อย และอยากกลับบ้านไวๆ มองออกไปนอกหน้าต่าง พระอาทิตย์ตกดินไปนานแล้ว ยิ่งทำให้ความอ่อนล้าเป็นความเศร้า จึงไม่แปลกที่พอเขาประกาศให้ขึ้นเครื่องได้ เราก็ดีใจ แต่ไม่ได้คิดเลยว่า นรกรอเราอยู่ข้างหน้า

เครื่องต้องบินร่อนอยู่เหนือท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ซึ่งตอนนั้นยังใช้ที่ดอนเมืองอยู่ บินวนไปวนมา ชนิดที่ตัวเครื่องเบี่ยงตัวแทบจะตะแคง แถมไฟในห้องผู้โดยสายก็ต้องปิด เพื่อป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นจากพายุฝนพัดเข้ากรุงเทพฯ อยู่ในขณะนั้น

ถุงอ๊วก หรือถุงอาเจียน เป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างก็กลับเห็นเป็นประโยชน์คว้ามันขึ้นมา ทั้งๆที่ยามปกติไม่เคยเห็นคุณค่าอยู่ในสายตา

พระเจ้าช่วยลูกด้วย รู้อย่างนี้ขอยังอยู่ที่เชียงใหม่ไปนานอีกสักหน่อยก็ดี

แต่ด้วยความสามารถของนักบินไทย การบินไทยของเรา ในที่สุดการบินวนแทบจะทำมุมทะแยงกับแกนโลกอยู่หลายรอบ กินเวลานานเหมือนว่าจะขาดอากาศก็จบลง พวกเราผู้โดยสารพร้อมใจกันลุกขึ้นปรบมืออย่างไม่ได้นัดหมายให้กับความเก่งกาจของนักบิน

เรื่องเหล่านี้ ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเรา คงไม่มีทางเข้าใจความสาหัส เช่นเดียวกับซีรีย์เรื่อง Good Luck เราดูไป ก็ทำให้นึกถึงว่าครั้งหนึ่ง ประสบการณ์ชีวิตที่หาซื้อไม่ได้ และเข้าใจการทำงานของนักบินและแอร์โฮสเตรส

สีสันของเรื่องจะมีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่ได้หวานแหวว กลับสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น ที่เป็นพวกปากแข็ง พูดหวานๆ ไม่เป็น อาจเพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องน่าอาย หรือที่ทำให้รู้สึกอาย ดูไม่เข้มแข็งสมกับเป็นลูกหลานชาวญี่ปุ่นที่มีประวัติบรรพษุรุษที่ต้องต่อสู้ และอดทน คงประมาณนั้น

ฉากที่ Hajime Shinkai พระเอกของเราจะต้องสอบเป็นนักบินอีกครั้ง หลังจากประสบอุบัติเหตุ และถูกตัดสิทธิ์ว่าอาจเป็นนักบินไม่ได้อีกทั้งที่อายุยังน้อย เป็นความสะเทือนใจที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น ทำให้น่าติดตามเอาใจช่วย เพราะมันเป็นอาชีพที่เขารัก และมุ่งมั่น ทั้งอายุก็ยังน้อย จะมาจบชีวิตกับอาชีพนักบินเอาง่ายๆ เพียงเพราะอุบัติเหตุที่ทำไปเพราะต้องการช่วยคนอื่นก็ดูเศร้าเกินไป

แต่ด้วยกำลังใจจากนางเอก (จริงๆ แล้วเป็นการทวงสัญญาที่พระเอกให้ไว้ว่าจะขับเครื่องบินให้นางเอกนั่ง) ทำให้ Hajime Shinkai ยอมลองผ่าตัดอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ถ้าไม่สำเร็จ เขาจะต้องพิการไปตลอดชีวิต

โชคยังเข้าข้าง Hajime Shinkai สุดท้ายแล้วเขาก็ได้กลับไปสอบในเที่ยวบินที่ต้องพาผู้โดยสารไปฮาวาย และในครั้งนี้นางเอกก็ขอถือโอกาสไปด้วย ทั้งๆ ที่เป็นโรคกลัวเครื่องบินอยู่ภายในจิตใต้สำนึก แต่ถ้าเธอไม่ไปกับเขาครั้งนี้ และถ้าเขาสอบไม่ผ่าน เธอก็จะไม่มีสิทธิ์ได้นั่งเครื่องบินที่เขาเป็นคนขับอีกเลย

