แล้วเขาเล่า ไม่ใช่ยอดขุนพลหรืออย่างไร แต่ฉูเป๋ยเจี๋ยแห่งตงหลิน ก็มิวายทำร้ายตัวเองอย่างน่าสมเพชอีกระลอก
"จะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย สมัครใจขึ้นหลังม้ามาเอง บอกลาเหอเสียซะ
แล้วนับแตํนี้ เจ้าจะไมํได้ชื่อป๋ายพิงถิงอีก เจ้าจะแซํฉู"
ถูกทรยศถึงขั้นนี้แล้ว ฉูเป่ยเจี๋ยก็ยังคงเว้นทางถอยให้นางอยู่อีก ความรักเช่นนี้ จะไม่ทำให้ตื้นตันจนอยากร้องไห้ได้อย่างไร แต่ปณิธานสุดแผํนดินของสองเรา...คั่นด้วยความอาฆาตระหวำงแคว้นดั่งขุนเขา
ขุนเขาสูงทะลุเมฆา ทำนมองไมํเห็นข้า ข้ามองไมํเห็นทำน
หัวใจรวดร้าวราวถูกบิด ไมํเคยหยุดยั้งแม้ชั่วขณะจิต
ฉูเป่ยเจี๋ยรู้คำตอบนั้นดี ...
"สักวัน...เจ้าจะได้รู้วำความเจ็บปวดดั่งถูกทะลวงใจเป็นอยำงไร"
ยอดอาชาชูสองขาหน้าแผดเสียงร้องก้อง ตะกุยเท้าห้อตะบึงจากไป
ทิ้งไว้เพียงฝุ่นดินฟุ้งตลบ หนึ่งเงารำงอันอ้างว้าง...ทอดยาวตามตะวันรอน
"ยอดขุนพล" หมายความวำอยำงไร...หมายความวำสามารถแยกแยะได้กระจำงวำสิ่งใดหนักสิ่งใดเบา หมายความวำสามารถสละความรักชอบสํวนตัว สะบั้นความคิดเพื่อตัวเอง เจิ้นเป่ยหวาง- ฉูเป่ยเจี๋ยเคยกล่าวไว้ เพื่อจะเตือนป๋ายพิงถิงว่า เสี่ยวจิ้งอานหวางเป็นยอดขุนพล
สิ่งต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่มีวังจิ้งอานหวาง ไม่มีนายน้อยเหอเสียคนเดิม และไม่มีที่ยืนสำหรับป๋ายพิงถิง นางเพิ่งได้รู้ กระบี่เล่มนั้นชื่อหลีหุน เป็นกระบี่ที่มีความสำคัญที่สุดของฉูเป่ยเจี๋ย และเขาไม่ได้ทิ้งมันไว้เพียงเพื่อเป็นเพียงวัตถุพยานของสองแคว้น หลักประกันการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขของชาราษฎร์ชาวกุยเล่อ แต่มันเป็นดั่งยาพิษเป็นเล่ห์ร้ายสร้างความแตกแยกของฉูเป่ยเจี๋ย ที่เขาจงใจมอบไว้ให้นาง หลีหุน มีความหมายว่า พรากวิญญาณ
นางหลอกใช้ความรักของเขา เขาใช้ความรักล่อลวงนาง
ความรักเป็นของจริง...เลํห์อุบายก็เป็นของจริงเชํนกัน
ความเชื่อใจของนายน้อยและวังจิ้งอานหวางที่มีต่อป๋ายพิงถิงสั่งสมมาถึงสิบห้าปี แต่กลับไม่อาจต้านทานกลยุทธ์เดียวนี้ที่ฉูเป่ยเจี๋ยได้ทิ้งเอาไว้ก่อนหันหลังจากไปในวันนั้น
ป๋ายพิงถิง...สาวใช้คนสนิทซึ่งมีความสำคัญมากที่สุดของเสี่ยวจิ้งอานหวาง เสนาธิการหญิงผู้ติดตามนายออกรบวางแผนการสยบศัตรู สตรีผู้บีบจอมทัพแคว้นปรปักษ์ให้กลำวคำสาบานอันสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วหล้า แต่แล้วนางกลับต้องเดียวดายลำพังท่ามกลางผืนฟ้าและแผ่นดิน
