Group Blog
 
All blogs
 
ทำประตูหัวใจให้รู้ว่ารัก .. โอ้..ยาหยี รักมากมายนิยายเรื่องนี้

ในสมรภูมิวัดศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายนักเตะ

ใครจะเชื่อว่า ณ ที่แห่งนี้ .. จะมีเรื่องราวโรแมนติกเกิดขึ้น

...

มีนา และ พงศ์พจน์ เดินทางเข้ากรุงเทพเป็นครั้งแรกด้วยจุดหมายที่แตกต่าง

เธอ .. เอนทรานซ์ติดคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยอรรถศาสตร์

เขา .. มาเข้าร่วมสโมสรหินผาอากาศในฐานะนักเตะกองหน้าคนใหม่

ด้วยความสัมพันธ์แบบ "เพื่อนสนิท" ทำให้เธอมาที่สโมรสรเป็นประจำ

และนั่นก็อยู่ในสายตาของ นคินทร์ ผู้รักษาประตูจอมเย็นชา

เขาหมั่นไส้เธอตั้งแต่แรกเห็น เพราะเข้าใจว่าเธอเป็นเด็กสาวใจแตกที่ตามผู้ชายต้อยๆ

เธอเกลียดเขาที่ไร้มนุษยสัมพันธ์และปฏิบัติกับพงศ์พจน์อย่างมีอคติ

..

เส้นทางที่ชีวิตที่ต้องพาดผ่านและพัวพันกันยุ่งเหยิงช่วยพิสูจน์ "รักแท้"

รับรองว่าทั้งยิ้ม ทั้งเสียน้ำตา และไม่ธรรมดาแน่นอน

 

เกี่ยวกับผู้แต่งนามปากกา  " ยาหยี "

คุณเป็นใครคะ คุณไปอยู่ที่ไหนมา ถึงไม่เคยรู้จักคุณ แต่ต่อไปนี้นะ จะไม่เลิกเลย จะไม่เลิกเป็นกำลังใจ จะเฝ้าคอยติดตามผลงานของคุณต่อไปข้างหน้า ขออีกนะ ขอให้เขียนนิยายแบบนี้ทีอ่านแล้ว feel so good , very good แบบนี้อีก ทำให้รู้สึกดีกับการเปิดใจลองอ่านผลงานของนักเขียนที่ไม่รู้จัก และต่อไปคงจะกล้าเสี่ยงซื้อขึ้นอีกเยอะเลย

 เกี่ยวกับพลอต

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันเรียกความสนใจได้ทันทีจากคำโปรยหลังปก เป็นเพราะคำ "หินผาอากาศ" หรือเปล่านะ มันฟังดูไทยๆ เท่ๆ  สโมรสรบอลไทยไม่ใหญ่ไม่โต น่าจะสร้างความเชื่อและเข้าถึงได้กับเรื่องราวของนักกีฬาฟุตบอล และมันก็เป็นเช่นนั้น อินเป็นสาวกหินผาอากาศกะเค้าด้วยคน  ก่อนหน้านั้นเคยสนใจพลอเรื่อง มนต์รักมาดริด แต่พระเอกเป็นนักเตะอาร์เจนติน่า นางเอกสาวไทยเป็นพิธีกรประจำสโมสร มันใหญ่เกินไป กลัวจะรับความเก่งความเท่ของนางเอก-พระเอกไม่ไหว ก็เลยยังไม่เคยได้อ่าน 

พลอตเรื่องนี้ ทำประตูหัวใจให้รู้ว่ารัก  ตามประสาคนถือคติ ที่ใดมีความเขม่น ที่นั่นเป็นบ่อนเพาะเชื้อของเยื่อใย ไม่เกลียด..ก็รัก สักอย่างล่ะนะ  อ่านหลังปกแล้วไม่ต้องรอลุ้น รู้ได้เลยว่าใครจะเป็นพระเอก  เป็นพระเอกแบบที่ทำให้พลิกหนังสืออ่านแต่ละหน้าด้วยความตื่นเต้นด้วยนะ  ถามว่าเป็นเรื่องตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเชียว ? คำตอบคือไม่ขนาดนั้นหรอก แต่คงเป็นสัญชาตญาณของเราเองที่ทำให้คาดหวังสูง กับตัวละครชื่อ นคินทร์ เป็นการสันนิษฐานว่าความหมั่นไส้น่าจะนำมาซึ่งอะไรๆ ที่สนุกแน่นอน  เชื่ออย่างนั้นแล้วก็ทำตัวเอง ..ตื่นเต้น    รอคอยการปรากฏตัวครั้งแรก การพบกันครั้งแรก และครั้งต่อๆ ไป อ่านต่อเนื่องไม่หลับไม่นอนรวดเดียวจบ

มันปลื้มนะที่ความคาดหวังของเราได้รับการตอบสนอง เพราะนอกจากจะรักพระเอกมากมาย ยังรักนางเอกอีกมิใช่น้อย แถมยังมีตัวละครอีกหลายคนที่ชอบมากกับคาแรคเตอร์โดนๆ ที่อ่านแล้วเผลอใจปล่อยให้นักแสดงหลายคนมามีอิทธิพลครอบงำจินตนาการ โดยปกติเราไม่เคยมีความตั้งใจจะมองหานักแสดงคนไหนมาเป็นตัวละครในนิยายหรอกนะ ปล่อยจินตนาการให้ทำหน้าที่ของมัน ล่องลอยไปตามตัวหนังสือที่เราอ่านอย่างเป็นอิสระ แต่หากตัวละครจะเกิดเป็นภาพบุคลิกหน้าตาของนักแสดงคนใดเข้าสักคนล่ะก็ มันเป็นเรื่องของความบังเอิญโดยแท้   และเมื่อนั้นจินตนาการเกี่ยวกับตัวละครจะโลดแล่นอย่างแจ่มชัด และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การอ่านนิยายเรื่องนี้ .. สนุกมาก 

