ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

เตือน!!!เผื่อเวลาเดินทางกว่า 2 ชม. สนามบินดอนเมืองสุดแออัด ตรวจสัมภาระเข้ม



วันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพความแออัดหนาแน่นของผู้โดยสารบริเวณจุดตรวจคัดกรองสัมภาระ ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ภายหลัง บริษัท ท่าอากาศยานไทย ได้ประกาศปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของสนามบินดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า "ท่าอากาศยานดอนเมืองจะทำการปรับเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัย ด้วยการตรวจค้นและเอ็กซ์เรย์กระเป๋า/สัมภาระของผู้โดยสารทุกชิ้นที่นำเข้าไปในพื้นที่เช็คอิน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการแทรกแซงโดยมิชอบด้วยกฎหมาย การปรับเพิ่มมาตรการดังกล่าวอาจทำให้เกิดความล่าช้าได้ ท่าอากาศยานดอนเมืองต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย"

ผลจากการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานดอนเมืองทำให้สายการบินหลายสายเตือนผู้โดยสารว่า ให้เผื่อเวลาไว้และมาถึงสนามบินเร็วกว่าปกติโดยแนะนำให้ผู้โดยสารที่เดินทางในประเทศเดินทางถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมง 30 นาที ผู้โดยสารระหว่างประเทศควรถึงสนามบิน 3 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนเครื่องออก เมื่อ 19 ก.ค.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด




 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2558   
Last Update : 20 กรกฎาคม 2558 8:52:43 น.   
Counter : 800 Pageviews.  

เช็กให้ชัวร์! ปิด24ถนนเที่ยงวัน-3ทุ่ม เส้นทางปั่นเพื่อแม่ 16ส.ค.



พ.ต.อ.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร(รองผบก.จร.) กล่าวว่า

ในวันที่ 16 ส.ค.จะมีการจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา83พรรษา ระยะทาง 43 กิโลเมตร ซึ่งมีเส้นทางจุดเริ่มต้นตั้งแต่ลานพระราชวังดุสิต-แยกลานพระบรมรูปทรงม้า-ถนนศรีอยุทธยา-แยกวัดเบญฯ-ถนนศรีอยุทธยา-แยกเสาวนีย์-แยกศรีอยุธยา-สี่แยกพญาไท-อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-แยกสามเหลี่ยมดินแดง-แยกดินแดงถนนวิภาวดีรังสิต-สนามกีฬาทบ.-แยกสุทธิสาร-แยกลาดพร้าว เลี้ยวขวาเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์-ถนนพหลโยธิน-ร๑๑.รอ. 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 12.00-21.00 น. ทุกช่องทางทั้งไปและกลับ ในเส้นทางปั้่นจักรยานในช่วงถนน 24 เส้นทาง ดังนี้ 

1.ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกวัดเบญจมบพิตร ถึง แยกพญาไท 

2.ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึง บริเวณลานพระราชวังดุสิต 

3.ถนนพญาไท ตั้งแต่แยกพญาไท ถึง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 

4.ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกมิสกวัน ถึง แยกพระรูป ร.5 

5.ถนนลิขิต ตั้งแต่ ถนนพิษณุโลก ถึง ถนนศรีอยุธยา 

6.ถนนพระราม5 ตั้งแต่ แยกราชวิถี ถึงแยกพาณิชย์ 

7.ถนนราชวิถี ตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถึง แยกสามเหลี่ยมดินแดง

8.ถนนนครปฐม ตั้งแต่ ถนนพิษณุโลก ถึง ถนนศรีอยุธยา 

9.ถนนสวรรคโลก ตั้งแต่ แยกอุภัยเจษฎุทิศ แยกยมราช 

10.ถนนกำแพงเพชร5 ตั้งแต่ แยกอุภัยเจษฎุทิศ ถึง ถนนพระราม6 

11.ถนนพระราม6 ตั้งแต่ แยกตึกชัย ถึง อุรุพงษ์ 

12.ถนนพญาไท ตั้งแต่ แยกราชเทวี ถึง แยกพญาไท 

13.ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกพญาไท ถึงแยกราชปรารภ 

14.ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกตึกชัย ถึง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 

15.ถนนโยธี ตั้งแต่ ถนนพระราม 6 ถึง ถนนพญาไท 

16.ซอยรางน้ำ 17.ถนนราชปรารถ ตั้งแต่แยกราชปรารภ ถึง ถนนราชวิถี 

18.ถนนดินแดง ตั้งแต่ แยกสามเหลี่ยมดินแดง ถึง แยกด่วนดินแดง 

19.ถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่ แยกดินแดง ถึงแยกหลักสี่ 

20.ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ แยกรัชโยธิน ถึงแยกอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ 21.ถนนดินแดง ตั้งแต่แยกดินแดงถึงแยกประชาสงเคราะห์ 

22.ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ จุดกลับรถปากซอยพหลโยธิน 2 ถึง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 

23.ถนนสุทธิสาร ตั้งแต่ ปากซอยอินทามระ16ถึงแยกสุทธิสาร-รัชดา 

24.ถนนมิตรไมตรี ตั้งแต่สามแยกถนนมิตรไมตรี 3 ถึง ถนนวิภาวดีรังสิต 

โดยหากประชาชนที่ลงทางด่วนบริเวณด่านดินแดงสามารถใช้ได้ 2 ช่องจราจรเพื่อขึ้นยกระดับดอนเมืองโทล์เวย์ซึ่งจะมีการยกเลิกค่าผ่านในวันที่ 16 ส.ค.58 ตั้งแต่เวลา 12.00-23.00น.

อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค.นี้ จะมีการซ้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารตามเส้นทางปั่นจักรยานตามที่มีการวางแผนไว้โดยระหว่างที่ซ้อมวางกำลังจะมีการจัดเบี่ยงการจราจรโดยให้รถผ่านได้ 1 ช่องทางเท่านั้น ในเส้นทางดังกล่าว 

นอกจากนี้ ในวันที่ 2 ส.ค. 58 จะมีการซ้อมใหญ่โดยจะมีการปิดเส้นทางเสมือนจริง ในเส้นทางที่กำหนดตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไปจนกว่าจะซ้อมเสร็จ

 ทั้งนี้ในช่วงที่มีการปิดการจราจร  แนะนำให้ประชาชนเลี่ยงเส้นทางไปใช้เส้นทางอื่นแทนเพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร โดยสำหรับประชาชนที่จะข้ามสะพานพระราม 8 สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สะพานซังฮี้ ยังสามารถใช้ถนนราชวิถี ถนนราชดำเนินตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ได้ตามปกติ นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถใช้ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 1 ถนนพระาม 6 แทน



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน





 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2558   
Last Update : 18 กรกฎาคม 2558 17:50:34 น.   
Counter : 1392 Pageviews.  

ถามใจก่อนว่ากล้ากินมั๊ย อาหารแปลกนานาชาติ



มาดูเรื่องเบาๆเกี่ยวกับอาหารกันบ้า­ง เป็นอาหารที่แปลก แต่ไม่ใช่แนวสยองทรมานสัตว์อะไรแบบนั้น เป็นอาหารที่หากินได้ทั่วไปในแต่ละประเทศ อาจดูธรรมดาในสายตาใครหลายคน แต่ก็แปลกในสายตาคนอีกมากเช่นกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง และคุณอยากลองเมนูไหนที่สุด





 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2558   
Last Update : 18 กรกฎาคม 2558 17:48:45 น.   
Counter : 1197 Pageviews.  

รู้ลึกรู้จริงเรื่องสารให้ความขาว ขาวโอโม่ กลูต้าไธโอน ที่หลายคนโดนหลอก



กลูต้าไธโอนคืออะไรให้ความขาวจริงหรือ

คนผิวคล้ำ ผิวดำ ผิวน้ำผึ้ง ความจริงมีความสวยที่แต่งต่างและโดดเด่นกันอยู่แล้วอยูที่ว่าคุณจะผลักดันออกมามาหน้อยแค่ไหน แต่ด้วยกระเเสนิยมของหนุ่มสาวชาวเอเชีย ให้เครติดกับคนที่ผิวขาวออร่ามากกว่า จึงทำให้สาวๆที่มีสีผิวไม่ขาวต้องหาตัวช่วย โชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่มีนักวิยาศาสตร์หัวใส นำสารที่ชื่อว่ากลูตาไธโอนนี้ออกมาสังเคราะห์และวางขายแบบไม่ผ่าน อย. หรือแม้กระทั่งบริษัทผลิตเครื่องดื่มชั้นนำต่างก็หลอกสาวๆได้อย่างง่ายดาว่า เติมกลูต้ากินแล้วขาวใส คุณเคยสูญเงินไปกับการหลอกลวงนี้กี่เท่าไหร่แล้ว วันนี้คนอยากขาวมาทำความรู้จักกับสารตัวที่ว่านี้กันค่ะแท้จริงแล้ว กลูต้าไธโอนนั้นช่วยให้ขาวก็มากน้อยแค่ไหน

1. กลูตาไธโอน (glutathione)คืออะไร
กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วย

2ร่างกายผลิต กลูตาไธโอนได้หรือไม่
เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายสามารถผลิตกลูตาไธโอนได้เอง และถูกผลิตมากที่สุดที่ตับ ปอด ไต ม้าม ตับอ่อน และเลนส์แก้วตา สรุปร่างกายสามารถสร้างได้ แพทยืตรวจพบว่าคนที่สุขภาพดีมีกลูต้าไธโอนสูง กว่าคนป่วย

3. ค้นพบได้อย่างไร
ในทางการแพทย์พบว่ามีการนำกลูตาไธโอนมาทดลองใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้รับการอนุมัติข้อบ่งใช้จากองค์การอาหารและยา ผลข้างเคียงอย่างหนึ่งที่น่าแปลกใจ คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดกลูตาไธโอนนั้นมีสีผิวที่ขาวขึ้น จึงมีคนหัวใสนาำจุดนี้มาทำการตลาด