กุยเล่ออยู่ไม่ได้ ตงหลินยิ่งเป็นถ้ำพยัคฆ์บึงมังกร นางจึงพลัดถิ่นสู่แคว้นเป่ยม่อ ดินแดนที่อีกหนึ่งพิณเอก หยางเฟิ่ง เพื่อนรัก ได้หลบหนีโทษภัยใส่ร้ายในวังหลวงกุยเล่อไปอยู่ที่นั่น อยู่กับสามีของนาง เจออิ่น ยอดขุนพลอหังการของเป่ยมํอ เพื่อหยางเฟิ่ง เขาเคยรับปากนางจะเร้นกายอยู่ในภูไพร มีความสุขประสาครอบครัวสามัญธรรมดาไปชั่วชีวิต แต่แคว้นเป่ยม่อกำลังมีภัย เขาจึงต้องยอมหวนคืนสู่ราชสำนักอีกครั้งเพื่อรับหน้าที่ยอดขุนพล แม่ทัพใหญ่แห่งเป่ยม่อ
ผู้เป็นราชานั้น หากอยากมีเมือง ก็ต้องไร้บ้าน
ด้วยแผนการณ์ร้ายที่เป็นดั่งอาภรณ์ฟ้าไร้ตะเข็บ
ได้สร้างกำแพงสูงลิบขึ้นขวางกั้น ระหว่างฉูเป่ยเจี๋ยและป๋ายพิงถิง
แต่แล้วเมื่อกำแพงนี้เริ่มทลายลง เหอเสียซึ่งหาที่หยัดเท้า
ทรงกายได้อย่างมั่นคง ณ แคว้นอวิ๋นฉาง กลับยังไม่ยอมวางมือ
มุ่งเล่นงานหมายแก้แค้น ทั้งฉูเป่ยเจี๋ยและตงหลินให้วอดวาย
ด้วยสายเลือดอันเข้มข้นของราชนิกุล และสำนึกในหน้าที่อันใหญ่หลวงต่อชาติบ้านเมือง
ถึงคราวที่ฉูเป่ยเจี๋ย ต้องเป็นฝ่ายเลือกว่าจะรักษาความรักหรือความภักดี
สงครามระหว่างแค้นเป่ยม่อกับตงหลินอุบัติขึ้น
พิงถิง..ไม่อาจหลุดพ้นไปจากวังวนความขัดแย้งระหว่างแคว้น เป็นเพียงสตรีนางหนึ่ง แต่ต้องจำใจขอรับหน้าที่เป็นเสนาธิการวางแผนนำทัพเป่ยม่อสู้ศึกสงครามที่มี หวางเยี่ยแห่งตงหลิน เจิ้นเป่ยหวาง ฉูเป่ยเจี๋ย เป็นแม่ทัพฝ่ายศัตรู
จะประลองกลยุทธ์กันสูสีกี่กระบวนศึก นั่นเป็นฉูเป่ยเยี่ยยอมเล่นชิงไหวชิงพริบกับนางก็เท่านั้น หากคิดจะทุ่มเทหักหาญด้วยกำลังที่แข็งแกร่งกว่าใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ที่ไม่ทำ และที่เป่ยม่อยังมิแหลกราญ ก็เพราะจอมทัพแห่งตงหลินต้องการชีวิตตัวเป็นๆ ของป๋ายพิงถิง
อันการศึกมิหน่ายเล่ห์ แต่ก็ต้องมีจุดสิ้นสุดเช่นกัน
หากไขว่คว้าได้มาซึ่งความรักที่ยากนักจะเสาะหา ก็ลืมเสียเถิดความแค้นแต่หนหลังฝังดวงจิต
ขอสาบานต่อจันทรา จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์
การชิงชัยด้วยศึกใหญ่ที่คานปู้ จะตัดสินกัน ณ ยอดเขาเตี่ยนชิน ที่ๆ คำสาบานต่อจันทรามิทันจะสิ้นคำ ชีวิตก็เกือบจะสูญสิ้น ฉูเป๋ยเจี๋ยร้าวรานนัก ท่ามกลางการสู้รบที่เขามุ่งมั่นถนอมชีวิตป๋ายพิงถิง อุบายศึกของนางนั้นกลับตรงกันข้าม ด้วยมุ่งร้ายหมายเอาชีวิตเขาโดยเฉพาะ คำแก้ต่างใดๆ ล้วนฟังไม่ขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นฉูเป่ยเจี๋ยก็อยากจะเชื่อในถ้อยคำ
