Bloggang.com : prim

กินเสร็จก็ไปเดินย่อยกัน วันนี้เพื่อนอยากเดินที่หรูๆ มีร้าน De chocolate Coffee ชื่อดังที่ Rodeo street
ย่าน อับกุจอง ย่านนี้เหมือนเมืองนอกเลย ด้วยการตกแต่งและดีไซน์ตึกสไตล์ยุโรป
มีแต่รถหรูๆขับเพ่นพ่านอยู่เต็มไปหมดเลย เสื้อผ้าแพงมาก

200m

압구정동 로데오거리

เดินเลยไปอีกหน่อยก็เป็นย่าน แบบ Luxury Brand Street 강남구 청담동

ย่านนี้ช่วงปีใหม่เค้าประดับไฟสวยมากเลยค่ะ

ตรงรถไฟใต้ตินตรงนี้มีรูปดาราไซส์บิ๊กบึ้มมากค่ะ มีดรามาเกือบทุกเรื่องแปะอยู่ ^^ ฟินเลย
จบทริปไว้ตรงนี้ก่อนน๊า...หนาวจัด

ก่อนอื่นเลยจะพาไปจองตั๋วถูกแบบบินตรง BKK-ICN สุวรรณภูมิ-อินชอน สายการบิน Jin Air $391 รวมทุกอย่างแล้ว (ไม่แนะนำสำหรับคนที่ตัวใหญ่และขายาว เพราะที่นั่งจะแคบๆประมาณ air asia ได้ แต่บินตรงแค่ 5 ชั่วโมง ชิวๆ) Booking ที่เว็บ jin air โดยตรงได้เลยค่ะ ถูกกว่าจองผ่านเอเจนซี่

แต่ต้องมีบัตรเครดิตนะคะ วันนั้นจ่ายไปที่ราคา 13,000บาท ไป 23ธ.ค.กลับ 1 ม.ค. ขนาดช่วงพีคตั๋วแพงยังซื้อได้ถูก ทั้งๆที่ช่วงนี้เรทเงินบาทอ่อนค่าอย่างแรง

ก่อนที่จะซื้อที่นี่ ลองถาม Agency และสายการบินอื่นๆดูแล้ว เค้าบอกว่าช่วงนี้ตั๋วแพง เกิน 20,000 บาทแน่ๆ แต่ถ้าไปกับทัวร์ 3-5วัน ยังถูกกว่าซื้อตั๋วอย่างเดียวเลย แต่เค้ามีข้อแม้ว่าต้องไปเที่ยวทุกๆที่กับทัวร์เท่านั้น .... เลยขอบาย เพราะต้องไปหาอุปป้า....

เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งรอเครื่องบินนานๆอย่างงี้ ปกติมาcheck-in แทบจะไม่ทัน วันนี้มาถึงเร็วก็ต้องหาอะไรรองท้องก่อนเพราะว่าสายการบินนี้มีอาหารให้มื้อนึง แต่ด้วยความที่ขึ้นเครื่องตอนบ่ายโมง กว่าเค้าจะแจกข้าวก็เย็นๆ อีกอย่างสายการบินนี้ไม่มีผ้าห่มให้นะคะ อย่าลืมพกเสื้อกันหนาวไปด้วย....

ทุกอย่างที่สนามบินสุวรรณภูมิมันแพงกว่าร้านค้าด้านนอกถึง 3 เท่า ดูจากราคาน้ำเปล่าที่ 7-11 ขาย 7 บาท ที่ airport ขาย 35 บาท .....กินข้าวผัดเต้าหู้จานเล็กๆจานเดียวหมดไป 250บาท ของฝากไม่กี่ชิ้น ใช้เงินสดซะเกลี้ยงเลย รอบนี้ไม่ได้แลกเงินสดไปเพราะว่ามี bank ที่เกาหลีอยู่แล้ว แล้วก็ยังมี T-Money รูปคิตตี้ด้านบน เอาไว้ขึ้นรถไฟและขนมในเซเว่นตอนถึงเกาหลีได้เลยหมดห่วง — at Gate D6 @ Suvarnabhumi Airport.

ของว่างที่จินแอร์แจก ชอบข้าวสี่เหลี่ยมๆมาก มันเหมือนข้าวต้มมัดใส้ถั่ว หรือบะจ่างแบบหวาน 555

มาดูวิวท้องฟ้ากัน วันนี้ ฤกษ์ดี ได้ดูพระอาทิตย์ตกดินบนเครื่องด้วยค่ะ แต่ด้านล่างคาดว่าน่าจะมืดสนิทแล้วดูจากเมฆด้านล่าง

ถึงซะที...ที่ Incheon International Airport ช่วงนี้มีการตกแต่งไฟ X'mas พอดีเลย แวะถ่ายรูปกันนิดนึงนะคะ ^^

บรึ๋ย.....ที่นี่หนาวมากอ่ะค่ะ กทม. 28C ที่เกาหลีตอนนี้ -7C หนาวสุดคำบรรยายกับชุดที่ใส่มาจากไทยคลุมแค่เสื้อโค้ทแค่นี้ไม่ได้ช่วยอะไร การพลาดรถไฟไปเสี้ยววินาทีครั้งนี้ ....ต้องรอขบวนใหม่ตั้ง 7 นาที มันทำให้ชาไปทั้งตัวได้เลยนะ

แวะหาอะไรร้อนๆคลายหนาวกันก่อน สุดฮิต ก็โอเด้ง ต๊อกบกกี และทวีกิม(ของทอด) กินกันตอนห้าทุ่มกว่า

ออกจากร้านแล้วก็มือแข็งเหมือนเดิม...เพื่ออัลไล?

