นิยามและความหมายของคำว่า"พ่อ"


โดย ผศ.นพ.พนม เกตุมาน
นิยามและความหมายของคำว่า"พ่อ"
พ่อในแนวความคิดคือ บุคคลที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นที่เคารพ เป็นทั้งผู้อุปการะ รวมถึงคำที่เราจะกล่าวได้ว่า "พ่อคือผู้ให้" ให้แบบอย่าง บางคนก็บอกว่าพ่อเป็นผู้อุปถัมภ์ แต่พ่อจะเป็นมากกว่านั้น พ่อจะคอยสั่งสอนเราตั้งแต่เด็ก ๆ บางทีเราอาจจะไม่รู้ความหมายที่ท่านสั่งสอนเรา แต่พอเราโตขึ้นเราจะรู้ได้ว่าสิ่งที่ท่านสอนเรามาเราควรที่จะปฎิบัติอย่างยิ่ง และเราก็ควรทำตาม คำว่า"พ่อ" อาจจะเปรียบเหมือนกับเรือที่นำพาครอบรัวฟันฝ่ามรสุมให้ตลอดรอดฝั่ง พ่อคือ ผู้นำเป็นแบบอย่าง เป็นทุกอย่าง ในทางจิตวิทยาสังคม พ่อจะมีความหมายของบุคคลในการก่อสร้างครอบครัวขึ้นและก่อสร้างให้มีความสุขได้ทุกคนทั้งพ่อแม่และตัวลูก
หน้าที่ของคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อ หรือได้เป็นพ่อนั่น ควรจะปฏิบัติตนอย่างไรจึงเหมาะสมกับคำว่าพ่อ
พ่อจริงๆ ก็จะต้องมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติ หน้าที่คงจะแบ่งเป็นหลายประการด้วยกัน เช่น หน้าที่ต่อแม่ หน้าที่ต่อลูก ทั้งทางด้านจิตใจร่างกายและสิ่งอื่นๆ อีก โดยทั่วไปพ่อกับแม่ก็ช่วยกันในสิ่งที่จะต้องปฏิบัติต่อลูก
จะมีวิธีการอย่างไร ในฐานะที่เป็นผู้นำผู้ที่ปกป้องครอบครัว ที่จะให้ถึงเป้าหมายของแต่ละครอบครัวที่มุ่งหวังไว้
พ่อต้องปรึกษาหารือกับแม่เพื่อแบ่งหน้าที่กิจกรรมต่างๆ ในครอบครัว ซึ่งอันนี้ก็เป็นบทบาทของพ่อ พ่อเป็นผู้ริเริ่มจัดแบ่งหน้าที่ต่างๆ อันนี้ก็คือหน้าที่ภาระขั้นแรกจริงๆ ก็เริ่มตั้งแต่แต่งงานยังไม่มีลูก สามีภรรยาก็ต้องรู้จักหน้าที่ของกันและกันเอง คือเริ่มมีการวางแผน และการวางแผนแบ่งเป็นหลายด้าน เป็นการแบ่งเวลา การดูแล การทำงาน และการดูแลในเรื่องการเงินว่าจะมี 2 กระเป๋า หรือ 1 กระเป๋า หรือกระเป๋ารวม เป็นผู้นำให้แม่หรือภรรยาดำเนินตามกิจกรรมที่เราตกลงกัน นอกจากนี้พ่อยังมีบทบาทในการเลี้ยงลูกด้วย แม่จะเป็นตัวเอกและจะดูแลในระยะแรกๆ พ่อควรจะต้องดูว่าบทบาทของตัวเองจะไปช่วยเสริมด้วย และเมื่อลูกโตขึ้นพ่อก็จะมีบทบาทมากกว่า แต่ก็ต้องตามวัยและเพศด้วยเหมือนกัน อันนี้ก็ต้องแยกว่าจะต้องใกล้ชิดกับลูกอย่างไรบ้าง
หลายๆ ครอบครัว คิดว่าการเลี้ยงลูกนั้นคงจะเป็นหน้าที่ของคุณแม่แต่คุณพ่อก็มีบทบาทที่จะฝึกฝนให้คำอบรมและสั่งสอนเลี้ยงดู
จริงๆ แล้วเด็กเขาจะดูและเรียนรู้จากพ่อและแม่ ซึ่งจะต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกัน ก็น่าจะพูดคุยกันว่าจะได้เหมือนๆ กันแต่จะแบ่งหน้าที่ไป เพราะหน้าที่บางอย่างแม่จะทำได้เหมาะสมกว่าพ่อ ส่วนบางหน้าที่ พ่ออาจจะทำได้มากกว่าแม่ แต่พ่อและแม่ก็สามารถที่จะช่วยเสริมกันได้ ในบางเวลาที่คุณแม่เหนื่อยก็ได้พ่อช่วย พ่อควรจะมีส่วนช่วยเสริมคือ เรื่องของการมีกฎ ระเบียบวินัย เกณฑ์ กติกา หรือความสนุกสนาน หรือระเบียบให้ทุกคนปฏิบัติตาม
พฤติกรรมของคุณพ่อมีส่วนสำคัญกับลูกอย่างไรบ้าง
