Group Blog
 
All blogs
 
Koh Lipe ๑ - โอ้ ทะเลแสนงาม



เพื่อน : ช่วงนี้มีงานท่องเที่ยวไทย ไปเที่ยวกันมั้ย
ฉัน : อืม ไป

ระหว่างที่เพื่อนๆ ปรึกษาหารือกันถึงสถานที่ที่จะไป - no recommendation

เพื่อน : ไปหลีเป๊ะกันนะ
ฉัน : อืม ไป

ระหว่างที่เพื่อนๆ ปรึกษาหารือกัน เรื่องวันไป - no comment

เพื่อน : 22 - 25 เมษา นะ ไปได้ใช่มั้ย ?
ฉัน : โอเค

เพื่อน ( ????? ทำไมมันถึงได้ใจง่ายขนาดนี้ )

ระหว่างเพื่อนๆ ส่งอีเมลล์แจ้งรายละเอียดของทริปที่จอง - no see

เพื่อน : จองตั๋วแล้วนะ ค่าตั๋วไปกลับคนละสามพันกว่าบาท บวกค่าที่พัก
ค่ากิน ค่าเครื่องสำอางค์ ของใช้คงประมาณค่าใช้จ่ายคนละหมื่น
ฉัน : ฮะ! (พอเรื่องเงินทอง เริ่มมีปฏิกิริยานิดนึง) จ่ายเมื่อไหร่น่ะ
เพื่อน : รูดบัตรไปก่อน ใบแจ้งหนี้มา ค่อยเรียกเก็บ
ฉัน : เล็งปฏิทินทันที อ้อ หลังสิ้นเดือนนี่หว่า อืม ได้
(กลับเข้าโหมดทำงานหลุดโลกด้วยปฏิกิริยาสงบอีกเช่นเคย)

ระหว่างเพื่อนๆ ดี๊ด๊ามีความสุขผ่านการส่งเมลล์ในที่ทำงาน
ร่ายรายการสิ่งของเครื่องใช้ ที่จะนำติดตัวไป - no action reply

จนกระทั่งหนึ่งวันก่อนไป เริ่มเปิดเมลล์ - ฮ้า ! I don't understand อย่างแรง! what are they doing ?

(กำลังหมกมุ่นอยู่กับการเคลียร์ mail inbox อันเต็มไปด้วยภาษาอังกฤษที่ hard to understand ขึ้นสมอง)

ลิตท์แสดงรายการเครื่องประทินโฉม และรายการติ๊กเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของภายใต้รายชื่อของแต่ละคน ทำให้เกิดอาการสับสนเล็กน้อย คิดว่ามีการแบ่งปันความรับผิดชอบในการขนเครื่องประทินเหล่านี้ไป เริ่มตื่นตูมเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมีเครื่องประทินยี่ห้อดีๆ ไปแบ่งปันใคร
(จะว่าไปแล้ว ก็ไม่รู้จักยี่ห้อดีๆ ราคาดีๆ ด้วยซ้ำไป)

เป็นการเข้าใจผิด นั่นแค่รายการเตือนทุกคนว่า กฏของการขึ้นเครื่องบินคือห้ามพกพาของเหลวเกิน
10 ชิ้น และแต่ละชิ้นต้องไม่เกิน 100 มิลลิกรัม เพื่อนผู้รอบคอบจึงทำรายการให้ทุกคนได้เช็คเครื่องประทินของเหลวของตัวเอง

เออ.. แล้วไป - no excitement

กลับสู่โหมดทำงานในโลกอีกมิติหนึ่งทันที

Sure! มีไม่ถึง 10 ชิ้นหรอกไม่ต้องเป็นกังวล ถึงกระนั้นเพื่อนย่อมรู้นิสัย
รู้ว่าโควต้าเหลือแน่ จึงจับจองขอฝาก (ยังอุตส่าห์จะพกเกินอีก)

หลังจากทุ่มเททำงานอย่างหนัก มีรางวัลของชีวิตที่มอบให้ตัวเองรออยู่
แต่กว่าจะได้ขึ้นแท่นรับรางวัลนั้น ต้องพยายามอีกอักโขเพื่อเคลียร์ทาง

เพื่อจะได้ออกจากกรุงเทพฯ สู้เพื่อหาดทราย สายลม และน้ำทะเล สู้ตาย!

