เล่นหุ้น-----หรือโดน-----หุ้นเล่น

(เปิดอ่านผ่านโปรแกรม Google chrome )



เล่นหุ้น


เมื่อย่างเข้าวงการยุทธจักรหุ้น
การเก็งกำไร
การเล่นข่าว

เมื่อมีข่าวลือส่วนมาก มือใหม่ใจถึง มือเก่าเฝ้ากระดาน
ก็จะกระโจนเข้าเก็งกัน ตอนที่ยังมีข่าวที่ยังไม่ชัดเจน
หุ้นก็วิ่งไปได้ระดับหนึ่ง เป็นชาวไล่
แต่เมื่อข่าวจริงออกมา ก็จะเกิดแรงขาย
เพื่อเอาส่วนต่างของผลกำไร
เพื่อเก็บไว้ มองหาหุ้นตัวใหม่ต่อไป
จึงเป็นที่มาของคำว่า....

ข่าวลือให้ซื้อ

ข่าวจริงให้ขาย

_________________________________________________________


ซื้อแพง-ขายถูก...เพื่อรอซื้อที่ถูกกว่า...
_________________________________________________________


ผมชอบพูดล้อเล่น กับคนที่สนิทกันเสมอๆ

เรื่องก็คือ...เป็นอารมณ์ตลาด(ก็อารมณ์คนเล่นหุ้นนั่นล่ะ)
เมื่อเราซื้อหุ้นA ราคา2.30บาท/หุ้น
จูๆ ่มู๊ดตลาดมันไม่ดี มีแต่แรงเทขาย ไม้ใหญ่ๆ
ทั้งโยน ทั้งทิ้งกันลงมาขาดหมดเป็นช่องๆ
เมื่อเราเฝ้าดูอาการว่า...
ท่ามันแรงซื้อ ตงจะสู้แรง ไม่ไหว
ขณะนั้นราคาหุ้นมันก็ไหลลงจาก 2.30บาท
มาอยู่ที่1.98บาท/หุ้น
ด้วยความคาดหวังว่ามันจะลงไปต่อได้อีก
เราก็ทิ้งซ้ายไปแบบสุดสุดเลย เอาไปให้หมด
แล้วเราก็ลงไปตั้งรับที่1.90บาท/หุ้น
ก็อยากจะได้ส่วนต่างสัก 8 สตางค์
8 สตางค์นี่ถ้าถือหุ้น1แสนหุ้น
ถ้าเป็นไปได้ก็จะได้เงินทอน 8 พันบาทยังไม่หักค่าคอมฯ
แบบนักวิเคราะห์ เซียนใหม่เซียนเก่า เรียกว่า...ช๊อตอะเกนพอท์ต
หลังจากการเทขายทั้ง ลูกมือและเจ้ามือ
จนมาถึง2.92บาท/หุ้นเป็นบิด
และมีออฟเฟ่อร์2.94บาท/หุ้น กดอยู่เป็นล้านหุ้น

ในใจก็นึกว่า...เดี๋ยวเสร็จเรา

แต่จู่ๆ เหมือนเจ้ามือมันจะรู้ทันเกมส์
มันมีแรงหันไปเคาะขวารูดขึ้นไป
หลายคนเรียกว่ามันเด้ง เด้งขึ้นไปมากกว่าเด้งลงมาอีก
มันวิ่งขึ้นไปสูงกว่าที่เราขายไปอีก ในชั่วพริบตา

เหลืออยู่4วิธี
1.เคาะตามมันขึ้นไป
2.รอมันลงมาต่ำกว่าที่เราขายไป
3.รอดูอาการ แล้วเล่นได้ทั้ง2อย่างข้างบน
4.ออกจากหุ้นตัวนั้น แล้วไม่หันไปมองมันอีก หาหุ้นใหม่เล่นดีกว่า



__________________________________________________
เสียจังหว่ะ พลาดโอกาส
___________________________________________________

คงไม่มีใครคนไหน เข้ามาเล่นหุ้นแล้วบอกตัวเองว่า...