อากาศวีคนี้หนาวจัง

กิจกรรมช่วง X'mas eve จะมีลานสเก็ตของ City Halls ให้เล่นในราคาที่ถูกมากๆๆ คนละ 1,000 won หรือ 33 บาท รวมทั้งค่าเข้าและค่าเช่ารองเท้าแล้วนะคะ ถ้าใครไปช่วงนี้ก็อย่าลืมไปเล่นน๊า....(แต่ด้วยความที่ถูกมาก คนเล่นเยอะสุดๆ ซื้อบัตรตอน 7pm ได้เล่นรอบ 10.30pm ก็รอกันไป แถวนั้นมีร้านกาแฟให้นั่งเล่นเยอะแยะเลย don't worry ja

วัน X'mas eve คนที่นี่เค้านิยมหม่ำเค้กกัน ดังนั้น ร้านเค้กจะขายดีมากๆ จนเค้กออกมากองนอกร้านแบบนี้เลย

ราคาเค้กช่วงนี้จะแพงเป็นพิเศษ สนนราคาประมาณ 2x,xxx won - 7x,xxx won หน้าเค้กน่ารักมากๆ

ช่วงนี้อยากบอกว่าสตรอเบอรี่ลูกใหญ่และหวานมากค่ะ ห้ามพลาดเลยนะคะ กล่อง 500g ราคาประมาณ 8,000won ค่ะ

รอบนี้มาเกาหลี กินไปเป็นลังเลย ^^

เที่ยวเล่นมาพอสมควร วันต่อไปขึ้นเขาไปตกปลาบนแม่น้ำที่แข็ง และเล่นสกีกันค่ะ

รอบนี้จะมาบอกทิปการไปเล่นสกีแบบถูกๆ

จองที่พักจากเว็บไซต์ก่อนไปเล่น แบบนี้จะทำให้มีที่พักและได้ราคาถูก ครั้งนี้เราไปจ่ายค่าที่พัก 65,000won รวมค่าเช่าสกีแล้ว(ราคาสองคน) จำได้ว่าจองผ่าน interpark และควรมีเบอร์โทรมือถือเกาหลีด้วยนะคะ ไม่งั้นจองไม่ได้ค่ะ โรงแรมที่เราไปพักชื่อว่า Club Board วิวสวยค่ะ อารมณ์ Snow view ^^
จองรถบัสของรีสอร์ท ชื่อว่า 휘닉스 파크(Phoenix Park) ราคาเที่ยวละ 8,000won ต่อคน ถ้าไม่จองจ่ายสดบนรถคนละ 10,000won (ที่นั่งอาจจะเต็มได้นะคะถ้าไม่จอง) เวลาขึ้นรถ 5.50am ถึงรีสอร์ท 8.30am //www.phoenixpark.co.kr/favorite/buspass.aspx
เช่าเสื้อแจ๊กเก็ตและกางเกงเล่นสกีตามร้านด้านนอกของสกี จะถูกกว่า พริ้มเช่าของที่โรงแรมเลยซึ่งข้างล่างจะเป็นร้านเช่าอุปกรณ์เล่นสกี ราคามีให้เลือกตามความเก่าใหม่ แฟชั่น 10,000won, 20,000won, 30,000won แล้วแต่ชอบ ครั้งนี้เลือกแบบ 20,000won แต่ด้วยความที่เจ้าของที่พักกับเจ้าของร้านเช่าคือคนเดียวกัน เค้าเลยคิดราคาพิเศษ 30,000won(2คน) แต่ที่นี่เช่าถุงมือไม่ได้นะคะ ซื้ออย่างเดียวเลยราคา 12,000won ไม่แพงแล้วก็ไม่ต้องใช้ต่อใคร ไม่รำคาญใจดีค่ะ
ซื้อ lift ticket ที่ร้านด้านนอกจะถูกกว่า ซื้อด้านในที่เป็นที่เล่นค่ะ ครั้งนี้จ่ายไปคนละ 35,000won จะมีเป็นรอบๆนะคะ เช้า 08:30~12:30 (4Hrs), บ่าย 12:30~16:30 (4Hrs), ค่ำๆ 18:30~22:30 (4Hrs), 21:00~24:30 (3.5Hrs), 23:00~02:00 (3Hrs), 23:00~04:30 (5.5Hrs) แต่ที่นี่เปิด 24hrs. (ถ้าซื้อที่หน้า counter จ่ายเกิน 58,000won แน่ะ) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ //www.phoenixpark.co.kr/favorite/fee_ski01.aspx#
ร้านอาหารด้านนอกถูกกว่านะคะ ลองเดินออกมาจากลานสกีจะมีอะไรกินเยอะแยะเลย
ที่นี่มีรถรับส่งจาก Jangpyeong Bus terminal ฟรี ซึ่งที่นั่นจะสามารถต่อรถไปในเมืองไปขึ้นรถไฟ หรือ ต่อรถไป 진부 (Jinbu) ไปตกปลาได้ค่ะ ที่นี่มีร้านอาหารเยอะมากๆเลย แต่หาร้านกาแฟไม่ได้น๊า...ถ้าอยากกินกาแฟก็เดินไปร้านสะดวกซื้อแทนนะคะ