เด็กเขาเรียนรู้ตลอดเวลาจากคนที่อยู่ใกล้ชิดและถ่ายทอดเอาแบบอย่างนั้นไปเลย เรื่องที่สำคัญคือ ทัศนคติและค่านิยมต่างๆ ซึ่งเด็กจะเรียนรู้ตลอดเวลาเพราะฉะนั้นพ่อและแม่เป็นคนอย่างไรคิดอะไรเด็กก็จะเรียนรู้ชีวิตประจำวันนี้ไปตลอด ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นแกนสำคัญต่อบุคลิกของเด็ก คือเขาโตขึ้นเขาจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่เราเลี้ยงเขาขณะที่ยังเล็กๆ อยู่ และสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างคือ ภาพของคุณพ่อคุณแม่ที่ดำเนินชีวิตครอบครัวไปอย่างมีความสุข ก็จะติดตาติดใจไปถึงตอนนั้นด้วยแล้วก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เขาดำเนินชีวิตด้วย
บางครอบครัวนั้นเด็กก็จะมีนิสัยพฤติกรรมไปทางแม่ ส่วนบางครอบครัวก็จะไปทางพ่อ นั้นก็ขึ้นกับพฤติกรรมที่เด็กได้จดจำมาจากคนใกล้ชิด
ฝากไว้นิดหนึ่งสำหรับผู้ที่จ้างเลี้ยงหรืออยู่กับพี่เลี้ยงที่จ้างมา เด็กก็จะแตกต่างไปจากพ่อและแม่บ้าง ซึ่งนั้นเกิดจากเด็กเขาอยู่ใกล้ชิดใครเขาก็จะซึมซับนิสัยมาบ้าง เพราะฉะนั้นต้องมีเวลาเอาใจใส่บ้างและให้ความอบอุ่น อบรมสั่งสอนกับลูกบ้าง
ส่วนใหญ่ลูกเพศชายหรือหญิงที่จะสนิทกับพ่อมากที่สุด
ตามธรรมชาติลูกผู้หญิงจะสนิทกับคุณพ่อมากในช่วงแรกๆ หมายถึง 3-6 ปีแรกของชีวิตเด็กผู้หญิงจะใกล้ชิดกับคุณพ่อโดยธรรมชาติ เช่นเดียวกับเด็กผู้ชายก็จะไปสนิทกับคุณแม่ แต่เมื่อเขาเริ่มเข้าอนุบาลเด็กก็จะเริ่มเรียนรู้ว่าเขาเป็นเพศใด และก็จะเริ่มถ่ายทอดแบบอย่างจากเพศเดียวกัน หมายถึงเด็กผู้หญิงก็จะเริ่มเปลี่ยนจากสนิทกับพ่อก็มาเป็นคุณแม่ ส่วนเด็กผู้ชายก็จะกลับไปสนิทกับคุณพ่อแทนเพื่อจะถ่ายทอดแบบอย่าง และการถ่ายทอดก็สำคัญเพราะจะทำให้เขามีเอกลักษณ์ทางเพศถูกต้อง พฤติกรรมทางเพศ บทบาททางเพศเหมาะสม ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศตอนเขาโตขึ้นมา และคุณพ่อก็ต้องมีเวลามากๆ ให้กับลูก แม่ควรมีเวลาให้กับลูกผู้หญิง พ่อก็ควรมีเวลาให้กับลูกผู้ชาย
คำแนะนำสำหรับ คุณพ่อทุกๆ คนว่า การที่จะเป็นผู้นำสร้างครอบครัวของแต่ละท่านให้อบอุ่นนั้น เราจะมีวิธีปฎิบัติอย่างไร
หัวใจที่สำคัญที่สุดเลยคือ ความสัมพันธ์ที่ดีสำหรับพ่อและแม่ ถ้าพ่อกับแม่ความสัมพันธ์ไม่ดีต่อกันมีปัญหากัน โอกาสที่จะเผื่อแผ่ให้ความรักความอบอุ่นนั้นก็จะมีน้อย ฉะนั้นพ่อแม่จะต้องมีพื้นฐานที่ดีก่อน ถ้ามีปัญหาอะไรก็หาทางแก้ไขคลี่คลายเข้าใจกันให้มากที่สุด แต่พ่อต้องรู้หน้าที่บทบาทว่าจะทำอย่างไร ช่วยเสริมการดูแลในส่วนของ อาหาร การกินอยู่หลับนอน และระเบียบ แต่ทุกๆ เรื่องพ่อและแม่สามารถที่จะช่วยกันได้ในการดูแลลูก
ข้อแนะนำ
ทุกคนควรยึดถือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพ่อของเราเป็นหลักยึดของทุกคน และในวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี จะเป็นวันหนึ่ง ที่ช่วยเตือนสติในการที่เราจะมีบทบาทความเป็นพ่อที่ดีแล้วหรือยัง และควรทำอย่างไรที่จะเป็นพ่อที่ดี







Create Date : 27 มิถุนายน 2554
Last Update : 27 มิถุนายน 2554 22:08:53 น.
Counter : 631 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มนแพรวา
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]