เที่ยวแล้วสบายใจ...ไม่เน้นรายได้จากงานประจำ

เยี่ยมเยือนมิตรสหาย..ชายฝั่งอันดามัน :: ตอนน่าจะจบซะที ถึงกระบี่แล้วนี่นา

สวัสดีก๊าบ....

มาแระ ถึงกระบี่แระ
ตอนนี้น่าจะจบซะทีนะ มาถึงกระบี่แล้วนี่นา

หลังจากเดินทางมาถึงกระบี่
ตรงดิ่งไปที่เดอะมาริไทม์ ปาร์ค รีสอร์ท แอนด์สปา

แต่ยังไม่ได้เวลาทำงาน
ออกไปหามื้อเช้ารับประทานกันดีกว่า


ไม่มีจุดหมายค่ะ เน้นบรรยากาศ ตามเคย



ขับออกมาจากรงแรมเรื่อยๆ เห็นร้านนี้
อืมมมมมม เข้าท่า เลี้ยวเข้าไปร้านนี้แหละ "ตะโกลา"

ไม่รู้หรอกว่าที่นี่เป็นร้านดัง แต่เห็นว่าแต่งร้านสวยดี ชอบค่ะ มีลูกค้านั่งรับประทานกันอยู่สองโต๊ะ บรรยากาศโล่งโปร่งสบายดีค่ะ
มีโต๊ะด้านนอกอยู่ริมถนน พนักงานบอกว่าเสียงจะค่อนข้างดังค่ะ
ช่วงเช้าจึงไม่เปิดให้บริการ เราก็เลยเลือกนั่งโต๊ะด้านใน









เมนูอาหารเช้า ค่ะ

ติ่มซำ สารพัด อาหย่อยยยยย มีขนมปังหน้าหมู และปอเปี๊ยะทอดด้วย อร่อยทั้งสองเมนูค่ะ เสิร์ฟพร้อมผักปลอดสารพิษ ที่ทางร้านปลูกเองแบบไฮไดรโฟจินิก (เรียกถูกมั้ยหว่า ??) รับประทานกับ บะกุ๊ดเต๋ น้ำซุป หอมๆ หมั่นโถ สูตรพิเศษของที่นี่ รับประทานกับบะกุ๊ดเต๋ อร่อยค่ะ เครื่องดื่มเป็นชาร้อนหอมๆ พร้อมชาจีนเติมไม่อั้น ถ้ายังไม่อิ่ม ซาลาเปาไส้ครีมอีกซักเข่ง ก็น่าสนใจ นะคะ













ทั้งหมดนี้ราคาสามร้อยกว่าบาทค่ะ เราว่าไม่แพงนะ
กินอิ่ม ออกจากร้าน ตะโกลา
มุ่งหน้าเข้าเมือง ไปเก็บภาพสัญลักษณ์เมืองกระบี่มาฝาก บริเวณท่าเรือ ชมวิวเขาขนาบน้ำ แล้วเราก็เข้าไปทำงานที่โรงแรมกระบี่มาริไทม์ ปาร์ค





ตัดภาพมาที่เวลาหลังเลิกงานเลยนะคะ

เรามุ่งหน้ามาพักทีบ้านอันดามัน
ชาวคณะที่เดินทางมาทำงานด้วยกัน ถามว่าทำไมไม่พักที่โรงแรมที่เรามาทำงาน จะได้ไม่ต้องเดินทางออกไปข้างนอก

เราบอกว่า..
ไม่เอาอ่ะ ถ้ามากระบี่ ต้องพักที่บ้านอันดามันเท่านั้น
ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร ตามไปดูด้วยกันมั้ยล่ะ
ไปเช็คอินตอนค่ำแล้ว การบริการและมาตรฐานทุกอย่างคงที่ค่ะ

ไม่ลงในรายละเอียดนะคะ เพราะว่าเคยรีวิวไว้แล้วที่นี่

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7579145/E7579145.html

หากสนใจข้อมูลโดยละเอียดคลิ๊กเข้าไปดูได้ค่ะ



เอาของขึ้นไปเก็บบนห้อง แล้วลงมาสั่งอาหาร
โทร.ถามชาวคณะว่าอยู่ที่ไหน จะไปรับมากินข้าวด้วยกัน

ทางโน้นบอกว่าอาศัยรถสื่อมวลชนอกมาเดินเล่นย่านการค้า
ตอนนี้รอคิวซื้อโรตี อยู่หน้าห้างโวค อิชั้นเลยรบกวน พนง.ที่นี่
ให้เอารถไปรับเพื่อนๆ บริการทุกระดับประทับใจ
Smiley
คนรอซื้อโรตีเยอะมากค่ะ
ต้องมานั่งรอกันอยู่พักหนึ่ง ถึงจะได้

พนง.บ้านอันดามันก็ใจดี ไม่มีบ่นซักคำ
ได้โรตีแล้ว กลับไปบ้านอันดามัน ค่ะ
หอบหิ้วขนมกันพะรุงพะรัง ระหว่างที่นั่งมาในรถชาวคณะเล่าให้ฟังว่ามีสองแถวอาสาจะพาเที่ยวรอบเมือง และไปส่งกลับมาริไทม์
คิดค่ารถเหมา 600 บาท

โอ้ว..แม่เจ้า
กะฟันกันเลยนะนั่น ดีที่เราโทร.มาหาพอดี

ก็เลยบอกปฏิเสธไป ได้นั่ง Wish มาบ้านอันดามันแทน





หลังจากรับประทานอาหาร และพาชาวคณะเยี่ยมชมบ้านอันดามัน
ทุกคนก็ถึงบางอ้อ ว่าทำไมเราไม่พักที่โรงแรมที่ต้องมาทำงาน โดยที่เราไม่ต้องอธิบายให้มากความ ห้องสวย บริการเยี่ยม อาหารอร่อย ราคาถูกกันกว่าครึ่ง และที่เหนือกว่ามากมาย คือมิตรภาพที่ได้รับจากบ้านอันดามัน