snow view room check-in (free wifi) — at Club Board.

วันนี้อากาศไม่หนาวมากดูพยากรณ์แล้ว -3C แต่คืนนี้หิมะจะตกหนัก และพรุ่งนี้ -9C ถึง -11 C เราจึงเปลี่ยน Plan เล็กน้อย

นั่งรถ shuttle bus ไปที่ Jangpyeong Bus terminal แล้วต่อรถบัสไป Jinbu เพื่อไปตกปลาบนแม่น้ำที่เป็นน้ำแข็งค่ะ

อาจจะแปลกใจว่าทำไมถึงมาตกปลากันไกลถึงบนเขา และปลาไม่แข็งตายเหรอ

ตารางเวลารถบัสและราคาค่ะ

ใช้เวลานั่งประมาณ 20 นาที ไม่ไกลเลย จ่ายคนละ 1,500won เอง

ส่วนค่าเข้า แบ่งเป็นหลายแบบ (ราคาที่เห็น คือ ราคาต่อคนนะคะ)

30,000won รวมค่าเข้าไปตกปลา+เต้นท์และเก้าอี้+เครื่องเล่นสไลด์เดอร์+รถลากห่วงยาง(snow rafting)+ปั่นจักรยาน (2 คนขึ้นไปถึงจะซื้อได้) **ไม่รวมไม้ที่เอาไว้ตกปลานะคะ**
25,000won รวมค่าเข้าไปตกปลา+เครื่องเล่นสไลด์เดอร์+รถลากห่วงยาง+ปั่นจักรยาน ** ไม่รวมไม้ที่เอาไว้ตกปลานะคะ**
18,000won ค่าเครื่องเล่นสไลด์เดอร์+รถลากห่วงยาง+ปั่นจักรยาน หรือจ่าย 6,000won คือค่าเครื่องเล่นแต่ละอย่าง
20,000won รวมค่าเข้าไปตกปลา+เต้นท์และเก้าอี้
13,000won เฉพาะค่าเข้าไปตกปลาเท่านั้น

เนื่องจากไปถึงก็บ่ายแล้ว ซื้อบัตรเข้าเพื่อเล่นทุกอย่างคงไม่คุ้ม เลยซื้อเฉพาะค่าเข้าไปตกปลา และเล่นสไลด์เดอร์ คนละ 13,000won+6,000won=18,000won

check รายละเอียดได้จากเว็บนี้ค่ะ //www.festival700.or.kr/

ที่นี่เค้าห้ามเอาแมลงหรือปลาจริงๆเป็นเหยื่อเพราะผิดกติกา ปลาที่ทุกคนตั้งใจจะมาจับ ตัวใหญ่มาก

เพราะว่าเค้าเอาเงินที่เราจ่ายค่าเข้าไปซื้อมานั่นเอง ถ้าจับได้ก็คุ้ม แต่ถ้าจับไม่ได้ก็เหมือนมานั่งแช่แข็ง

อยู่บนตู้เย็นขนาดใหญ่ 555 หนาวได้ใจจริงๆ

Tips: รองเท้า UGG + ถุงมือ + ชุดที่ทนหนาวได้ จะดีมากเพราะต้องนั่งนิ่งๆนานๆค่ะ

ทุกคนดูตั้งใจตกปลากันมากมาย ดูอย่างน้องชุดชมพู...น่ารักมากๆๆๆ

ส่วนคนที่จับปลาได้จะกรีดร้องดีใจซะจนทุกคนหันมามอง

ภาพเบื้องหลังตอนเค้าเอาปลามาปล่อย

Zone Tent

หลังจากตกปลาจนชา...ประจวบกับ หิมะเริ่มตกหนักขึ้น....เลยออกไปเล่น sliderกัน ความถึกของที่นี่คือ

ต้องลากห่วงยางขึ้นไปบนเนินสูงๆเอง ㅠㅠ. ลากแค่ 4 รอบก็เหนื่อยมากจนขี้เกียจเล่นแล้ว มิน่าค่าเล่นถึงถูกนัก เทียบกับถ้าเล่นบนสกีรีสอร์ทราคาแพงกว่ากัน 3 เท่าเลย

