Group Blog
 
All blogs
 
จอมนางคู่บัลลังก์ ๑ - ๒ เรามาสาบานต่อจันทรา จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์


หยิบเอาถ้อยคำสำนวนจากในหนังสือที่ฟินเหลือเกินจากหน้าโน้นหน้านี้มาเรียงกัน มีตัด เติม เชื่อมโยง เสริม สลับบ้าง เพื่อไว้รำลึกเรื่องราวที่ย้อนกลับมาอ่านเมื่อใดจะยังจดจำอารมณ์นั้นไว้ได้ดี นอกเล่ม ๑ ที่สปอยล์เริ่มต้นความรักและคำสาบานแล้ว เล่ม ๒ และ เล่ม ๓ จะเป็นความรู้สึก ..ที่แม้ไม่เอ่ยถึงเหตุการณ์ว่าเกิดอะไร ขึ้นที่ไหนอย่างไร แต่นั่นก็ยังนับว่ามีสปอยล์ที่น่าจะพอคาดเดาได้  ดังนั้น  หากใครยังไม่เคยอ่านจอมนางคู่บัลลังก์ แนะนำว่า อย่าอ่านบล็อกนี้ เหตุผลหนึ่งคือ ยาว (ตอนแรกว่าจะจบได้ที่บล็อกเดียว แต่มันก็ดันไหลไปเรื่อยๆ ด้วยความอิน) เหตุผล สอง คือ เพราะเรื่องนี้อย่างไรเสียคอนิยายจีนก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง    ส่วนเล่ม ๔ นั้น เพียงแต่เล่าถึงสั้นๆ เพราะจากเล่ม ๒ เล่ม ๓ ก็ชี้ทิศทางของเรื่องได้อยู่แล้ว ซึ่งบันทึกท้ายเล่ม ๓  ของผู้แต่งเฟิงน่งเองบอกเจตนาชัดว่าจะมอบความสุขให้กับผู้อ่าน และจะเขียนถึงการรวบรวมแผ่นดินสี่แคว้นสถาปานาเป็นหนึ่งเดียวในเล่มสุดท้ายอย่างค่อนข้างละเอียด ให้จบอย่างสมบูรณ์  .. นั่นจึงเป็นที่มาของเรื่อง "จอมนางคู่บัลลังก์" 

เรื่องราวดำเนินไปอย่างสนุกทั้ง ๔ เเล่ม อ่านติดหนึบต่อเนื่องมาราธอน อย่างกับจะอ่านเอาตายคาตัวหนังสือเลยล่ะ  ตัวละครอื่นๆ อีกเยอะที่ได้มีบทบาทต่อแผนลวงเล่ห์ร้าย  แต่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้ เช่นเดียวกับความรักคู่อื่นๆ   คู่รักใคร่ปรองดอง เจออิ๋น กับ หยางเฝ่ย คู่ลิ้นกับฟัน จุ้ยจวี๋ กับ พานลู่ คู่รักใต้อำนาจของ เหอเสีย กับ เย่าเทียน  ..แม้ฉากเหตุการณ์จะน้อยกว่า ฉูเป่ยเจี๋ย กับ ป๋ายพิงถิง  แต่ก็หนักแน่นสะเทือนซาง จนต้องเสียน้ำตาให้      

ความรักพิสุทธิ์ของฉูเป่ยเจี๋ย กับป๋ายพิงถิง ต้องเจอกับบททดสอบ ครั้งแล้วครั้งเล่า บุญคุณความแค้น ความจริงความลวง ล้วนส่งผลกระทบต่อศึกสงคราม ชาติบ้านเมือง  ความรักต่างเป็นทั้งทุกข์และสุขสุดประทับใจ การกระทำบางอย่างไม่ต้องตรงหลักการความเท่ในจิตใจ แต่ผู้เขียน/ผู้แปลก็ได้ทำให้อินกับนิยายเรื่องนี้แบบที่เราเข้าใจตัวละครจนไม่มีอะไรจะติจะโต้แย้ง  อีกทั้งยังถูกใจบทสรุป 'ผู้ชนะที่แท้จริง' มากๆ   นอกจากเนื้อเรื่องที่สนุกมากยากจะลืมเลือนแล้ว  ยังประทับใจสุดๆ กับการแปล โดยคุณ "หลินโหม่ว" จับหัวใจมาก ขอให้คะแนนยอดเยี่ยมขั้นเทพ มีแปลเรื่องไหนอีกเดี๋ยวค่อยตามสืบ ตามอุดหนุนแน่นอน

ป๋ายพิงถิง ไม่เคยเชื่อคำกล่าวซึ่งยึดถือกันมาแต่โบราณที่ว่า "คุณธรรมแห่งสตรีคือไร้สามารถ" นางเป็นเพียงสาวใช้ แต่กลับมีชีวิตความเป็นอยู่หรูหราสุขสบาย และเป็นที่นับหน้าถือตาเสียยิ่งกว่าคุณหนูในห้องหอคนใด  สิ่งที่ทำให้นางได้รับเกียรติยศเหล่านี้ หาใช่หน้าตา หากแต่เป็นสติปัญญาที่เฉียบคมมากไหวพริบยิ่งเสียกว่าบุรุษ     นางไม่เคยต้องการให้คนรอบข้างมานึกเสียดายต่อหน้าตาภายนอกที่แสนจะธรรมดาของนาง  ผู้ที่นางต้องการคือชายที่สามารถจะขี่ม้าเคียงข้างไปกับนาง มีสติปัญญาเฉียบแหลมไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่านาง  สามารถแข่งขันกับนางได้อย่างทัดเทียม  

ด้วยเหตุนี้..แม้ชายผู้นั้นจะเป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้นศัตรู แม้ระหว่างคนทั้งสองจะมีแต่คำโกหก แผนลวงและการชิงไหวชิงพริบ นางก็ยังมิอาจไม่หวั่นไหวใจไปกับชายผู้นั้นได้ แต่ระหว่างความรักและความภักดี นางเลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น นางได้แต่ภาวนาว่าความรักของฉูเป่ยเจี๋ย จะไม่ได้ลึกซึ้งมากเท่าที่นางคิด 

งามลักษณ์และงามจิต
เสนํห์แหํงนาง หนึ่งคืองามลักษณ์หนึ่งคืองามจิต 
งามลักษณ์จักโรยรามิช้านาน 
แต่งามจิตจัก
ยั่งยืนขจรไกล มิอาจจักเปรียบกันได้

หลังจากสองปีที่ แคว้นตงหลิน มากํอเรื่องตรงชายแดนแคว้นกุยเล่อ ในที่สุด เสี่ยวจิ้งอานหวาง ก็ยกทัพไล่ตีกองทัพของตงหลินให้ถอยร่นพ้นไปได้

เสี่ยวจิ้งอานหวาง  คำเรียกทายาทผู้ซึ่งจะสืบทอดตำแหน่งจิ้งอานหวาง (เจ้าชายเทิดสันติ) เขาเป็นยอดขุนพลอันดับหนึ่งของแคว้นกุยเล่อ กล่าวกันว่าไม่มีศึกใดที่เขารบไม่ชนะ  แต่ในยามนี้ที่เพิ่งจะปราบทัพศัตรูที่เข้ามารุกรานชายแดนลงได้ และเพิ่งจะกลับมาถึงเคอหลง (เมืองหลวง) ยังไม่ทันได้รับรางวัลความดีความชอบ การณ์กลับกลายเป็นว่าเขาต้องโทษกบฏลอบสังหารต้าหวาง (พระราชา) แต่กระทำการไม่สำเร็จจึงหนีออกจากเมืองหลวงไป คนวังจิ้งอานหวานทุกคนล้วนต้องโทษมีประกาศให้จับกุมไปทั่วแคว้นด้วยรางวัลนำจับที่สูงมิใช่น้อย

แต่จะเป็นไปได้หรือที่เสี่ยวจิ้งอานหวานจะคิดการณ์ก่อกบฎ ในเมื่อต่างเป็นที่รู้กันดีว่า วังจิ้งอานหวาง เป็นเสาหลักของแผ่นดิน เป็นวังขุนนางที่ล้วนจงรักภักดีตํอกุยเลํอมาทุกชั่วคน    

ป๋ายพิงถิง สาวใช้ในวังจิ้งอานหวางย่อมไม่อาจหลีกหนีภัยนี้เช่นกัน  แม้จะเป็นสาวใช้ในวังเจ้า แต่เนื่องจากเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของเจ้านายมาตั้งแต่เล็ก ข้าวของเครื่องใช้ของนางจึงเป็นข้าวของที่ทำอย่างละเอียดประณีตเสียยิ่งกว่าข้าวของเครื่องใช้ของคุณหนูบ้านคนธรรมดาทั่วไป  อาภรณ์สวมใส่ล้วนตัดจากผ้าไหมเนื้อดีเลิศ เป็นหญิงรับใช้แต่ไม่เคยได้ทำหน้าที่เป็นคนรับใช้  หน้าที่ของนางมีเพียงเรียนหนังสือ วาดภาพ ดีดพิณ และติดตามรับใช้เป็นเพื่อนเล่น เพื่อนเรียน อยู่ข้างกายของนายน้อย เสี่ยวจิ้งอานหวางเหอเสีย