เล่นหุ้นแก้เหงา
เล่นหุ้นอันแบบมันส์เข้าว่า...
เล่นหุ้นตามเขาเดี๋ยวเราก็รวย(บางครั้งก็ซวย)
เล่นหุ้นยามว่าง แบบค่าเวลาหาอะไรทำ
เล่นหุ้นนี่เป็นงานอดิเรก
เล่นหุ้นเพราะอยากหมดเงิน จะได้รู้จัก คำว่าแมงเม่าที่จริงมันอยู่ที่ไหน
เล่นหุ้นแบบเงินมันว่าง ม๊ะรู้ว่าจะลงทุนอะไรดี
เล่นหุ้นแบบเก็งกำไร แต่พอซื้อแล้วมันลง ก็ว่า...
เล่นหุ้นลงทุน พอมันลดราคาลงไปอีก ก็ว่า...
เล่นหุ้นแบบถือยาว ก็ไม่ยาวได้ไง ไม่ขายไม่ขาดทุน
เล่นหุ้นแบบVI (บางคนก็บ้ากันไปตามกระแสแฟชั่น เทรนนี้มาแรง อ่ะดิ)

สารพัด ที่พยายามหาเหตุผลให้ตัวเองสุดชีวิต
และเที่ยวได้หลอกชาวบ้าน เพื่อนสนิท มิตรสหาย เครือญาติ
เล่นหุ้นเป็นการออม การลงทุนชนิดหนึ่ง
ว่ากันไป

ไม่เคยยอมรับเลย
ว่าเล่นหุ้นกันเนี่ย
เพราะความโลภ เพราะกิเลส เพราะอยากรวย เพราะอยากลอง
เพราะคิดว่ารู้จักดีมีความรู้+ความสามารถ
คิดเข้าข้างตัวเอง ได้ตลอดซิเอ้า..



เขียนโดย...ปรัชญา

__________________________________________________________________________

กฎแห่งการลงทุน ของนักลงทุนระยะสั้น
กฎการลงทุนทีคิดค้นโดย Victor Sperandeo

__________________________________________________________________________

ผู้มีชื่อเสียงในฐานะนักลงทุนทีประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น wall Street มาตลอดระยะเวลา 23 ปี โดยได้เขียนหนังสือที่ชื่อ Methode of Wall Street ซึ่งเป็นกฎแห่งการลงทุน 19 ข้อ ซึ่งเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะสั้น

กฎข้อที่ 1 ลงทุนอย่างมีแบบแผน และปฏิบัติตามแผนที่ตนเองว่างไว้อย่างเคร่งครัด
ผู้ลงทุนจะต้องมีเป้าหมายและคำนวณถึงโอกาสที่จะไปเป้าหมาย โดยการกำหนดแนวทางในการตัดสินใจ ในการลงทุน ต้องรู้จักประเภทการลงทุนของตัวเอง ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนต้องทราบว่าตัวเองเป็นนักลงทุนประเภทใด ระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว

กฎข้อที่ 2 เล่นหุ้นตามแนวโน้มของตลาดที่เป็นอยู่
นักลงทุนต้องรู้ว่าขนาดนั้นตลาดอยู่ในแนวโน้มระยะใด ไม่ว่าแนวโน้มระยะสั้น แนวโน้มระยะกลาง หรือแนวโน้มระยะยาว ซึ่งแต่ละแนวโน้มล้วนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

กฎข้อที่ 3 วางแผนในการตัดขาดทุนเมื่อราคาหุ้นไม่เป็นไปตามที่คาด
นักลงทุนต้องกำหนดระดับราคาที่จะตัดขายหุ้นเมื่อหุ้นลงถึงจุดที่กำหนด โดยการที่เรายอมตัดขาดทุนเพียงเล็กน้อย ดีกว่าปล่อยให้ราคาหุ้นตกลงไปจนไม่กล้าตัดสินใจขาย การตัดขาดทุนควรกำหนดไว้เมื่อราคาหุ้นตกลงไปในระดับ 10-20 %

กฎข้อที่ 4 เมื่อไม่มั่นใจในทิศทางของตลาด ควรหยุดรออยู่ข้างนอกตลาด
ถ้านักลงทุนอ่านสภาพตลาดไม่ออก ถ้าไม่มีหุ้นอยู่ในมือ ควรหยุดรอไม่ควรซื้อ หรือถ้ามีหุ้นอยู่ควรจะทยอยลดพอร์ตลง โดยนักลงทุนไม่ควรเล่นหุ้นในช่วงทีตลาดที่มีอารมณ์ของคนทั่วไปครอบงำ ไม่ว่าความโลภ หรือความกลัว

กฎข้อที่ 5 รอจังหวะอย่างอดทน
ไม่ควรซื้อหุ้นเพราะไม่มีอะไรให้ซื้อ หรือไม่ควรซื้อหุ้นทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะซื้อหุ้นบริษัทใด โดยต้องรอให้สิ่งต่างๆมีความชัดเจน สามารถพิจารณาได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จึงเข้าลงทุน