เก็บภาพเครื่องเล่นอย่างอื่นมาฝากด้วย

วิวตอนหิมะตกสวยดีค่ะ ถ่ายรูปเล่นกันดีกว่ามี snow flower ด้วย ^^

จริงๆแล้วหนาวมาก คลุมแทบทั้งหน้า แต่ว่าอยากสวยเลยกัดฟันถอดหมวก 555

ได้เวลากลับโรงแรมกันแล้ว เด๋วรถ Shuttle Bus หมดก่อนจะยุ่ง

Night View สวยมากเลยอ่า อันนี้มองจากบนห้อง

วันนี้เหนื่อยทั้งวัน อุปป้าชวนเล่นสกีตอนกลางคืนต่อ >_<' ไม่ไปได้ม้ายยยยยยย ไว้พรุ่งนี้เช้าๆไปเล่นกันนะๆ

รูปมีน้อยนะคะ เพราะว่าถุงมือไม่ใช่ smart phone touch เลยมีรูปแค่นี้

อากาศวันนี้หนาวได้ใจมาก -11C

คราวนี้วิธีการกลับด้วยรถไฟ (วันนี้เป็นวันศุกร์ที่หิมะตก ถ้านั่งรถบัส รถอาจจะติดหนัก ซึ่งจะทำให้อารมณ์เสียได้ง่าย อีกทั้งขามาดันอ้วกบนรถบัส อุปป้าเลยไม่อยากทรมาน 555)

จาก Phenix Ski Resort by shuttle Bus-> Jangpyeong Bus Terminal ->Dongseo Bus Terminal (동서울 터미널)

->to Wonju train statoin 원주역 by taxi (3,500won) or by Bus ->to 청량리역 (Cheongnyangni) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ลงสถานีนี้ ก็คือ Subway (Yongsan Station) กลับบ้านได้เหมือนกัน

กลับมาในเมืองแล้วก็มาหาของอร่อยๆกินกัน

เริ่มจากบุลโกกิสไตล์บูซาน ร้านนี้ทำเป็นเนื้อย่างรูปหัวใจ น่ารักและอร่อยมากๆ ร้านชื่อว่า 그릴애

แผนที่ดูที่นี่ค่ะ >>>map : //map.naver.com/local/siteview.nhn?code=32626869

ร้านถัดไปคือไก่ผัดซอส 닭갈비 Dakcalbi ที่เมียงดง ร้านนี้มีต๊อกใส้ชีสด้วยอร่อยๆๆๆๆ

ต่อมาเป็นร้านย่านกังนัม ร้านนี้ชื่อดังเก่าแก่เปิดมานาน และราคาถูกมาก จ่ายคนละ 9,000won

เป็นเนื้อย่าง หมูสามชั้นย่าง พร้อมพันชัน(เครื่องเคียง)เยอะมากๆและผักแบบว่าให้แบบเป็นรางยาว

ตบท้ายด้วยของหวานเอาแบบไม่อ้วนมาก คือเค้กที่ทำจาก sweet potato+ฟักทอง ละลายในปาก อร่อยนุ่มลิ้นมากๆๆๆ กินกะชาเขียวลาเต้....ฟินสุดๆ

กินเสร็จก็ไปเดินย่อยกัน

ครั้งแรกที่มาเยือนมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโซล

รู้สึกถึงความหลังเขามาก หรือว่าเรามาหน้าหนาวที่หิมะปิดบังความสวยหมดนะ

ไม่ได้อคตินะคะ อาจจะเป็นเพราะรู้สึกว่าการเดินทางมันยาวนานมากจากมหาลัยยอนเซที่เราอยู่ และยิ่งหิมะตกความทรหดในการเดินทางก็เลยทำให้ล้ามาก

คืองี้ค่ะ ระแวกนั้นไม่มีแหล่งบันเทิงหรือช๊อปปิ้งเหมือนย่านชินชน ฮงอิกเลยค่ะ

มิน่า เค้าถึงว่าเด็กที่นี่เรียนเก่ง (เพราะไม่มีที่ไปนี่เอง คิคิ ล้อเล่นนะคะ)

เอารูปมาให้ชมค่ะ วันที่ไปคือวันสุดท้ายที่เรียนภาษาของยอนเซ แต่โซลน่าจะปิดแล้ว เพราะไม่ค่อยมีคนเลย

เพื่อนก็ดันอยากไปวันนั้น หิมะตกหนักอีกตะหาก หนาวไปไหน...