ด้วยมีความสามารถ มีปัญญาเฉลียวฉลาด และเป็นคนสนิทของเหอเสียตลอดมา จึงไม่ใช่เรื่องเกินคาดหมายที่นางจะได้เป็นอนุภรรยาของเขาในอนาคตที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ทั่วทั้งวังจิ้งอานหวาง ไม่มีผู้ใดแม้แต่คนเดียวที่ไม่ทราบถึงความสำคัญประดุจดังนางหงส์ของป๋ายพิงถิง (สาวใช้ ที่จะได้เป็นอนุภรรยานับว่าสุดยอดแล้ว  ตำแหน่งภรรยาหลวงต้องเว้นไว้รอบุตรสาวของผู้มีชาติมีตระกูลสูงศักดิ์)   ตั้งแตํเล็กจนโต จำนวนครั้งที่พิงถิงออกจากวังเพียงลำพังมีน้อยเสียยิ่งกวำน้อย  และการออกจากวังก็เป็นการติดตามรับใช้นายน้อยเหอเสีย ไม่เว้นแม้แต่การติดตามไปออกรบที่นางได้ใช้ปัญญาเฉลียวฉลาดของนางช่วยนายน้อยคิดแผนทำลายศัตรูจนตงหลินต้องพ่ายแพ้  นางเคยอยู่ข้างกายนายน้อยเสมอมา แต่ยามที่วังจิ้งอานหวางแตกกระสานซ่านเซ็น ตัวนางเองกลับพลาดนัดหมายกับเขา    เพราะพิงถิงถูกพ่อค้ามนุษย์จับตัวไป

ถูกนำไปขายที่แคว้นตงหลิน  แคว้นศัตรูที่เพิ่งถูกกำราบให้พ่ายศึกแก่กุยเล่อ 

ศึกที่หากมีเวลาได้ตรึกตรองดู  เจิ้นเป่ยหวาง-ฉูเป่ยเจี๋ย  แม่ทัพของแคว้นตงหลินผู้นั้น พ่ายแพ้จริงหรือ  เขามีบรรดาศักดิ์เป็นถึง หวางเยี่ย พระอนุชาร่วมอุทรของต้าหวาง (พระราชา)  ผู้เลื่องชื่อลือชาว่าเป็นขุนพลพยัคฆ์อันดับหนึ่งแห่งแคว้นตงหลิน ผู้หาญกล้ายกทัพไปรุกรานชายแดนของกุยเล่อและไม่เคยที่จะถูกต้านให้ถอยร่นไปได้มาก่อนสักครั้ง เหตุใดครั้งนี้จึงถูกตีแตกพ่ายยอมถอยทัพกลับไปเสียเล่า หรือเขาผู้นั้นจะมีเล่ห์เหลี่ยมอันใดอยู่เบื้องลึก หรือจะเป็นอุบายพ่ายศึกที่ยุงยงให้เกิดความหวาดระแวงต่ออำนาจอิทธิพลของวังจิ้งอานหวางในกุยเล่อ หายนะจึงได้เกิดขึ้น  

หน้าตาไม่ได้งดงามเจิดจรัส  นัยน์ตากลมโต ใบหน้าหมดจดเกลี้ยงเกลาคํอนข้างดูดีนั้นแค่นับได้ว่างามปานกลาง หากมองดูผิวเผินผ่านตาก็ไม่ได้จัดว่างามกระไร  ป๋ายพิงถิงจึงถูกขายออกไปสู่ คฤหาสน์ตระกูลฮัว ด้วยราคาถูกแสนถูก

แม้จะมีฐานะเป็นเพียงสาวใช้  แต่พิงถิงราวกับไม่ได้เกิดมาเพื่อจะรับใช้ใคร  อย่างรวดเร็วที่ฝีมือปักผ้าอันเลิศเลอทำให้นางได้เลื่อนระดับไปสู่งานปักผ้าโดยไม่ต้องจับต้องงานหนักเช่นสาวใช้อื่น เมื่อนางสามารถดีดพิณจึงได้เลื่อนไปสู่การเป็นสาวใช้คนสนิทของคุณหนู 

คุณหนูตระกูลฮัวจะต้องแต่งงานกับคุณชายตระกูลเฉิน แต่นางมีคนรักอยู่แล้ว ในวันที่นางต้องไปวัด นางได้ลักลอบออกไปพบเขา โดยให้พิงถิงปลอมตัวเข้าไปอยู่ในหอสงบใจ และใช้เสียงพิณแสดงตัวว่านี่คือคุณหนูตระกูลฮัว

ป๋ายพิงถิง  เติบโตมาในวังจิ้งอานหวางและติดตามรับใช้เหอเสีย  นางย่อมเป็นที่รู้จักดีของเหอซู่รัชทายาทผู้ซึ่งเพิ่งจะสืบบัลลังก์เป็นต้าหวางคนใหม่แห่งกุยเล่อ ต้าหวางผู้ยอมรับในความเก่งกาจล้ำเลิศไปเสียทุกด้านของนาง ชื่อเสียงของพิงถิงจึงเป็นประดุจตำนาน อาจมีเพียงไม่กี่คนที่เคยเห็นหน้า  แต่ทุกคนก็ทราบกิตติศัพท์ด้านความเฉลียวฉลาด ความสามารถด้านปักผ้า ความล้ำเลิศด้านดีดพิณของนางเป็นอย่างดี เพราะนางได้ชื่อว่าเป็นคือ  สองพิณแห่งกุ่ยเล่อ ผู้มีฝีมือดีดพิณเป็นเอก  หนึ่งนั้นคือ ป๋ายพิงถิง และอีกหนึ่งคือหยางเฟ่ย เพื่อนสนิทของนางเอง

เมื่อเสียงพิณไพเราะจากฝีมือพิณเอกแห่งกุยเล่อ ได้กระทบโสตของผู้รู้สำเนียง  แม้ไม่ได้พบประสบหน้าแต่ของขวัญล้ำค่า "พิณเฟิ่งถง" ก็ถูกส่งมาจากบุรุษไร้นามเพื่อเป็น "ยอดพิณกำนัลแดํ ยอดพธู"      ผู้รู้สำเนียงเสียงพิณที่ได้ดำเนินการเคลื่อนไหวสู่คฤหาสน์ตระกูลฮัว อย่างเหมาะเจาะพอดี ไม่รีบร้อนขอพบหน้า ไม่เชื่องช้าจะสานต่อ วันนั้นเขายอมอำลาสง่างาม แต่ก็ส่งคนติดตามมอบของขวัญเอิกเกริก ทุกย่างก้าวแฝงความหมายลึกล้ำ ต้องตามหลักพิชัยยุทธ์อยู่กลายๆ  กระตุ้นเรียกร้องให้สนใจยิ่งนัก 

แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้มาเยือนในนามเอ่ยตน "จ้ายเซี่ยตงติ้งหนาน"  

รักษาถ้อยคำ...มาเยือนถึงบ้านจริงๆ เสียด้วย...

เป็นบุรุษรูปงามอย่างหาได้ยากยิ่ง คิ้วเข้มดกดำ นัยน์ตาทอประกายเจิดจ้า แต่งกายไม่หรูหรา แต่กลับดูสูงศักดิ์ ท่วงทีกริยาองอาจผึ่งผาย ทุกความเคลื่อนไหวแฝงบุคลิกราชัน  พิงถิงเติบโตมาในวังเจ้าย่อมรู้เห็นอะไรกว้างขวาง มองปราดเดียวก็ดูออกทันทีว่าสีหน้ากริยาที่ไม่อาจบดบังความสูงศักดิ์แฝงความหยิ่งผยองอยู่รางๆ นั้น ไม่มีทางเป็นแค่บุตรหลานเศรษฐีผู้มีอันจะกินธรรมดาทั่วไปได้

หรือคนผู้นี้เป็นขุนนางใหญ่แห่งตงหลิน ?  หรือบางที อาจจะเป็นราชนิกุล?

ใช่แล้ว.. เขาเป็น   ชายหนุํมไมํได้แซํตง และไมํได้ชื่อติ้งหนาน แตํมีนามวำ ฉูเป่ยเจี๋ย อนุชารํวมอุทรของต้าหวางแหํงตงหลินคนปัจจุบัน เขายกทัพออกรบอยูํภายนอกมานานหลายปีจนเคยชินกับการวางแผนชิงไหวชิงพริบและ กลิ่นคาวเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วในสนามรบ เมื่อต้องกลับมายังเมืองหลวงอันโอํอำหรูหราอยำงกะทันหัน จึงรู้สึกอึดอัดใจสุดประมาณ สองวันกํอนเขานำผู้ติดตามไปเดินเลํนผํอนคลายที่วัดนอกเขตเมือง แล้วพลันได้ยินเสียงพิณซึ่งไพเราะอยำงมากเข้าโดยบังเอิญ เป็นเสียงพิณที่ฟังแล้วจิตใจปลอดโปรํง รำงกายเบาสบายอยำงบอกไมํถูก 

ยอดพธูเชํนนี้ เขามีหรือจะยอมพลาดโอกาสทำความรู้จัก

ด้วยเหตุนี้หวางเยี่ยแห่งตงหลิน จึงดำเนินการเปิดฉากจู่โจมในทันที วางแผนเคลื่อนไหวเพื่อบรรลุเป้าหมาย เริ่มจากขอพบหน้า กำนัลพิณ ตรวจสอบเรื่องทั้งหมดของตระกูลฮัว สุดท้ายจึงได้มาเยือนถึงคฤหาสน์

