กลซ่อนใจ ... คืออะไรดีๆ ที่ซ่อนอยู่ใน 'สำนักพิมพ์แจ่มใส'
"มีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ที่แจ่มใส" เพื่อนคอนิยายคนหนึ่งบอกไว้เช่นนั้น .. เชื่อ! แต่ก็ไม่ค่อยจะมีเวลาเสาะหาอะไรดีๆ ที่ซ่อนอยู่อย่างที่ว่า เพราะจากประสบการณ์เคยอ่านมา อะไรดีๆ ที่ว่า (ที่ถูกใจเรา) ก็คงจะอยู่ลึกจนหายากอยู่สักหน่อย หลังๆ มา ก็เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจจะค้นหานัก แต่ก็พอจะจดจำได้ว่ามีใครบ้างที่สำนวนเป็นที่ไว้ใจ เพียงแต่ไม่บ่อยครั้งนักที่จะสบช่องกับพลอตที่ถูกใจ อันเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการเลือกอ่านนิยาย ขึ้นชื่อว่าเป็นนิยายของ สนพ.แจ่มใส มักชวนให้นึกถึงนิยายรักใสๆ หัวใจวัยรุ่น ที่มักจะตั้งป้อมกันท่าเอาไว้ก่อน ด้วยกลัวจะเจอนางเอกแบบง้องๆ แง้งๆ อ่านแล้วชวนหงุดหงิด น่ารำคาญ ทั้งที่ใจส่วนหนึ่งก็เชื่อว่าคงมีเรื่องดีๆ ที่สนุกอยู่มาก แต่เป็นที่ผู้อ่านคนนี้เองซึ่งพ้น 'วัยรุ่น' มาแล้ว หลายครั้งหลายหนที่ไม่อินเพราะเจอความง้องแง้งเลยทำให้กลายเป็นอคติไป จึงไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับนิยายของ สนพ.แจ่มใสมากนัก (เข้าใจว่านิยายของแจ่มใสก็จับกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ..จะไม่ถูกใจคนวัยเราก็ไม่แปลก ว่าแต่ ... วัยเรานี่วัยไหนหว่า .. ไม่บอก แต่จากนิยายที่อ่าน คงพอเดากันได้ หุหุ) แต่บทจะเจอเรื่องไหนถูกใจขึ้นมา ก็ทำผู้อ่าน 'วัยอาวุโส' คนนี้ อ่านไปยิ้มไป ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มไม่หุบก็มี อย่างเรื่องนี้นะ ถ้ากรี๊ดแล้วไม่น่าเกลียดเกินวัย ..คงทำไปแล้ว เรื่องย่อ จากปกหลัง อยากจะซ่อนหัวใจนักก็เชิญซ่อนไป หาเจอเมื่อไหร่ จะโดนริบไว้ไม่ให้เอาคืน ไม่รู้ว่าช่วงนี้พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรกชีวิต การะเกด หรืออย่างไร เพราะนอกจากหมดหวังเรื่องจะให้ ร่มธรรม ผู้ชายที่เธอแอบหลงรักมานานคิดกับเธอเกินคำว่า เพื่อนน้องสาว แล้ว จู่ๆ ก็โดนเมียอีกคนของพ่อยึดบ้านแล้วเฉดหัวเธอออกจากบ้านตัวเองซะงั้น ทว่าถ้าลองมองโลกในแง่ดี บางทีนี่อาจเป็นโอกาสก็ได้ ถึงจะไร้ที่อยู่ไม่มีที่ซุกหัวนอนกะทันหัน แต่เธอก็สามารถเอามันเป็นข้ออ้าง ระเห็จตัวเองไปอยู่เกาะทางใต้เพื่อหาทางพิชิตหัวใจผู้ชายหน้ามึนที่อยู่แสนไกล