สุดท้ายมาคลายหนาวกันที่ coffee shop แห่งนี้ เกือบหน้าวตาย

ปิดท้ายด้วยกล้องพิงค์กี้ของเราที่ถ่ายภาพสวยๆนี้ออกมา ^________^

ช่วงที่ไปถึงคือ มีนาคม 2012 ช่วงนั้นอากาศยังหนาวอยู่เลย 0 องศา ทั้งๆที่ควรจะ

อุ่นขึ้นแล้ว แต่เค้าบอกว่าปีที่พริ้มไปนี้ อากาศแปรปรวน

ดังนั้น ใบไม้ไม่มีเลยซักใบเดียว เมืองดูเหงาๆหนาวๆยังงัยไม่รู้

แต่เป็นช่วงเริ่มต้นของการดูเบสบอล หลังจากพักการแข่งหน้าหนาวไปยาวนาน

ไปดูทุกช่วงยกเว้นหน้าหนาว

เค้าบอกว่าการเชียร์เบสบอลนั้นที่บูซานเชียร์เถื่อนและมันส์ที่สุด เลยนั่งรถบัสไปดูฟรี 555

ห้ามพลาดนะคะ มันมากจริงๆค่ะ

อ่านเพิ่มเติมหน้านี้ค่ะ ตอนเชียร์เบสบอลที่เกาหลี

ที่แรกเลยที่ใครๆก็น่าจะเคยไป สัญลักษณ์รูปปั้นเซจง

ย่านนี้ใกล้คลองชองเกชอน เดินซักพักก็จะเป็นอินซาดง สถานทูตญี่ปุ่น

คยองบกกุง และอื่นๆ

ย่านเมืองเก่า ฮานกมาอึล 한옥마을 นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกับบ้าน

สไตล์ Korean traditional House ที่นี่อยู่ในเขตซัมชงดง มีร้านกาแฟน่ารักๆเพียบเลย

ร้านอาหารอิตาเลี่ยนก็เยอะค่ะ

ตรงนี้จะเป็นร้านชาแนวโบราณค่ะ ถ้าใส่กระโปรงสั้นไปเค้าจะมีผ้ามาให้ปิดหน้าตักด้วย ^^;

เทศกาลดอกไม้บาน 벚꽃축제 ดอกซากุระบานทั้งเมือง ประมาณต้นเดือนเมษายน ช่วงนี้แนะนำให้ไปที่

ยออีโด ไปปิ๊กนิกเดินเล่นนั่งกินข้าวห่อกับเพื่อนๆหรือแฟน คนเกาหลีนิยมมากค่ะ

หรือไปเดินเล่นที่เกาะนามิก็ได้ค่ะ ดอกไม้เยอะดี แต่ก็ต้องรีบตื่นแต่เช้าออกนอกเมือง

กว่าจะกลับมาก็ค่ำเลย เกาะนี้พริ้มไปมาเกือบครบทุกฤดู ขาดฤดูหนาวอันเดียวเพราะหนาวมาก

ไม่ได้ตั้งใจหาเสื้อผ้าที่กันหนาวเกิน -10 ไว้ (คิดว่าจะกลับไทยกลางธันวาคม ไม่น่าจะเกิน -10 แต่ผิดคาด

ปีนี้ ช่วงกลางธันวาคม 2012 หนาวถึง -18-20 เลยทีเดียว

อันนี้คือรูปที่เคยไปเที่ยวปี 2009

ส่วนปี 2012 ไปกับพ่อแม่ค่ะ ช่วงนี้คิดว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดที่ดอกไม้ควรบานแล้วต้นเมษายนแต่

ปีนี้ดอกซากุระยังไม่ยอมบานเลยเพราะอากาศยังคงหนาวอยู่

ช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ ดอกทิวลิปก็บาน ไป Everland ก็จะได้เล่นเครื่องเล่นแล้วก็ได้ถ่ายรูปสวยๆด้วยค่ะ

ใช้บัตรนักเรียน จะได้ส่วนลด จาก 44,000won เหลือเพียง 29,000won ค่ะ อย่าลืมหยิบไปด้วยนะคะ

เครื่องเล่นที่เอเวอร์แลนด์เกาหลีจะหวาดเสียวกว่า ไปเล่นที่ Universal Studio ญี่ปุ่นมาก

ที่นั่นมีแค่ Spiderman ที่น่าดู นอกนั้นเฉยๆค่ะ (ความเห็นส่วนตัวน๊า) แต่ถ้าถ่ายรูปที่นั่นโอมาก

แนะนำให้ไปวันธรรมดา เพราะเสาร์อาทิตย์และช่วงปิดเทอม คนเกาหลีเยอะมากๆๆๆๆ

เสียเวลาต่อแถวเครื่องเล่นละ 2-3 ชั่วโมงไม่คุ้มเลยค่ะ วันนั้นออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมง

กลับออกจาก Everland ตอนห้าทุ่ม ปิดพอดีเลย ดูการแสดงโชว์ Disney และพลุก่อนกลับด้วย