"ให้โอกาสพิงถิงเป็นครั้งสุดท้ายเถิด ให้พิงถิงได้ใช้ความจริงเป็นสิ่งยืนยันตํอทำน
...วำพิงถิงไมํมีทางกระทำ เรื่องที่จะทำให้ทำนต้องทุกข์ใจอยำงเด็ดขาด"
".... เป่ยเจี๋ยกลับตงหลินเถิด กลับไปดูจิตใจที่แท้จริงของข้า"
แต่ความจริงที่เขาได้พบ นั่นคือกับการทรยศหักหลังที่รุนแรง...อีกครั้ง
นอกจากความสูญเสียใหญ่หลวงของแผ่นดินที่ไม่อาจเรียกคืน จอมทัพแห่งแคว้นตงหลินยังต้องแปดเปื้อนมลทิน ด้วยข้อหากบฎหวังชิงบัลลังก์จากองค์ต้าหวางผู้เป็นเชษฐา แม้ด้วยสติปัญญาของผู้เป็นหวางเยี่ยจะสามารถเผชิญกับปัญหาแก้วิกฤติไม่ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟขึ้นมาได้ แต่รอยร้าวในความสัมพันธ์ระหว่างต้าหวางกับหวางเยี่ยอนุชาก็ยากจะเยียวยาให้หายไป
แผนลวงเล่ห์ร้าย สวมรอยใส่ร้ายป้ายผิดอย่างแนบเนียนสนิท ผิงถิงรู้ดีว่าไม่อาจมีพยานหลักฐาน ไม่มีถ้อยคำใดจะแก้ต่างข้อปรักปรำให้ตนเองได้ แต่สัญญาย่อมเป็นสัญญา "ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นั่น" นางเคยทรยศเขาแล้วครั้งหนึ่ง ย่อมไม่อาจทำได้อีกเป็นครั้งที่สอง พิงถิงจึงหวนคืนสู่ตงหลิน
ณ ยอดเขาเตี่ยนชิน ขอสาบานต่อจันทรา จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์
"คำสาบานยังคงอยู่ ให้พิงถิงได้ติดตามฝ่าบาทไปจนสุดหล้าฟ้าเขียว
นับแต่นี้มีเกียรติหรือเหยียดหยามสุดแท้แตํฝ่าบาท เป็นหรือตายก็สุดแท้แตํฝ่าบาท"
ฉูเป่ยเจี๋ยนิ่งมองมือเรียวงามขาวผํองอันแสนคุ้นเคย อยูํใกล้แคํเอื้อม...เพียงยกมือก็แตะถึง เขาเคยกุมมือนี้มาแล้วไมํน้อยกวำพันครั้ง ทั้งเลํนเชยชมและทอดถอนชื่นชม ยังจำความอบอุํนผุดผํองคลํองแคลํวและนุํมเนียนของมือนี้ได้
เพียงแตํเขาไมํเคยคิดมากํอนเลยวำ...นี่จะเป็นมือที่สับปลับเชํนกัน !
"พิงถิงคือผู้งมงาย ฝ่าบาทเองก็เป็นเพียงผู้งมงายเชํนกัน ตํอให้หมํอมฉันพูดจนสิ้นแรง ฝ่าบาทจะ
เชื่อคำพูดของหมํอมฉันแม้เพียงคำเดียวกระนั้นหรือ ? ความผิดพลาดได้เกิดขึ้นแล้ว ชั่วชีวิตนี้เราสอง
คนไมํอาจหวนกลับไปเป็นเชํนกาลกํอนได้อีก !‛
สุดจะทนขํมกลั้นได้ไหวอีกตํอไป น้ำตารํวงพรูลงมาดั่งมุกขาดสาย หญิงสาวทรุดกายลงร่ำไห้กับพื้นดิน
--
ความรักล้ำลึก ความแค้นล้ำลึก
ชั่วชีวิตนี้ของฉูเป่ยเจี๋ย ผู้ที่รักและแค้นมากที่สุด มีเพียงผู้เดียว
รักนาง..คือการทรยศต่อตงหลิน แค้นนาง..คือการทรยศต่อหัวใจตนเอง
ใกล้ชิดแต่ก็เย็นชาเหินห่าง รักแต่ก็ทำร้าย ต่างเจ็บปวดรวดร้าว..ลึกล้ำ
หากต้องเจ็บปวดถึงเพียงนั้น สิ้นสุดกันไปไม่ดีกว่าหรือ ?