เกี่ยวกับคาแรคเตอร์ตัวละคร และ  "พัฒนาการ" ทางความสัมพันธ์ 

พงศ์พจน์  เด็กกำพร้าอาศัยวัด สิ้นหลวงตาชุบเลี้ยง ก็ได้ครอบครัวของ มีนา หรือ มีน รับเอาคำฝากฝังของหลวงตามาปฏิบัติด้วยการอุปการะดูแลพงศ์พจน์สืบต่อมา  สองคนจึงเติบโตมาด้วยกันอย่างเพื่อนสนิท และเมื่อเติบโตขึ้นเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว ต่างก็รู้อยู่ในหัวใจดีว่า "เรารักกัน"  แต่ด้วยวัยของทั้งคู่ยังอ่อนเยาว์และสถานะของพงศ์ที่ยังไม่พร้อม แม้ครอบครัวของมีนาจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้ขัดสนอะไร ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้มีนากลายเป็นดอกฟ้าสำหรับเด็กกำพร้าอย่างพงศ์ที่ไม่มีอะไรเลย ดอกฟ้าที่เขาไม่อยากโน้มกิ่งลงมาแต่จะสร้างตัวปีนป่ายขึ้นไปให้ทัดเทียม และต่อให้ยื้อสถานะของ "เพื่อนสนิท" เอาไว้ ทั้งคู่ก็รับรู้วาจาเป็นสัญญาใจ จะไม่เปลี่ยนใจ จะไม่เปลี่ยนแปลง 

แต่  อนาคตมันจะแน่นอนหรือไม่ เดี๋ยวก็รู้

--------------------

ณ สโมสรฟุตบอล "หินผาอากาศ"  (ชอบชื่อสโมสรสุดๆ)

พงศ์พจน์สูง 173 ซม. แต่นายคนนั้น  คนที่ โค้ชเอส ผู้หยิบยื่นโอกาสในชีวิตมอบให้  เคยบอกว่าเขาจะเป็น  "รูมเมท" ของพงศ์ เขาอยู่กับสโมสรแห่งนี้มาตั้งแต่วัย ม.ปลาย และเป็นคนที่ '...น่าคบหาคนหนึ่ง' เท่าที่ประเมินจากสายตา เขาต้องสูงไม่ต่ำกว่า 185 แน่ๆ พงศ์กับมีนาจึงต้องพากันแหงนมองคอตั้งบ่า เพื่อจะพบกับใบหน้า หยิ่ง เย็นชา ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ดูเป็นคนไร้ความรู้สึก และที่มากกว่านั้น  นิสัย ช่างเป็นคนที่ไร้มนุษยสัมพันธ์!

เหอะ .. ถึงโค้ชเอสจะยืนยัน 'ไม่ได้มีพิษภัยอะไรกับใคร' มีนาก็ยังรู้สึกว่า เขาหยิ่งจะตาย นิสัยก็แย่ ไม่น่าคบหา ไม่ถูกชะตาอย่างแรง

"นคินทร์มือกาว" เป็นดาวของสโมสรฯ เพราะเกลียดการตกเป็นเป้าสายตา ดาวดวงนี้จึงไม่ชอบทอแสงตัวเองให้โดดเด่น (แต่ดาวก็ยังเป็นดาวที่เปล่งประกายน่ะนะ) เมื่อมีพงศ์พจน์เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ไฟแรงที่นอกจากหน้าตาจะโดดเด่นด้วยความหล่อเหลา ฝีเท้านักเตะยังเด็ดดวง เพียงไม่นานดาวดวงใหม่จึงเจิดจรัสในวงการและเจิดจ้าในสายตาแฟนคลับสาวๆ อย่างรวดเร็ว นักเตะกองหน้าสุดหล่อผู้มีรอยยิ้มและอัธยาสัยไมตรี ในแบบที่สาวๆ สาวกหินผาอากาศไม่เคยได้รับมาก่อนจากการเฝ้ามองนคินทร์ผู้รักษาประตู   รายนั้น..  อย่าว่าแต่จะยิ้มให้เลย แค่จะกรี๊ดอยู่ห่างๆ (อย่างหวาดๆ) ยังไม่กล้าจะกรี๊ดดัง เพราะกลัวสายตาพิฆาต ที่อาจตามมาด้วยเสียงไล่ตะเพิด

มีนา มาหา มาดูพงศ์พจน์ซ้อมบอลที่สโมสรเป็นประจำ จนกลายเป็นคนคุ้นเคยขวัญใจพี่ๆ นักฟุตบอลในทีม  และถึงทั้งคู่ไม่ยอมรับแต่ก็เป็นที่รับรู้กันดีโดยปริยายว่า "น้องมีน" เป็นแฟนของพงศ์พจน์  ท่ามกลางบรรยากาศแห่งมิตรภาพอันแช่มชื่นนั้น ไม่มีใครรู้เลยว่ามีสงครามเย็น มีคลื่นใต้น้ำ และแล้วความร้อนระอุของสงครามเขม่นหน้ากัน ระหว่าง "ยัยบ้านนอก" กับ "ไอ้ผู้ชายทุเรศ" ก็พัดโหมอยู่ในหินผาอากาศ

มันเริ่มมาจากเสียงในคอว่า "หึ" .. และหางตาที่ปรายมอง  ไม่สิ ที่จริง .. มันคงมีเหตุ มีที่มา ก่อนหน้านั้น

และอะไรบางอย่างที่รู้กันอยู่แค่สองคน มันก็กลายเป็นโลกเฉพาะสำหรับคนสองคนน่ะค่ะ คุณคงเข้าใจใช่มั้ย   Smiley

แล้วใครจะไปคิดล่ะว่า  คนเรียนดีกีฬาเด่น ที่โค้ชเอสเคยพูดถึงว่าทางสโมสรอนุมัติทุนการศึกษาให้เล่าเรียนไปจนถึงระดับปริญญาตรี และขณะนี้กำลังเรียนอยู่ปีสาม คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอ จะเป็นนายนั่น นายคนนิสัยไม่ดีคนนั้น 

วันรับน้อง

รุ่นพี่ผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งเดินยิ้มตรงมาหามีนา ไม่ใช่รุ่นพี่คนที่เธอกะเอาไว้ในทีแรก แต่ก็ไม่มีผลแตกต่างในความรู้สึกของเธอ มีนายิ้มให้รุ่นพี่สาวสวยและหลับตาเมื่อเธอเริ่มลงมือผูกผ้า

"โอ๊ย  แน่นไปค่ะพี่" มีนาร้องบอกเมื่อรู้ว่ารุ่นพี่ดึงผ้าแน่นเกินไปแล้ว

"เหรอ" รุ่นพี่บอกและคลายปมออกนิดหนึ่ง

"เป็นไง" รุ่นพี่ถาม    มีนาอึ้ง

"ถามว่าเป็นไง"    มีนาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเสียงเข้มๆ ถามต่อ

"โชคดีจริงๆ ที่มาทัน" เขาพูดเสียงเย็น " ถ้าไม่ได้มารับ 'น้อง' วันนี้พี่คงนอนไม่หลับแน่"