สวนสนุกอีกที่ก็มี Lotte World ที่นี่มีลานสเก็ตแล้วก็สวนสนุกเด็กๆน่ารักดีค่ะ

พริ้มไม่ได้เข้าไปเล่นหรอกน๊า แต่ว่าไปงานแต่งงานเพื่อนสาวเลยแวะไปถ่ายรูปมาฝากค่ะ

หน้าร้อน ที่นี่เหมาะกับการปิกนิคค่ะ ตามสวนสาธารณะจะเป็นคุณตาคุณยาย พ่อแม่ลูก ป้าๆ

คู่รัก และหมู่เพื่อนๆทั้งหลายนิยมกันมากค่ะ ที่ยออีโดจะมีจักรยานให้เช่าปั่นด้วยค่ะ

สวนสนุกตรงที่ขึ้นเรือข้ามไปเกาะ

เครื่องเล่นนี้ดูตื่นเต้นน่าเล่นมากเลย (แต่ไม่กล้าค่ะ 555)

เล่นเบสบอลดีกว่า 1,000won เอง

อันนี้เค้าเคี่ยวน้ำตาลแล้วให้ลูกค้าทำรูปเอง เห็นสาวๆสนใจกันเพียบเลย

อันนี้น้ำมะนาวจริงจังมากค่ะ ใส่แค่ sprite กะมะนาวแล้วก็ Syrups นิดหน่อย

ขนมอันนี้ไม่แนะนำให้ลองนะคะเพราะว่าแข็งและไม่หวาน น่าจะทำมาจากข้าวโพดตอนแรกนึกว่าจะ

รสชาติเหมือนคอนพัฟ แต่แย่มากเลย

เทศการ Light Festival (Seoul Latern Festival 2012 Cheonggyecheon, Seoul)

มีช่วง 18พ.ย.ค่ะ

เค้ามีเหมือนโคมให้ลอยด้วยนะคะ ลอยเหมือนลอยกระทงบ้านเราเลย แต่เค้าจะให้เขียนๆ

คำอธิษฐานลงไปในกระดาษโคมอันนี้แล้วก็เอาไปลอยค่ะ ไม่มีใครใส่เงินลงไปเหมือนบ้านเราน๊า

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในนี้ค่ะ คลิก

ช่วงนี้ใบไม้เปลี่ยนสี สถานที่น่าไปก็จะมี เกาะนามิ และที่คนกรุงโซลนิยมมาเดินเล่นกัน

คือ ถนนโทลทัมกิล ข้างๆวังดอกซูกุง (덕수궁 돌담길) เพราะว่าจะมีต้นไม้เรียงเป็นแถว

หนุ่มสาว หรือครอบครัวชอบมาเดินเล่นถ่ายรูปกันที่นี่ค่ะ ช่วงนี้น่าจะเป็นปลายตุลา

หรือต้นพฤจิกายนนะคะ

การเดินทาง ถ้าไป Line no. 2 ให้ลสถานี City hall Exit.no. 4 ออกมาแล้วก็เห็นเลยค่ะถนนเส้นนี้

ที่นี่ด้านในเป็นวังเก่าค่ะ เอารูปสมัยหน้าร้อนมาให้ดู

อีกที่นึงที่น่าไปในโซลช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือ โซลทาวเวอร์ Seoul Tower ทุกคนคงรู้กันว่า

หนุ่มสาวมักจะไปคล้องกุญแจที่นั่่น แล้วก็เดินเล่นถ่ายรูปกัน

เราไปบ่อยเลยทั้งหน้าร้อนและใบไม้เปลี่ยนสี

เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว ช่วงนี้อากาศจะประมาณ 5องศาค่ะ

สำหรับแฟนพันธุ์แท้คิตตี้พลาดไม่ได้เลยกับ Kitty Cafe มีทั้งที่ ฮงแด และชินชน

ไหนๆก็แวะมหาวิทยาลัยฮงอิกแล้ว ย่านนั้นวันอาทิตย์จะมี Sunday Market มีพวกนักศึกษามาหารายได้พิเศษ

วาดรูป ร้องเพลง เต้น ร้านช๊อปปิ้งเยอะมาก ผับและร้านอาหารก็เยอะ พริ้มไปเกือบทุกวีคเลย 555

วาดภาพเหมือน หรือเอากระจกใสมาทาบหน้าแล้วก็ยืนวาด ฮาดีค่ะ

ผับที่คนไทยน่าจะชอบ ไม่เปิดอิเล็กโทรนิคอย่างเดียว และคนเยอะมาก

แนะนำ nb2 และ nb1 อยู่ฮงอิกเหมือนกันค่ะ คนแทบเหยียบกันตาย

สถานที่ Shopping ในโซลราคาถูกก็ย่านมหาวิทยาลัยหญิงล้วนอีฮวา (EHwa Uni)