หลังจากพูดคุยแลกเปลี่ยนสรุปงานที่เราทำร่วมกันมาสามวัน
ชาวคณะก็ขอตัวกลับโรงแรม โดย พนง.บ้านอันดามัน บริการขับรถไปส่งถึงที่ ในขณะเวลาประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ ขอบคุณมากๆค่ะ
ขึ้นห้องก็อาบน้ำนอนเลย
รายละเอียดในห้องพัก เหมือนที่เคยรีวิวไว้แล้วค่ะ ไม่ขอลงซ้ำนะคะ



เช้าแล้ว...

ตื่นไปทำงาน หลังรับประทานมื้อเช้า
ที่มีข้าวต้มทะเลให้เลือกด้วย (แต่ไม่มีภาพ)

วันนี้ฟ้าแจ่มใส อากาศสดชื่นดีค่ะ ออกไปทำงานได้ครึ่งวัน ก็แว๊บบบบ แล้ว
วันสุดท้ายแล้วนี่ ไปเที่ยวกันดีกว่า ขับรถเล่นไปสุสานหอยค่ะ



นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน จ่ายค่าธรรมเนียม 20 บาท แล้วก็เข้าไปชมกันเดินลงมาแค่พอเหนื่อย กรุณาปฏิบัติตามกฏโดยเคร่งครัดด้วยนะคะ









ถ่ายรูปไปอีกนิดๆหน่อยๆ ก็กลับค่ะ มุ่งหน้าไปอ่าวพระนาง หาอะไรกินกันดีกว่า ขับรถออกมาไม่ไกล มีใครบางคนแนะนำที่ร้านวังทรายซีฟู๊ด ไหนลองหน่อยจิ๊ มองเห็นวิวทะเล จากโต๊ะที่นั่ง

สั่งอาหารมาสองอย่าง เครื่องดื่มสามขวด
ถามเรื่องรสชาติ ก็ไม่ได้แย่อะไร ราคาก็พอรับได้
แต่ถ้าถามว่าติดอก ติดใจ แบบต้องกลับมาอีกไหม

ส่วนตัวสำหรับเรา ไม่อ่ะค่ะ มาเพื่อรู้ ก็พอแล้ว





ออกจากร้านอาหาร

อยากกินกาแฟ พยายามหาร้านกาแฟเก๋ๆ
แต่หาไม่เจอ ความหวังสุดท้าย คงจะช่วยเราได้ที่สตาร์บัค
 
Smiley ปรากฏว่า พขร.อยากกินไอติม
ก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายเป็นร้านถัดไป ซะงั้น
 
Smiley







กินเสร็จ ย้อนกลับมาบ้านอันดามัน
กะว่าจะนอนพักเอาแรงซักงีบ รู้สึกเพลียแดด

พขร.หลับปุ๋ยไปแล้ว
อิชั้นนั่งเช็คเมล์อยู่บนห้อง สัญญาณ WiFi แรงดีค่ะ
แถมใช้ฟรีอีกตะหาก ชอบ ชอบ



ไม่นานเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น
เจ้าบ้านมาถึงแล้วค่ะ โทร.มาบอกว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่ลงไปหม่ำได้เลย
เจ้าบ้านเข้าครัวรอแล้ว



วันนี้มีเมนูพิเศษ ตามคำขอของแขก
แต่เมนูนี้ เจ้าบ้านจัดให้นอกรายการขอ ขอบคุณค่ะ

ปูเนื้อแน่นๆ น้ำจิ้มรสเลิศ



กลัวมาไม่ถึงกระบี่

เจ้าบ้านจัดให้ "หอยชักตีน" เนื้อแน่น หวาน หนึบ



และเมนูนี้ ที่กินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าที่นี่

โดยเฉพาะฝีมือเจ้าถิ่นเข้าครัวลงมือปรุงเอง "สุดยอด" ต้มยำกุ้ง



บรรยากาศแบบนี้ จะหาที่ไหนได้

อาหารรสเลิศ เครื่องดื่มที่โปนดปราน มิตรภาพ และการสนทนากับสหายผู้รู้ใจ ค่ำคืนที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว คุยกันอย่างออกรส คุยกันที่กระบี่ไม่พอ
ยังมีการโฟนอินไปยั่ว(โมโห) มิตรสหายอีก

ทั้งมิตรจาก ตะกั่วป่า ,บางเขน ,สวนสยาม

ซึ่งสายสุดท้ายนี่คุยนานมากกกกกกก
หัวเราะกันไม่หวาด ไม่ไหว คุยจนแบตเตอรีปลายทางหมด



นึกว่าอาหารจะหมดแค่นั้น

เปล่าเลยค่ะ เจ้าบ้านหายเข้าครัวไปแว๊บนึง
ก็ออกมาพร้อมจานนี้ สด อร่อย อีกแล้วครับท่าน

กะจะให้ท้องแตกตายกันไปเลยใช่มั้ยเนี่ย ??