----------

"เดี๋ยวก่อนค่ะเดี๋ยวก่อน!"  มีนาร้องโวยวายขึ้น ทั้งที่ถูกผูกตาแน่น และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะอุทธรณ์เรื่องนี้กับใคร แต่อย่างไรเธอก็ต้องทักท้วงเพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง

"เมื่อกี๊พี่ที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงของหนูไม่ใช่คนนี้นี่คะ ไม่ใช่พี่คนนี้"

"ตรงนั้นมีปัญหาอะไรน่ะ" เสียงพูดผ่านโทรโข่งดังมาจากที่ไกลๆ

"น้องเขาท้วงว่าพี่เลี้ยงของเขาไม่ใช่คนนี้" เสียงรุ่นพี่อีกคนที่อยู่ใกล้ๆ กับมีนาตะโกนตอบ

"โอ๊ย น้อง ไม่มีใครเลือกพี่เลี้ยงได้หรอก"

" เฮ้ย! นั่นไอ้คินใช่ไหมวะ" เสียงโทรโข่งตะโกนกลับมา

"เออ" นคินทร์ร้องตอบ

"จู่ๆ โผล่มาจากไหนวะ"

----------

"เฮ้ยๆ ไอ้คิน น้องเขาล้มแล้วเห็นมั้ย ทำไมแกไม่จับเขาไว้วะ" ใครคนหนึ่งตะโกนถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ  มือแข็งแรงคว้าหมับที่แขนมีนาแล้วดึงให้เธอลุกขึ้นยืนอย่างไม่ปรานีปราศัย

"ลุกขึ้นสิน้อง" นคินทร์พูดห้วนๆ มีนามั่นใจว่าเมื่อครู่เขาคงจงใจให้เธอล้มโดยไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรเลยจริงๆ

"เดี๋ยวก่อนค่ะพี่นคินทร์ ต้องแต่งหน้าให้น้องก่อน" เสียงหวานๆ ดังขึ้นตรงหน้า จากนั้นมีนาก็รู้สึกว่ามีอะไรเปียกๆ ปาดลงมาบนแก้มทั้งสองข้างแล้วเธอก็ได้ยินเสียงนคินทร์พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด

"เสียเวลาน่ะ" เขาพูด "เอามานี่"

"หา ! นั่นพี่จะทำอะไรคะ!"  สิ้นเสียงของนักศึกษาปีสอง มีนาก็รู้สึกว่ามีของเหลวราดลงบนศรีษะ มีนายกมือขึ้นปาดของเหลวที่ไหลลงมาสู่ใบหน้าออก มันข้นและมีความหยาบอยู่ในเนื้อ แล้วก็แห้งอย่างรวดเร็ว

"อะไรเนี่ย!" มีนาร้องลั่น แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองจะร้องออกมาช้าไปหน่อย

"เฮ้ย! ทำอะไรของแกวะไอ้คิน" เสียงตะโกนผ่านทางโทรโข่งดังขึ้นอีก

"แกเอาสีไปรดน้องเขาคนเดียวหมดถังอย่างนั้นแล้วอย่างนั้นคนอื่นเขาจะเอาอะไรทาหน้าวะ"

มีนาค่อยโล่งใจที่มันเป็นแค่แป้งสี และโชคดีที่เธอใส่เสื้อยืดกับกางเกงวอร์มสีดำมา

"ไม่เป็นไรๆ มีสำรองอยู่" เสียงตะโกนดังมาจากอีกทาง

"มีสำรองอยู่ ได้ยินแล้วนะ" นคินทร์ตะโกนกลับไปบ้าง

"นายตั้งใจแกล้งฉันใช่ไหม" มีนาถามเสียงสั่นด้วยความโกรธ

นคินทร์ไม่ตอบ เขาลากมีนาให้เดินไปข้างหน้าอย่างทุลักทุเล

"หยุด" นคินทร์ออกคำสั่ง "นั่งลง"

มีนาไม่นั่ง เพราะเธอไม่ไว้วางใจคำสั่งเขา

"นั่งลง!"

"ทำไมต้องนั่งด้วย" มีนาถามกลับอย่างถือดี

"นั่งลงยัยบ้านนอก"

"โอ๊ย!"  นคินทร์กดบ่ามีนาให้นั่งโดยไม่ยอมเสียเวลาต่อปากต่อคำอีก เธอขัดขืนแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ จึงต้องนั่งลงอย่างไม่เต็มใจ

"ทำไมน้องคนนี้เปื้อนสีมาทั้งตัวอย่างนี้วะ" รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น

"แกทำเหรอ ไอ้คิน"

"เออ" นคินทร์ตอบ

"แปลกวุ้ย" เสียงเดิมพูดต่อ "ปกติแกไม่ชอบทำอะไรแบบนี้เลยนี่หว่า แต่จู่ๆ ก็ขอลงมาเป็นพี่เลี้ยงลอดซุ้มทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ของพวกปีสอง แล้วดูซีเนี่ย เล่นซะแรงยังกะแค้นน้องเขามาแต่ชาติปางไหนอย่างนั้นแหละ"

"รีบๆ เถอะน่า" นคินทร์ตัดบท "ต่อไปทำอะไรไอ้เต้"

"ผูกจุก" เต้บอก

"เอาหนังยางมา"

----------

 

จากที่ก็ขำอยู่แล้ว คำว่า 'เอาหนังยางมา' ของรุ่นพี่คินเนี่ย ทำเอาปล่อยเสียงหัวเราะ ฮ่าฮ่าฮ่า ออกมาซะดังเลย  ถ้าคุณเคยผ่านวันลอดซุ้มในรั้วมหา'ลัย คุณลองนึกภาพดูนะ ท่ามกลางน้องใหม่ทุกคนที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยแป้งและสีถ้วนทั่ว แต่จะมีน้องใหม่อยู่คนหนึ่ง ที่เละเทะอย่างโดดเด่นเป็นพิเศษ พอนึกเห็นภาพมีนาเป็นแบบนั้นมันก็ขำ แล้วการผูกจุกเนี่ย ถ้าใครเคยโดนคงนึกออกใช่ไหม ผูกจุกนี่ก็พอรับได้นะ แต่ตอนถอนจุกเนี่ย แทบอยากชวนรุ่นพี่มาตบกันเลยดีกว่า (เพราะเจ็บโว้ย) ถ้าไม่กลัวโดนคว่ำบาตร และสัญลักษณ์พิเศษติดนกติดดาว บนหลังเสื้อ ที่จะเรียกร้องอะไรๆ ที่ 'พิเศษ' มารุมสว๊ากอีกยกขโยงน่ะนะ  นี่ขนาดเพื่อความสะใจของรุ่นพี่เพียงคนเดียว มีนายังเยิน