ผ่านม่านมู่ลี่บังตา..เสียงพิณแผํวเบาใสเสนาะลอดผำนออกมา ดั่งน้ำพุกลางภูกํอเกิดจากชั้นศิลา ไหลระเรื่อยลงมาตามแนวเขา เนิ่นนานตราตรึงใจ...แปรเปลี่ยนจากเรียบเรื่อยเป็นเรํงร้อน กํอนจะซึมซาบความนุํมนวลหวานล้ำเข้าเจือปนทีละน้อย จวบกระทั่งสุดท้ายจึงจบบทเพลงลงด้วยเสียงสูงสั่นสะท้าน

นอกจากฝีมือดีดพิณเป็นเอกแล้ว จากการสนทนาพาที ฉูเป่ยเจี๋ยตระหนักว่าได้พบสตรีผู้ฉลาดเฉลียวหาตัวจับยากเข้าเสียแล้ว นัยต์ตาทอประกายล้ำมองตรงมายังด้านหลังม่านแน่วนิ่ง รู้สึกตื่นเต้นดุจประจันหน้ากับศัตรูในสมรภูมิอย่างประหลาด เช่นเดียวกับพิงถิงสาวใช้ผู้อยู่หลังม่านแทนคุณหนูฮัวได้พบว่า บุรุษผู้นี้ช่างจัดการได้ยากเสียจริงๆ  ความโอ่อ่าผ่าเผย ความมั่นใจในตัวเองที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าเขาหยิ่งผยองได้อย่างสมควรแก่เหตุผล  ทำให้หัวใจเต้นระทึก จนอดใจไม่ได้ที่จะลอบมอง

หยกประดับเปล่งประกายสุกใส  เพียงมองก็ทราบวำเป็นของชั้นเลิศ  และที่สะดุดตายิ่งกวำนั้นคือ บนหยกมีตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์ตงหลินอยูํด้วย 

มิผิดแล้ว เขาเป็นราชนิกุลแห่งตงหลินอย่างแน่นอน

ความจริงที่ทำให้ประกายตาวาบ ร่างสะท้านขึ้นมาเพราะกังวลถึงชะตากรรมของวังจิ้งอานหวางที่นางไม่ได้ทราบข่าวคราวมานานหลายเดือนแล้ว การสนทนาผ่านม่านบังตาระหว่าง ตงติ้งหนาน กับ คุณหนูตระกูลฮัว จึงยืดยาวออกไป ด้วยเชาว์ปัญหาไหวพริบ พิงถิง พอจะเลียบเคียงถึงเรื่องราวของวังจิ้งอานหวางจากเขาได้บ้าง  แต่กระนั้นก็เกิดระคนสงสัยพร้อมความตื่นตระหนก ชายผู้นี้อาจจะเป็นยอดขุนพลแห่งแคว้นศัตรู เจิ้นเป่ยหวาง-ฉูเป่ยเจี๋ย  ใช่หรือไม่  ความบังเอิญเช่นนั้นจะเกิดขึ้นได้จริงๆ ล่ะหรือ 

เจิ้นเป่ยหวาง ฉูเป่ยเจี๋ย  หวางเยี่ยแห่งตงหลิน ถูกเสียงพิณรบกวนจิตใจสั่นสะท้าน แม้จะอายุเพียงยี่สิบปี ทวำเขาเรียนรู้คัมภีร์และตำราพิชัยสงครามตำงๆ จนเจนจบมาแตํเด็ก ความรู้ความสามารถล้วนเหนือล้ำกวำผู้คนทั่วไป ทั้งยังพบเจอเหลำสาวงามในวังหลวงมามากมาย ตอนแรกที่ได้เห็นสาวงามเหลำนั้น ตัวเขาก็รู้สึกวำงดงามต้องตาดีอยูํหรอก แตํหลังจากได้เห็นมากเข้า ก็อดคํอยๆ เบื่อหนำยรำคาญสาวงามที่มีดีแตํรูปลักษณ์เหลำนั้นไมํได้  นับแตํนั้นมาชายหนุํมก็เลิกสนใจเหลำสาวงามที่มีดีแตํรูป และตั้งปณิธานวำจะเสาะหายอดพธูอันดับหนึ่งแหํงแผํนดินที่แท้จริงมาเคียงคูํให้จงได้

หญิงสาวที่อยู่หลังมำน ฝีมือพิณเป็นเอกไร้ผู้ทัดเทียมในแคว้น เจรจาพาทีเลิศล้ำไมํพื้นเพ แม้แตํเสียงขับร้องยังไพเราะตรึงใจเหนือธรรมดา แม้จะยังไมํเคยพบเห็นหน้ากับตาตัวเอง แตํภาพเหมือนที่ลูกน้องใต้สังกัดสํงมาให้ดูก็งดงามนำตะลึงหลงอยูํ  ดูทำทางยอดพธูที่คูํควรให้อยูํรํวมจนแกํเฒำ เห็นจะเป็นนางแนํแล้ว...

ความเด็ดขาดฉลาดเฉลียวของคุณหนูตระกูลฮัว ที่ทำให้ฉูเป่ยเจี๋ยถึงกับออกปาก 

" หากนางเป็นชายละก็ ข้าจะต้องให้นางมาเป็นแมํทัพใต้สังกัดของข้าอยำงแนํนอน คนแบบนี้แหละที่สามารถนำทัพหมื่นม้าได้"

ยอดหญิงเชํนนี้ รูปโฉมงดงาม ฝีมือพิณเป็นเอก ทั้งยังรอบรู้กว้างขวาง   หากฉูเป่ยเจี๋ยผู้เป็นแมํทัพแห่งตงหลินโปรดปราน เพียงชูธงเจิ้นเป่ยหวางไปสูํขอถึงเรือน..ก็จะสมปรารถนา แต่ด้วยนางไม่ได้เป็นเหมือนพวกนกสีฉูดฉาดในวังหลวง ความฉลาดปราดเปรื่องของนางสำหรับฉูเป่ยเจี๋ยเป็นดั่งหมากล้อมพบคู่มือที่ประมาทศัตรูไม่ได้  

นางคือหงส์  ฉะนั้นต้องปฏิบัติต่อนางด้วยธรรมเนียมของหงส์ ด้วยความจริงใจอาจหาญ ด้วยจิตใจลึกล้ำที่ผู้ชายตงหลินสมควรกระทำเพื่อพิชิตหัวใจยอดพธู  เจิ้นเป่ยหวางแห่งตงหลิน จึงได้รู้จักป๋ายผิงถิงแห่งวังจิ้งอานหวางในฐานะสาวใช้ของคุณหนูตระกูลฮัว..นางเป็นใบ้

ร่างสูงสง่า องอาจผึ่งผายเหนือสามัญ กระทำการใดไร้ความโอ้อวดตน เป็นลูกผู้ชายชาตรีอย่างเต็มภาคภูมิ เป็นวิญญูชนโดยเนื้อแท้เช่นนั้น  ไม่ว่าตงติ้งหนานจะเป็นใคร ก็ได้ประทับอยู่ในหัวใจของพิงถิงแล้ว  ความจริงใจของเขาที่มีต่อคุณหนูตระกูลฮัวจับใจยิ่งนัก จนอดละอายใจไม่ได้ในความเท็จลวงหลอกของตน  สาวใช้พิงถิง ! จอมหลอกลวงพิงถิง ! ช่างนำรังเกียจอยำงยิ่ง

ฉูเป่ยเจี๋ย หวังพิชิตหัวใจคุณหนูตระกูลฮัว แต่เหตุใดเล่า ดวงตาใสกระจ่างสุกสกาวของสาวใช้ถึงได้ทำให้รู้สึกอุ่นวาบนัก ตัวเขาผำนประสบการณ์มามากมายโดยไมํเคยถูกสายตาของสตรีทำให้หวั่นไหวมากํอน แตํกลับมารู้สึกตกประหมำกับสายตาจ้องเขม็งของสาวใช้ธรรมดานางหนึ่ง ดวงตาคูํนั้นเอื้อนวจีได้ ดวงตาที่ใสกระจำงเปิดเผยจนดูประดุจท้องธาร แตํครั้นเพํงมองลึกลงไปอยำง
พินิจ กลับดูประดุจบึงน้ำอันลึกล้ำ แสงสุกสกาวเปลํงประกายอยูํภายในดวงตา แววตาเพียงอยำงเดียว กลับแฝงเร้นคำพูดเอาไว้นับหมื่นพัน...หัวใจชายหนุํมกระตุกวูบ .. 