แหล่งสิงห์สถิตย์ของพริ้มเลยค่ะ ชอบไปนั่งอ่านหนังสือที่ Smoothies King แล้วคลายเครียดด้วยการ

shopping คิคิ ของถูกดีค่ะชอบ

น้ำพลุเต้นระบำ 반포대교 การเดินทาง รถบัส สาย143번, 401번, 405번, 406번, 740번(잠수교 정차

จะมีให้ชมเป็นช่วงๆ แนะนำให้ไปตอนกลางคืนหน้าร้อนนะคะ ไม่งั้นหนาวหูหมดสนุกแน่ๆเลย

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวลาและอื่นๆในนี้ค่ะ คลิก

Concert Free ช่วงที่ city hall จัด ช่วงนั้นที่พริ้มไปดูกังนัมสไตล์ PSY โอ้โห คนล้านแปดแทบจะเหยียบกันตาย

ไปรอดูกับเพื่อนและคุณแฟนตั้งแต่สี่โมงเย็น งานเลิกเที่ยงคืนกว่า ต้องเดินกลับบ้านเพราะ taxi ไม่พอ

กับความต้องการ T_T

พิซซ่า 2PM แทคยอน lover อย่างเรามีหรือจะพลาด ถาดละประมาณพันบาท มี salad bar ตักฟรี

อร่อยมั่กๆ ดีกว่า sizzler ในไทยอีกนะเราว่า

และเดือน 11 วันที่ 11 นี้ก็คือวัน Pepero's Day คู่รักนิยมให้ของขวัญเป็นขนมป๊อกกี้ค่ะ

ไม่เคยคิดเลยค่ะว่าจะต้องอยู่รับหิมะหน้าหนาวที่เกาหลี ปกติ ช่วงต้นธันวาคมจะไม่มีหิมะ

แต่ปีนี้ อีกแล้ว หิมะมาให้ปะทะก่อนกลับไทย

ปัญหาของพริ้มคือ การอาบน้ำทุกวันซึ่งทำให้ผิวแห้งมากเป็นผื่นและคันไปทั้งตัวเลย

เสียเงินในการรักษาซื้อครีมหลายพันเหมือนกันแต่ไม่หาย

แค่กลับไทยเท่านั้น อาการทุกอย่างหายเป็นปริดทิ้ง

อย่างที่บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่คิดว่าจะอยู่ให้ถึงหน้าหิมะ ดังนั้นเลยไม่ได้ซื้อเสื้อกันหิมะ รองเท้า

และอื่นๆไว้เลย แต่อากาศมันดันร่วงลงๆๆๆตั้งแต่กลางพฤศจิกายน อีกแค่ไม่ถึงเดือนก็จะกลับไทยแล้ว

ด้วยความเสียดายถ้าต้องเอาเงินเป็นหมื่นไปซื้อเสื้อต่างๆเลย ใช้วิธีการใส่เสื้อหลายๆๆๆชั้น

ฮีตเทค แต่มันไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่เลย T_T อากาศที่เกาหลีมันหนาวเจ็บจริงๆค่ะ

แต่ก็จะพาไปเที่ยวต่ออยู่ดี คิคิ

ที่อีแด

คนที่นี่นิยมใส่สีดำจริงๆ (ขอแหวกแนวมาชมพูบ้างอะไรบ้างนะคะ ^^)

ทิ้งท้ายด้วยรูปคู่บ้างอะไรบ้างนะคะ ^^

ความเดิมตอนที่แล้ว Level 2 คลิกที่นี่เพื่ออ่านจ้า

Level 3 เทอมแห่งกิจกรรม

ในที่สุดก็ผ่านเทอม 2 มาได้แบบลากเลือด

มาดูเทอม 3 บ้างดีกว่าว่าเค้าพาเรียนอะไร เทอมนี้เพื่อนๆข้างกายมีแต่คนเก่งๆแฮะ

แบบว่าพูดเกาหลีน้ำไหลไฟดับ เพราะเป็นเคียวโป (คนเกาหลีที่ไปโตประเทศอื่น)

ช่วงนี้มีใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาหลี ปลายตุลา-ต้นพฤศจิกายน

ภาพนี้ถ่ายตอนไปเดินเล่นที่มหาวิทยาลัยอีฮวา สวยมากเลยโดยเฉพาะตรงบันไดที่มีตึกเรียนอยู่

เหมือนเจาะกลางภูเขาเพื่อสร้างตึกเรียนเลยค่ะ

เปลี่ยนกับมาที่ด้านหน้าตึกเรียนที่ยอนเซบ้างดีกว่า

ตรงร้านกาแฟข้างตึกเรียน

ช่วงนี้นอกจากการเรียนจะโฮด กิจกรรมจะเยอะ แล้วยังอากาศที่ไม่เอื้ออีก จะหนาวไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ

วันสำคัญที่ทุกคนต้องไปร่วมคือ งานวันครบรอบการประดิษฐ์อักษรเกาหลี

ในงานก็ไม่มีอะไรมากก็ให้นักเรียนทุกคน เลือกว่าจะเขียนเรียงความหรือแต่งกลอนตามหัวข้อ