"พอแล้วมั้ง น้องเขาไม่มีผมเหลือให้แกผูกแล้ว" เต้บอก น้ำเสียงบ่งบอกว่าเห็นใจรุ่นน้องและฉงนฉงายในตัวเพื่อนปนกัน "แกเป็นบ้าอะไรขอแกวะวันนี้"

นคินทร์ไม่ตอบ แต่พูดต่อว่า "ต้องทาลิปด้วยใช่มั้ย  เอามาสิ"

พี่คินขอลิป ทำปล่อยก๊ากอีกหน และวันรับน้องมันยังไม่จบแค่นั้นหรอกนะ เพราะเสือยิ้มยากอย่างนคินทร์ได้ลงมือยำเหยื่อรุ่นน้องคนนี้อย่างใจเย็น ..(ขำดีค่ะคุณรุ่นพี่) จากที่แอบกลัวใจผู้แต่งว่านางเอกจะหมิ่นเหม่ไปล้ำเส้น ง้องแง้งไร้สาระ  เอะอะ โวยวาย อาละวาด อันเป็นคุณสมบัตินางเอกที่สุดแสนจะไม่ชอบ ก็เริ่มหายห่วงเพราะวันรับน้องนี่แหละ โกรธนะ ไม่ใช่ไม่โกรธ มีนาโกรธนคินทร์มาก แต่เธอยินยอมอดทนกับการถูกกระทำ เพราะถือว่าชดเชยกันกับคำขอโทษ ที่เธอติดค้างอยู่ในใจ จะถือเอาความรู้สึกผิดที่เคยก่อเรื่องกับเขาไว้เป็นเครื่องละลายความแค้นในครั้งนี้

ความคิดของมีนา ณ จุดนี้ มันวาบใจเลยว่าผู้หญิงคนนี้ คนที่รู้ตัวว่าว่าทำอะไรไม่ดี แล้วไม่ปล่อยให้เป็นแค่เรื่องที่แล้วๆ ไป แต่รู้สึกผิดและรู้ว่าควรขอโทษ เพราะเธอส่อถึงนิสัยที่ดีที่น่ารัก ก็เลยเริ่มชอบเธอตั้งแต่ตอนนั้นเลย แล้วยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ จะมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น ความรู้สึกที่มีต่อเธอ ก็ดูเหมือนว่าจะพัฒนาไปพร้อมๆ กับความรู้สึกของนคินทร์ด้วย จากที่รู้สึกชอบเธอเพราะเรื่องนี้ ต่อไปก็จะพบว่าชอบเธอมากว่ากว่าในเรื่องนั้น แล้วก็กลายเป็นว่าชอบเธอมากๆ เพราะเรื่องโน้น แล้วเรื่องหลังจากเรื่องโน้น ก็..เฮ้ ฉันตกหลุมรักนางเอกคนนี้เข้าซะแล้วล่ะ 

นคินทร์  Smiley สวมเสื้อเบอร์หนึ่งเป็นผู้รักษาประตูให้กับทีม เขาอยู่ที่นี่ ยึดสโมสรหินผาอากาศเป็นบ้านมาตั้งแต่ตอนอายุสิบห้าปี เล่นฟุตบอล  เล่าเรียนด้วยทุนสโมสร ทำงานพิเศษหาเงินเลี้ยงดูตัวเองมาตลอดห้าหกปี เขาเป็นใครมาจากไหน ใครจะไปรู้ เพราะคนอย่างนคินทร์ก็ไม่มีใครกล้าปากยื่นปากยาวไปถามไถ่เรื่องส่วนตัวที่เจ้าตัวไม่ต้องการจะพูดถึง

อิอิ แอบทำเสื้อเบอร์หนึ่งให้ รักนะเนี่ย  Smiley

พงศ์พจน์เป็นคนดีที่รักมีนามา แล้วมีนาก็เป็นผู้หญิงมั่นคงที่ยึดมั่นในรักแรกและเชื่อเหลือเกินว่าจะเป็นรักแท้ที่ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงตลอดไป  มันน่าสนใจมั้ยล่ะคะว่า ความรักของเธอไปลงเอยกับคนเพิ่งมาทีหลังอย่างนคินทร์ได้อิท่าไหน ทั้งที่ หลังจากใช้ความพยายามแล้วเธอคิดว่าคงไม่อาจจะญาติดีกันได้ทั้งชาตินี้รวมไปถึงชาติหน้าโน่นเลย

อย่านะ อย่าคิดว่าพระเอกของเราเป็นคนแทรกกลาง เป็น "มือที่สาม" ระหว่างคนเค้ารักกัน

ห้ามใจเอาไว้ อย่าคิด

เพราะเขาจะไปเป็นมือที่สามได้ยังไง คนนิสัยอย่างนี้น่ะ

พบกันเขาเมิน เขาเฉย ไม่เคยทักทาย  ขอยืมคำพูดของนคินทร์มาสักประโยคนะ

"เราไม่ได้สนิทกันถึงขนาดเจอแล้วต้องหยุดคุย"

แล้วคนอย่างนั้น คนที่มีนาเห็นว่า แข็งกระด้าง เย็นชา ยียวน กวนประสาท  หยาบคาย ไร้เยื่อใย นิสัยเสีย ปากแย่ ไม่น่าเฉียดเข้าใกล้ กลับเป็นผู้ทำประตูชัยคว้าหัวใจของเธอไปครอง มันก็ต้องสนุกแหงน่ะสิ

นอกเหนือจากตัวละคร สิ่งที่โดดเด่นที่สุดสำหรับนิยายเรื่องนี้ เราคิดว่าเป็น "พัฒนาการ" ของ "ความเปลี่ยนแปลง" การเปลี่ยนที่ค่อยๆ เป็นไปอย่างไหลรื่นและแนบเนียน

ชื่อเสียง ความโด่งดัง ที่มาพร้อมกับเงินทอง บ่มเพาะความรู้สึกยากไร้ที่ต้องคอยเจียมเนื้อเจียมตัวในอดีต ให้กลายพันธุ์เป็นความทะเยอทะยาน ความมั่นใจในตัวเองสูง  สูง ..แล้วล้นปรี่จนกลายเป็นความลำพองตน