ง่ายเกินไปที่จะส่งนางไปสู่ยมโลก เขาจะให้นางอยู่อย่างสิ้นหวังที่จะมีความสุข
จนแม้นางอยากจะตายเขาก็จะไม่ปล่อยให้นางตาย
ความสูญเสียใหญ่หลวงของแคว้นตงหลิน เขาจะให้นางชดใช้ไปชั่วชีวิต
การรับเอาความรักคละเคล้าความแค้น เจ็บปวดรวดร้าวแทบแหลกสลาย
แต่อยำงน้อยวิญญาณเดียวดายเชํนนาง...ก็ได้พบวิญญาณเดียวดายอีกดวง
---
เพราะเป็นแผนลวงแนบเนียนดั่งอาภรณ์ไร้ตะเข็บนั้น ความรักจึงมิอาจต้านทาน
แต่หากว่ารักจริง มีหรือความรักจะต้านทานคำลวงไม่ได้
หากว่ารักอย่างลึกซึ้งก็ควรจะเชื่อถึงที่สุด รักอย่างที่สุด
แม้เหตุการร้อยเปลี่ยนพันแปร ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจ
ยิ้มละไมต้อนรับ พูดด้วยอย่างอ่อนหวาน ด้วยความรักอันพิสุทธิ์มิอาจจะกัดเซาะหัวใจศิลาได้บ้างหรือ พิงถิงฉลาดมาทั้งชีวิต จะหาวิธีฉลาดแก้ต่างการถูกปรักปรำไม่ได้เชียวหรือ แต่ผู้เป็นสตรีแสวงรักย่อมยอมทุ่มจนสุดตัว พิงถิงเพียงอยากจะโง่สักครั้ง ใช้ใจลองใจ หวังใช้ความรักสลายความแค้น
เป็นความโง่เขลาอย่างแท้จริง พิงถิงเคยหลงคิดว่าจะทนได้กับการอดทนกล้ำกลืน ฝืนผ่านคืนวันทุกข์ทรมานในช่วงเวลาที่แสนยาวนานนั้น แต่แล้ว..ความอดทนกลับพังทลายลงในวันที่คาดหวังความอ่อนโยนแม้เพียงน้อยนิด ทั้งหมดล้วนสามารถทนได้ขอเพียงคำพูดประโยคเดียว สายตาหรือกระทั่งการบอกความนัย น่าเสียดายที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ความท้อแท้ทุกข์ตรมถาโทมลงทับร่าง ไม่มีที่ให้ระบาย นางเบื่อโลกนี้แล้ว
เพลงพิณเป็นเหมือนมีดกรีดแทงเข้าใส่หัวใจ แล่เนื้อเขาออกทีละชิ้นๆ
เมื่อฟังไปถึงบทเพลงรันทดกำสรวลเพลงสุดท้าย ความคิดมุ่งหน้าไปอย่างห้าวหาญ
ยอมหักไม่ยอมงอที่แฝงอยู่ในเสียงเพลงทำเอาชายหนุ่มตื่นตระหนก
จนแทบจะหลั่งเหงื่อเย็นเยียบโทรมกาย
สถานการณ์ยังคงเลวร้ายลงเรื่อยๆ
ความรักของหญิงชายช่างน่ากลัวเสียนี่กระไร กระทั่งผู้ซึ่งเปรื่องปราดอย่างหวังเยี่ยยังถลำลึกจนมิอาจถอนตัวได้ บุพเพสันนิวาสประหนึ่งกรรมบันดาลนี้ อาจเป็นเพราะทั้งสองฝ่ายเฉลียวฉลาดเกินไปก็เป็นได้ ถึงได้ก่อให้เกิดคลื่นมรสุมขึ้นมากมาย
--
ยามสองฝ่ายตั้งประจัน ที่แท้ผู้แข็งแกร่งกว่าใช่ว่าจะชนะเสมอไป
มิน่าเล่าเรือนอันอบอุ่น จึงมักเป็นสุสานของวีรชน