และแล้ว แต่น แตน แต๊น วันที่ไม่มีเวลาคิดรอคอย เพราะทำแต่ งาน งาน และ งาน ก็มาถึง

พวกเราเดินทางด้วยกันทั้งหมด 7 คน ลงเครื่องที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา ขึ้นรถตู้ที่ติดต่อไว้ ไปยังท่าเรือปากบารา ตั้งอยู่ปากคลองละงู ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล จากหาดใหญ่ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง

โหมงานมาหนักกลับดึก ความเหนื่อยล้าทำให้หลับบนเครื่องบิน หลับบนรถตู้ หลับและหลับอย่างอ่อนแรง เริ่มได้สติเมื่อลงจากรถตู้ที่ท่าเรือและมีคุณไกด์หน้าตาเหมือนกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ แห่ง Pirates of the Caribbean มารอต้อนรับด้วยอาการกระตือรือร้น พร้อมกับแดดที่ร้อนจัด และคนก็หิวจัดด้วยเช่นกัน



ร้อนนักต้องพักร้อน แม้จะเป็นคนเดียวในโต๊ะที่สั่งกาแฟ จึงไม่รู้ว่าชาชักอันลือชื่อนั้นชื่นปากและชื่นใจแค่ไหน และเพราะหิวจัดจึงไม่รู้ว่าอาหารตามสั่ง ของร้าน "บังวร" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีหากเอ่ยถึงท่าเรือปากบารา จ.สตูล อร่อยสักเท่าใด .. เพราะตอนนั้น หน้ามืดแล้ว เสิร์ฟอะไรมาก็ฟาดเรียบทั้งนั้นแหละ

ร้อนนักต้องชักชา เพื่อนๆ บอกว่าชาชักอร่อยมาก เป็นรสชาดที่หาไม่ได้ในกรุงเทพ
คนไม่ชอบชา แอบสงสัยว่า ขนาดนั้นเลยเหรอ

แต่กล้ายืนยันด้วยเช่นกัน กาแฟอร่อยมาก รสชาดกลมกล่อม
ชนิดที่ร้านดีมีแบรนด์ตามห้างบางร้านต้องอาย

กินอิ่ม ฝ่าเปลวแดดอันร้อนแรงกลับไปยังท่าเรือ รอเรือออกตอนเที่ยง แม้จะสะพายกล้องคู่ชีพมาด้วย ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะยกมันขึ้นมากดชัตเตอร์แต่อย่างใด ขนาดว่าโชคดีอย่างเหลือเชื่อที่ได้พบอาจารย์เก่า ยังลืมนึกถึงกล้องและถ่ายรูปกับอาจารย์เป็นที่ระลึก

อาจารย์แนะนำให้รู้จักกับหนุ่มหน้าอ่อนผู้เป็นรุ่นน้องร่วมสถาบัน ผ่านมาหลายปีแล้ว เป็นเรื่องยากที่อาจารย์จะจำลูกศิษย์ได้ทุกคน ก่อนนั้นลังเลใจอยู่ครู่ใหญ่ จะเข้าไปทักดีหรือไม่ แต่สุดท้ายเชื่อว่า เป็นศิษย์ต้องรู้คุณและแสดงความอ่อนน้อมกตัญญูเสมอเมื่อมีโอกาส จึงตัดสินใจเข้าไปทักทาย

และเป็นการตัดสินใจที่เยี่ยมแล้ว ถือเป็นวันดีๆ อีกวันหนึ่งของชีวิต พากันเมาท์แหลกลาญถึงอดีตเคยใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน แม้จะแตกต่างในสถานะระหว่างการเป็นนักศึกษา กับการเป็นอาจารย์ระดับผู้บริหารก็เถอะ

อาจารย์เลี้ยงน้ำเพื่อนๆ (เพื่อนๆ ขอบคุณด้วยความรู้สึกเกรงใจ ไม่กระหายไม่ดื่ม แต่ยินดีขนขึ้นเกาะไปด้วย เก็บเรียบ) รุ่นน้องซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท่าเรือของกรมอุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตากุลีกุจอไปติดต่อขอลดราคาค่าเข้าอุทยานมาให้