เป็นดวงตาคู่นั้นที่มองมา ทำให้เผลอไผลชุํมชื่นใจประหนึ่งน้ำพุบริสุทธิ์กลางขุนเขา รู้สึกโปรํงสบายไปทั้งรำงอยำงบอกไมํถูกเหมือนได้แชํอยูํในน้ำอุํนกลางเหมันต์  เมื่อนางเผยรอยยิ้ม..ยิ่งทำตกตะลึงประหนึ่งได้เห็นหญิงงามอันดับหนึ่งแหํงหล้า ทั้งที่เมื่อรั้งสติกลับมานางก็คือสาวใช้ที่มีนัยน์ตากลมโต ใบหน้าหมดจดเกลี้ยงเกลาค่อนข้างดูดี หน้าตาแค่พอนับได้ว่างามปานกลาง..เป็นหญิงใบ้คนเดิม

ความหวั่นไหวต่อสาวใช้  เขาไม่พอใจในตัวเองอย่างมาก รู้สึกผิดต่อคุณหนูตระกูลฮัว ความรู้สึกละอายที่ยากจะเกิดขึ้นได้ผุดขึ้นในใจ  แต่ก็ไม่สามารถลบเลือนดวงตาคู่นั้นออกไปจากห้วงคำนึงได้อยู่ดี นัยน์ตาลึกล้ำซึ่งเอื้อนวจีโดยไร้เสียง..ได้เกาะกุมหัวใจฉูเป่ยเจี๋ยเอาไว้อยำงรุนแรงจนชั่วขณะหนึ่งเขาลืมนางหงส์ของตัวเองเสียสิ้น 

เมื่อถูกหญิงสาวจ้องเอาๆ อยูํเงียบๆ เชํนนี้ ฉูเป่ยเจี๋ยก็เกิดอาการมือเท้าเกะกะเก้งก้างทำอะไรไมํถูกขึ้นมาอยำงไมํนำเชื่อ หัวใจเต้นระทึกรัวแรง เลือดฉีดซำนไปทั้งรำง ความรู้สึกซึ่งไมํเคยปรากฏมากํอนได้พลุํงขึ้นอยำงฉับพลัน เป็นความรู้สึกยินดีปรีดายิ่งเสียกวำยามที่ได้เขํนฆำในสนามรบเสียอีก ชายหนุํมขัดใจตัวเองอยำงมาก เพราะตัวเขา...เจิ้นเป่ยหวางที่เรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ฝน และเคยผำนมาแล้วทุกสถานการณ์ กลับต้องมาทำอะไรไมํถูกเพียงเพราะเรื่องแคํนี้ เวลานี้ราวกับมีด้ายเส้นหนึ่งรัดแล้วกระตุกดึงหัวใจของเขาอยำงฉับพลันจนทำให้ลมหายใจเปลี่ยนเป็นหนักหนํวงอยำงกะทันหัน

ชายหนุํมก้มหน้าลงมอง สาวใช้ใบ้ตัวน้อยในยามนี้ได้กลายเป็นสาวงามอยำงแท้จริงไปแล้ว จมูกปากและใบหน้าของนางจะดูงดงามหรือไมํนั้นไมํได้สำคัญเลย เพราะความงามได้แผํซำนออกมาอยำงเจิดจ้าบาดตาจากภายในรำงของนาง และสิ่งซึ่งจะคงอยูํไปชั่วกาลโดยไมํเสื่อมสลาย นำจะเป็นความงามที่ซํอนเร้นซึ่งไมํมีในบุคคลอื่นนี้เอง


ตงติ้งหนาน  ชายหนุํมที่ทำให้ป๋ายพิงถิงหลงใหลจนจิตใจปั่นป่วน...คือเจิ้นเป่ยหวางฉูเป่ยเจี๋ย...หวางเยี่ยแหํงตงหลิน...แมํทัพที่ร้ายกาจที่สุดของตงหลิน...ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของกุยเลํอ...และคูํตํอกรที่นำกลัวที่สุดของนายน้อยเหอเสีย เสี่ยวจิ้งอานหวาง อดีตยอดขุนพลแห่งกุยเล่อที่ยามนี้ต้องหลบหนีโทษกบฎของแผ่นดิน

คุณหนูตระกูลฮัวใช้โอกาสอันน่ายินดีนี้ส่งจดหมายถึงเจิ้นเป่ยหวาง  ขอให้เขาช่วยปลดพันธะการแต่งงานของนางกับคุณชายตระกูลเฉิน  ด้วยอำนาจแห่งอนุชาของต้าหวาง แม่ทัพใหญ่ของแคว้นตงหลิน การยกเลิกหมั้นหมายของหนุ่มสาวสองตระกูล จะมีอะไรยาก  คุณหนูตระกูลฮัวเพียงหวังรอจนถอนหมั้นได้แล้ว จึงค่อยอธิบายต่อเจิ้นเป่ยหวางให้เข้าใจ

นางเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร เจิ้นเป่ยหวางฉูเป่ยเจี๋ยเป็นใครในแผ่นดินนี้  เขาใช่คนที่ใครหน้าไหนจะเล่นหัวได้ด้วยหรือ  แต่จดหมายฉบับนั้นก็ยับยั้งไว้ไม่ทันเสียแล้ว  คุณหนูฮัวเป็นอิสระ  และหายนะกำลังจะมาเยือน  เท่านั้นตระกูลฮัวก็โทษหนักหนาพอแล้ว หากเจิ้นเป่ยหวางรู้ว่านางเป็นคนของเสี่ยวจิ้งอานหวาง คนของแคว้นศัตรู  ตระกูลฮัวย่อมไม่เหลือเศษเสี้ยวของความหวังว่าจะพ้นโทษตายไปได้  และตราบใดที่ยังหานายน้อยเหอเสียไม่พบ ป๋ายพิงถิงจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ไม่ได้  ทางเดียวที่นางจะต้องทำ คือ ต้องหนี

ช่างโง่เขลานัก  ในแคว้นตงหลินที่ เจิ้นเป่ยหวาง ฉูเป่ยเจี๋ย  เป็นเสาหลักเป็นรากฐานแห่งราชบัลลังก์   ผู้ใดบังอาจล่วงเกินไปสะกิดให้โกรธเกรี้ยว ศรีษะย่อมจะถูกบั่นลงมาให้ชุ่มโชกเลือด  ด้วยอำนาจยิ่งใหญ่นั้น ตระกูลฮัวจะนับเป็นอย่างไรได้ ? อยำวำแตํแคํคฤหาสน์ตระกูลฮัวแหํงเดียวเลย ตํอให้สั่งประหารล้างคฤหาสน์ตระกูลฮัวสิบแหํง ใครเล่าจะกล้าเอํยปากทักท้วงแม้แตํคำเดียว    และต่อให้พิงถิงเฉลียวฉลาดสักปานใด สำหรับหวางเยี่ยฉูเป่ยเจี๋ย.. การจะบีบให้สตรีเล็กๆ นางหนึ่งต้องมาหมอบกราบอยู่แทบเท้า  จะยากหรือ

ฉูเป่ยเจี๋ย ผู้มิได้ออกอาการเดือดดาลสุดขีดดังผิงถิงได้คาดคิด ยามเมื่อเขาได้รู้ความจริง 

หลังจากฟังจบ ชายหนุํมไมํได้ถลึงตา ไมํได้แผดร้องดำทอ และไมํได้อาละวาด เขาเพียงแคํยืนที่ด้านนอกห้องของพิงถิงชั่วครูํสั้นๆ แล้วจากไปโดยไมํได้เอํยอะไรแม้แตํคำเดียว  ตอนนั้นคุณหนูฮัวหลงนึกวำวิกฤติการณ์ผำนพ้นไปแล้วเสียอีก ทั้งยังพูดกับพํอบ้านฮัวอยำงแสนซื่อวำ

 "ข้าทายไมํผิดใชํไหมลํะ ? เจิ้นเป่ยหวางนํะใจกว้างออกจะตาย คราวนี้เสี่ยวหงคิดมากไปเองแท้ๆ"

เมื่อกลับไปถึงวังในตอนเย็น ฉูเป่ยเจี๋ยก็นั่งลงละเลียดดื่มน้ำชาร้อนจัดไปหนึ่งถ้วย ฉูํมํอหรานติดตามมายืนอยูํด้านข้างในอาการหายใจไมํทั่วท้อง เพราะชายหนุํมทราบดีวำ...เจ้านายโมโหแล้ว

จริงดังคาด หลังจากดื่มน้ำชาร้อนจัดหมดถ้วย ฉูเป่ยเจี๋ยก็วางถ้วยชาลง แล้วสั่งเสียงราบเรียบ
"พรุํงนี้ตอนตะวันตกดิน จงประหารล้างบ้านตระกูลฮัวที่หน้าประตูวัง"

ครั้นได้ยินผู้เป็นนายเอํยปาก ฉูํมํอหรานจึงคํอยระบายลมหายใจอยำงโลํงอก รีบขานรับเสียงดัง  "รับบัญชา !"

"ไมํเว้นแม้สัตว์เลี้ยง" ฉูเป่ยเจี๋ยกลำวเพิ่มอีกห้าพยางค์

ด้วยกลียุค จึ่งเกิดวีรชน ด้วยวีรชน จึ่งมียอดพธู 
สุดจะยั้งซึ่งยุคเข็ญ สุดจะยั้งซึ่งยุคเข็ญ....
‚ด้วยใฝ่รบ จึ่งได้เรืองนาม ด้วยเรืองนาม จึ่งมิหนำยเลํห์
 อันการศึกมิหนำยเลํหฺ อันการศึกมิหนำยเลํห์ 
......‛

บทเพลงวีรชนยอดพธูถูกขับขาน เสียงพิณเสนาะโสต ดั่งสายน้ำตกไหลถั่งท้นอาบทั่วผืนพสุธา ประหนึ่งธารสายน้อยกลางภูผา และประดุจวิหคถลาลมที่เดี๋ยวบินต่ำเลียดผำนผืนหญ้าเขียวขจี เดี๋ยวบินสูงพุํงทะยานสูํชั้นฟ้า

มุมปากฉูเป่ยเจี๋ยโค้งขึ้น


สตรีที่น้อมกายคารวะ  หมอบกราบถวายบังคมอยู่แทบเท้า    นางเป็นทั้งคุณหนู และเป็นสาวใช้ เป็นทั้งคนใบ้ และร้องเพลงได้  และอาจยังมีความสามารถอื่นใดซ่อนเร้นแอบแฝง 