เริ่มมองหาตัวช่วย เพราะกินเข้าไปไม่หมดแน่
ตกดึกก็แยกย้าย ไปนอนหลับพักผ่อน ตอนเช้าเราต้องเดินทางกลับกรุงเทพ

ขอบคุณเจ้าบ้านกระบี่ ที่เลี้ยงดูเราอย่างดีทุกครั้งที่มาเยือน



เช้า ตื่นขึ้นมาก็รีบรับประทานอาหารเช้า
เพราะวันนี้เราต้องเดินทางขับรถอีกไกล

มีโอกาสได้คุยกับคนข้างกาย เจ้าบ้านนานพอสมควร
เพราะเจ้าบ้านยังไม่ตื่น

ได้โทร.ไปร่ำลา ตอนออกเดินทางมาแล้ว
สัญญาว่าจะไปหาอีกในเร็ววันนี้ค่ะ

ขับรถรวดเดียวเลยค่ะ
ไม่ได้แวะพักที่ไหน ได้แวะซื้อไข่เค็มไชยามาฝากที่บ้านเท่านั้น
ยังไม่ทันมืดก็ถึงบ้าน(กทม.)ค่ะ



จบทริป "เยี่ยมเยือนมิตรสหาย..ชายผั่งอันดามัน" อย่างสมบูรณ์
ขอบคุณเจ้าบ้านทุกแห่ง ที่ให้การต้อนรับ ทั้งตะกั่วป่า ภูเก็ต และกระบี่

ขอบคุณน้องแมว และน้องเต้ย
ที่เลือกสรร แพคเกจที่พักถูกและดีที่ป่าตองให้

ขอบคุณสังคมดีๆ ที่ห้องบลูแพลนเนท ที่ทำให้เรารู้จักกัน
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และลงชื่อเป็นกำลังใจ

ทริปต่อไป

ยังมีมาจ่อคิวอยู่อีกยาว โปรดติดตามค่ะ
 


Smiley

ติดตามอ่านรีวิวฉบับเต็มจากบอร์ด Blueplanet ได้จากลิงค์ค่ะ


 
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8021094/E8021094.html

 






 

Create Date : 02 มีนาคม 2553   
Last Update : 2 มีนาคม 2553 15:00:13 น.   
Counter : 1915 Pageviews.  

หาเรื่องนอนนอกบ้าน 4 วัน 3 ทะเล ชายฝั่งตะวันออก : ตอนที่ 1 พัทยา พาเพลิน

เป็นรีวิวการเดินทางเหตุการณ์ตั้งแต่พฤษภาคม ปี 52 ค่ะ
ขอนำมาเก็บไว้ที่บล็อค เพื่อป้องกันกระทู้หายไปกับกาลเวลา


Smiley   Smiley   Smiley   Smiley   Smiley   Smiley



สวัสดีค่ะ

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา (มีนา-เมษา) ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน
เกิดอาการหงุดหงิด บอกไม่ถูก ต้องหาเรื่องออกนอกบ้าน เปลี่ยนที่กิน ที่นอน

ทีแรกตั้งใจ จะไปกาญจนบุรี
แต่พอดีพยากรณ์อากาศบอกว่า จะมีฝนตกชุก ประกอบกับยังห่วงงานที่บ้าน
เกรงว่าไปเที่ยวแล้วจะเป็นกังวล ถ้ามีใครโทร.ตามจะกลับมาสะสางงานไม่ได้

เลยตัดสินใจ ไปใกล้ๆ บ้านแล้วกัน
ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน ยังกลับได้ ไม่เสียเวลา

จุดหมาย จะเป็นที่ไหนไปได้ ถ้าไม่ใช่ "พัทยา" อีกแล้ว(เหรอ ??)

วันออกเดินทาง (13 พ.ค.) เจอฝนกระหน่ำตลอดทาง
ไปถึงพัทยา ตอนประมาณ 11 โมง ฝนหยุดตกพอดี นึกอยากรับประทาน "ส้มตำ" เลยไปที่นาเกลือ ซอย 18 ร้านป้าประไพ มื้อนี้หมดไป เกือบ 400 บาท (ดาวแดง 2 ขวด) ไม่ประทับใจ เราว่าเคยกินที่อื่นมันอร่อยกว่านี้อ่ะ ทุกเมนูเลย



เข้าที่พัก ที่เดิม ที่เก่า
บี.เจ ฮอลิเดย์ ลอดจ์ ถนนเลียบชายหาด ซอย 3

//www.bjpattaya.com/ ชอบที่นี่ เพระรู้สึกเหมือนนอนอยู่บ้าน



วิว ทะเลจากห้องพัก หายไปแล้ว
ตั้งแต่ที่พักหรู ตึกข้างๆ เค้าสร้างเสร็จ เลยได้เห็นแค่วิวสระว่ายน้ำ วันนี้ไม่มีแดด เหมาะอย่างยิ่งแก่การลงไปว่ายน้ำ สลายไขมัน จะช้าอยู่ใย ไปว่ายน้ำกันดีกว่า



ว่ายน้ำ อยู่นานเหมือนกัน
จนเริ่มหิวอีกรอบ ก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ออกไปหาอะไรกินดีกว่า

เดินไปนะ อยู่ที่นี่ เอารถเข้าจอดแล้วก็ไม่ต้องใช้รถอีกเลย เดินไปไม่กี่ก้าว ก็ถึงที่หมายไปไหนไม่เคยได้ซักที กินมันอยู่ที่เดียวนี่แหละ ชอบบรรยากาศ ร้านนี้ ที่สำคัญพนักงานเค้ารู้ใจ เราดี จ่ายตังค์แล้วไม่เสียดาย ที่สำคัญมากๆ อีกอย่าง โปรโมชั่นเครื่องดื่ม 2 ฟรี 1 ถึงแม้จะลองมาคำนวนดูแล้ว ราคาเฉลี่ยมันก็ไม่ได้ถูกนะ