ซึ่งหัวข้อนั้นจะอยู่ในลูกกลมๆที่เห็นด้านบนทุกคนกำลังปากระดาษใส่กันอย่างเมามันส์

เค้าแจกสมุดมาคนละเล่ม งานครั้งนี้ทำให้รู้ว่าเพื่อนๆที่เรียนกับเรารอบข้างนั้นภาษาเขียนมันหรูมากเลย

เขียนกันน้ำไหลไฟดับ >_<

หลังจากนั้นก็จะมีการเรียนดนตรีดั้งเดิมของเกาหลีในชั่วโมงเรียน พริ้มว่าอารมณ์เหมือนตีกลอง

ระฆังและฆ้อง บ้านเราเลย มีฉิ่งฉับด้วย เรียนแล้วปวดหู

เทอมนี้จะต้องจับคู่กัน 2 คน เพื่อนสอบบทละคร อีกแร้ว

หัวข้อที่เราจับได้

- เจอเพื่อนเก่าในงานเลี้ยงรุ่น

- ไปซื้อของ ต่อราคา หรือเปลี่ยนไซส์เปลี่ยนสี

- จำไม่ได้แล้วอ่า ไว้เด๋วมาบอกวันหลังละกันนะคะ

สอบทั้ง Mid term & Final ต่างกันที่หัวข้อ

ก่อน Final ก็จะมีให้แสดงละครด้วย เทอมนี้ห้องเราคว้าที่ 1 มาจนได้ เนื่องด้วยการมีหัวหน้าห้อง

ที่ฮามาก ห้องเราแสดงเรื่องซินเดอเรล่า

ขนาดแสดงเองยังฮาเลย

เลยต้องมีการนัดซ้อมกันบ่อยๆ กินข้าวกันบ่อยๆเลยสนิทกัน

อันนี้เพื่อนญี่ปุ่นลงมือเข้าครัวทำคนเดียวเลย น่ารักมากๆ

เสร็จแล้วพวกเราก็ซ้อมบทละครกันเช่นเคย

วันแสดง (อย่างที่บอก นางซินคนเดียวก็ฮามากแล้ว)

พริ้มได้รับบทเป็นนางฟ้านะคะ ไม่ใช่นักร้องที่ไหน แต่ชุดอาจจะคล้ายไปหน่อย555

รางวัลที่ 1

หลังจบการแสดง เพื่อนส่งรูปมาให้น่ารักมากเลย

เลี้ยงฉลองที่ร้านหัวหน้า (ร้านไก่ทอดที่เค้าทำงานพิเศษอยู่) เนื่องจากเค้าสัญญากับทุกคนว่า

ถ้าชนะ จะเลี้ยง 555 ทุกคนเลยตั้งใจท่องบทกันเป็นพิเศษ

แล้วก็มีสอบ Final ให้พูด 3 นาทีด้วย เรื่องที่เราประทับใจมากที่สุด

ยากตรงที่ต้องใส่แกรมม่าของเลเวล 3 เข้าไปด้วยเนี่ยแหล่ะค่ะ >_<

เทอมสุดท้ายแล้วกะว่า Level 4-6 จะไม่เรียนต่อแล้วค่ะ

เพราะว่าแค่นี้ก็ถือว่าพูดได้สื่อสารได้เพียงพอแล้ว

ถ้าต้องไปต่อ ต้องอ่านข่าว แล้ววิจารณ์คงไม่หนุกแน่ๆ ขนาดภาษาไทยยังชอบเล้ย

อีกอย่างหน้าหนาวเป็นศัตรูกับพริ้มมาก ผิวแห้งและคันมากคันจนนอนไม่หลับ

หมอบอกว่าเป็นเพราะผิวแห้ง เกิดจากอาบน้ำทุกวัน ในห้องเค้าเปิดฮีตเตอร์ผิวยิ่งแห้งไปกันใหญ่ ฮือๆ

ถ้ามีอาการแบบนี้รีบไปหาหมอนะคะ เสียค่ารักษาครั้งละ 7,000won ไม่รวมค่ายานะ

ก่อนกลับของที่ช๊อปปิ้งมาเริ่มเป็นปัญหา จะเอากลับไทยยังงัยดีน๊า....T_T

กองนี้ขนกลับบ้านคุณแฟนก่อนละกัน 555+

ก่อนออกจากฮาสุกจิ๊บ ฝากของขวัญน่ารักๆและเขียนจดหมายฉบับนึงให้อาจุมม่าเจ้าของบ้าน

กลับไทยไปคงคิดถึงฝีมืออาหารคุณป้าแน่ๆเล้ย...อันนี้คือของที่ไปซื้อที่ญี่ปุ่นมา

ตั้งแต่เรียนมา กลับมาดูรูปต่างๆพบว่าเที่ยวเยอะมากๆ สงสัยช่วงนี้ชีพจรจะลงเท้า เที่ยวไม่หยุดเลย

รีวิวที่เที่ยวในเกาหลีหรือกิจกรรมที่น่าทำค่ะ

อ่านในลิงค์นี้นะคะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=primpinky&month=13-03-2013&group=23&gblog=16