Group Blog
 
All blogs
 
โลดเต้นบนเส้นด้าย ..ความจริงคืออะไร เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในผืนแผ่นดินชายแดนใต้ของเรา?

โลดเต้นบนเส้นด้าย

เขียนโดย คามิน คมนีย์

 ๒๐๓ หน้า ราคา ๑๖๕ บาท / แพรวสำนักพิมพ์ 

เรื่องราวชีวิตของครูฝึกตำรวจตระเวนชายแดนและความตายซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ ราคาไม่แพง หาได้ง่ายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้   สารคดีเข้ารอบสุดท้ายรางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ปี ๒๕๕๔

ความจริงคืออะไร  เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในผืนแผ่นดินชายแดนใต้ของเรา?

นั่นคือคำถามที่มีอยู่ในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นคำถามเดียวกับกับที่เคยอยากรู้เสมอมา  และซื้อหนังสือเล่มนี้มาโดยไม่มีลังเลสักนิด เพียงหวังว่าอาจจะมีคำตอบให้เข้าใจขึ้นมาบ้าง จากการบอกเล่าผ่านประสบการณ์จริงของเจ้าหน้าที่ ตชด. ผู้คลุกคลีปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จริง ใกล้ชิดอยู่กับความเป็นและความตายที่เสี่ยงชีวิตโลดเต้นบนเส้นดายอยู่ทุกวันทุกคืน  วันนี้ คืนนี้ ยังอยู่ แต่ไม่รู้พรุ่งนี้จะยังได้อยู่อีกวันต่อไปหรือไม่

แต่ถึงแม้หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ให้คำตอบแก่คำถามที่คาใจ (เพราะเจ้าของเรื่องก็ยังคงคาใจในคำถามเดียวกัน)  แต่ก็ได้ให้ 'ความรู้' เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันอย่างไร และตายกันไปเท่าไหร่ แม้นั่นจะเป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วจากข่าวตามโทรทัศน์หรือหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ความรู้สึกนึกคิดของ ตชด. คนหนึ่ง "ครูชัย" (ดาบตำรวจชัย บุญล้ำฟ้า ครูฝึก ตชด.) ที่บอกเล่าประสบการณ์การปฏิบัติงานในพื้นที่ ผ่านการเขียนและเรียบเรียงโดยนักเขียนลูกพี่ลูกน้องของเขาเอง  "คมมิน คมนีย์" ก็ทำให้เกิดความรู้สึกหดหู่ไม่ต่างอะไรกับยามได้ดูได้ฟังข่าวเหตุการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ความตายของเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องน่าสะเทือนใจที่รับรู้ได้จากข่าว แต่การบอกเล่าถึงเจ้าหน้าที่ที่ตายผ่านมุมมองความรู้สึกของคนที่เคยเกี่ยวข้อง เคยรู้จัก เคยร่วมงาน เคยพูดคุยด้วยกัน ตามที่ได้อ่านจากหนังสือเล่มนี้ทำให้ยิ่งรู้สึกสะเทือนใจ และมันทำให้หดหู่นัก ในฐานะที่เราเป็นคนไทย และไม่รู้จะทำประโยชน์อื่นใดที่พอช่วยได้ นอกจาก 'รับรู้ข่าวสาร' อย่างสังเวชใจ

เรื่องราวแบ่งเป็น ๓ ภาค

เดือนหายที่ชายแดน

ปักษ์ใต้บ้านใคร

และตะวันใต้ยังฉายแสง

แต่ละภาคมี ๗ ตอน บอกเล่าเรื่องราวน่าสนใจ ที่สื่อโทรทัศน์หนังสือพิมพ์คงไม่อาจรายงานไปถึงและได้มีการนำภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องจริงมาประกอบเรื่องราวที่บอกเล่า ซึ่งล้วนเป็นภาพที่ช่วยตอกย้ำถึงสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาพผู้บาดเจ็บจากการถูกลอบโจมตี ภาพการลำเลียงศพ ภาพสถานที่ที่เกิดเหตุลอบยิง วางตะปูเรือใบ ระเบิด ฯลฯ

“ผมรู้สึกหัวหมุน… พวกเราทั้งหมดกำลังทำอะไรกัน ไม่รู้หรือว่าทุกอย่างในโลกเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันทั้งสิ้น พวกเขาฆ่าลูกหลานพวกเรา พวกเราฆ่าญาติของเธอ เธอหวังดีกับผม ผมอยากให้เกิดสันติสุขสงบ… ความรู้เราทั้งสองฝ่ายถูกต้อง แต่การกระทำของเราไม่มีอะไรดูมีเหตุผลสักอย่าง เรื่องวิสามัญกลายเป็นเรื่องสามัญ ความไม่ปกติกลายเป็นความปกติ ความตายเป็นชีวิต ชีวิตคือความตาย หรือว่าคู่ของสิ่งเหล่านี้แท้จริงคือสิ่งเดียวกัน ไฟใต้ทำให้ผมกลายเป็นนักปรัชญาไปแล้วหรือไร… หรือว่าผมคงเพี้ยนเป็นบ้าไปเสียแล้ว” (หน้า ๘๓)