ด้วยไม่รู้อะไรเลย เพราะทริปนี้ไม่มีส่วนร่วมช่วยเหลือ นอกจากเอาตัวมาร่วมทริป เพื่อนๆ จัดการหมด ตั๋วลดจึงไม่ได้ใช้ เพราะจ่ายมาหมดแล้วในค่าทริป แต่อย่างน้อยพี่รู้สึกขอบคุณนะ และรู้สึกถึงคำว่า เลิศน้ำใจ และ รักสามัคคี ปรัชญาหลักๆ ของมหาวิทยาลัยที่ถูกปลูกฝังหยั่งรากลึกมาเนิ่นนาน

เรือมาแล้ว.... ได้ออกเดินทางกันซะที ร้อน ๆ ร้อนจะตายอยู่แล้ว



พวกเราโดยสารเรือสปีดโบ๊ท และแวะขึ้นเกาะตะรุเตาเป็นแห่งแรก เพื่อให้ผู้โดยสารได้พักรับประทานอาหารกลางวัน แต่อีกเช่นกัน พวกเราไม่มีใจ ข้ออ้างที่ฟังแล้วดูดีคืออากาศร้อนมากจริงๆ จนไม่นึกอยากกินอะไร ข้ออ้างที่ไม่อยากกล่าวถึงคือพวกเราเพิ่งกินกันมาไม่นาน

ถ้าไม่กินจะทำอะไรนอกจากกดชัตเตอร์

จัดนางแบบถ่ายรูปกับป้าย ชายหาด และไม่ลืมจุดธูปกราบนมัสการศาลเจ้าพอตะรุเตา







ไปต่อกันที่เกาะไข่ แม้ว่าตลอดเส้นทางในเรือจะหลับมาอีกเช่นเคย ในสภาวะที่มีปาปารัซซี่มือดีคอยแอบถ่ายคนหลับ อย่างน้อยๆ ภาพตัวเองก็ไม่ออกมาน่าเผาทิ้ง เพื่อนบอกว่า "หลับผู้ดี" เพราะตัวยังตรงอยู่ได้ ไม่แน่ใจหรอกนะว่าเป็นผลมาจากการฝึกสมาธิ (แล้วหลับใน) หรือคุ้นเคยกับการยืนหลับบนรถเมล์ขณะรถติดกันแน่




เกาะไข่ เป็นสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของ จ.สตูล
ไม่รู้ทำไมชื่อเกาะไข่ น่าจะชื่อเกาะเต่ามากกว่า
เพราะดูแล้วเหมือนหัวเต่าโผล่มาจากกระดอง






>

ฟ้าสวย





ทะเลใส




คลื่นกระเซ็นสาด





เนินหาดทรายสีงาม


จากเกาะไข่ นั่งเรือต่อไป สักพักใหญ่ ๆ อยู่ๆ จอดเรือทำไม

มีผู้โดยสารลงเรือผิดลำ เรืออีกลำตามมาเก็บ
เห็นวิธีจอดเรือกระทบแคมและโอนถ่ายผู้โดยสารกลับคืนให้กันแล้ว
ทึ่งในความคล่องแคล่วแบบชาวเรือมืออาชีพ




สีน้ำทะเลใส และไม่ว่าทะเลจะแปรปรวนด้วยคลื่นลมมากน้อยแค่ไหน
แต่โขดหินยังคงสงบเสมอ





ชายฝั่งเกาะหลีเป๊ะอยู่ไม่ไกล





ในที่สุดก็มาถึงแล้ว


สวย แต่สูง






บันไดทางขึ้นระดับ 1 เพื่อเตรียมใจ และทำใจ

บันไดทางขึ้น ระดับ2 เพื่อทอดอาลัย เพราะสูงยังไงก็ต้องขึ้นไป

และมีบันไดระดับเล็กๆ ระดับ 3 พักล้างเท้า
แถมด้วยบันไดระดับ 4 จุดถ่ายรูปยอดนิยม!





