Group Blog
 
All Blogs
 
Hongkong return #2 Golden Bauhinia Sq., Ocean Park, The Peak

เช้าวันนี้เปิดโปรแกรมด้วย Golden Bauhinia Square ครับ

Causeway Bay -> Wan Chai ค่าโดยสาร 4 เหรียญใช้เวลาเดินทาง 3 นาที

Exit A5 แล้วเดินต่อใช้เวลาประมาณ 15 นาที

สถานี Wan Chai ยังเป็นแหล่ง Hongkong style tea (ก็ชาเย็นบ้านเราเนี่ยแหละ) อันเลื่องชื่อ และมีอาหารเช้ามากมายให้เลือกทาน ไม่เชื่อ ลองมองดูสิครับ



พอออกจาก A5 จะเป็นสะพานลอยซึ่งอยู่บนถนน O'Brien road ให้เดินไปจนสุดสะพานลอยเลยครับ แล้วเราจะเจอตึก Immigration Tower



จากตึก Immigration Tower แล้วให้เลี้ยวขวา มองหาตึก Hongkong Convention & Exhibition Centre แล้วพยายามออกทางขวา มองหาป้ายเลยครับ

ดูแถวล่างสุด



ระวังเดินเลย ไปถึงตึก Hongkong Exhibition Centre นะครับ นั่นแสดงว่าเลยแล้ว

ถ้าไม่หลงทาง เดินตามทางไปหาชายฝั่ง ก็ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีครับ จาก MTR



ประติมากรรมรูป “ดอกชงโคบานตลอดกาล” (โกลเด้น โบฮิเนีย) เป็นของขวัญที่จีนแผ่นดินใหญ่มอบให้เพื่อแสดงถึงความยินดีที่ได้ฮ่องกงได้กลับมารวมเป็นหนึ่งเดียวกับแผ่นดินแม่ หลังจากที่ต้องแยกกันเป็นเวลานานกว่า 150 ปี ใกล้กันมีอนุสาวรีย์ของการรวมกันเป็นหนึ่งที่จารึกลายมือของประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน โดยทุกๆเช้าจะมีพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา (ถ้าจะมาชม ให้มารอตั้งแต่ 7.45 เลยครับ)



ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น Clock Tower กับ Avenue of Stars น่ะเอง




แล้วก็มาตามแผนเดิมครับ คือไปเที่ยว Ocean Park โดยหวังว่า คนคงจะน้อยลงจากเมื่อวานนะ เพราะออกจากช่วงวันหยุดตรุษจีนของคนฮ่องกงแล้ว แต่ที่ไหนได้ คิดผิดถนัดเลยตรู

Wan Chai -> Admiralty ค่าโดยสาร 4 เหรียญ ใช้เวลาเดินทาง 3 นาที

Exit B แล้วมองป้าย Bus to Ocean Park ทางซ้ายมือ จะเจอตู้ขายตั๋ว Ocean Park และตั๋วรถเมล์

แถวคิวซื้อตั๋ววันนี้สั้นลงมาก



ค่าตั๋วก็ ผู้ใหญ่ 208 เหรียญ เด็ก 103 เหรียญ

ส่วนค่าตั๋วรถเมล์สาย 629 ก็ 10.6 สำหรับผู้ใหญ่ และเด็ก 5.3 เหรียญ ต่อเที่ยว

จะรูดบัตรเครดิตเพื่อซื้อรวมไปเลยก็ได้ครับ 208+10.6+10.6=229.2 เหรียญ (ประมาณ 1,055 บาท) ต่อผู้ใหญ่หนึ่งคน

นั่งรถเมล์ซักครึ่ง ชม. ก็มาถึง Tai Shue Wan ส่วนเข้า Headland ครับ



โอเชี่ยนปาร์คฮ่องกง เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1977 เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดกาลของฮ่องกง ธีมปาร์คขนาด 200 เอเคอร์ นี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮ่องกง มีเครื่องเล่น นิทรรศการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายรายรอบเขา รถกระเช้าที่เชื่อมพื้นที่ 2 ส่วนระหว่างยอดเขาสูงและพื้นที่ด้านล่าง ทำให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ตระการตาขณะโดยสาร และสิ่งดึงดูดใหม่ล่าสุดคือลูกหมีแพนด้ายักษ์ 2 ตัว และพิพิธภัณฑ์แมงกะพรุนทะเลแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แบ่งออกเป็น Headland



กับ Lowland



นอกจาก Cable Car ที่ใช้เชื่อทั้งสองส่วนนี้ เรายังสามารถนั่งรถเมล์ (ฟรี) สาย 888 ได้ด้วยครับ จะเชื่อมทางเข้า ทั้งสองส่วนนี้ไว้ด้วยกัน แต่ถ้าออกไป อย่าลืมแสตมป์มือด้วยนะครับ


ถ้าดูจากแผนที่ จะเห็นได้ว่า แค่ Headland ก็แบ่งเป็นหลายชั้นแล้ว ต้องใช้กำลังขาเยอะ ไม่เหมือน Disneyland ที่เป็นพื้นเรียบทั้งหมด แถมแต่ละจุด ยังเดินค่อนข้างไกล ต้องจัดเวลาเล่นเครื่องเล่นกับดูโชว์ให้ดีๆด้วยครับ