แถมยังรวบหัวรวบหางเสร็จสรรพด้วยการให้เขาเป็นที่ปรึกษาในการเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ที่เธอใฝ่ฝันซะเลย แต่เฮ้อ! ผู้ชายหน้าตาดีนี่มันบื้อ เอ๊ย ซื่อแบบนี้ทุกคนหรือเปล่านะ เธอหรือทอดสะพานให้สารพัดท่า เขายังไม่มีท่าทีฮิฮะ จิ๊จ๊ะกลับมาแม้แต่นิดเดียว เอาเถอะ ขุดหลุม รัก ดักเยอะๆ เข้าไว้ วันไหนทะเล่อทะล่าตกลงมาเมื่อไร จะฝังกลบให้แน่นชนิดขยับตัวไปไหนไม่ได้เลยเชียว! เคยเห็นปกนี้ เคยอ่านเรื่องย่อหลังปกเรื่องนี้ค่ะ แต่ก็เหมือนเช่นเคยคิดกับการยึดติดในอคติเดิมๆ คือ นางเอกแนวแอบรักกับภารกิจพิชิตหัวใจพระเอกนี่น่าจะง้องแง้งอีกแล้วล่ะมั้ง จนกระทั่งวันก่อนได้อ่านรีวิวนิยายเรื่องนี้ของคุณพุศน้ำบุษย์ สิ่งที่ดึงดูดความสนใจอย่างแรงคือบทสนทนาของพระเอก "ร่มธรรม" กับพี่ชาย "ร่มโพธิ์" คือบทนี้ค่ะ ร่มธรรมมองหน้าร่มโพธิ์ ส่งยิ้มอ่อนอกอ่อนใจไปให้ เสียงที่พูดฟังกัดฟันถนัดหู "บิลด์เหลือเกินนะ ทำไม อยากได้เกดเป็นน้องสะใภ้เหรอ" หากร่มโพธิ์ตอบกลับเสียงสูง "ไม่รู้วววว ฉันจะไปรู้ใจแกได้ไง แกรักใคร ฉันก็อยากได้มาเป็นน้องสะใภ้ทั้งนั้นแหละ" ร่มธรรมยิ้ม ทว่าดวงตาไม่ยิ้มด้วยเลย "พูดดีจังเลยครับ" "อ้าว ก็กูเป็นพี่ชายมึงนะครับ" "ถ้างั้นพี่ชายช่วยเลิกบิลด์ด้วยนะครับ กูรำคาญมาก" สองคนนี้เค้าชวนขำดีน่ะค่ะ โดยจริตส่วนตัวก็เป็นคนที่ชอบเรื่องราวที่มีความสัมพันธ์แบบพี่น้องมากอยู่แล้ว มาเจอบทสนทนาดังกล่าวข้างตน มันให้ความรู้สึกว่าจะได้พบกับคาแรคเตอร์บางอย่างของตัวละครที่มีความโดดเด่น แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่ผิดหวังเลย นอกจากพระเอก ร่มธรรม จะมีคาแรคเตอร์ที่โดนใจสุดๆ ยังขยายผลต่อไปยังตัวพี่ชาย ร่มโพธิ์ กับพี่สะใภ้ ไออรุณ ให้นึกอยากอ่าน 'พรายอำพราง' ที่เป็นเรื่องของสองคนนี้ขึ้นมาจับจิต ว่าแล้วลุกเดินออกจากส่วนสำนักงานของนั่งภูดูดาว ซึ่งเป็นห้องเล็กๆ พื้นที่ประมาณหนึ่งตู้คอนเทนเนอร์ ปล่อยให้ร่มโพธิ์นั่งกระดิกเท้าหัวเราะหึๆๆ อยู่อย่างนั้น "หัวเราะน่ากลัวมากพี่โพ" ร่มโพธิ์หันมองไออรุณ โผเข้าไปเบียดก่อนก้มหน้าลงชิดหน้าท้องซึ่งยังแบนราบเรียบเหมือนปกติทุกประการด้วยอายุครรภ์ยังไม่มากนัก "โอ๋ๆๆ กลัวไหมครับลูก พ่อหัวเราะอาของลูกนะครับ อาของลูกทำตัวโคตรมีพิรุธเลยครับ" ๐๐๐๐๐๐ "จริง แต่พี่ไม่รู้นะว่าเจ็ดสิบของพี่มันจะลดลง หรือจะเพิ่มขึ้นจนเป็นร้อย ต้องขึ้นกับเกดแล้วล่ะว่า จะหลอกล่อไอ้ธรรมได้แค่ไหน" "น่าเกลียด หลอกล่ออะไร เกดเป็นผู้หญิงนะ" ร่มโพธิ์มองหน้าไออรุณแล้วย้อน "ทำไมล่ะ อ้ายยังหลอกล่อพี่ได้เลย นี่ท้องจับพี่ใช่ไหม" ไออรุณฟาดแขนคนปากดีเสียงดังเพียะแล้วสวนกลับ "หย่าเลยไหมล่ะ" คนถูกท้าหย่าเลยหน้าง้ำ พูดเสียงกระเง้ากระงอดเป็นสาวสิบแปด .. "แรงอ่ะ" "แล้วรักไหมล่ะ" ไออรุณถามด้วยสีหน้ำยิ้มๆ ก่อนจะเชิดหน้ากับสามีตัวเองที่มองมาพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน ครู่เดียวก็คว้าสองแก้มของไออรุณเอาไว้ นวดแรงๆ อย่างมันเขี้ยวขณะตอบชัดเจน "อยากจะไม่รักเหมือนกัน แต่มันไม่ทันแล้ววววว มันรักไปแล้ววววว" สองสามีภรรยา ร่มโพธิ์ กับ ไออรุณ เค้าเย้าแหย่กัน เชือดเฉือนกันแบบน่ารักๆ แบบว่า 'ทัน' กันดีค่ะ มีความรู้สึกว่าเรื่องที่เค้าสองคนเป็นพระเอกนางเอกท่าทางจะน่าสนุก ส่วนนางเอก การะเกด ไม่ผิดความคาดหมายมากนักว่าจะต้องเด็กๆ ใสๆ ง้องแง้ง แต่เรื่องนี้ถือว่า 'พองาม' แล้วมันเข้ากันพอดีกับบทบาทที่เธออายุน้อยกว่าร่มธรรม เป็นเพื่อนรุ่นน้องของน้องสาวอีกที (อ่อนกว่า มีสิทธิ์ง้องแง้งได้ตามควร) แต่ที่เราชอบนางเอกเรื่องนี้ เพราะไม่รู้ทำไมความง้องแง้งของเธอ ไหงให้ความรู้สึกใสบริสุทธิ์ ซื่อตรงจริงใจ อาจเป็นเพราะไม่ใช่แนวนางเอกพระเอกไม่ถูกกันที่จะต้องมีเรื่องประชดประชันให้รำคาญด้วยน่ะค่ะ คาแรคเตอร์ของการะเกดให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเด็กๆ แอบปลื้มพี่ชาย และเพราะเป็น 'พี่' ก็เลยแสดงออกได้พอสมควรผ่านอาการงุ้งงิ้งของเด็กน้อย (สวมรอยการเป็นเพื่อนน้องสาว) แต่ว่ามันอยู่ในขอบเขต ส่วนที่เธอคิดก้ำเกิน ถือโอกาสเข้าข้างตัวเองให้มีความสุขบ้าง แทะโลม หรือเลยเถิดเป็นลวนลาม 'พี่ธรรม' (ทางมโนจิต) บ้าง มันเป็นเฉพาะความคิดในหัวของเธอเพียงผู้เดียวแม้จะหลุดอาการ 'รัก' 'เคือง' 'ค้อน' 'เซ็ง' 'เจ็บใจ' ล้นเหลือออกมาทางสีหน้าบ้าง แต่ก็ไม่ได้แสดงออกหรือพูดออกมาชัดนัก จุดนี้ทำให้คาแรคเตอร์นางเอกแทนที่จะน่ารำคาญ กลายเป็นน่ารักสำหรับเรา เธองุ้งงิ้งเป็นแมวเหมียวเคลียคลอได้น่ารักดี อ่านไป ก็ยิ้มไป ขำไป กับความคิดในหัวที่เธอมักต่อความเอาเองจากคำพูดของพระเอก เช่น .. แต่งงานกันเลยมั้ยล่ะ แต่งงานกันดีกว่าไหม .. ฯลฯ แต่ถึงพระเอกนางเอกจะน่ารักอย่างไร ดูเหมือนว่าเรื่องนี้เราจะชอบคู่พี่น้อง ร่มโพธิ์-ร่มธรรม มากกว่าคู่พระนางอีกนะ ก็ออกจะน่ารักน่าหัวเราะด้วยกันทั้งคู่ ร่มโพธิ์พูดขึ้น ไม่ได้ตั้งให้ข้อมูลกับการะเกดเหมือนที่ผ่านมา แต่เหมือนเพิ่งนึกได้ถึงชีวิตรักของน้องชายมากกว่า ตอนเลิกกับเมนี่ช่วงจะเปิดชัวร์รีลใช่ไหม ใช่ จำได้ว่าแกนอนวันละสี่ห้าชั่วโมงเอง ยุ่งจนไม่มีเวลาหาแฟนเลยโสดมาจนถึงตอนนี้ เออ ยุ่งมาก ตอนนี้ไม่ยุ่งแล้ว ก็หาแฟนใหม่สักคนสิ ร่มธรรมมองหน้าร่มโพธิ์ ส่งยิ้มให้แค่ปาก แต่ดวงตาเชือดเฉือนส่งไปให้อีกครั้ง ผมหมายถึงคุณพี่ชายน่ะครับ มึงยุ่งกะกูมาก ๐๐๐๐๐๐ ยศพลเลยปรี่เข้าบ้านไป ทิ้งให้พี่น้องมองหน้ากันอยู่ตรงประตูไม่ยอมขยับเขยื้อน เชิญเหมือนเป็นบ้านตัวเองเลยนะ ร่มธรรมประชดเข้าให้ ร่มโพธิ์ไม่สะเทือน กลับยิ้มกว้าง แหม บ้านน้องก็เหมือนบ้านพี่ แขกพี่ก็เหมือนแขกน้อง พี่จะเชิญแขกพี่เข้าบ้านน้องก็ไม่เห็นแปลกนี่นา พูดจบยังมีการเอียงหน้าแทนการถามว่าจริงไหม กริยานั้นเล่นเอาร่มธรรมอยากถีบใครสักคนขึ้นมาติดหมัด และถ้าไม่ติดว่ายังรู้ดีอยู่เต็มอกว่าอย่างไรร่มโพธิ์ก็เป็นพี่ ไม่ว่าจะเรียกกันว่าอะไร ใช้สรรพนามใดพูดกันก็ไม่อาจลบล้างความจริงข้อนี้ ร่มธรรมคงถีบร่มโพธิ์นี่ล่ะ ทำไมร่มโพธิ์ต้องวาสนาดีได้น้องชายประเสริฐอย่างเขาด้วยวะ! " กูเกลียดมึง ร่มธรรมว่าอย่างนั้นแล้วเดินหนีเข้าบ้าน หยุดเดินเมื่อเห็นยศพลเข้าไปอี๋อ๋อกับการะเกด ตัวกระตุกนิดๆ ตอนร่มโพธิ์ตามมากอด พูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังเอาซะเลย แต่พี่รักน้องนะครับ ร่มธรรมสะบัด ตัวตอบกลับเสียงเรียบอย่างซาบซึ้ง ไปตายซะไป ๐๐๐๐๐๐ ลามปามเมียกูนะมึง เดี๋ยวจะโดน ร่มธรรมหัวเราะหึ ตอกกลับไม่ไว้หน้า มึงลามปามแฟนกูก่อน ร่มโพธิ์เลยโผไปตะปบหัวของร่มธรรม จับมันโยกเขย่าอย่างแรงโดยไม่สนมือน้องที่พยายามปัดป้อง ปากดี เถียงคำไม่ตกฟาก แถมยังจะมาระรานเงินกู ฝันไปเถอะ กูนี่แหละจะเอาเงินมึงมาเลี้ยงหลานมึงให้มันอ้วนตายกันทั้งแม่ทั้งลูก ร่มธรรมประกาศกร้าวขณะพยายามปัดมือจอมรังควานออกให้พ้น กูคงยอมหรอก มึงฝันไปเหอะ ร่มโพธิ์เลยขยำขยี้เขย่าหัวของร่มธรรมหนักขึ้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงมีชัยเหนือกว่า มึงจะทำอะไรกูได้ กูจะฟ้องแม่ เท่านั้นแหละร่มธรรมก็เป็นอิสระ ร่มโพธิ์หยุดกลั่นแกล้งน้องทันที ... ๐๐๐๐๐๐ พี่น้องเค้าพูดจากันได้ชวนขำดีค่ะ อ่านไปอ่านมา ...