มีนาพยายามเชื่อมั่นว่าพงศ์พจน์ยังเหมือนเดิม แต่ที่จริงเขากำลังเปลี่ยนแปลงไป เปลี่ยนจนมีนาก้าวตามไม่ทัน แล้วเธอก็เริ่มเหน็ดเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ  

ตรงกันข้ามกับผู้ชายอีกคน นคินทร์ เขาก็เป็นคนเดิม เหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน .. แต่ที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ คือ ความคิดความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา 

 

นคินทร์ ไม่นิยมความวุ่นวาย ไม่ชอบสุงสิงกับคนหมู่มาก ไม่สนใจชื่อเสียงความดัง เพราะเขาเกลียดการเป็นที่สนใจ ไม่เคยหยุดเสียเวลาอันมีค่าของเขาเพื่อใช้มันไปหลงระเริงกับความปลาบปลื้มของบรรดาแฟนฟุตบอลสาวๆ สวยๆ และแน่นอนว่าไม่เคยแคร์สื่อ ในวงการฟุตบอลอาชีพ เขาจึงถูกจัดอยู่ใน "พวกไม่รักความเจริญก้าวหน้าในสายอาชีพ"  

แต่คนหินผาอากาศรู้จักนคินทร์ดี  และเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ โค้ชเอส และสมาชิกคนอื่นๆ ในทีมต่างรู้ดีว่า ใครที่จะเป็นผู้นำ ที่จะเจาะหัวใจของเพื่อนร่วมทีมได้ และแม้แต่มีนาก็ยังยอมรับ

ต้องเป็นคนที่รู้จักและคบหากันมานาน จึงจะรู้ว่า ภายใต้คำพูดจากวนประสาท และท่าทางห่ามๆ แบบไม่เกรงใจใครทั้งสิ้นนั้น คือความจริงใจและมิตรแท้ที่หาได้ยากยิ่ง จะมีสักกี่คนที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลอะไรตอบแทน และยิ่งกว่านั้น เขาไม่..แม้แต่จะทำให้เชื่อว่าเขาตั้งใจจะช่วยเหลือจริงๆ คนที่ชอบปิดทองหลังพระคงมีลักษณะนิสัยแบบนี้ และนคินทร์คงจะอาการหนักกว่าคนปิดทองหลังพระทั่วไป ตรงที่..เขาไม่เคยยอมทำให้คนอื่นรู้สึกดีกับเขาง่ายๆ  คำขอบคุณ จะถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะช่วยหรอกนะ

เคยบอกว่าชอบนางเอกเรื่อง แอบรักออนไลน์ เพราะคำ "ขอโทษ"

มาเรื่องนี้ คงต้องบอกว่า ชอบนางเอกมากมาย Smiley เพราะคำ "ขอบคุณ"

เธอเป็นนางเอกที่ใช้คำขอบคุณเปลืองจริงๆ แต่เธอใช้มันมากเท่าไร ย่อมหมายความว่าความสัมพันธ์ของเธอกับพระเอกของเรายิ่งผูกพันกันมากขึ้นเท่านั้น แล้วความผูกพันที่ถูกถักทอด้วยความรู้สึกขอบคุณที่ซึ้งใจเนี่ย โอ๊ย .. อ่านแล้วมีความสุข

แอริณ คนดัง คนสวย คนฉลาด คนนี้นี่แหละ "มือที่สาม" ตัวจริงเสียงจริง และต้องยอมรับว่า นางแน่มาก

โค้ชเอส เท่มากค่ะโค้ช  แรกๆ โค้ชก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นอยู่แล้ว แต่รักโค้ชสุดๆ ไปเลย กับประเด็นการยืนหยัดในจุดยืนของการเป็นโค้ชผู้รู้ดีที่สุดว่าอะไรดีที่สุดเพื่อคำว่าทีม

พี่แบต เพื่อนนักฟุตบอลในทีมหินผาอากาศของนคินทร์ เอนเตอร์เทนเนอร์ผู้เรียกเสียงฮาด้วยมุขแบบแบตๆ และมีคารมชักใบให้เรือเสียเพื่อเรียกระดมฝ่าทีนจากผองเพื่อน

พี่แจ็ก  แจ็กสโนว่า เพื่อนร่วมคณะที่มหาวิทยาลัยของนคินทร์ เห็นหน้าน้องมีนเป็นไม่ได้ ฮาตัวพี่ แต่หม้อตัวพ่อ  ดังนั้นเมื่อไหร่ที่เป็นไอ้แจ็ก  นคินทร์เป็นอดไม่ได้ต้องคอยกันท่าไม่ให้มีนาถูกแทะถูกเล็ม  .. ฟงแฟนก็ไม่ใช่ สนิทกันรึก็เปล่า  เพราะแม้แต่ชื่อ นคินทร์ก็เป็นคนเดียวที่ไม่ยอมเรียก "มีน"  แต่เรียก มีนา ราวกับจะรักษาระยะความห่างเหิน เช่นเดียวกับมีนา จะยอมเอ่ยออกมาตะกุกตะกักว่า "พะ พี่ คิน" ก็ยามต้องเอ่ยชื่อนี้ต่อหน้ารุ่นพี่นักศึกษาเท่านั้น และไม่เคยเรียก "คิน" แต่ "นคินทร์" เต็มชื่อเสมอ

อาจจะหงุดหงิด เพราะ รำคาญลูกกะตา เพราะหากจะว่า ห-สระอือ-งอ-หึง ก็ไม่อาจจะเรียกได้ชัด เพราะคาแรคเตอร์ขรึมๆ เท่ๆ ของเขา ทำให้คำว่า หึง มันดูขัดแย้งลักษณะนิสัยที่เป็น การกันท่าของนคินทร์จึงเป็นสิ่งที่ควรจะเรียกว่า "ความช่วยเหลือ" มากกว่า แล้วมันก็ทั้งน่ารักและน่าขำ  ขำพี่แจ็ก ผู้รู้ไม่เท่าทันเพื่อนตัวเอง

 เกี่ยวกับสำนวน

ชอบการทิ้งท้ายแต่ละช่วงจังหวะวรรคบท ด้วยการทิ้งเรื่องทิ้งอารมณ์ไปทั้งอย่างนั้น แต่มันไม่ค้างคา จะต่อติดเลยตอนที่เราอ่านวรรคหน้าของบทใหม่  อารมณ์ต่อเนื่องที่ไม่ขาดหาย เพราะเหตุการณ์ที่ตัดตอนทิ้งไป เราเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นโดยไม่ต้องเขียนทุกอย่างไล่เรียง ทำให้เนื้อเรื่องกระชับอาจจะเป็นคำอธิบายที่ชวนงง ถ้าใครมีนิยายเรื่องนี้ เรากำลังหมายถึง ลักษณะการทิ้งท้าย และการขึ้นต้นใหม่ กับรูปหัวใจแบ่งบทแบบนี้น่ะค่ะ 