สั่งอาหารแล้ว ยังไม่ได้ ลุกไปเก็บภาพสวยๆ ก่อนดีกว่า
กับบรรยากาศพัทยา ยามเย็น หลายเจ้าเริ่มทยอยเก็บเตียงผ้าใบ
แต่กิจกรรมกีฬาทางน้ำ ยังคงดำเนินต่อไป พระอาทิตย์เริ่มจะโบกมือ บ๊าย..บาย แต่นักท่องเที่ยว ก็ยังไม่ลาทะเล เก็บภาพไปเรื่อยๆ ชอบภาพในช่วงเวลานี้ ทะเลตอนเย็นๆ ใกล้ค่ำ







ข้ามฝั่งมาได้เวลาอาหารลงโต๊ะ



คืนนั้น กลับเข้าห้องตอนไหน จำไม่ได้แล้ว

รู้แต่ว่าพอเปิดคอมฯ เจอรีวิวหลีเป๊ะ ของพ่อน้องพันไมล์
เจอแซวไปหลายคอมเม้นท์ เลยอายปิดเครื่องเข้านอน

เช้าตื่นขึ้นมา พร้อมเสียงฝนตก
เช็คเอ้าท์ตอนสายๆ ตั้งใจว่าจะไปหามื้อเช้ากิน ที่ร้านประจำ

ปรากฏว่า..
ฝนตกหนักมาก

อดถ่ายรูป ตั้งหลายมุม ได้มุมนี้มา
เพราะว่านั่งถ่ายอยู่ในรถ ฟ้ามืดตื๋อ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก



เอาไงดี ฝนตกหนักขนาดนี้
ลองไปดูร้านป้าติ๋ม ดีกว่า อยากกินต้มโคล้งปลาสลิด

ปรากฏว่า....

เจอน้ำท่วม ตลอดทางเลยค่ะ
หน้าร้านป้าติ๋ม ก็พอมีน้ำขังบ้างเล็กน้อย ที่สำคัญฝนยังคงตกหนัก
ไม่แวะดีกว่า ยังพอทนหิวได้



แวะไปซื้อ องุ่น ที่ซิลเวอร์เลค เหมือนปกติ
แต่ที่ไม่ปกติคือ กระโดดลงไปซื้อ แล้วรีบกระโดดขึ้นรถ อดถ่ายรูป

ฝนยังคงตก อย่างต่อเนื่อง และรุนแรง จนในที่สุด เราก็เลยไปจนถึงระยอง
ไปได้รับประทานอาหารมื้อแรกที่ร้านไหน ตามไปตอนสองนะคะ



ชมรีวิวภาคเต็มจากบอร์ด Blueplanet ได้จากลิงค์นี้นะคะ

 

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7875834/E7875834.html





 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2553 23:48:24 น.   
Counter : 1361 Pageviews.  

หาเรื่องนอนนอกบ้าน 4 วัน 3 ทะเล ชายฝั่งตะวันออก : ตอนที่ 2 บ้านเพ-แม่พิมพ์

จากความเดิมตอนที่แล้ว

หาเรื่องออกไปนอนนอกบ้าน ในช่วงเวลาที่ฝนฟ้ากระหน่ำตก
วันแรกที่พัทยา ขับรถเลาะไล่ ชายทะเลมาจนถึงระยอง

วันที่สอง เราเริ่มมื้อรกของวันกันตอนสิบโมงกว่าๆ ที่ระยอง
ก่อนที่จะไปชุ่มฉ่ำ กับทะเลระยองท่ามกลางสายฝนค่ะ

ขับรถฝ่าสายฝน และน้ำท่วมขัง จากพัทยามาจนถึงระยอง
เลี้ยวขวาเข้าไปทาง P.M.Y แล้วเลาะทะเลไปจนสุดทาง

เพื่อมารับประทานมื้อแรกของวัน ท่ามกลางสายฝนที่ร้านแหลมเจริญ ซีฟู๊ด
ถ้าฟ้าโปร่ง ไร้ฝน คงได้นั่งด้านนอก แต่วันนี้ไม่สามารถค่ะ ฟ้าครึ้ม ไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุดตกง่ายๆ สั่งอาหารมาสามอย่าง สละลอยแก้ว(เปรี้ยวมาก) 1 ถ้วย อาหารทุกจาน รสชาติธรรมดา แต่ราคาสูงค่ะ สรุป ไม่ประทับใจ





ตั้งใจว่า..

จะแวะไปซื้ออาหารทะเลแปรรูป พวกหมึกแห้ง หมึกบด ปลาเค็ม
ที่ตลาดบ้านเพ ขับผ่านแล้ว ไม่สามารถ เพราะไม่อยากตากฝน ก็เลยอด

ถึงฝนฟ้าจะตก แต่ชาวประมงก็ยังคงออกทำมาหากิน



ภารกิจต่อไป

หาที่พัก ที่โดนใจ เพราะไม่ได้จองมาล่วงหน้า
ไล่ไปตั้งแต่ บ้านเพ แม่รำพึง ก้นอ่าว สวนสน

ฝนก็ยังคงลงเม็ดประปราย Smiley
เห็นเกาะเสม็ด อยู่ตรงหน้า
แต่ว่าสภาพอากาศเช่นนี้ ทำให้ไม่คิดอยากจะไปเลยซักนิด สวนสน วันนี้เงียบเหงามากๆ เพราะขนาดเรายังขับผ่านเลยไป ไม่แวะ



ตลอดทาง ถนนเส้นเลาะชายทะเลนี้มีที่พักให้เลือก
แต่ยังไม่โดนใจ แวะไปดู สอง-สามแห่ง ก็ยังไม่ใช่

จนมาถึงเส้น กลางๆ บ้านเพ-แม่พิมพ์ เห็นป้ายโรงแรมปาล์มมารี บีช รีสอร์ท ทางเข้าเป็นซอยดูลึกลับ ลองเลี้ยวเข้าไปดูหน่อยจิ่

ปรากฏว่า... โดน !!!!!