** จุดขายของ Ocean Park กับ Disneyland นี่ค่อนข้างต่างกันเยอะพอสมควรเลย ก็คือ

- Ocean Park จะมีเครื่องเล่นที่ตื่นเต้น เหมาะกับวัยรุ่นมากกว่า และสถานที่ ที่เป็นเขา ยังเหมาะกับคนกลุ่มนี้มากกว่า และ Ocean Park ยังเป็นแหล่งศึกษาสัตว์ทางทะเลหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ปลาต่างๆ โลมา สิงโตทะเล แมงกระพรุน และล่าสุดมีหมีแพนด้าอีกหนึ่งคู่จากจีน

- Disneyland มีเครื่องเล่นไม่ค่อยน่ากลัวมากนัก เหมาะกับเด็กเล็กๆ หรือพาผู้ใหญ่ที่สูงอายุมาได้สบายๆ เพราะมีโชว์ที่ได้มาตราฐานดีสนีย์ให้ชมมากมาย ที่สำคัญ Disneyland ยังมีจุดแข่งกว่าในด้านที่มีคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนที่เยอะ และแข็งกว่ามากๆครับ

ว่าแล้วก็เริ่มเบียดเสียดขึ้นบันไดเลื่อนแรกกันเลยครับ (มีตั้ง 4 บันได้เลื่อน)



ผ่านบันได้เลื่อนแรก ทางขวาจะเป็นภัตตาคาร ให้ขึ้นไปบันไดเลื่อนนึงอีกครับ ถึงจะเจอเครื่องเล่น ให้เดินตามลูกศรเลยครับ

ซึ่งมันจะเดินลงมาหน่อย ตรงจุดนี้จะมี 2 เครื่องเล่นให้เล่นคือ Raging River หรือล่องแก่งของบ้านเรา (แต่น้ำของเขาใสกว่ามากๆ) กับ Mine Train รถไฟเหาะบนยอดเขา ให้เดินมาอีกหน่อยครับ

แล้วก็มาเจอ Mine Train



ดูคิวซะก่อนครับ ข้างหน้าบอกว่าเวลารอคัว 90 นาที

กว่าจะได้เล่น ก็รอจนเหงื่อออก รอตั้ง ชม.นึงแน่ะ




ขึ้นลิฟท์ต่ออีกสองชั้นครับ



ถึงจะเจอ Pacific Pier เป็นสระแมวน้ำกับสิงโตทะเล จะมีโวให้ชมด้วย



แล้วจะเจอ Ocean Park Tower แต่ไกลเลยครับ



เลยมาส่วนเครื่องเล่นเสียวๆเลยครับ ต้องเดินเข้าไปอีกไกลเลยนะเนี่ย



ดูบริมาณคนซะก่อนครับ แทบไม่ต้องเดินเลย ให้ฝูงชนไหลพาไปเองได้เลยครับ



เครื่องเล่นแบบเด็กๆ Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์



Crazy Galleon ก็ไวกิ้งบ้านเราน่ะเอง แต่แกว่งไม่ค่อยสูงแบบ้านเราเท่าไหร่นะครับ



Eagle



The Abyss อันนี้เสียวสุดยอดครับ แถวรอคิวสั้นที่สุด รอแค่ 45 นาทีเองนะ





เครื่องเล่นเสียวๆต่อไปก็คือ The Dragon หรือรถไฟเหาะตีลังกา รออีก 1 ชม.



แวะเติมพลังที่ Cafe Ocean ครับ



เวลาเหลือน้อย เลยเก็บตกดูพวกสัตว์ที่จัดแสดงบ้างครับ

Atoll Reef เป็น Underworld มีปลาให้ชมครับ





ก็เป็นอ่างอควอเรี่ยมขนาดใหญ่ แบบว่าเอาให้คุ้ม เจาะให้คนเดินดูกัน 4-5 level ครับ (ผมว่าบ้านเราดีกว่านะ)



Ocean Theatre เป็น hi-light ของ Ocean Park เลยครับ เพราะจะมีการแสดงปลาโลมาและสิงโตทะเล

โชคดีที่ช่วงเทศกาลเปิดถึงสองทุ่มนะเนี่ย เลยได้ชมรอบ 18.30 ท่ามกลางบรรยากาศหมอกบนเขา





โชว์สั้น ไม่ถึงครึ่ง ชม.ดี พอจบ รีบโกยอ้าวไปนั่ง cable car เลยครับ เพราะยังไม่ได้ลงไป Lowland เลยนะเนี่ย

มาถึงก็รอคิวอีก ครึงชม.



บรรยากาศบนกระเช้า ยามค่ำ





ใต้อาคารเคเบิ้ลคาร์ มีแอฟริกาให้หลงด้วยครับ เป็นการจัดบรรยากาศแบบในหนัง Madagascar 2 Escape Africa



ส่วน Kids' World ไม่ได้ไปเลยครับ เพราะเวลาเหลือน้อยเต็มที เลยไปทางฝั่ง Sky Fair แทน กะจะไปดูหมีแฟนด้าซะหน่อย



มืดมาก...