เสี่ยวหง  นางชื่อว่าเสี่ยวหง  หญิงรับใช้ผู้ขวัญกล้าเทียมฟ้าบังอาจล่วงเกินหวางเยี่ยแห่งตงหลิน นางถูกกักตัวไว้ที่วังของเจิ้นเป่ยหวาง  นางยังไม่ถูกประหาร  

หวางเยี่ยผู้ทรงศักดิ์เชํนเขาต้องมาถูกสาวใช้นางหนึ่ง แกล้งปั่นหัวเลํน นึกถึงศักดิ์ศรีลูกผู้ชายถูกทำร้ายเสียหายยับเยิน แล้วก็ต้องขบกรามกรอด สองมือกำเป็นหมัดแนํนอยำงสุดกลั้น นึกอยากจะจับหญิงที่นำชังนั้นใช้เชือกมัดโยนเข้าไปในคุก โยนเข้าไปในป่าทึบที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย และโยนลงไปที่หน้าผาขึ้นมาทันควัน แต่เขาไมํอยากทำให้นางตายอยำงงำยดายเกินไป หญิงผู้นี้ควรจะอยูํชดใช้ความผิดที่วังนี้ไปจนชั่วชีวิต

เจิ้นเปิ่ยหวางกำลังลอบคาดหวังในบางสิ่งซึ่งไมํอาจบอกกลำวออกมาให้ชัดเจนได้อยูํรางๆ ดุจดังได้พบอาหารเลิศรสที่พันปียากจะมีโอกาสได้ลิ้มชิมสักครั้ง แม้หวั่นไหวใจ แตํก็นึกเสียดายที่จะทานเชํนกัน  

ฉูเป่ยเจี๋ยไมํใชํผู้ที่จะอภัยให้ใครงำยๆ...มีเพียงสตรีผู้มากฝีมือและความสามารถนางนี้เทำนั้นที่ยกเว้น
ความมุ่งหมายจะลงโทษของฉูเป๋ยเจี๋ย จึงแยกแยะไม่ออกกับการมุ่งมั่นจะครอบครอง
ใต้หล้านี้จะมีไหม สิ่งใดที่เขาต้องการแล้วจะเล็ดรอดหนีเงื้อมมือไปได้   

ความปรารถนาที่จะเสพสุขในแบบของสามัญชนคนทั่วไป ค่อยๆ ผลิต้นอํอนขึ้นในใจของชายหนุํมซึ่งคุ้นเคยเสียแล้วกับการประหัตประหารฆำฟัน 

"ด้วยนางแอํนจร จึ่งพามากรัก ด้วยมากรัก จึ่งคะนึงหา
แรกพบสบตาเสนํหาครัน แรกพบสบตาเสนํหาครัน......"

บทเพลงยอมสยบ อันไพเราะถูกขับขานอยู่ในอ้อมอก   เสี่ยวหงไมํงดงามแตํนางพิเศษนัก เฉลียวฉลาดน่ารัก คูํควรให้เขาทุํมเทจิตใจ ทุกอิริยาบถและการกระทำของนางล้วนแตํทำให้เขาต้องคลี่ยิ้มออกมายามหวนระลึก ..แต่เขาย่อมรู้ดียอดพธูที่หาได้ยากยิ่งเช่นนี้ ย่อมไม่มีทางเป็นแค่เสี่ยวหงสาวใช้ธรรมดาคนหนึ่ง คำโกหกของนางนั้น จะเชื่อเข้าไปได้อย่างไร ...ฉู่มู่หราน สนองบัญชา ...ตรวจสอบ

แต่สิ่งอื่นใดหรือจะยังมีความสำคัญ  ไม่ว่าเป็นใคร ก็ยังจะรั้งให้อยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิต 

"ข้าจะแต่งงานกับเจ้า"        "แตํงงานกับข้า แล้วอย่าหนีจากไปอีก"
"ไมํต้องคิดอะไรทั้งสิ้น จงอยูํกับข้า ผืนดินถลํมผืนฟ้าทลาย ข้าจะรับไว้ให้เอง"

การต้องเลือกระหว่างความรัก กับความภักดีนั้นเจ็บปวด  ที่ๆ ป๋ายพิงถิง อยู่ไม่ใช่กุยเล่อ แต่เป็นตงหลิน  อ้อมกอดอบอุ่นของคนที่รัก เป็นคนเดียวกับที่ได้นำกองทัพหมื่นม้าเข้ารุกรานเหยียบย่ำทำลายดินแดนที่นางเติบโตมา  ทำลายจนวังจิ้งอานหวางต้องย่อยยับ  นางรู้แล้วว่านายน้อยเหอเสียยังมีชีวิตอยู่ และนางควรจะต้องกลับไป ไม่อาจลืมเลือนว่านางถูกชุบเลี้ยงมาอย่างไร ความกตัญญูรู้คุณไม่อาจจะละทิ้งไปได้

"เรื่องสำคัญที่สุดในโลกนี้ ไมํมีอื่นใดเกินรั้งเจ้าให้อยูํข้างกายข้า"

ฉูเป่ยเจี๋ย  เพียงมีเขาอยูํเคียงข้าง...ทุกอยำงล้วนมั่นคง แตํวำนาง......แตํวำนางต้องจากไป

ไป... ต้องไปให้ได้  นางได้เหยียบลงบนทรายดูดที่จะดึงรั้งครำชีวิตเสียแล้ว  แม้การชักเท้าขึ้นจะยากเย็นแสนเข็ญ แตํกลับมิอาจไมํทำ

"เรามาสาบานต่อจันทรา .. จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์"   

คำสาบานนั้น  พิงถิงจำต้องล่วงเกินท่านแล้ว

"ผู้รู้สถานการณ์คือวีรบุรุษ ทำนอยูํ ข้ายํอมต้อง อยูํด้วย ทำนตาย ข้าก็ได้แตํตายเป็นเพื่อนทำน‛

เบื้องหลังความอบอุํนอํอนหวาน กลับซํอนเร้นความหลอกลวงและแผนการมากมายเหนือจะนับ  

ฉูเป่ยเจี๋ย พระอนุชาของต้าหวาง  แมํทัพใหญํอันดับหนึ่งของตงหลิน  ชั่วชีวิตเขา...ไมํเคยเลยที่จะถูกใครบังคับควบคุมเชํนนี้ ถูกบีบคั้นให้ลั่นวาจาอันเป็นคำมั่นสัญญาต่อสองแผ่นดิน ศักดิ์ศรีของตงหลินกับความสงบสุขของกุยเล่อ 

ยอดกระบี่คู่มือถูกขว้างลงไปบนพื้นโดยแรง กระเด็นไปกระแทกถูกก้อนศิลาริมผนังผาจนสะเก็ดไฟแลบแปลบ 

“ข้า...เจิ้นเป่ยหวางแห่งตงหลิน ฉูเป่ยเจี๋ย ขอสาบานในนามราชนิกุลแห่งตงหลิน.............."

ความอัปยศนี้ที่นางได้มอบให้  ไมํอาจอภัยให้ได้โดยเด็ดขาด!

ไมํอยาก...ปลํอยมือ แต่ฉูเป่ยเจี๋ยต้องปล่อยนางคืนไป  

ทั้งรักนาง แค้นนาง... 
สุดฟ้าสุดดิน ไมํมีใครอีกแล้วที่ขวัญกล้าบังอาจกำเริบเสิบสานยิ่งไปกวำนาง 

ตํอให้ใช้ทัณฑ์ทรมานทั้งหมดบนโลกนี้กับตัวนาง จับนางขังไว้ข้างกายให้ถูกเคี่ยวกรำไปชั่วชีวิต ก็ไมํพอที่จะดับเพลิงโทสะในใจได้ หญิงสาวซึ่งรำงกายอํอนแออยำงที่สุดผู้นี้...ร้ายดั่งอสรพิษ...หลอกลํอเขาสูํจุดอับ เขาควรมองนางเป็นศัตรูร้ายกาจที่สุดในชีวิต สังหารนางเสียให้สาแกํใจ

ทั้งที่รู้อยูํแกํใจวำนางมีที่มาไมํธรรมดา แตํกลับหลงนึกวำจะสามารถลอบควบคุมนางได้อยำงงำยดาย ขอเพียงวางกับดักตื้นๆ ก็จะรั้งสาวน้อยผู้ชอบมุสาไว้อยู่ข้างกายได้ 

มิคาดเพียงพริบตาฟ้าดินได้พลิกผัน ผู้วางกับดักกลายเป็นฝ่ายถูกกับดัก 

แค้นถึงสุดขีด รักมิลดทอน

สุดฟ้าดินหญิงผู้นี้นำแค้นที่สุด  ชั่วร้ายที่สุด  สมควรฆำที่สุด 
สุดฟ้าดินหญิงผู้นี้อํอนโยนที่สุด เฉลียวฉลาดที่สุด น่าถนอมที่สุด

นกมรกตซึ่งหลงนึกวำได้กุมเอาไว้ในมืออยำงมั่นคงแนํนหนา  กลับพลันสยายปีกจะบินกลับไปหานายเกำ

ทั่วหล้านี้ มีเพียงผู้เดียว ที่ข้าปรารถนา...   ทั้งแค้นลึกล้ำ และรักลึกล้ำ 
ข้าจะให้ทั้งกายและใจของเจ้า ล้วนไมํอาจหนีจากไปไหน...