ที่นี่ปลูกต้นไม้ ดอกไม้เยอะดีค่ะ
พนักงานก็น่ารัก ประทับใจตั้งแต่ยาม ,พนักงานต้อนรับ,เบลล์บอย ไปจนถึงแม่บ้าน รายละเอียดที่พักดูได้ที่หมวด "รีวิวที่พัก" นะคะ

สอบถามดู ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติ
คนไทยก็เป็นกรุ๊ปสัมมนา แต่ว่าวันที่เราเข้าพัก

ทั้งโรงแรม มีแขกแค่ห้องเรา ห้องเดียวค่ะ ชอบจัง เงียบและเป็นส่วนตัว สุด สุด ในที่สุด ก็ตัดสินใจ ลงทะเบียนเข้าพัก ด้วยความสามารถส่วนตัว ได้ราคาลดลงมาจากราคาที่ พนักงานแจ้งครั้งแรกอีกด้วยล่ะ หุ หุ

เก็บของเข้าที่พักแล้วเราก็ไปเดินเล่นที่ชายหาดส่วนตัวของโรงแรม







เดินเล่นจนเหนื่อยแล้ว..นั่งเล่นที่ร้านอาหารริมทะเล ได้บรรยากาศชิล ชิล
นั่งเพลินตั้งแต่บ่ายแก่ๆ จนเย็นย่ำกันเลยทีเดียว



ปรากฏว่า...

นั่งไปได้ไม่นาน ฝนลงเม็ดอีกแล้ว
ต้องย้ายเข้าไปนั่งด้านใน แต่ก็ยังคงได้บรรยากาศทะเลอยู่

เสียงคลื่นดังมากๆ ลมก็แรงสุด สุด

ยังไม่ได้เวลาที่เปียโน จะบรรเลง
แต่เพราะนักดนตรี (ทราบชื่อที่หลังว่าชื่อคุณไมเคิล) เห็นเรามานั่งกันตั้งแต่เย็น

เธอ จึงรีบจัดการภารกิจส่วนตัว
แล้วมาเล่นคนตรีให้เราฟัง ก่อนเวลา น่ารักมาก Smiley

คุณไมเคิล เล่นดนตรีเก่งมากค่ะ
ขอเพลงอะไรไป เธอร้องได้ เล่นได้หมด โดยไม่ต้องมีโน้ต

เสียงร้อง ก็ไพเราะมากๆ
ถูกใจคนชอบฟังเปียโน แบบเรามาก มาทราบทีหลังว่า
คุณไมเคิล ตั้งใจ จะออกไปเล่นไวโอลิน ให้เราที่โต๊ะริมทะเล
แต่พอดีว่าฝนลงเม็ด เราย้ายเข้ามาด้านในเสียก่อน

เลยอดโรแมนติคเลย
คุณไมเคิล มีความฝันว่าจะสร้างโรงเรียนสอนดนตรีให้เด็กๆโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายค่ะ ที่ผ่านมา ได้ไปสอนตามโรงเรียนต่างๆ แต่ไม่ได้ต่อยอด พอหมดงบประมาณ หมดโครงการ เด็กๆ ก็ไม่ได้เล่นดนตรีต่อ

นอกจากฝีมือทางการเล่นดนตรีหลายประเภทแล้ว คุณไมเคิลยังมีความสามารถในการประดิษฐ์เครื่องดนตรี ด้วยค่ะ ใครผ่านไปพักที่โรงแรมนี้ อยากให้ลองหาเวลานั่งพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณไมเคิลแล้วคุณจะได้อะไรมากมาย จากผู้ชายคนนี้

ภาพนี้คุณไมเคิล อนุญาตให้เรานำมาลงเผยแพร่ได้ค่ะ



สนทนา กับคุณไมเคิล อยู่พักใหญ่
เราก็ขอตัวไปนอนค่ะ นอนหลับสบาย จนถึงเช้า

ตื่นขึ้นมา อากาศสดชื่น ลงไปรับประทานอาหารเช้า เดินผ่านสระว่ายน้ำ วันนี้เริ่มมีแสงแดดรำไร แต่..ไม่ขอลงเล่นน้ำดีกว่า เดี๋ยวจะเสียเวลา



ไปถ่ายภาพทะเล ยามเช้ากันหน่อย วันนี้ฟ้าแจ่มกว่าเมื่อวาน



วันนี้ เรานั่งรับประทานอาหารเช้าที่โต๊ะเดิม กับวิว เดิมๆ เสียงคลื่นกระทบฝั่งเหมือนเดิม ต่างตรงที่ วันนี้เริ่มเห็นแสงแดดรำไร เพราะเราเป็นแขกเพียงห้องเดียว อาหารเช้าวันนี้ จึงไม่ใช่บุฟเฟต์ แต่ไม่ใช่ปัญหาค่ะ แค่นี้ก็อิ่ม สบายไปถึงเที่ยงแล้ว

พนักงานเล่าให้ฟัง ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ว่าจะมีนกเอี้ยง คู่หนึ่ง ชอบลงมาแอบกินอาหารเช้าของแขก เราลืมไปแล้ว...