เกี่ยวกับ "ตอดเล็กตอดน้อย"

เป็นสำนวนคำพูดจาของนคินทร์ ที่ออกแข็งๆ ห้วนๆ  และตามคำในความคิดของมีนาคือ "ตอดเล็กตอดน้อย" ลักษณะการพูดจาเป็นเหตุหนึ่งที่สำคัญพอๆ กับลักษณะนิสัยซึ่งทำให้รู้สึกชอบนคินทร์เอามากๆ  มันไม่เชิงเป็นการจิกกัด  เพราะเจตนาหวังดีที่จริงใจตามนิสัยตรงไปตรงมาทำให้มันเป็นแค่การ "ตอด" ที่เบากว่า เคยโดนปลาตอดไหม น่าจะประมาณนั้น ไม่เจ็บมากนัก แต่ก็ไม่ใช่ไม่เจ็บเลย

ตอนพงศ์มาซ้อมสาย

"รถติดเป็นปัญหาของนายงั้นเหรอ  .. ปล่อยให้ผู้ว่า กทม.เขาจัดการไป หน้าที่ของนายคือต้องมาซ้อมกับทีมให้ตรงเวลา สำหรับนายแค่นี้มันยากเกินไปใช่มั้ย"

ลองคิดดูนะแล้วจะอิน (ขำด้วย)   ถ้าเจ้านายเราพูดใส่หน้าว่า  "รถติดเป็นปัญหาของคุณงั้นเหรอ ..ปล่อยให้ผู้ว่า กทม.เขาจัดการไป หน้าที่ของคุณคือต้องมาทำงานให้ตรงเวลา ถ้าแค่นี้มันยากเกินไป ลาออกดีมั้ย"

ตอนมีนาอยู่ในโลกของความรักที่อับปาง  

"ฉันรู้..ตอนนี้เธอรู้สึกยังไง แต่รู้ไหมว่าปัญหาของเธอมันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับความทุกข์ของประชากรอีกหลายล้านคนบนโลกใบนี้...."

 "นี่! เลิกบ้าซะทีเถอะ แค่ผู้ชายคนเดียวมันจะอะไรนักหนา  ตอนเกิดมาเธอเอาเขาติดมาด้วยหรือไง ...."

ตอนอยู่ในช่วงเยียวยาคนอกหัก

"บทเรียนน้อยไปน้อยนะ ความจริงอาจารย์ของเธอน่าจะสวดเธอให้ยับไปเลย"

"ฉลองที่เธอกลับมาเรียนหนังสืออีกครั้ง ต้อนรับอนาคตอันสดใสที่ก่อนหน้ามันหมิ่นเหม่จะย่ำแย่เต็มที"

"เธอคิดว่าฉันจะพาเธอมากินของแพงๆ แบบนี้สักกี่ครั้งกันแม่คุณ บุญเธอมีครั้งนี้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ"

นอกจากการตอดแล้ว  การ "ตอก" ก็ชวนขำมิใช่น้อย

ตอนถกกันเรื่องผู้หญิง

"ที่ยืนหัวโด่อยู่นี่ก็เป็นผู้หญิงนะ"

"เธอมันพิลึกกึกกือกว่าชาวบ้านเขานี่"

ตอนถกกันเรื่องความรู้สึกของนักฟุตบอลหินผาอากาศ

"ฉันไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย" นคินทร์บอก

"ก็นายมันพิลึกึกกือกว่าชาวบ้านเขานี่"  มีนายกประโยคที่เขาใช้ว่าเธอในวันก่อนออกมาใช้

"เหตุผลนั่นคุ้นๆ นะ เธอไม่รู้สึกละอายใจบ้างเหรอที่เอาความคิดของคนอื่นมาใช้ ทั้งๆ ที่เจ้าของเดิมก็ยืนหัวโด่อยู่นี่ "

ความจำเป็นเลิศ หัวไวเป็นลิง เพราะประโยคยาวพรืดที่ทำให้ขำพรวดนี้ มีนาเคยใช้ว่านคินทร์มาก่อน- ก่อนวันก่อนนั่นซะอีก นี่เป็นการย้อนแบบน้อคเอาท์ของหมัดอัปเปอร์คัต  ขำดีจริงๆ  เป็นแบบนี้แล้วจะไม่ให้รักนคินทร์กับมีนาได้ยังไง

 

เกี่ยวกับที่ โดนใจที่สุด 

ทุกเหตุที่ทำให้เกิดรอยซ่อนยิ้ม  กลั้นหัวเราะ  หรือแม้แต่ตอนที่หลุดยิ้มหลุดหัวเราะออกมาจากคนยิ้มยากอย่างนคินทร์ เพียงแค่นี้ก็น่ารักโดนใจแล้ว  ชอบทุกบททุกตอนของเขาและเธอ แต่ถ้าถามว่าเป็นตอนไหนที่ชอบมากที่สุด อาจจะเป็นตอนที่มีนาตะโกนใส่หน้าใครบางคน  "เขาไม่ได้ห่วย! เขาไม่ได้ห่วย! ได้ยิมมั้ยว่าเขาไม่ได้ห่วย พวกนายนั่นแหละที่ห่วยแตก!"   หรือจะเป็นตอนแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรระหว่าง 'คณะเศรษฐศาสตร์' กับ 'คณะสื่อสารมวลชน' ตกหลุมรักความจืดเจื่อนแสนตลกของมีนาในตอนนั้น และคิดว่านคินทร์ก็เช่นกัน เพราะมันยากเหลือเกินที่จะไม่ยอมรับว่ามีนา "น่ารักดี"  หรือจะเป็นตอนที่นคินทร์ปาถกฐามีนาซะยืดยาวเรื่องที่เธอมัวแต่เสียใจจนเสียการเรียน (เหตุเกิดในร้านสะดวกซื้อ และมันเป็นอะไรที่ตลกมาก)  หรือจะเป็นความช่วยเหลือที่มาในรูปของการยื่นอกให้ซุกซบซับน้ำตา  หรืออาจจะเป็นคืนนั้น ก่อนวันเริ่มต้นใหม่ เงากับตัวตน ตัวตนไปที่ไหน กับเงาที่ไปที่นั่น พร้อมเสียงเปียนโนบรรเลงขับขาน  หรืออาจจะเป็นตอนแข่งขันแมตช์สำคัญระหว่าง หินผาอากาศ กับสโมสรยักษ์ใหญ่ ราชาวดี  หรืออีกทีอาจจะเป็น รอยยิ้มทั้งน้ำตาที่สดใส อ้อมกอดอันอบอุ่น และรอยจูบพลิ้วเบาจากสายลม