เมื่อยอดขุนพลไร้ผู้ต้านในสมรภูมิ เจิ้นเป่ยหวางแห่งตงหลินผู้ยิ่งใหญ่ ปะทะกับป๋ายพิงถิงผู้ไม่หวั่นต่อความตาย ก็มีอันต้องแพ้พ่ายอย่างสิ้นท่า ยอดเหล็กกล้าศตหลอม ได้อ่อนแปรผันร้อยรัดดัชนี ทั้งเจ็บใจ ทั้งไม่เต็มใจ
น่าแค้นนัก น่าชักนัก น่าโมโหนัก ป๋ายพิงถิงที่น่าแค้น ป๋ายพิงถิงที่น่าชัง
ฉูเป่ยเจี๋ยโอบกอดสิ่งล้ำค่าที่แตกสลายได้ง่ายที่สุด
และสูญสลายไปจนไร้ร่องรอยได้ง่ายที่สุดในโลกนี้
บทเพลงยอมสยบ เพลงอยู่ ทำนองอยู่ คนอยู่
สุริยันจันทราดาราฉายอยู่ ฟืนฟ้าแผ่นดินอยู่
ป๋ายพิงถิงในอ้อมอก ยังคงอยู่
แต่สวรรค์อันโหดร้าย ก็ได้ส่งบททดสอบลงมาอีกครั้ง
ชีวิตที่ไม่แก่งแย่งชิงดีกับใคร มิใช่ชีวิตที่คนเช่นเขาทั้งสองจะมีได้
แหฟ้าตาข่ายดินซึ่งถูกถักทอขึ้นด้วยอำนาจ สงคราม กลอุบาย
ตลอดจนความผูกพันทางสายเลือด ได้ถูกวางกับดักเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
หวังว่าเปลวไฟที่ลุกไหม้ท่วมขอบฟ้า จะสามารถลบล้างความรักแห่งหญิงชาย
ใยสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ภายในใจของเจ้าให้หมดสิ้นไปจนไม่เหลือร่องรอยได้
ผู้เป็นราชานั้น หากอยากมีเมืองก็ต้องไร้บ้าน
หัวใจจมดิ่งวูบสู่ความมืดมนลึกล้ำอันไร้ที่สิ้นสุด
ร่างอรชรที่กอดเท่าไรก็ไม่พอ ดวงหน้างามหมดจดที่ยลเท่าไรก็ไม่พอ เสียงขับร้องหวานใสที่พังเท่าไหร่ก็ไม่พอ หญิงสาวที่น่าเวทนา น่าถนอมถึงเพียงนี้ เหตุใจจึงกลับมีผู้ที่ไม่ยอมวางมือ ปล่อยปละละเว้นนางไป ทั้งที่นางได้เร้นกายแล้ว ทั้งที่นางได้เลิกสนใจเรื่องภายนอกแล้ว
ที่นางต้องทนทุกข์เจ็บช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า และหวังเพียงลืมอดีตเสียให้สิ้น
เพื่อเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่รู้จักพอ เพื่อเป็นผู้หญิงของเขาฉูเป่ยเจี๋ย
ขอสาบานต่อจันทรา จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์
"ไม่ว่าหวางเยี่ยจะอยู่ที่ใด ขอเพียงข้ามีภัย หวางเยี่ยจะต้องกลับมาถึงข้างกายข้าทันเวลาอย่างแน่นอน" นางมีความมั่นใจในความรักของเขาเปี่ยมล้น
จันทรา จันทรา ได้โปรดอย่าทรยศข้าเลย
ชั่วชีวิตนี้ เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น อย่าได้ทรยศข้า!