จนกระทั่งเช้านี้ ลุกไปถ่ายรูปแป๊บเดียว ขนมปังก็ถูกจิกไปวางอยู่บนพื้นแล้ว
พนักงานรีบเอาชิ้นใหม่มาเปลี่ยนให้ แต่เราแอบเอาอาหารไปว่างไว้บนที่สูงๆ
ที่เห็นเจ้านกแอบบินลงมาเกาะ สงสารมันน่ะ

พนักงานบอกว่า มันมีลูกเล็กๆ อีกสองตัว คงจะคาบไปให้ลูกมันกิน





หลังจากจัดการกับอาหารเช้าเสร็จ
ยังไม่ได้ลุกไปไหน นั่งอ้อยอิ่ง ทำโน่นนี่ ไปเพลินๆ
ชอบบรรยากาศแบบนี้ อยู่ใกล้ทะเล ฟังเสียงคลื่น สงบ ไม่พลุกพล่าน



พักใหญ่ ก็กลับไปเก็บข้าวของ เตรียมออกเดินทางค่ะ เราออกเดินทาง จากที่นี่ด้วยความสุขใจ

ผ่านแหลมแม่พิมพ์ แหม..วันนี้ละฟ้าแจ่มเชียวนะ ทะเลต่างกะเมื่อวานลิบลับ
ร่ำลาทะเลระยอง ทะเลที่สอง ของทริปนี้ เพราะวันนี้ เรามีนัดที่ทะเลที่สาม ที่จันทบุรีค่ะ ลากันไปด้วยภาพนี้เลยนะคะ ขอบคุณ และ สวัสดีค่ะ



ชมรีวิวภาคเต็มจากบอร์ด Blueplanet ได้จากลิงค์นี้นะคะ

 

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7876686/E7876686.html

อ่านตอนต่อไปได้เลยค่ะ




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2553 23:50:09 น.   
Counter : 2413 Pageviews.  

หาเรื่องนอนนอกบ้าน 4 วัน 3 ทะเล ชายฝั่งตะวันออก : ตอนที่ 3 หลับฝันดีที่ SeaCoCo

หาเรื่องนอนนอกบ้าน วันที่สาม มาแล้วค่ะ
วันนี้หลังจากออกจากระยอง ก็ตรงดิ่งเข้าเมืองจันท์

เพราะเรามีนัด กับเพื่อนอีกครอบครัวหนึ่งที่ทะเลจันท์ ชายหาดปากน้ำแขมหนู ที่บูติค รีสอร์ท ซี โคโค่

เข้าเขตจันทบุรี ฟ้าแจ่มจนน่าหมั่นไส้
ได้ข่าวว่า ในช่วงเวลาสองวันที่ผ่านมา ในขณะที่เราเจอฝนฟ้ากระหน่ำ
จันทบุรีอากาศดี แจ่มใส ไม่มีฝนเลยซักนิด

ช่วงนี้เป็นหน้าผลไม้ ใช้รถ ใช้ถนนด้วยความระมัดระวังนะคะ
เพราะว่าจะมีรถบรรทุกผลไม้ออกมาขายกันเยอะ ริมข้างทาง
ถ้าใช้ความเร็วมาก อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ



มุ่งหน้าไปที่สวนญาติก่อน

สั่งคนงานไว้ให้เก็บมังคุดไว้ให้หน่อย
จะเก็บไปให้แขก ที่นัดกันวันนี้ เธอบอกอยากได้มังคุดซัก 20 กก.
เลยเก็บมาให้ 30 กก. แถมโลนึง
เห็นบางลูกสียังเขียวๆแบบนี้
จะบอกให้ว่า.. สองวันก็สีเข้ม พร้อมรับประทานหมดแล้วล่ะค่ะ



แดดร่ม ลมตกพอดี
ได้เวลาที่เราจะไปยังจุดหมายของวันนี้

ชายหาดปากน้ำแขมหนู จันทบุรี ที่นี่ค่ะ ซี โค โค่
จอดรถเรียบร้อย เดินเข้าไปได้เลยค่ะ

ที่นี่เป็นบูติค รีสอร์ท เล็กๆ มีห้องพักเพียงแค่ 6 ห้อง
บรรยากาศเงียบ สงบ เป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน ถูกใจเราอีกแล้ว
พนักงาน พาเราเดินไปที่ห้องพัก หลังจากโดนเราอำไปหลายเรื่อง
เพราะเจ้าของ ซึ่งเป็นเจ้านายของน้องพนักงานคนนี้ไม่อยู่
แต่น้องเค้าน่ารักดีนะคะ รายละเอียดเกี่ยวกับที่พัก ชมได้ที่หมวด"รีวิวที่พัก" นะคะ หลังจากเข้าห้อง นั่งอ่านหนังสือ ,ถ่ายรูป และพักผ่อนครู่ใหญ่ เพื่อนเราอีกครอบครัวก็เดินทางมาถึงค่ะ



ช่วงค่ำ สั่งอาหารจากร้านประจำแถวๆนั้น เข้ามารับประทาน
คุยกันไป กินกันไป กับกลุ่มเพื่อน สนุกสนานฮาเฮ ก่อนแยกย้ายกันไปนอน



รุ่งเช้า..

พอดีว่ามีธุระด่วน
เราต้องออกไปจัดการภารกิจ แต่เช้า เลยไม่ได้รับประทานอาหารเช้า

ให้ชาวคณะมารับระหว่างทาง
วันนี้เราจะไปเที่ยวสวนผลไม้กัน โชคไม่ดี วันนี้เจอฝนอีกแล้ว

เจ้าของสวน ใจดี แกะทุเรียนพวงมณี ให้กินกันจนพุงกาง สละก็มี ปอกกินกันจนมือเจ็บ และแน่นอน....ต้องมีของโปรด "มังคุด"







ไปเที่ยว ในสวนกันดีกว่าค่ะ ตื่นเต้นกันยกใหญ่ กับต้นสละ ต้นลองกอง
และการชิมเงาะสดๆ หวานๆ จากต้น ถ่ายภาพกันเป็นที่สนุกสนาน เสียอย่างเดียวยุงชุมไปหน่อย