บอกไม่ได้ว่าชอบตอนไหนมากที่สุด เพราะชอบหมดเลย

อยากให้หามาอ่านกันนะคะ ค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะชอบกัน เรื่องนี้เชียร์ออกนอกหน้านอกตาเพราะชอบมาก  เรื่องมันไม่กลวงด้วย มันมีแง่คิด การยึดมั่นในจุดยืนของโค้ชเอส  การเลือกทางเดินของพงศ์  ของกัปตันหนาม  ความรัก ความเสียใจ และการรู้จักรักตัวเอง  เรื่องของนคินทร์ก็น่าสนใจ เด็กมีปัญหาที่พยายามบำบัดความเหว่ว้าของตัวเองด้วยกีฬาและการศึกษาเล่าเรียน แต่คนตัวคนเดียวที่ไร้บ้านจะมีความสุขที่แท้จริงในชีวิตได้อย่างไร การยอมแง้มกำแพงหัวใจให้ครอบครัวของนคินทร์ จึงเป็นอีกจุดหนึ่งของนิยายที่ชอบมาก (ซึ้งค่ะ) อ่านจบรีบบอกกับเพื่อนคอนิยายของตัวเองไปว่า  พระเอกนิยายที่หล่อรวย น่ารักแสนดี หาได้ไม่ยากนักในนิยายโดยทั่วไป แต่พระเอกนิยายที่ "เท่" ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ มาเอาไปอ่านโดยด่วน เรื่องนี้เพื่อนภูมิใจนำเสนอ

ขอปิดประเด็นที่เล่าสู่กันฟังไว้ก่อนหน้า พระเอกนางเอกในจินตนาการของเรา คือ สองคนนี้ใน MV น่ะค่ะ  ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องหรือบทบาทของตัวละครที่เหมือนกันหรอกนะคะ เพราะมันไม่ได้เหมือนกัน (แม้จะมีอารมณ์บางอย่างที่คล้ายคลึงจนทำให้นึกไปถึงฉากต่างๆ ในละคร) แต่เหตุผลที่นักดนตรีเกาหลีในเรื่องนี้ดันโผล่มาเป็นนักฟุตบอลไทยได้  (หน้าตาไทย/เกาหลี ก็พอกลมกลืนล่ะนะ)  สรุปสั้นๆ ว่าเป็นเรื่องของพระเอก (ที่พ่วงเอานางเอกของเค้ามาด้วย)  ผู้มีรูปร่างสูงเพรียว กับชุดนักกีฬา ฟอร์มผู้รักษาประตูที่น่าจะเข้ากันดีกับคนหัวฟูๆ  สีหน้าท่าทาง ในหลายๆ สถานการณ์ที่มั่นใช่เลย อาการเขม่น ยียวน รอยยิ้มเยาะ หน้าตาไม่สบอารมณ์ อึดอัดคับข้องใจ ขัดเขิน โกรธ เหงา เศร้า เสียใจ อาการอมยิ้ม เหลือบตามอง จดจ้อง  ฯลฯ ส่วนตัวเรา เห็นว่ามันใช่น่ะค่ะ มันใช่มาก 

 

 

 ว่าแล้วก็เอาเพลงเพราะๆ มาฝากกันเลย  Have A NICE Day นะคะ

 




Create Date : 23 ตุลาคม 2556
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2556 17:30:43 น. 19 comments
Counter : 5896 Pageviews.

 
แนวเรื่องชวนอ่าน
รางวัลที่ได้ชวนลองค่ะ


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:18:55:16 น.  

 
เผลออ่านรีวิวซะยาว...แล้วก็พบว่าน่าสนใจ อยากอ่านมากๆค่ะ...ที่สำคัญชื่อนางเอกดั๊นชื่อเดียวกันกะเราซะด้วย (แอบคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกอีกแล้ว)


โดย: Aneem วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:19:06:45 น.  

 
น่าอ่านมากๆเลยค่า

ขอบคุณมากๆนะคะ
รีวิวยาวเลย

ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะๆด้วยค่า



โดย: lovereason วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:0:43:24 น.  

 
รีวิวยาวมาก แต่นั่งอ่านเพลินเลยแหล่ะ
ท่าทางจะเป็นนิยายที่น่ารักจริงๆ น่าอ่านค่ะ


โดย: nikanda วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:5:37:26 น.  

 
@ คุณ: ~:พุดน้ำบุศย์:~ , Aneem , lovereason, nikanda คะ

อ่านค่ะอ่าน สนับสนุนอย่างเต็มที่
เราอ่านรอบสองจบอีกรอบแล้วค่ะ
ยืนยันว่า "รักมากมาย นิยายเรื่องนี้"
ถึงได้เพ้อเป็นรีวิวยาวๆ อย่างนี้ไง (อิอิ แก้ตัว)
ความจริงแล้วยังมีประเด็นดีๆ ซึ้งๆ ตลกน่ารัก
ที่อยากกล่าวถึงอีกมาก (เหตุผลที่ทำให้รักพระเอกนางเอก)
แต่ต้องหักห้ามใจ เก็บเอาไว้ให้คนอ่าน
ได้อินกับความเท่ ความน่ารักของเขาและเธอค่ะ


โดย: prysang วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:8:41:23 น.  

 
รีวิวได้ชวนอ่านมากค่ะ
ปกติจะไม่สนใจนิยายปกแบบนี้เลยค่ะ เพราะมันไม่ดึงดูด


โดย: polyj วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:9:01:32 น.  

 
เรื่องนี้ ซื้อมาตั้งแต่ออกใหม่ๆ พร้อมๆ กับอีกเล่มที่ได้รางวัล(จำชื่อเรื่องไม่ได้)
ส่วนเรื่องนี้ ชอบในความเป็นนิยายน้ำดี ไม่ขายเรท ไม่หยาบ ไม่รุนแรง
แต่สำนวน+การดำเนินเรื่องเรียบไปนิด อ่านได้ แต่ไม่ถึงกับชอบเป็นพิเศษ


โดย: ฟ้าใส ในเงาจันทร์ วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:19:12:45 น.  