ก้าวขึ้นสู่ ห้องอาหาร/ เรือนรับรอง




บ้านพักริมเกาะ




หลังพอประมาณอยู่สบาย








แมกไม้ชายคา







บรรยากาศพอดี ไม่วังเวงไม่วุ่นวาย
กับทิวทัศน์สวยงามหน้ารีสอร์ท




มื้อเย็นที่รอคอย








ตกค่ำ ไปเดินย่อยอาหารที่หลีเป๊ะฝั่งพัทยา











แวะร้านขายของที่ระลึก
เพื่อนๆ ส่งโปสการ์ดหาเพื่อนๆ ที่ทำงานและคนใกล้ชิดสนิท
ชวนให้นึกถึงบรรยากาศของ ปาย แม่ฮ่องสอน





ขายทั้งของที่ระลึกและหนังสือหลายภาษาสำหรับนักท่องเที่ยว
เท่าที่เห็นมีอยู่ร้านเดียวในย่านนั้น
เพราะเท่าที่ดูร้านค้าแต่ละล้านแทบจะขายของไม่ซ้ำประเภทกัน
มิน่า .. ราคาถึงถีบตัว แต่คงต้องเข้าใจ เพราะหลีเป๊ะอยู่ไกล
กว่าสินค้าจะเดินทางไปถึงเกาะ ต้องบวกกันอีกหลายทอด
และอีกอย่าง คนไม่มากนัก เพราะไม่ได้เปิดการท่องเที่ยวทั้งปี



ซื้อของที่ระลึก และเดินเตร็ดเตร่จากต้นตลาดยันท้ายตลาด
จากหัวหาดไปจนสุดหาด ... หมดแรง
จึงแวะกันที่ร้าน นุขโรตีผลไม้ ได้ยินว่ามีชื่ออีกละ

ถ้าบอกว่ามีชื่อ ต้องลองลิ้มชิมรส ด้วยการยกให้เป็นอาหารว่างยามดึก

ขากลับเดินเลาะริมหาดย้อนกลับไปยังฝั่งเงียบสงบที่เมาท์เทนรีสอร์ท
เพิ่งรู้จากไกด์ว่าบนชายหาดหลีเป๊ะนั้นเป็นที่พักพิงของชาวเลจำนวนหนึ่ง
วิถีชีวิตที่อยู่ง่าย กินง่าย และนอนง่ายด้วย คือ พวกเขาจอดเรือเทียบฝั่ง
โยงยึดไว้ แล้วแค่หาอะไรง่ายๆ ปูลงบนพื้นทราย กลายเป็นห้องนอนกว้างใหญ่โล่งโจ้ง ท้าลมทะเลอยู่ตามชายหาด

เป็นความทรหดที่อดทึ่งไม่ได้

ที่คุณไกด์พาพวกเราเดินเลาะหาด เพราะจะพาดูพรายน้ำ
นั่นคือแพลงตอนเรืองแสงที่มักขึ้นมาตามริมหาดในตอนดึก
แต่เพราะยังไม่ดึกมากพอหรือเพราะฟ้าโปร่งไม่มืดทึบมากนัก
ทำให้ไม่พบเจอเจ้าพรายน้ำที่ว่านี้

พวกเราจึงพากันกลับไปนอน เพราะหมดแรง
และวันรุ่งขึ้นยังมีการผจญภัยกับโลกใต้น้ำรอเราอยู่








Create Date : 21 พฤษภาคม 2553
Last Update : 5 สิงหาคม 2553 21:15:51 น. 5 comments
Counter : 3739 Pageviews.

 
สวยงามสมคำร่ำลือจริงๆ ครับ สำหรับหลีเป๊ะ กำลังหาโอกาสไปอยู่เหมือนกันครับ


โดย: นายหัวเด่น วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:03:05 น.  

 
น่าเที่ยวนะ ..บ้านพัก น่ารักดี หาข้อมูลอยู่ค่ะ..


โดย: tifun วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:22:12 น.  

 
ฟ้าครามน้ำใส ทะเลงาม กินขาด


โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:19:14 น.  

 
เป็นแก็งค์เที่ยวที่ดูวุ่นวายอลหม่านไม่น้อยเลย

หลี่เป๊ะมันก็กลายเป็นเละตุ้มเป๊ะ

เพราะเผลอไปตั้งชื่อตามใจชอบเสียแล้วซิเนี่ย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 26 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:22:56 น.  

 
ที่นี่งามอย่างแรง หาโอกาสไปอยุ่เหมือนกัน


โดย: นายหัวเด่น วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:07:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.