ไม่นานนัก ฝนก็ตกลงมาอีกชุดใหญ่ รอฝนซาลง ก็ลาเจ้าของสวน
เพื่อไปรับประทานมื้อเที่ยงที่ฟาร์มปูนิ่ม เราจะต้องนั่งเรือ ไปที่ร้านอาหารค่ะ ในเรือจะมีชูชีพให้ แต่ไม่มีใครใส่ซักคน ได้บรรยากาศดีค่ะ เหมือนนั่งเรือไปเที่ยว ทิวทัศน์สองข้างทางก็สวยงาม ทั้งธรรมชาติป่าชายเลน ภูเขา และวิถีชีวิตการทำประมงพื้นบ้าน การเลี้ยงหอยนางรม ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงค่ะ
วันนี้เป็นวันหยุดลูกค้าค่อนข้างเยอะ







อาหารมาแล้วจ้า... อร่อยทุกอย่าง ที่สำคัญราคาไม่แพง
ที่ถ่ายมารู้สึกว่าจะขาด ปลา ลวกจิ้ม ไปอย่างนึงนะเนี่ย



บรรยากาศระหว่างรับประทานอาหาร
การที่มีฝนตก ทำให้ได้ภาพที่สวยงามแปลกตาไปอีกอย่าง



ถึงลูกค้าจะเยอะ แต่รออาหารไม่นานค่ะ
รสชาติอาหารก็ดี ที่สำคัญราคาไม่แพง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมที่นี่ถึงได้ฮิต ติดลมบน ในช่วงเวลาไม่นาน

อิ่มแล้วก็กลับบ้านค่ะ
ขากลับโดนฝนเล็กน้อย พอให้ได้เปียกปอน

จบทริป หาเรื่องนอนนอกบ้าน 4 วัน 3 ทะเล
เป็นทริปที่ไม่ได้คาดหวัง แต่ก็ประทับค่ะ กับที่พัก ถึงจะเจอฝนตก แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคในการเที่ยว ที่สำคัญสำหรับวันสุดท้ายของทริปนี้ ที่ Sea CoCo เป็นความประทับใจ ที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป ว่าครั้งหนึ่งเราได้ร่วมทริปกับครอบครัวที่น่ารักที่สุด น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้ร่วมทริป กันอีกแล้วในชาตินี้



ร่วมเก็บภาพแห่งความประทับใจ ในฉบับเต็ม พร้อมทั้งแสดงความอาลัยกับพี่จอห์นได้ในรีวิวบอร์ด Blueplanet ตามลิงค์ค่ะ

 
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7879095/E7879095.html



ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2553 23:52:09 น.   
Counter : 1425 Pageviews.  

ทริปส่งท้ายเดือนกุมภา ปี 52 : ตอนที่ 1 ขับรถลงใต้ปลายทางที่สุราษฎร์ฯ

เป็นทริปของปีที่แล้วค่ะ รีวิวไว้ที่บอร์ดท่องเที่ยว
แต่เกรงว่าเวลานานไป กระทู้จะหมดอายุ ก็เลยขอนำมาเก็บไว้ที่นี่ด้วย


Smiley    Smiley    Smiley    Smiley    Smiley  Smiley




Free TextEditor

สวัสดีค่ะ

เดือนนี้(เมื่อปีที่แล้ว)รู้สึกว่าตัวเองเดินทางบ่อยจัง
ทริปนี้เพิ่งกับมาถึงบ้านค่ะ ไม่อยากให้ตกค้าง
กลับมาแล้ว ก็ต้องรีบปล่อยของ รีบรีวิว จะได้รีบออกเดินทางใหม่ 5555+

เป็นครั้งแรกค่ะ ที่ขับรถ(คนเดียว)ลงใต้ ไกลขนาดนั้น
ด้วยความที่ว่าเคยไปมาแล้ว เมื่อปีที่แล้ว ไอ้เราก็คิดว่า..มันไม่ไกล

ลืมไป ว่าครั้งโน้นน่ะ แค่ขับไปถึงแยกวังมะนาว แล้วมีคนมาช่วยขับต่อ
คราวนี้ทำห้าว.. ยิงยาวไปถึงสุรษฎร์ฯ แปดร้อยกว่ากิโล

โห....

ทำไปได้ไงเนี่ยช้านนนนนนนนนนนนนนนนน



ทีแรกนัดกะผู้ร่วมทางไว้
ให้มาเจอกันที่กรุงเทพฯ แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยขับรถลงไปใต้พร้อมกัน


นั่งนึกไป นึกมา
วันนี้เราก็ว่างนี่นา ทำไมต้องให้เค้านั่งรถขึ้นมาตั้งนาน เพื่อมาขับรถลงไปอีก

กว่าจะนึกได้ ก็ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงกว่าแระ เพิ่งออกจากบ้าน

บ่ายๆ ทางโน้น..โทร.มา บอกว่ากำลังถึงหาดใหญ่ เพื่อขึ้นรถเที่ยวเย็นเข้ากรุงเทพฯ ก็เลยบอกไปว่าไม่ต้องมาหรอก เจอกันกลางทางแล้วกัน

เพราะอิชั้นขับไปถึงบ้านบึง ชลบุรีแล้ว



ปลายสาย บอกว่า..
กลางทางตรงไหนล่ะ รถทัวร์มันไม่ได้มีออกทุกชม.นะ

อ้าว..
เคว้งล่ะสิชั้น งั้นไปเจอกันที่สุราษฎร์เลยก็ได้
"แน่ใจนะว่า ขับไหว ?? ไกลนะ" เค้าถาม

"ไหวสิ่ ขับไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง" อิชั้น ตอบ

แวะเติมน้ำมันเต็มถัง และซื้อแซนวิช กะกาแฟ รองท้อง สำหรับมื้อเที่ยง



ขับรถไปใต้ ง่ายจะตาย (ยัง...ยังกระหยิ่มอยู่เพราะการเดินทางเพิ่งเริ่ม)
เส้นทางตรงยาวตลอด ไม่ต้องกลัวหลงทาง จากบายพาสชลบุรี เข้าบางนา-ตราด ขึ้นทางยกระดับบูรพาวิถี ออกช่องบางพลี ต่อวงแหวนกาญจนาพิเษก สุขสวัสดิ์



ข้ามสะพาน นี้ไป
แล้วก็เลี้ยวเข้าพระรามสอง



ประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ มาถึงมหาชัย รถเยอะแยะมากมาย ทางก็ปิดซ่อมเป็นระยะๆ สงสัยจะเตรียมรับการประชุมอาเซียน

เย้..