 
อ่านรีวิวเพลินเลยค่ะ แต่สงสัยว่าเสื้อเบอร์ 12 ที่ปกเป็นของใครค่ะ


โดย: Sab Zab' วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:19:24:12 น.  

 

ว่างๆจะลองหาอ่านดูค่ะ


โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:19:41:43 น.  

 
เห็นปกแวบแรก ไม่คิดว่าเป็นนิยายเลยนะคะเนี่ย....แถมได้รางวัลอีกต่างหาก

เดี๋ยวขอลองไปจับพลิกในร้านหนังสือดูก่อนว่าพอไหวไหมค่ะ


โดย: Serverlus วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:19:56:20 น.  

 
@ คุณ polyj ไปเจอเล่มนี้ในซอกหลืบ ปกไม่เหมือนนิยายค่ะ ที่ซื้อเพราะคาดหวังในพลอตเลยค่ะ ^^

@ คุณ ฟ้าใส ในเงาจันทร์ ขอยืมคำนักเขียนคุณ ภัสรสา มาใช้ ^^ "การชอบไม่ชอบนิยายขึ้นอยู่กับ รสนิยม ประสบการณ์ และอะไรๆ อีกหลายอย่าง.." เราชอบกีฬาฟุตบอล มีหลัง ความทรงจำดีๆ ตั้งแต่เด็กจนจบมหาลัย อ่านเรื่องนี้ เลยถูกจริตปลื้มจิตเป็นพิเศษน่ะค่ะ (จัดรอบสองไปเลยทันที )

@ คุณ Sab Zab' ปกควรจะเปลี่ยนเป็นเสื้อเบอร์หนึ่งหรือไม่ก็เบอร์สิบเอ็ดจะดีมาก (แต่โดยรวมปกมันก็ไม่น่าดึงดูดอยู่แล้ว )

@ คุณ กล้ายางสีขาว @ คุณ Severlus ลองดูค่ะ ถ้าไม่ถึงกับชอบ ก็น่าจะอ่านได้ ไม่น่าถึงกับเจ็บใจที่จ่ายตังค์ไป

ขอบคุณทุกคนที่แวะเวียนมาเป็นกำลังใจให้คนเขียนบล็อกค่ะ


โดย: prysang วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:22:03:28 น.  

 
เมียงมอง
ชื่อเรื่องและหน้าปกทำให้ไม่รู้เลยค่ะว่าเป็นนิยาย


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 25 ตุลาคม 2556 เวลา:9:47:43 น.  

 
รีวิวยาวมากเลยค่ะ พล็อตไม่ได้แปลกใหม่ แต่ชอบขนาดนี้บวกกับมีรางวัลการันตีก็น่าลองจริงๆ ค่ะ


โดย: คุณหนูฤดูร้อน วันที่: 31 ตุลาคม 2556 เวลา:19:02:12 น.  

 
ขอบคุณที่แนะนำนิยายดี ๆ ให้เราได้อ่าน บอกได้ 3 คำ "ขอบคุณค่ะ" "มันสนุกมาก". "รักที่สุด".


โดย: Tum IP: 58.9.105.79 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2556 เวลา:11:39:54 น.  

 
@ คุณเหมือนพระจันทร์ คุณหนูฤดูร้อน อยากให้ลองนะคะ

@ คุณ Tum มีความสุขจังที่ได้รู้อย่างนั้น ขอบคุณที่แวะมาบอกกัน ^^


โดย: prysang วันที่: 13 พฤศจิกายน 2556 เวลา:19:46:34 น.  

 
เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนไปวนเวียนหาหนังสือ แล้วก็เจอเล่มนี้ค่ะ อยู่เล่มเดียวในซอกหลีบ อ่านปกหลังแล้วชอบ ชอบชื่อสโมสรมาก 555 กำลังอยากหาแนว feel good อ่านอยู่พอดี

เพิ่งสบโอกาสอ่านเมื่อวาน เพราะอยู่บ้านว่างๆ ปรากฎว่าอ่านรวดเดียวจบเลย อ่านทั้งวัน ชอบมากๆๆๆ อ่านอย่างมีความสุข ยิ้ม หัวเราะ ซาบซึ้ง และชื่นชมกับความคิดนางเอกมากๆๆ แล้วก็มาเจอที่บล็อคนี้คุณรีวิวไว้ ยิ่งอ่านที่รีวิว ยิ่งใช่ค่ะ มายกมือเชียร์ด้วยอีกคน ว่าเล่มนี้มีคุณค่าน่าอ่าน ตอนนี้เอาไปให้แม่อ่านแล้วล่ะ ^^

มีช่วงที่ชอบคำพูของคินตอนหยิบซาลาเปามาถามพงศ์ว่าชอบมั้ย ถ้านายไม่ชอบเท่าไร ก็อย่ากินเลย ว่าแล้วก็กินซาลาเปาลูกนั้นซะเอง ^0^ กรี๊ดๆๆ มีความนัยซ่อนอยู่อย่างน่ารัก แต่แอบจริงจัง 555


โดย: soy IP: 49.230.99.158 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2556 เวลา:11:01:32 น.  

 
@soy ถ้าให้บอกว่าชอบตอนไหน พูดถึงไม่หมดจริงๆ ด้วยค่ะ ตอนซาลาเปานี้ก็ชอบ อย่างที่ว่าเลย แอบมีความนัยจริงจังที่ซ่อนอยู่อย่างน่ารัก


โดย: prysang วันที่: 27 พฤศจิกายน 2556 เวลา:17:37:46 น.  

 
นิยายเล่มนี้ออกมาหลายปีแล้ว แต่ไม่ค่อยเห็นวางจำหน่ายในร้านหนังสือ ไม่ทราบว่าทำไมเหมือนกัน...
อันที่จริงคุณ prysang ผู้วิจารณ์นิยายเรื่องนี้เป็นคนที่เขียนสนุกมาก อ่านแล้วเพลินจังเลยค่ะ น่าจะมีผลงานเป็นของตนเองบ้างนะคะ ลองดูหรือยังเอ่ย


โดย: ขอบพระคุณ IP: 118.173.24.167 วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:20:58:41 น.  

 
เรื่องนี้สนุกดีคะทำให้เข้ากับความรัก


โดย: ภัทรินทร์ นับดาว IP: 49.229.53.136 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2559 เวลา:6:49:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.