"ยอดขุนพล" นั้นหมายความว่าอย่างไร  ... หมายความว่าสามารถแยกแยะได้กระจ่างว่าสิ่งใดหนักสิ่งใดเบา หมายความว่าสามารถสละความรักชอบส่วนตัว สะบั้นความคิดเพื่อตัวเอง  

แล้วเขาเล่า ไม่ใช่ยอดขุนพลหรืออย่างไร  แต่ฉูเป๋ยเจี๋ยแห่งตงหลิน ก็มิวายทำร้ายตัวเองอย่างน่าสมเพชอีกระลอก

"จะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย สมัครใจขึ้นหลังม้ามาเอง บอกลาเหอเสียซะ
แล้วนับแตํนี้ เจ้าจะไมํได้ชื่อป๋ายพิงถิงอีก เจ้าจะแซํฉู"

ถูกทรยศถึงขั้นนี้แล้ว ฉูเป่ยเจี๋ยก็ยังคงเว้นทางถอยให้นางอยู่อีก  ความรักเช่นนี้ จะไม่ทำให้ตื้นตันจนอยากร้องไห้ได้อย่างไร   แต่ปณิธานสุดแผํนดินของสองเรา...คั่นด้วยความอาฆาตระหวำงแคว้นดั่งขุนเขา

ขุนเขาสูงทะลุเมฆา ทำนมองไมํเห็นข้า ข้ามองไมํเห็นทำน
หัวใจรวดร้าวราวถูกบิด ไมํเคยหยุดยั้งแม้ชั่วขณะจิต

ฉูเป่ยเจี๋ยรู้คำตอบนั้นดี  ... 

"สักวัน...เจ้าจะได้รู้วำความเจ็บปวดดั่งถูกทะลวงใจเป็นอยำงไร" 

ยอดอาชาชูสองขาหน้าแผดเสียงร้องก้อง ตะกุยเท้าห้อตะบึงจากไป 
ทิ้งไว้เพียงฝุ่นดินฟุ้งตลบ  หนึ่งเงารำงอันอ้างว้าง...ทอดยาวตามตะวันรอน  

 "ยอดขุนพล"  หมายความวำอยำงไร...หมายความวำสามารถแยกแยะได้กระจำงวำสิ่งใดหนักสิ่งใดเบา หมายความวำสามารถสละความรักชอบสํวนตัว สะบั้นความคิดเพื่อตัวเอง เจิ้นเป่ยหวาง- ฉูเป่ยเจี๋ยเคยกล่าวไว้ เพื่อจะเตือนป๋ายพิงถิงว่า เสี่ยวจิ้งอานหวางเป็นยอดขุนพล

สิ่งต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่มีวังจิ้งอานหวาง ไม่มีนายน้อยเหอเสียคนเดิม และไม่มีที่ยืนสำหรับป๋ายพิงถิง  นางเพิ่งได้รู้ กระบี่เล่มนั้นชื่อหลีหุน  เป็นกระบี่ที่มีความสำคัญที่สุดของฉูเป่ยเจี๋ย และเขาไม่ได้ทิ้งมันไว้เพียงเพื่อเป็นเพียงวัตถุพยานของสองแคว้น หลักประกันการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขของชาราษฎร์ชาวกุยเล่อ แต่มันเป็นดั่งยาพิษเป็นเล่ห์ร้ายสร้างความแตกแยกของฉูเป่ยเจี๋ย ที่เขาจงใจมอบไว้ให้นาง      หลีหุน มีความหมายว่า พรากวิญญาณ

นางหลอกใช้ความรักของเขา  เขาใช้ความรักล่อลวงนาง
ความรักเป็นของจริง...เลํห์อุบายก็เป็นของจริงเชํนกัน

ความเชื่อใจของนายน้อยและวังจิ้งอานหวางที่มีต่อป๋ายพิงถิงสั่งสมมาถึงสิบห้าปี แต่กลับไม่อาจต้านทานกลยุทธ์เดียวนี้ที่ฉูเป่ยเจี๋ยได้ทิ้งเอาไว้ก่อนหันหลังจากไปในวันนั้น  

ป๋ายพิงถิง...สาวใช้คนสนิทซึ่งมีความสำคัญมากที่สุดของเสี่ยวจิ้งอานหวาง เสนาธิการหญิงผู้ติดตามนายออกรบวางแผนการสยบศัตรู สตรีผู้บีบจอมทัพแคว้นปรปักษ์ให้กลำวคำสาบานอันสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วหล้า  แต่แล้วนางกลับต้องเดียวดายลำพังท่ามกลางผืนฟ้าและแผ่นดิน 

กุยเล่ออยู่ไม่ได้ ตงหลินยิ่งเป็นถ้ำพยัคฆ์บึงมังกร  นางจึงพลัดถิ่นสู่แคว้นเป่ยม่อ ดินแดนที่อีกหนึ่งพิณเอก  หยางเฟิ่ง เพื่อนรัก ได้หลบหนีโทษภัยใส่ร้ายในวังหลวงกุยเล่อไปอยู่ที่นั่น อยู่กับสามีของนาง  เจออิ่น ยอดขุนพลอหังการของเป่ยมํอ   เพื่อหยางเฟิ่ง  เขาเคยรับปากนางจะเร้นกายอยู่ในภูไพร มีความสุขประสาครอบครัวสามัญธรรมดาไปชั่วชีวิต แต่แคว้นเป่ยม่อกำลังมีภัย เขจึงต้องยอมหวนคืนสู่ราชสำนักอีกครั้งเพื่อรับหน้าที่ยอดขุนพล แม่ทัพใหญ่แห่งเป่ยม่อ


ผู้เป็นราชานั้น  หากอยากมีเมือง ก็ต้องไร้บ้าน

ด้วยแผนการณ์ร้ายที่เป็นดั่งอาภรณ์ฟ้าไร้ตะเข็บ  
ได้สร้างกำแพงสูงลิบขึ้นขวางกั้น ระหว่างฉูเป่ยเจี๋ยและป๋ายพิงถิง  
แต่แล้วเมื่อกำแพงนี้เริ่มทลายลง  เหอเสียซึ่งหาที่หยัดเท้า
ทรงกายได้อย่างมั่นคง ณ แคว้นอวิ๋นฉาง  กลับยังไม่ยอมวางมือ 
มุ่งเล่นงานหมายแก้แค้น ทั้งฉูเป่ยเจี๋ยและตงหลินให้วอดวาย 

ด้วยสายเลือดอันเข้มข้นของราชนิกุล และสำนึกในหน้าที่อันใหญ่หลวงต่อชาติบ้านเมือง 
ถึงคราวที่ฉูเป่ยเจี๋ย ต้องเป็นฝ่ายเลือกว่าจะรักษาความรักหรือความภักดี  

สงครามระหว่างแค้นเป่ยม่อกับตงหลินอุบัติขึ้น

พิงถิง..ไม่อาจหลุดพ้นไปจากวังวนความขัดแย้งระหว่างแคว้น  เป็นเพียงสตรีนางหนึ่ง แต่ต้องจำใจขอรับหน้าที่เป็นเสนาธิการวางแผนนำทัพเป่ยม่อสู้ศึกสงครามที่มี หวางเยี่ยแห่งตงหลิน เจิ้นเป่ยหวาง ฉูเป่ยเจี๋ย เป็นแม่ทัพฝ่ายศัตรู

จะประลองกลยุทธ์กันสูสีกี่กระบวนศึก นั่นเป็นฉูเป่ยเยี่ยยอมเล่นชิงไหวชิงพริบกับนางก็เท่านั้น  หากคิดจะทุ่มเทหักหาญด้วยกำลังที่แข็งแกร่งกว่าใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ที่ไม่ทำ และที่เป่ยม่อยังมิแหลกราญ  ก็เพราะจอมทัพแห่งตงหลินต้องการชีวิตตัวเป็นๆ ของป๋ายพิงถิง 

อันการศึกมิหน่ายเล่ห์ แต่ก็ต้องมีจุดสิ้นสุดเช่นกัน
หากไขว่คว้าได้มาซึ่งความรักที่ยากนักจะเสาะหา ก็ลืมเสียเถิดความแค้นแต่หนหลังฝังดวงจิต 

ขอสาบานต่อจันทรา จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์

การชิงชัยด้วยศึกใหญ่ที่คานปู้ จะตัดสินกัน ณ ยอดเขาเตี่ยนชิน ที่ๆ คำสาบานต่อจันทรามิทันจะสิ้นคำ ชีวิตก็เกือบจะสูญสิ้น  ฉูเป๋ยเจี๋ยร้าวรานนัก  ท่ามกลางการสู้รบที่เขามุ่งมั่นถนอมชีวิตป๋ายพิงถิง  อุบายศึกของนางนั้นกลับตรงกันข้าม ด้วยมุ่งร้ายหมายเอาชีวิตเขาโดยเฉพาะ คำแก้ต่างใดๆ ล้วนฟังไม่ขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นฉูเป่ยเจี๋ยก็อยากจะเชื่อในถ้อยคำ

"ให้โอกาสพิงถิงเป็นครั้งสุดท้ายเถิด ให้พิงถิงได้ใช้ความจริงเป็นสิ่งยืนยันตํอทำน
...วำพิงถิงไมํมีทางกระทำ เรื่องที่จะทำให้ทำนต้องทุกข์ใจอยำงเด็ดขาด" 

".... เป่ยเจี๋ยกลับตงหลินเถิด กลับไปดูจิตใจที่แท้จริงของข้า"