…

เกิดอะไรขึ้นที่นั่น ความจริงคืออะไร   ผมตามหามาหลายปีแล้ว แทนที่จะได้คำตอบ เดี๋ยวนี้ผมเห็นแต่คำถาม  ผมไม่มีคำตอบ อย่างดีผมก็ถามได้ยิบย่อยขึ้น (ลึกซึ้งหรือฟุ้งซ่าน ผมไม่รู้)

ความจริงของใคร ความจริงของรัฐ ความจริงของพวกแบ่งแยกดินแดน ความจริงของทหารตำรวจ ความจริงของแนวร่วมก่อการร้าย ความจริงที่สื่อมวลชนนำเสนอ ความจริงที่คนกรุงเทพคิด ความจริงที่ชาวบ้านในพื้นที่รู้สึก ความจริงของคนถูกฆ่า ความจริงของคนฆ่าตัวตาย ความจริงของลูกเมียผู้เสียชีวิต ความจริงของญาติมิตรผู้บาดเจ็บ ความจริงของนายกรัฐมนตรี ความจริงของซาตาน ความจริงของคนกล้าบ้าระห่ำ ความจริงของคนขี้ขลาดตาขาว ความจริงของนายทหาร ความจริงของพลตำรวจ ความจริงชั้นัญญาบัตร ความจริงชั้นประทวน ฯลฯ  ฯลฯ  ฯลฯ  ฯลฯ 

หรือความจริงที่เราพูดกัน เป็นเพียงความคิด เป็นเพียงหลักการ เป็นเพียงอดีต เป็นเพียงความฝัน เป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในหัว

ผมนึกถึงนิทานตบอดคลำช้าง ไม่บังอาจคิดว่าสมองขี้เลื่อยในหัวจะฉลาดพอให้มองเห็นช้างทั้งตัวได้ ทั้งที่ผมพยายามอย่างหนักแล้ว

ผมก็ตัวเล็กแค่นี้ คุณผู้อ่านโปรดเห็นใจนะครับ ช่วยกันคิด ช่วยกันบอกให้คนใหญ่คนโตทำหน้าที่ดูช้างเชือกนี้ให้เห็นเป็นช้างนะครับ   (หน้า ๑๙๙-๒๐๐)

เรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงยังคงเป็นปริศนาที่ดำมืดต่อไปที่หนังสือเล่มนี้ไม่ช่วยให้รู้ต้นสายปลายเหตุเพิ่มขึ้น  แต่สิ่งหนึ่งที่ได้รับรู้ และรู้สึกถึง นั่นก็คือ ความกล้าหาญและความเสียสละของเจ้าหน้าที่ผู้อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ซึ่งความตายที่มองไม่เห็นว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเองที่ไหนเมื่อไหร่ได้รายล้อมอยู่ใกล้ชิดรอบตัว และสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตไปแล้ว บางคนแม้กระทั่งเศษซากก็ไม่อาจจะหาได้พบ ขอให้ดวงวิญญาณของวีรชนเหล่านั้นได้ไปสู่สุคคติด้วยเถิด และสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังปฏิบัติงานอยู่ที่นั่น ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร ทำไปเพราะหน้าที่ ย้ายไปเพราะเงินพิเศษจูงใจ เบี้ยเลี้ยง อยากเลื่อนยศตำแหน่ง อยากเป็นฮีโร่ จะอะไรก็ช่างเถิด ขอให้รู้ว่าอย่างน้อยมีคนอีกส่วนหนึ่งที่เข้าใจและสำนึกในคุณค่าความเสียสละของท่าน

ขอให้เชื่อว่าในยามที่ได้เห็นข่าวคราว ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่ได้ลืมปักษ์ใต้ ยังคงร่วมเสียใจไปกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น และยังคงปรารถนา ยังคงร่วมภาวนาให้ไฟใต้มอดดับไปในเร็ววัน แม้ในวันนี้ คำถามที่ค้างคาใจมาตลอด ยังไม่มีคำตอบ และยังไม่เห็นถึงอนาคตที่ว่านั้นก็ตาม




Create Date : 12 พฤษภาคม 2556
Last Update : 27 สิงหาคม 2558 13:03:38 น. 3 comments
Counter : 955 Pageviews.

 
น่าอ่านจังค่ะ คุณprysang ^^

ปกตินุ่นห่างไกลพวกหนังสือสารคดีจริงๆเลย
น่าจะไปหามาอ่านบ้างค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ^^



โดย: lovereason วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:37:32 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ

ิBeautiful Sunday


โดย: สามสิบเอ็ดธันวา วันที่: 19 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:59:50 น.  

 
prysang เรื่อง ten มีซับไทยแล้วนะ


//youtu.be/pqPJbQ_7vxg


โดย: สามสิบเอ็ดธันวา วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:55:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.