กฎข้อที่ 6 เมื่อหุ้นขึ้นให้ขายช้า เมื่อหุ้นตกให้ขายเร็ว
เมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้น ควรปล่อยให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบขายทำกำไร แต่เฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิด แต่หากเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลงหรือเข้าจังหวะในการลงทุนผิด ต้องตัดขายให้เร็ว

กฎข้อที่ 7 อย่าทำกำไรให้กลายเป็นขาดทุน
โดยมีหลักการว่าเมื่อราคาหุ้นขึ้นไป 1/3 ของเป้าหมายที่วางไว้ ควรจะตัดขายหุ้นออกมาประมาณ 1 ใน 3

กฎข้อที่ 8 ซื้อเมื่อหุ้นมีราคาต่ำ ขายหุ้นเมื่อหุ้นมีราคาสูง
สิ่งที่นักลงทุนในระยะสั้นต้องจดจำคือ เมื่อแนวโน้มระยะสั้นราคาอ่อนตัว ให้ซื้อลงทุนได้

กฎข้อที่ 9 ช่วงต้นของตลาดกระทิง ให้ทำตัวเป็นนักลงทุน และเป็นนักเก่งกำไรเมื่อ อยู่ในช่วงท้ายของตลาดกระทิง และตลาดหมี
เมื่อตลาดหุ้นเปลี่ยนแนวโน้มจากภาวะหมี กลับขึ้นสู่ภาวะกระทิง จะต้องเป็นนักลงทุนในระยะกลาง ไม่ควรเล่นเก่งกำไรซึ่งจะทำให้ผลกำไร หดลงไป แต่หากภาวะตลาดกลับจากกระทิงเป็นภาวะหมี การลงทุนต้องเปลี่ยนไปเป็นเล่นระยะสั้นเก่งกำไร

กฎข้อที่ 10. การซื้อถัวเฉลี่ยจะทำให้ขาดทุนเพิ่มมากขึ้น
เพราะจะทำให้นักลงทุนจมสู่การขาดทุนไปมากยิ่งขึ้น ทางที่ดีควรขายตัดขาดทุนเพื่อที่จะรอโอกาสกลับมาซื้อใหม่ในราคาที่ถูกลง

กฎข้อที่ 11.อย่าซื้อหุ้นเพราะเห็นว่าราคาต่ำ และอย่าขายเพราะเห็นว่าหุ้นราคาสูงโดยไม่พิจารณาปัจจัยต่างๆให้ถ่องแท้
โดยไม่ควรนำเอาอดีตที่ราคาหุ้นได้ตกลงมาถึงจุดที่เคยลงมา และไม่ควรคิดว่าราคาหุ้นจะไม่สามารถผ่านจุดที่เคยขึ้นไปถึงได้

กฎข้อที่ 12.ลงทุนในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง
การลงทุนในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ นักลงทุนตัวไปจะไม่มั่นใจในตลาด ซึ่งเป็นความกลัวในภาวะต่างๆ จะเกิดความไม่แน่นอนในการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง

กฎข้อที่ 13.อย่าลงทุนในช่วงปลายตลาดขาขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนทั่วไปขาดการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างถ่องแท้ จึงอาจพลาดในการซื้อหุ้นในราคาสูง

กฎข้อที่ 14.การตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นต้องอยู่ที่ตัวเองเท่านั้น
ไม่ควรที่จะเชื่อข่าวลือต่างๆ ที่ทำให้หลงให้เราเข้าไปติดหุ้น

กฎข้อที่ 15.หากเกิดความผิดพลาดต้องนำมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น
เพื่อจะได้ปรับปรุงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับว่าจะได้นำอดีตกลับไปเป็นครูเพื่ออนาคตต่อไป

กฎข้อที่ 16.เทคโอเวอร์ ข่าวอันตราย

กฎข้อที่ 17.การส่งคำสั่งซื้อขายแต่ละครั้งต้องตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อยก่อนเสมอ

กฎข้อที่ 18.บันทึกคำสั่งซื้อขายทุกครั้งเพื่อเป็นหลักฐานต่อไป

กฎข้อที่ 19.จดจำและปฏิบัติตามกฎ ทั้ง 18 ข้อ

ที่มา Methode of Wall Street
Victor Sperandeo b-take.com

__________________________________________________________________________

คัมภีร์ “ไตรยุทธ์”
__________________________________________________________________________