สาเหตุที่ทำให้ชอบนิยายเรื่องนี้ นอกเหนือจาก ตัวละครอย่าง ร่มธรรม-การะเกด แล้ว ก็มี ร่มโพธิ์-ร่มธรรม นี่แหละ ที่เป็นหลักใหญ่ใจความ..ของความชอบ เป็นพลอตเรื่องที่ง่ายๆ ค่ะ ไม่มีอะไรซับซ้อนมากมาย เรื่องความรักความใกล้ชิดของคนสองคนที่คนนึงแสดงออกชัดแต่อีกคนก็รักนะแต่ในฐานะเป็นพี่ เป็นที่พึ่ง และไม่อยากถูกแซวมากนัก ขอซึน ขอมึน ขอหวงตัวไว้สักนิด (เดี๋ยวห้ามใจตัวเองไม่อยู่) ขอกั๊กใจไว้สักหน่อย (เดี๋ยวเด็กมันเหลิง) พอมีคนสองคน ก็จะมีคนรอบข้างที่เป็นเพื่อนเป็นคนในครอบครัว ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงพื้นเพชีวิตของคู่พระนางด้วย ต้องขอชื่นชมผู้แต่ง ภัสรสา เกี่ยวกับสำนวนที่ไหลรื่นและที่การสร้างคาแรคเตอร์ของตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหมายรวมถึงลักษณะการพูดจาด้วย การพูดน้อย แต่มีนัย พูดห้วน แต่มีตบปลอบ พูดขยักขย่อน แต่มีป้อนเจตนาเพิ่ม และที่ยอกย้อนยียวน (ใช้กับร่มโพธิ์ซะส่วนใหญ่) ของร่มธรรมนี่แหละ ที่ทำให้หลงรักพระเอกคนนี้ของคุณภัสรสาซะมากมาย อ่านไปก็พึมพำให้เพื่อนที่นอนอ่าน "ในวารวัน" อย่างหัวปัก ได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า น่ารักจัง น่ารักแฮะ น่ารักว่ะ ทำไมเค้าถึงเขียนได้น่ารักอย่างนี้นะ ตัวละครอื่นๆ ก็ถูกสร้างลักษณะเฉพาะตัวที่ทำให้ เห็นภาพ เห็นนิสัย ที่อะไรๆ อาจไม่เป็นอย่างที่เราคิด อย่าง ราชาวดี พี่สาวต่างแม่ของการะเกด ชอบความหยิ่ง ความเย็นชา ที่คงเส้นคงวาของเธอมาก ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนเธอก็ไม่เปลี่ยนความเป็นตัวของตัวเอง ยังคงเป็นพี่สาวผู้เย็นชาเหมือนเคยเป็นมา เหมือนไม่ชอบใจ เหมือนไม่แยแส (แต่.........) และการกระทำของเธอแต่ละครั้งก็ชวนอึ้งดีค่ะ เย็นชาแต่ว่าฉันชอบเธอมากนะเออ บางเวลาก็อยู่ในอารมณ์อยากอ่านนิยายรักแนวสดชื่นแจ่มใส อ่านแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนี้ค่ะ เห็นจากท้ายปก ที่เป็นบันทึกบอกเล่าของผู้แต่งเอง คุณภัสรสา ดูเหมือนว่าเธอได้มอบความรักให้แด่' คุณธรรม' เรื่องนี้ กับ 'คุณเทียน' เรื่อง 'เพียงใจไร้จันทร์' มากเอาการ .. นักเขียนที่หลงรักตัวละครของตัวเอง .. นั่นคงเป็นสิ่งสำคัญที่เธอสามารถทำให้คนอ่าน .. (อย่างน้อยก็หนึ่งคน..