ถึงเพชรบุรีแว้ววววววววว นึกในใจมันถึงครึ่งทางอ๊ะยังหว่า
ระหว่างนี้ คนทางโน้น ก็โทร.มาถามไถ่เป็นระยะๆ ประมาณว่า..คงห่วงรถอ่ะ ไม่ได้ห่วงคน



สี่โมงกว่าๆ เข้าเขตประจวบแล้วค่ะ
ขับมาเกือบห้า ชม.แล้ว แวะเติมน้ำมัน แล้วก็เข้าห้องน้ำเท่านั้น

เวลาจอดแต่ละที่ ก็ต้องมองซ้าย มองขวา ระวังทุกอย่าง
เป็นผู้หญิงขับรถเอง เดินทางคนเดียวไกลๆ นี่ไม่สนุกเลยนิ

เส้นทางจากประจวบฯ ไปจนถึงสุราษฎร์ เป็นเส้นที่น่าเบื่อที่สุด เพราะทางมันยาว ขับตั้งนานยังไม่พ้นเขตจังหวัดซะที หกโมงเย็น เข้าเขตชุมพร จากชุมพร เป็นการขับรถที่เริ่มเครียด เพราะมืดแล้ว แต่ก็นึกในใจเอาน่า ถัดจากชุมพร ก็สุราษฎร์ฯแล้ว อีกนิด อีกนิด

โทร.คุยกะคนทางใต้ เค้าก็ยังไม่ถึงสุรษฏร์ เหมือนกัน

20.45

ในที่สุด...ก็มาถึง
เข้าเมืองสุราษฎร์แบบงงๆ เป็นครั้งแรกที่มาที่นี่

ผู้ร่วมทริปถึงก่อนแล้ว บอกว่าอยู่ที่ นิภา การ์เด้น ใกล้ๆโลตัส
ถามคนแถวนั้น ตั้งต้นที่โลตัส เป็นหลัก ไม่ยากค่ะ

รวมเวลาในการเดินทาง ประมาณ 9 ชม.
หิวอ่ะ เหนื่อยด้วย ลงจากรถแทบเดินไม่เป็น



ไปถึง รีบออกไปหาอะไรกินก่อนเลยค่ะ

ใกล้ๆที่พักนั่นแหละ หมูย่างเกาหลี เป็นบุฟเฟ่ ค่ะ มีของให้เลือกเยอะดี แต่..เราว่าน้ำจิ้มไม่ค่อยอร่อย ดีตรงที่ร้านนี้ หมักหมูได้นุ่มดีค่ะ





ประมาณสี่ทุ่ม ก็กลับเข้าที่พักค่ะ

โรงแรมนิภา การ์เด้น อยู่เส้นบายพาส เลยโลตัสออกมานิดเดียว คืนนี้แค่หาที่นอนพักก่อนออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นแต่เช้ามืด ขอแค่ที่พัก สะอาด และปลอดภัยก็พอ ราคา 450 บาทไม่รวมอาหารเช้าค่ะ รายละเอียดที่พัก ดูได้ที่หมวด "รีวิวที่พัก" นะคะ

คืนนั้นนอนหลับสนิทเลยค่ะ คงเป็นเพราะเหนื่อยจากการขับรถทางไกล เช้ามืด เราออกเดินทงกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เพราะมีภารกิจในพื้นที่ สามจังหวัด

มุ่งตรงเข้าหาดใหญ่ แวะหาอาหารเช้าง่ายๆ กินตอนเกือบจะเก้าโมงเช้า ระหว่างทาง



ภารกิจในวันนี้ คือการร่วมงานเกี่ยวข้าวโครงการฟื้นฟูนาร้างในพื้นที่ 3 จว.ภาคใต้ค่ะ

พื้นที่บ้านพรุชิง อ.เทพา จ.สงขลา
แต่ว่าเราต้องเข้าทาง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขออนุญาตพาเที่ยวในตอนต่อไปนะคะ เลื่อนลงไปดูได้ ในหัวข้อถัดไปได้เลยค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมและลงชื่อทักทายนะคะ

พบกับตอนที่ 2 โครงการนาร้าง พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ในตอนต่อไปค่ะ สวัสดีค่ะ



ติดตามอ่านรีวิวฉบับเต็มจากบอร์ด Bluplanet ได้ตามลิงค์นี้ค่ะ

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7576049/E7576049.html




 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2553 0:06:16 น.   
Counter : 4269 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

prettyguide
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




สวัสดีค่ะ

ยินดีต้อนรับสู่ prettyguide's blog ค่ะ

สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องอัญมณี และของดีเมืองจันท์ เชิญลงชื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนได้ค่ะ prettyguide จะขออาสาพาเพื่อนๆเที่ยวเมืองจันท์ให้ครบทุกซอกทุกมุม ใครอยากไปไหน หรืออยากได้ข้อมูลของจันทบุรี ก็บอกมาได้เลยค่ะ

================================

ภาพถ่ายทั้งหมด
ภายใน blog นี้สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัิญญัติสิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาิิต
New Comments
[Add prettyguide's blog to your web]