แต่ความจริงที่เขาได้พบ  นั่นคือกับการทรยศหักหลังที่รุนแรง...อีกครั้ง

นอกจากความสูญเสียใหญ่หลวงของแผ่นดินที่ไม่อาจเรียกคืน  จอมทัพแห่งแคว้นตงหลินยังต้องแปดเปื้อนมลทิน ด้วยข้อหากบฎหวังชิงบัลลังก์จากองค์ต้าหวางผู้เป็นเชษฐา แม้ด้วยสติปัญญาของผู้เป็นหวางเยี่ยจะสามารถเผชิญกับปัญหาแก้วิกฤติไม่ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟขึ้นมาได้ แต่รอยร้าวในความสัมพันธ์ระหว่างต้าหวางกับหวางเยี่ยอนุชาก็ยากจะเยียวยาให้หายไป

แผนลวงเล่ห์ร้าย สวมรอยใส่ร้ายป้ายผิดอย่างแนบเนียนสนิท  ผิงถิงรู้ดีว่าไม่อาจมีพยานหลักฐาน ไม่มีถ้อยคำใดจะแก้ต่างข้อปรักปรำให้ตนเองได้  แต่สัญญาย่อมเป็นสัญญา "ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นั่น" นางเคยทรยศเขาแล้วครั้งหนึ่ง ย่อมไม่อาจทำได้อีกเป็นครั้งที่สอง พิงถิงจึงหวนคืนสู่ตงหลิน 

ณ ยอดเขาเตี่ยนชิน  ขอสาบานต่อจันทรา จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์

"คำสาบานยังคงอยู่  ให้พิงถิงได้ติดตามฝ่าบาทไปจนสุดหล้าฟ้าเขียว
 นับแต่นี้มีเกียรติหรือเหยียดหยามสุดแท้แตํฝ่าบาท เป็นหรือตายก็สุดแท้แตํฝ่าบาท"

ฉูเป่ยเจี๋ยนิ่งมองมือเรียวงามขาวผํองอันแสนคุ้นเคย อยูํใกล้แคํเอื้อม...เพียงยกมือก็แตะถึง เขาเคยกุมมือนี้มาแล้วไมํน้อยกวำพันครั้ง ทั้งเลํนเชยชมและทอดถอนชื่นชม ยังจำความอบอุํนผุดผํองคลํองแคลํวและนุํมเนียนของมือนี้ได้ 

เพียงแตํเขาไมํเคยคิดมากํอนเลยวำ...นี่จะเป็นมือที่สับปลับเชํนกัน !

"พิงถิงคือผู้งมงาย ฝ่าบาทเองก็เป็นเพียงผู้งมงายเชํนกัน ตํอให้หมํอมฉันพูดจนสิ้นแรง ฝ่าบาทจะ
เชื่อคำพูดของหมํอมฉันแม้เพียงคำเดียวกระนั้นหรือ ? ความผิดพลาดได้เกิดขึ้นแล้ว ชั่วชีวิตนี้เราสอง
คนไมํอาจหวนกลับไปเป็นเชํนกาลกํอนได้อีก !‛

สุดจะทนขํมกลั้นได้ไหวอีกตํอไป น้ำตารํวงพรูลงมาดั่งมุกขาดสาย หญิงสาวทรุดกายลงร่ำไห้กับพื้นดิน
--
ความรักล้ำลึก  ความแค้นล้ำลึก  
ชั่วชีวิตนี้ของฉูเป่ยเจี๋ย ผู้ที่รักและแค้นมากที่สุด มีเพียงผู้เดียว
รักนาง..คือการทรยศต่อตงหลิน  แค้นนาง..คือการทรยศต่อหัวใจตนเอง 

ใกล้ชิดแต่ก็เย็นชาเหินห่าง รักแต่ก็ทำร้าย  ต่างเจ็บปวดรวดร้าว..ลึกล้ำ   
หากต้องเจ็บปวดถึงเพียงนั้น   สิ้นสุดกันไปไม่ดีกว่าหรือ ?  

ง่ายเกินไปที่จะส่งนางไปสู่ยมโลก  เขาจะให้นางอยู่อย่างสิ้นหวังที่จะมีความสุข 
จนแม้นางอยากจะตายเขาก็จะไม่ปล่อยให้นางตาย  
ความสูญเสียใหญ่หลวงของแคว้นตงหลิน เขาจะให้นางชดใช้ไปชั่วชีวิต 

การรับเอาความรักคละเคล้าความแค้น   เจ็บปวดรวดร้าวแทบแหลกสลาย

แต่อยำงน้อยวิญญาณเดียวดายเชํนนาง...ก็ได้พบวิญญาณเดียวดายอีกดวง
---

เพราะเป็นแผนลวงแนบเนียนดั่งอาภรณ์ไร้ตะเข็บนั้น  ความรักจึงมิอาจต้านทาน

แต่หากว่ารักจริง มีหรือความรักจะต้านทานคำลวงไม่ได้ 
หากว่ารักอย่างลึกซึ้งก็ควรจะเชื่อถึงที่สุด รักอย่างที่สุด
แม้เหตุการร้อยเปลี่ยนพันแปร ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจ 

ยิ้มละไมต้อนรับ พูดด้วยอย่างอ่อนหวาน ด้วยความรักอันพิสุทธิ์มิอาจจะกัดเซาะหัวใจศิลาได้บ้างหรือ พิงถิงฉลาดมาทั้งชีวิต จะหาวิธีฉลาดแก้ต่างการถูกปรักปรำไม่ได้เชียวหรือ แต่ผู้เป็นสตรีแสวงรักย่อมยอมทุ่มจนสุดตัว พิงถิงเพียงอยากจะโง่สักครั้ง ใช้ใจลองใจ หวังใช้ความรักสลายความแค้น 

เป็นความโง่เขลาอย่างแท้จริง พิงถิงเคยหลงคิดว่าจะทนได้กับการอดทนกล้ำกลืน ฝืนผ่านคืนวันทุกข์ทรมานในช่วงเวลาที่แสนยาวนานนั้น  แต่แล้ว..ความอดทนกลับพังทลายลงในวันที่คาดหวังความอ่อนโยนแม้เพียงน้อยนิด ทั้งหมดล้วนสามารถทนได้ขอเพียงคำพูดประโยคเดียว สายตาหรือกระทั่งการบอกความนัย น่าเสียดายที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ความท้อแท้ทุกข์ตรมถาโทมลงทับร่าง ไม่มีที่ให้ระบาย นางเบื่อโลกนี้แล้ว

เพลงพิณเป็นเหมือนมีดกรีดแทงเข้าใส่หัวใจ แล่เนื้อเขาออกทีละชิ้นๆ 
เมื่อฟังไปถึงบทเพลงรันทดกำสรวลเพลงสุดท้าย ความคิดมุ่งหน้าไปอย่างห้าวหาญ 
ยอมหักไม่ยอมงอที่แฝงอยู่ในเสียงเพลงทำเอาชายหนุ่มตื่นตระหนก
จนแทบจะหลั่งเหงื่อเย็นเยียบโทรมกาย

สถานการณ์ยังคงเลวร้ายลงเรื่อยๆ

ความรักของหญิงชายช่างน่ากลัวเสียนี่กระไร กระทั่งผู้ซึ่งเปรื่องปราดอย่างหวังเยี่ยยังถลำลึกจนมิอาจถอนตัวได้ บุพเพสันนิวาสประหนึ่งกรรมบันดาลนี้ อาจเป็นเพราะทั้งสองฝ่ายเฉลียวฉลาดเกินไปก็เป็นได้ ถึงได้ก่อให้เกิดคลื่นมรสุมขึ้นมากมาย
--
ยามสองฝ่ายตั้งประจัน ที่แท้ผู้แข็งแกร่งกว่าใช่ว่าจะชนะเสมอไป 
มิน่าเล่าเรือนอันอบอุ่น จึงมักเป็นสุสานของวีรชน  

เมื่อยอดขุนพลไร้ผู้ต้านในสมรภูมิ เจิ้นเป่ยหวางแห่งตงหลินผู้ยิ่งใหญ่ ปะทะกับป๋ายพิงถิงผู้ไม่หวั่นต่อความตาย ก็มีอันต้องแพ้พ่ายอย่างสิ้นท่า  ยอดเหล็กกล้าศตหลอม ได้อ่อนแปรผันร้อยรัดดัชนี ทั้งเจ็บใจ ทั้งไม่เต็มใจ 

น่าแค้นนัก น่าชักนัก น่าโมโหนัก ป๋ายพิงถิงที่น่าแค้น ป๋ายพิงถิงที่น่าชัง

ฉูเป่ยเจี๋ยโอบกอดสิ่งล้ำค่าที่แตกสลายได้ง่ายที่สุด 
และสูญสลายไปจนไร้ร่องรอยได้ง่ายที่สุดในโลกนี้  

บทเพลงยอมสยบ  เพลงอยู่ ทำนองอยู่ คนอยู่  
สุริยันจันทราดาราฉายอยู่ ฟืนฟ้าแผ่นดินอยู่ 
ป๋ายพิงถิงในอ้อมอก ยังคงอยู่

แต่สวรรค์อันโหดร้าย ก็ได้ส่งบททดสอบลงมาอีกครั้ง 

ชีวิตที่ไม่แก่งแย่งชิงดีกับใคร มิใช่ชีวิตที่คนเช่นเขาทั้งสองจะมีได้
แหฟ้าตาข่ายดินซึ่งถูกถักทอขึ้นด้วยอำนาจ  สงคราม กลอุบาย
ตลอดจนความผูกพันทางสายเลือด ได้ถูกวางกับดักเอาไว้เรียบร้อยแล้ว 