คนนี้) หลงใหลได้ปลื้มกับพระเอกของเธอตามไปด้วย และแน่นอนว่าจะต้องไปสืบเสาะตามหา 'คุณเทียน' จาก 'เพียงใจไร้จันทร์' มาทำความรู้จักกันสักหน่อยแล้ว ส่วนเรื่องนี้ กลซ่อนใจ ชอบทุกอย่างค่ะ สำนวนไม่มีอะไรจะหาเรื่องมาติ ถ้าจะมีก็มีแค่อย่างเดียวคือไม่ชอบเหตุผลการตัดสินใจของนางเอกในช่วงท้าย เพราะขัดกับความคิดส่วนตน ถ้าเป็นเรา คงไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน มันคือความเป็น 'นางเอก' น่ะใช่ แต่มันเป็นตรรกะที่ไม่ใช่และไม่แฟร์ในความคิดเราเอง ไม่แฟร์ทั้งต่อตัวเองและต่อคนที่รัก อาการนี้ไม่ได้เกิดกับนิยายเท่านั้นหรอกนะคะ กับซีรีย์เกาหลีบางเรื่องก็เป็น คือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น ด้วยเหตุผลแค่นั้น เราไม่โอเคกับมัน ประเด็นนั้นในเรื่องนี้ เรามีความคิดเห็นเหมือนราชาวดีทุกประการ ทั้งที่บุกไปพูดที่บ้านของคุณมนทิรากับมนัสสิตา (มะนาว) และที่พูดกับน้องสาวที่เธอแสดงออกตลอดเวลาว่าอิจฉาและหมั่นไส้อย่างการะเกดด้วย นั่นแหละคือสิ่งที่เราคิดกับอุปสรรคความรักนั้นของการะเกดกับร่มธรรม แต่เพราะโดยรวมเรื่องเขียนมาดี สนุก และชอบมาก จุดเล็กๆ จุดนั้น จึงมองข้ามไปได้ และพร้อมจะให้ใจ..ติดตามอ่านผลงานของภัสรสาเรื่องอื่นๆ ต่อไป เดี๋ยวจะตามอ่านชุดจันทร์ดูค่ะ สำหรับเพื่อนบล็อกแก๊งที่เข้ามาอ่านและเข้ามาเมนท์ ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ที่ทำให้รู้สึกว่าการเขียนบล็อก การได้รับความเห็นของแต่ละคนที่เมนท์เข้ามา เป็นเรื่องสนุกที่ทำให้ได้พบความเหมือน หรือความแตกต่างของมุมมองและความคิดที่น่าสนใจว่าชอบหรือไม่ชอบอย่างไร เมื่อก่อนมักจะสิงสถิตอยู่ที่กลุ่มบล็อก "ซีรีย์ต่างประเทศ" เพิ่งจะพักช่วงมาอ่านหนังสือก็พักนี้เองค่ะ พอมาวนเวียนอยู่ในกลุ่ม "หนังสือ" ได้อ่านรีวิวของเพื่อนๆ ก็เป็นการกระตุ้นให้อยากอ่านหนังสืออยู่เรื่อยๆ ช่วยลดทอนความสูงของกองดอง ช่วยให้ตู้หนังสือถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น ขอบคุณมากนะคะ
Create Date : 09 กันยายน 2556 |
Last Update : 9 กันยายน 2556 12:57:44 น. |
|
12 comments
|
Counter : 5366 Pageviews. |
|
|