แต่เที่ยวบินนี้ไม่ได้ราบรื่น ไฟฟ้าเกิดช๊อต ทำให้ไฟในห้องผู้โดยสารดับ Hajime Shinkai พระเอกของเรา ต้องกอบกู้สถานการณ์ ฉากนี้ เหมือนผู้เขียนจงใจ เพราะการแก้ไขสายไฟตลอดคืนไม่สำเร็จ จนพระเอกต้องก้มหัวขอโทษผู้โดยสาร และแนะให้เปิดหน้าต่าง เพราะพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว แสงอาทิตย์ค่อยๆ สาดส่องเข้ามา
เป็นภาพที่สวยมาก นั่นเพราะผู้เขียนจงใจคือ ต้องไม่ลืมว่า ธงชาติของญี่ปุ่นคือพระอาทิตย์ หรือก็คือความหวัง และเพราะพระเอกสัญญาว่า การที่พานางเอกมานั่งเครืองบินด้วยกัน ก็เพื่อจะได้เห็นท้องฟ้าใกล้ชิด ได้เห็นพระอาทิตย์ใกล้กว่าที่เคย และเขาก็ได้ทำตามสัญญาไปพร้อมๆ กันนี้แล้ว เรียกว่าเขียนบทได้ดีมากๆ

ผู้เขียนคงมีประสบการณ์การบินและข้อมูลการบินอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดบนเครื่องบิน เนื่องจากเรามีญาติใกล้ชิดเป็นแอร์โฮสเตรสปลดระวางลงมาประจำสำนักงาน และเราก็เคยไปเยี่ยมเขาในที่ทำงานบ่อยๆ เลยพอทำให้ทราบว่า จะมีการประชุมนำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างบินมาฝึกฝน และประชุม รวมถึงการสอบแก้ไขสถานการณ์อยู่เนืองๆ

ดังนั้นผู้เขียนบท จึงน่าจะเป็นหนึ่งที่เคยเรียนรูัเรื่องเหล่านี้ และนำมาผูกโยงร้อยเรียง และเลือกเหตุการณ์ต่างๆ ให้พอเหมาะพอเจอะกับททิศทางการดำเนินเรื่องให้เป็นดั่งใจ

เช่น ฉากที่ไฟดับในห้องผู้โดยสาร ผู้เขียนได้จงใจเก็บไว้สำหรับฉากใกล้จบนี้ เพื่อให้พระเอกได้รักษาสัญญากับนางเอกที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ใกล้ๆ แต่ถ้าแค่เปิดหน้าต่างก็เห็น อย่างนี้ก็ไม่โรแมนติก แต่จะต้องทำให้พระเอกเป็นฮีโร่ระหว่างสถานการณ์ และมีนางเอกเป็นผู้ช่วยอยู่ด้วย ดังนั้นการคัดเลือกจัดวางเหตุการ์ที่เกิดบนเครื่องแต่ละครั้ง ผู้เขียนจึงคงจะคิดจัดวางมาตั้งแต่ต้นเรื่องเป็นอย่างดีในทุกๆ ฉาก นี่แหละคือสิ่งที่เราอาตี้ได้จากซีรีย์เรื่อง Good Luck

อนึ่ง ความเท่ของพระเอกขณะเข้าห้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมขาจากอุบัติเหตุ เป็นอะไรที่เท่มาก (ก็แค่ฉากนี้แหละ) แต่สาวๆ ญี่ปุ่น และสาวไทยที่ดูซีรีย์เรื่องนี้บางคนคงถึงกับใจละลายไปเลยใช่ไหมคะ คุณ prysang


โดย: อาตี้เจ้าเก่ามาบุกแล้ว IP: 119.46.167.30 วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:50:29 น.  