หวังว่าเปลวไฟที่ลุกไหม้ท่วมขอบฟ้า  จะสามารถลบล้างความรักแห่งหญิงชาย 
ใยสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ภายในใจของเจ้าให้หมดสิ้นไปจนไม่เหลือร่องรอยได้ 

ผู้เป็นราชานั้น หากอยากมีเมืองก็ต้องไร้บ้าน

หัวใจจมดิ่งวูบสู่ความมืดมนลึกล้ำอันไร้ที่สิ้นสุด

ร่างอรชรที่กอดเท่าไรก็ไม่พอ ดวงหน้างามหมดจดที่ยลเท่าไรก็ไม่พอ เสียงขับร้องหวานใสที่พังเท่าไหร่ก็ไม่พอ หญิงสาวที่น่าเวทนา น่าถนอมถึงเพียงนี้ เหตุใจจึงกลับมีผู้ที่ไม่ยอมวางมือ ปล่อยปละละเว้นนางไป ทั้งที่นางได้เร้นกายแล้ว  ทั้งที่นางได้เลิกสนใจเรื่องภายนอกแล้ว  

ที่นางต้องทนทุกข์เจ็บช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า และหวังเพียงลืมอดีตเสียให้สิ้น

เพื่อเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่รู้จักพอ    เพื่อเป็นผู้หญิงของเขาฉูเป่ยเจี๋ย 

บุญคุณความแค้นที่หวานชื่อถึงเพียงนั้น ใจสลายถึงเพียงนั้น
เขามีหรือจะไม่รักนาง เขามีหรือจะไม่รักษาสัตย์ ลืมเลือนสัญญานี้ได้
เขามีหรือจะใจเหี้ยมทอดทิ้งนาง 

"หวางเยี่ยเป็นบุคคลระดับใดกัน หากเขาตั้งใจจะกลับมา มีหรือที่ใครจะรั้งไว้ได้"

หากว่ารักจริงแล้วจะหวั่นกลัวความอาฆาตระหว่างแค้นอันลึกล้ำไปไย 
 หากว่าปักใจรักอย่างแท้จริง ไม่พรากจากไม่ทอดทิ้ง
ไม่ว่าเรื่องราวในโลกหล้าจะร้อยผันพันแปรไปเช่นไร ก็ควรจะไม่คลายรักเดิม

หากในใจของเขามีข้า ....จะต้องกลับมาอย่างแน่นอน

ขอสาบานต่อจันทรา  จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์

"ไม่ว่าหวางเยี่ยจะอยู่ที่ใด ขอเพียงข้ามีภัย หวางเยี่ยจะต้องกลับมาถึงข้างกายข้าทันเวลาอย่างแน่นอน"  นางมีความมั่นใจในความรักของเขาเปี่ยมล้น

จันทรา จันทรา ได้โปรดอย่าทรยศข้าเลย

ชั่วชีวิตนี้ เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น  อย่าได้ทรยศข้า!

แต่น่าเสียดายที่จันทราไร้โสต หรือบางทีอาจได้ยินความในใจของนางแล้ว แต่กลับมองเมินไม่แยแสอย่างโหดเหี้ยม

แต่ชั่วพริบตานี้ นางได้ลืมสิ้นทุกสิ่ง  ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า 
กระทั่งมือเท้ายังสูญสลายไป  มีเพียงเสียงหัวใจปริแยก  แตกสลาย 

จากแผ่นดินตงหลิน  พิงถิงถูกนำไปสู่แคว้นอวิ๋นฉางอย่างเลือดเย็น ตัวถูกพลัดพราก หัวใจถูกทำลาย

อวิ๋นฉาง ที่ๆ ความรักความแค้นได้ผลักดันให้นายน้อยเหอเสียป่ายปีนสู่ยอดบัลลังก์  เขาได้กลายเป็น พระชามาดา (สวามี) ขององค์หญิงเย่าเทียนผู้ครองแคว้น

พิงถิงไม่รู้สึกเจ็บ ไม่คิดร้องไห้ นางได้ตัดสินใจที่จะลืมความเจ็บปวดและน้ำตา 
เหมือนเช่นที่นางตั้งใจจะลืมน้ำเสียงและรอยยิ้มของคนผู้นั้นไปตลอดกาล 
ในเมื่อหัวใจสลายสิ้น วิญญาณสาบสูญ ก็ไม่มีสิ่งใดให้หวนกลับไปได้อีกแล้ว

--
เขาทำไม่ได้ดังที่รับปาก เขาผิดสัญญาต่อนาง
ทำให้นางต้องเดินย่ำหัวใจที่แตกสลายเกลื่อนพื้น
ภายใต้แสงเย็นเยียบของคมอาวุธ 

การเลือกที่ผิดพลาด ทำให้ฉูเป่ยเจี๋ยต้องเสียใจมากที่สุดในชั่วชีวิตนี้  เขาเองที่เป็นคนตัดสินใจ เขาเองที่เป็นคนเลือก  เล่ห์กลนั้นถูกใช้เพื่อให้พิงถิงได้มองเห็นกระจ่างชัดถึงฐานะของตัวนางเองในหัวใจของเขา ได้ทำให้พิงถิงตระหนักอย่างโหดเหี้ยมว่า ไม่ว่าเขาและนางจะรักกันอย่างลึกล้ำมากเพียงใด ยามเมื่อเขาเจอหนทางที่ต้องเลือก สุดท้ายผู้ที่จะถูกสละทิ้ง ก็คือตัวนาง  สำหรับพิงถิงที่รักเขาอย่างบริสุทธิ์ใจดั่งสายน้ำอันใสกระจ่างแล้ว นั่นถือเป็นการทำร้ายถึงชีวิตเลยทีเดียว นับแต่ตระหนักสิ่งนี้เป็นต้นมา ความเจ็บปวดดั่งถูกทะลวงใจก็ไม่เคยหยุดทรมานฉูเป๋ยเจี๋ยแม้แต่ชั่วขณะจิต

ป๋ายพิงถิงผู้เปรื่องปราด ป๋ายพิงถิงผู้โง่เขลา ป๋ายพิงถิงผู้ดีงาม ป๋ายพิงถิงผู้โหดเหี้ยม 
ล้วนแต่เป็นป๋ายพิงถิงที่ฉูเป่ยเจี๋ยรักใคร่อย่างลึกซึ้งทั้งสิ้น ชั่วชีวิตนี้ไม่มีทางแปรผัน

ความรักสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ร้อยพันแปรผันรักมั่นไม่เสื่อมคลาย พิงถิง..ข้าเข้าใจแล้ว 
ขอเพียงได้เจ้ากลับคืนมา ฉูเป่ยเจี๋ยขอสาบานต่อฟ้า จะปกป้องคุ้มครองเจ้าไปตลอดกาล 
รักเจ้าไปตลอดกาล จะไม่ให้ใครหรือเรื่องใดมาแยกเราจากกันได้อีกตลอดกาล 

ขอร้อง...เจ้าโปรดมองกลับมา แม้เพียงแค่พริบตา
แผ่นดินโบราณผืนนี้ได้นิ่งเงียบงันเพื่อเจ้า
ประกายกระบี่สามพันเจ็ดร้อยเล่มได้เปล่งแสงเพื่อเจ้า
ฉู่เป่ยเจี๋ยผู้โง่เขลาไม่รู้จักรักถนอมมากที่สุด ได้มาที่นี้เพื่อเจ้า
ขอเพียงได้เห็นรอยยิ้มของเจ้าอีกครั้ง 
เลือดร้อนระอุและความภักดีทั้งมวลของชายผู้นี้
จะเป็นของเจ้าแต่เพียงผู้เดียวนับแต่นี้ไป 

พิงถิง..  พิงถิง.. ข้าได้ยินเสียงหัวใจตัวเองแล้ว มันบอกว่าอยากอยู่ร่วมกับเจ้าไม่พรากจาก ไม่ทอดทิ้งไปทุกชาติทุกภพ แม้ผืนฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย ทะเลแห้งเหือด ศิลาป่นสลาย หัวใจรักนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลง    อ่านต่อ -->  จอมนางคู่บัลลังก์ ๓ - ๔ สี่แคว้นได้ปั่นป่วน กลียุคคือสวนสำราญของวีรชน



Create Date : 05 กรกฎาคม 2558
Last Update : 6 กรกฎาคม 2558 2:48:16 น. 3 comments
Counter : 2710 Pageviews.

 
ฮือๆๆ อยากได้จอมนางปกนี้จุง ช่างหาได้ยากยิ่ง ราคาแพง เลยได้แต่จองฉบับแปลใหม่ไปค่ะ


โดย: kunaom วันที่: 5 กรกฎาคม 2558 เวลา:23:25:50 น.  

 
ตามมาติ่ง ชอบมากเรื่องนี้ ชอบจนเขียนรีวิวไม่ถูก เลยไม่เขียนเลย 5555


โดย: Prophet_Doll วันที่: 6 กรกฎาคม 2558 เวลา:13:41:25 น.  

 
ขึ้นหึ้งค่ะเรื่องนี้
มันสุดทั้งสองทาง ต้นฉบับสุดยอด คนแปลก็เต็มเปี่ยม

แต่ว่า ถ้าจะจองเรื่องใหม่อะไรกับคุณหลินเธอ จขบ.คิดดี ๆ ก่อนนะคะ


โดย: Serverlus วันที่: 6 กรกฎาคม 2558 เวลา:18:20:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.