แต่น่าเสียดายที่จันทราไร้โสต หรือบางทีอาจได้ยินความในใจของนางแล้ว แต่กลับมองเมินไม่แยแสอย่างโหดเหี้ยม
แต่ชั่วพริบตานี้ นางได้ลืมสิ้นทุกสิ่ง ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า
กระทั่งมือเท้ายังสูญสลายไป มีเพียงเสียงหัวใจปริแยก แตกสลาย
จากแผ่นดินตงหลิน พิงถิงถูกนำไปสู่แคว้นอวิ๋นฉางอย่างเลือดเย็น ตัวถูกพลัดพราก หัวใจถูกทำลาย
อวิ๋นฉาง ที่ๆ ความรักความแค้นได้ผลักดันให้นายน้อยเหอเสียป่ายปีนสู่ยอดบัลลังก์ เขาได้กลายเป็น พระชามาดา (สวามี) ขององค์หญิงเย่าเทียนผู้ครองแคว้น
พิงถิงไม่รู้สึกเจ็บ ไม่คิดร้องไห้ นางได้ตัดสินใจที่จะลืมความเจ็บปวดและน้ำตา
เหมือนเช่นที่นางตั้งใจจะลืมน้ำเสียงและรอยยิ้มของคนผู้นั้นไปตลอดกาล
ในเมื่อหัวใจสลายสิ้น วิญญาณสาบสูญ ก็ไม่มีสิ่งใดให้หวนกลับไปได้อีกแล้ว
--
เขาทำไม่ได้ดังที่รับปาก เขาผิดสัญญาต่อนาง
ทำให้นางต้องเดินย่ำหัวใจที่แตกสลายเกลื่อนพื้น
ภายใต้แสงเย็นเยียบของคมอาวุธ
การเลือกที่ผิดพลาด ทำให้ฉูเป่ยเจี๋ยต้องเสียใจมากที่สุดในชั่วชีวิตนี้ เขาเองที่เป็นคนตัดสินใจ เขาเองที่เป็นคนเลือก เล่ห์กลนั้นถูกใช้เพื่อให้พิงถิงได้มองเห็นกระจ่างชัดถึงฐานะของตัวนางเองในหัวใจของเขา ได้ทำให้พิงถิงตระหนักอย่างโหดเหี้ยมว่า ไม่ว่าเขาและนางจะรักกันอย่างลึกล้ำมากเพียงใด ยามเมื่อเขาเจอหนทางที่ต้องเลือก สุดท้ายผู้ที่จะถูกสละทิ้ง ก็คือตัวนาง สำหรับพิงถิงที่รักเขาอย่างบริสุทธิ์ใจดั่งสายน้ำอันใสกระจ่างแล้ว นั่นถือเป็นการทำร้ายถึงชีวิตเลยทีเดียว นับแต่ตระหนักสิ่งนี้เป็นต้นมา ความเจ็บปวดดั่งถูกทะลวงใจก็ไม่เคยหยุดทรมานฉูเป๋ยเจี๋ยแม้แต่ชั่วขณะจิต
ป๋ายพิงถิงผู้เปรื่องปราด ป๋ายพิงถิงผู้โง่เขลา ป๋ายพิงถิงผู้ดีงาม ป๋ายพิงถิงผู้โหดเหี้ยม
ล้วนแต่เป็นป๋ายพิงถิงที่ฉูเป่ยเจี๋ยรักใคร่อย่างลึกซึ้งทั้งสิ้น ชั่วชีวิตนี้ไม่มีทางแปรผัน
ความรักสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ร้อยพันแปรผันรักมั่นไม่เสื่อมคลาย พิงถิง..ข้าเข้าใจแล้ว
ขอเพียงได้เจ้ากลับคืนมา ฉูเป่ยเจี๋ยขอสาบานต่อฟ้า จะปกป้องคุ้มครองเจ้าไปตลอดกาล
รักเจ้าไปตลอดกาล จะไม่ให้ใครหรือเรื่องใดมาแยกเราจากกันได้อีกตลอดกาล
ขอร้อง...เจ้าโปรดมองกลับมา แม้เพียงแค่พริบตา
แผ่นดินโบราณผืนนี้ได้นิ่งเงียบงันเพื่อเจ้า
ประกายกระบี่สามพันเจ็ดร้อยเล่มได้เปล่งแสงเพื่อเจ้า
ฉู่เป่ยเจี๋ยผู้โง่เขลาไม่รู้จักรักถนอมมากที่สุด ได้มาที่นี้เพื่อเจ้า
ขอเพียงได้เห็นรอยยิ้มของเจ้าอีกครั้ง
เลือดร้อนระอุและความภักดีทั้งมวลของชายผู้นี้
จะเป็นของเจ้าแต่เพียงผู้เดียวนับแต่นี้ไป