 
คุณอาตี้ชอบฉากนั้นเหรอคะ อืม .. คงจะเท่จริง แต่ตอนนี้ตัวเองกลับนึกไม่ออกแล้วค่ะ แต่นึกอะไรออกรู้ไหมคะ ฉากกินกล้วย 5555 มันเหมือนจะเป็นฉากบอกรักนะคะ แต่พระเอกดันมีกล้วยอยู่ในมือ ชอบมากเลยค่ะ คือดูไม่เป็นพระเอกเท่ๆ เลย แต่มันน่ารักและดูเรียบง่าย เป็นธรรมชาติ

สิ่งหนึ่งที่ชอบในซีรีย์ญี่ปุ่นคงเป็นเรื่องที่คุณอาตี้เขียนไว้ คือเรื่อง ปากแข็ง พูดหวานๆ ไม่เป็น เพราะมองว่ามันดูเป็นธรรมชาติ ง่ายๆ แต่จริงใจ เรื่องรักจะเป็นจะตาย ขาดเธอไม่ได้ สุดหัวใจ เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ภาษาอะไรอย่างนั้นน่ะค่ะ บางทีถ้ามันเยอะมันก็ดูเป็นลิเกและมันก็เลี่ยนด้วย บางทีก็ขัดแย้งในความรู้สึกน่ะค่ะ คือ มันพระเอ๊กพระเอก ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายพูดคำพูดหวานๆ เยอะ แล้วมันไม่เท่ค่ะ 5555

Good luck ไม่ใช่แนวความรัก แต่มีกุ๊กกิ๊กระดับนั้นถือว่าเยอะแล้ว เยอะกว่าบรรดาซีรีย์แนวสู้เพื่อฝันทั่วไป บางทีดูซีรีย์ญีปุ่นก็หงุดหงิดอยู่เรื่องเดียวเรื่องนี้ล่ะค่ะ คืออยากให้พระเอกนางเอกรักกันเยอะๆ แต่ก็ยังดีที่มันมีประเด็นอื่นๆ เป็นแง่คิดมุมมองที่น่าสนใจอยู่เสมอ ได้เปิดหูเปิดตาเรียนรู้ คุณธรรมจริยธรรมอะไรบางอย่าง ที่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเราได้แค่เพียงเพราะเราดูละครหรอก แต่ดูบ่อยๆ มันก็ซึมซับได้ในสิ่งที่ดีๆ ไม่งั้นคงก็จะดูไม่ติดเหมือนกันค่ะ

ไม่อยากจะบอกว่าเป็นคนที่ไม่ชอบ ชิบาซากิ โค เอามากๆ เธอเป็นผู้หญิงหน้าดุน่ะค่ะ ถ้าเทียบกับนักแสดงไทยคงเป็น จุ๋ย วรัทยา หรือ เบนซ์ พรชิตา คือยอมรับจากใจว่าเป็นคนสวย แต่ไม่ชอบ ไม่น่ารัก แล้วโคนี่ก็ไม่รู้เป็นอะไรเธอจะต้องได้แสดงคู่กับพระเอกดีๆ อยู่เรื่อย โค ก็เคยร่วมงานกับทาคุยะเรื่องที่เคยบอกน่ะคะ one million star falling from the sky. แต่ไม่ใช่นางเอกนะคะ นางเอกคือนางเอกเรื่อง Change น่ะค่ะ แต่ว่าตอนนั้นยังหนุ่มยังสาวกันกว่าตอนเรื่อง Change มาก เรื่องนี้แหละที่เคยอ่านเจอว่า ทาคุยะเจอเอริครั้งแรก แล้วเผลอปากออกมาว่า "ฟุจัง น่ารักจัง" ตอนนั้นเอริ ฟุคะสึ ก็น่ารักมากจริงๆ ล่ะค่ะ

คุณอาตี้มาตามคอมเมนท์ให้ก็ดีอย่างหนึ่งคือ ก็ได้มาย้อนอ่านของตัวเองด้วย อย่างเรื่องการทำงานเนี่ย ดูจบใหม่ๆ ก็ฮึกเหิมอยู่พักนึงนานๆ ไปมันก็เลือน พอมาอ่านเจอสิ่งที่เราเขียนถึงเรื่อง คุณค่า ความรู้สึก ณ ตอนนั้นที่เราเคยได้จากซีรีย์เรื่องนี้ แล้วตอนนี้ก็ลืมเลือนมันไปแล้ว มาอ่านอีกครั้งเหมือนได้จุดไฟขึ้นมาใหม่ มองให้เห็นคุณค่าในงานของตัวเอง และทำมันให้ดีที่สุด พรุ่งนี้สู้ตายค่ะ


โดย: prysang วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:38:06 น.  

 
หาลิ้งไทยซับได้จากที่ไหนคะ เจอแต่พากย์ไทย
am_dao@hotmail.com


โดย: dao IP: 171.98.77.152 วันที่: 10 สิงหาคม 2559 เวลา:20:32:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.