4.กินแล้วขาวช้าแต่ขาวชัวส์จริงหรือไม่
ไม่จริงค่ะ ผลิตภัณฑ์กลูตาไธโอนที่มีขายกันทั่วไป ในรูปแบบผงและเม็ด สามารถถูกทำลายได้ในทางเดินอาหารของมนุษย์ ดังนั้นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการรับประทานกลูตาไธโอนในรูปแบบของยารับประทานนั้นแทบจะไม่มีเลย เกือบเท่ากับ 0

5. ฉีดเลยดีกว่าขาวไว
เมื่อกินไม่ได้ผล หลายคนจึงหันไปฉีด การฉีดในปริมาณที่มาก ได้ผลขาวขึ้นจริง แต่ขาวเพียวชั่วครู่เท่านั้นค่ะ หากโชคร้ายอาจโดนยาปลอม!!! หมอปลอมอีก!!! การฉีดยาจำเป็นต้องกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการให้ยา เช่น การฉีดยาในอัตราที่เร็วเกินไป การติดเชื้อในกระแสเลือดจากเครื่องมือที่ไม่สะอาดเกิดฟองอากาศอุดตันหลอดเลือด อาจทำให้เสียชิวิตได้ทันที

6.ทาทุกวันขาวชัวส์ จริงหรือไม่
สารกลูตาไธโอน เมื่อนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ประเภทครีม หรือเจล สำหรับทาผิวหนัง เพื่อหวังให้ผิวขาวนั้น จะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ เพราะโมเลกุลสารนี้ค่อนข้างใหญ่ ไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ สาวๆมักถูกหลอกจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

7. มีอย. ต้องปลอดภัยสิ!!!
หลายคนหลอกขายว่า กลูต้าไธโอนมี อย.แล้วนะ ไม่จริงค่ะ ปัจจุบันที่พบทั่วไปในท้องตลาดเป็นยาเม็ดที่ อย.อนุญาตให้ขายเป็นอาหารเสริมนั้น ที่จริงเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์กลูตาไธโอนคือ อมิโนแอซิด เอ็นอะซิทิลซิสเตอีน ซึ่งโมเลกุลชนิดนี้ จะสามารถถูกดูดซึมเข้าทางเดินอาหารได้ง่ายและรวดเร็ว และจะไปรวมตัวกับโปรตีนอีก 2 ชนิด คือ อมิโนแอซิด ไกลซิน และ กลูตาเมทที่มีอยู่มากมายในกระแสเลือดจากอาหารที่รับประทานเข้าไป การรวมตัวของอมิโนแอซิดทั้ง 3 ชนิด ก่อให้เกิดเป็นโมเลกุลกลูตาไธโอนในกระแสเลือด

9. ผลข้างเคียง ของกลูตาไธโอน
หากได้รับมากไป อาจทำให้ ผิวหนังแดงความดันโลหิตต่ำหอบหืดเฉียบพลันิ อาจเกิด anaphylactic reaction จากการปนเปื้อนหรือความไม่บริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังเป้นอันตรายต่อเด็กและสตรีมีครรภ์


ที่มา ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก mamaexper.com
//www.mamaexpert.com/topic/11535




 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2558   
Last Update : 18 กรกฎาคม 2558 17:45:58 น.   
Counter : 1029 Pageviews.  

ฮือฮา! คุณยายยังสาว มีลูก 2 หลานอีก 3 แต่หน้าตาสวยใสราวกับเด็กสาววัย 20



เว็บไซต์ต่างประเทศเผยแพร่ภาพที่กำลังเป็นกระแสฮือฮาอย่างมากบนโลกออนไลน์ของจีน


สำหรับ "คาซูโอะ อิโนะอุเอะ" คุณยายที่อาจจะได้ชื่อว่ามีอายุน้อยที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยวัยเพียง 42 ปี แต่หน้าเด็กมาก เธอมีลูกสาวแล้ว 2 คน แถมยังมีหลานอีกตั้ง 3 คน!

ที่ใครต่อใครพากันให้ความสนใจก็เพราะว่า ญี่ปุ่นมีสถิติวัยรุ่นตั้งครรภ์ต่ำมาก และคาซูโอะก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอแต่งงานเมื่อตอนอายุ 19 ซึ่งเป็นวัยที่ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่อยู่ และเธอก็มีลูกคนแรกในปีนั้น
เมื่อภาพเธอพร้อมหน้าลูกและหลานสาวถูกตีพิมพ์ในนิตยสารสตรีของญี่ปุ่นแล้ว สื่อจีนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ใครต่อใครพากันมาชื่นชมว่า โอ้โห! สุดยอดมาก เธอสวยจังเลย หยั่งกะอายุแค่ 20 ต้นๆเอง






ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด





 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2558   
Last Update : 17 กรกฎาคม 2558 8:50:50 น.   
Counter : 1549 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  

tukdee
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]