แวะไปเยี่ยมเจ้า Le Le กับ หนู Ying Ying ซะหน่อย แบบว่ามันเป็นญาติ ช่วง ช่วง กับ หลินฮุ้ย บ้านเรา (เกียวกลางเดือน ก.พ.ก็ว่าจะไปเยี่ยมช่วงช่วงกับหลินฮุยซะหน่อย)

อ้าว แอบหนีไปนอนซะแล้ว



ผมว่าลานจัดแสดงหมีแพนด้านี่ บ้านเราทำได้ดีกว่านะครับ เสียอย่างเดียวที่บ้านเราถ้าเข้าไปดูต้องเสียตังค์เพิ่ม ของฮ่องกงนี่ เข้าชมได้ฟรี แต่ถ้าใครอยากบริจาคช่วยหมีแพนด้า (ตอนที่จีนมีแผ่นดินไหว) ก็ใช้บัตรปลาหมึกแปะตรงขาออกได้ จะบริจาคทีละ 10 เหรียญครับ (พอๆกับค่าดูหมีที่เชียงใหม่เล๊ย..)

กลับออกมาตอนที่จะปิดสวนสนุกตอนสองทุ่มพอดีเลยครับ ก็นั่งรถถบัสสาย 629 กลับไปสถานี Admialty

ลำดับถัดไป เป็น The Peak ครับ

Admiralty -> Central ค่าโดยสาร 4 เหรียญ ใช้เวลาเดินทาง 3 นาที

Exit J2 ครับ ขึ้นมาเราจะพบกับ Chater Garden ให้เดินข้ามมาทางตึก Bank of China เลยครับ



แล้วมองหาป้ายไปทาง Peak Tram ซึ่งเราจะต้องเดินไปตามถนน Garden Road ครับ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็จะเจอ..



มาถึงก็เข้าคิวครับ (มาเที่ยวช่งเทศกาล ต้องทำใจ)


เจอเฉินหลงด้วยแหละ



ดูแถวซะก่อนครับ นี่ขนาดใกล้ 3 ทุ่มแล้วนะเนี่ย

กว่าจะได้นั่งรถ Peak Tram นี่ก็ร่วมชั่วโมงครับ ที่ยืนรอ..



มาแล้วครับ ตื้นตันใจใกล้ได้ขึ้นแล้ว

Lower Peak Tram Terminus -> The Peak Tower ใช้เวลา 7 นาที (ระยะทาง 373 เมตร)

ค่าโดยสาร เที่ยวเดียว 22 เหรียญ / ไป-กลับ 33 เหรียญ / ไป-กลับ+ชมวิวบนยอดตึก 48 เหรียญ

ถ้ามีบัตร Octopus card ก็จะมีช่องพิเศษ ทำให้ย่นระยะเวลาในการซื้อตั๋วครับ คือ ไปแปะบัตรตรงทางเข้าได้เลย โดยขาขึ้นหักเงินไป 22 เหรียญ แล้วขากลับลงมาจะหักเพิ่มอีก 11 เหรียญครับ



ไต่ขึ้นไปแล้ว รอมาตั้งนานนี่ไม่ได้นั่งด้วยนะเนี่ย ผมยืนห้อยอยู่ตรงหน้ารถเลย ฝั่งที่อยู่ต่ำสุดน่ะครับ



ภาพบรรยากาศรอบๆอ่าววิคตอเรีย จาก Peak Tram (กล้องผมถ่ายมาได้แค่เนี้ย ส่วนใหญ่มันจะเบลอๆง่ะ)





ในที่สุดก็มาเหยียบ The Peak (ยังไม่ได้ทานมื้อเย็นเลยนะเนี่ย)



Dinner at The Peak นี่ทำตามคู่มือท่องเที่ยวแนะนำเลยนะเนี่ย.. ผมทานที่ Cafe Deco ของตึก The Peak Galleria ที่เขาว่ามีวิวที่สวยที่สุดของ The Peak (เห็นโฆษณาหน้าร้าน)



จากบนร้านครับ จริงอย่างที่โฆษณาไหมเนี่ย



แถวข้างบน ขากลับนี่ ดูปรัมาณคนแล้วน้อยกว่า แต่ก็ยังเยอะนะเนี่ย



ขาลงแล้ว ใกล้ 5 ทุ่ม คนน้อยเชียวครับ



แถมครับ ถ้าไม่เกรงใจจะไปเหยียบบนป้ายมันเลยนะเนี่ย..




Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 1 มิถุนายน 2553 18:31:45 น. 2 comments
Counter : 1761 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

ในที่สุดก็กลับมา...ยินดีค่ะ


โดย: sirivinit วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:49:02 น.  

 
เที่ยวซ๊ะคุ้มเลยน๊ะน้อง


โดย: ฟ้าคงสั่งมา วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:06:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prapasawat
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




Friends' blogs
[Add prapasawat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.