1. เล็งแล้วซื้อ (เกิดขึ้น) – เลือกหุ้นยอดนิยม / หุ้น Lead / หุ้นติด Most Active
รอจังหวะราคาหุ้นถูกทุบลงมา แล้วเริ่มยืนได้ โดยสังเกตุราคาหุ้นไม่ทำ New Low และวันต่อมาทำจุดต่ำยกสูงขึ้น –
ราคาหุ้นทะลุเส้นแนวโน้มลง ระยะสั้น –กลาง [ ใช้เครื่องมือทางเทคนิคเคิล – กราฟราย 30 นาที รอจังหวะราคาหุ้นตกลงมาแรงๆ และเริ่มยืนได้ คือ ราคาไม่สร้างจุดต่ำใหม่ แต่แกว่งตัวออกด้านข้าง – กรอบ Bollinger Bands แคบลงเคลื่อนตัวแนวนอน – RSI อยู่ต่ำกว่า 40 (จังหวะนี้เฝ้าดูไว้ เริ่มน่าสนใจแล้ว) รอจนราคาเริ่มขยับขึ้น จน RSI
เคลื่อนตัวมาอยู่ที่ระดับ 40 – 50 (เท่าที่สังเกตุมา ราคาหุ้นจะทรงตัวอยู่ระดับนี้ก่อนทะยานขึ้น 1-3
วัน) ** ให้เข้าซื้อบริเวณนี้ แล้วอย่าลืมกำหนด จุด Stop Loss ไว้ด้วย (ความไม่แน่นอน คือความแน่นอน)


2. ถือแล้วรอ (ตั้งอยู่) - หลังจากเข้าซื้อแล้ว ก็อดทนรอ (ขันติ) หากราคาหุ้นยังทำ New High
ราคายืนเหนือเส้นเฉลี่ย 5 วัน 10 วัน 25 วัน และทำจุดต่ำยกสูงขึ้น ก็ถือต่อไป (Let Profit Run)
ช่วงนี้ให้สังเกตุนิสัยหุ้นว่ารอบนี้ว่ามันยืนอยู่เหนือเส้นเฉลี่ยเส้นไหน (5 วัน 10 วัน หรือ 25 วัน)

3. งาบแล้วชิ่ง (ดับไป) – เมื่อราคาหุ้นเริ่มอ่อนแรงไปต่อไม่ไหว ราคาหุ้นจะไม่ทำ New High
และแกว่งตัวออกด้านข้างจากเดิมกราฟแท่งเทียนที่ปรากฏแท่งเขียวมากกว่าแท่งแดง
จะเปลี่ยนเป็นแท่งแดงมากกว่าและแท่งแดงยาวกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นเริ่มโค้งลงตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว
สุดท้ายราคาหุ้นหลุดเส้นแนวโน้มขึ้น (สังเกตุได้จากเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน 10 วัน 25 วัน) **
ถึงจังหวะนี้ ให้รีบขายทำกำไรได้แล้ว “ความโลภ ไม่เคยปรานีใคร” **



ที่มา กระทู้ของคุณ Mr_TredD จาก set50.com

_________________________________________________________________________


คัมภีร์มีดสั้นสท้านฟ้า ของ ท่านผู้เฒ่าลี้คิมฮวง

__________________________________________________________________________
ข้าพเจ้าในฐานะแขกผู้มาเยือน ก่อนจะสิ้นลมปราณขอถ่ายทอดกลยุทธมีดสั้นสะท้านฟ้าแด่ชาวยุทธทุกท่านเพื่อใช้ปกป้องตัวเองจากเหล่าจอมมารทั้งหลาย
อนึ่ง ..แม้คัมภร์จะดีเพียงใด แต่หากขาดการฝึกฝน ยากนักที่จะบรรลุเคล็ดวิชานี้ได้


คัมภีร์มีดสั้นสท้านฟ้า

1.เล่นตัวที่แข็งกว่าตลาดเท่านั้น ให้ลงอย่างเก่งแค่สามช่องแล้วยืนอยู่ได้ ซื้อ
2.ตัวที่กราฟยังเป็นขาขึ้น หุ้นมีเจ้ามือ เล่นได้
3.หุ้นฝรั่งตัวใหญ่ ไม่เอา เสี่ยงเกิน
4.โวลุ่มบางๆซื้อ หุ้นลากมาสูงแล้วบิดหนาผิดหูผิดตา กล้าๆโลภๆ ขายออก
5.หุ้นพวกวิ่งมาตลอดทุกวัน ถ้าลงจากยอด 5 ช่อง ขายทิ้งทันที
6.ตัวที่เคยนิ่ง แต่เปิดตลาดกระโดดพร้อมโวลุ่มให้ตาม ขายเมื่อพอใจ ระวังหุ้นจะลงมาปิดแก๊ปต่ำ
7.หุ้นปิดแก็ปแล้ว หรือไม่เปิดแก๊ปกระโดดและยืนแข็งบวกได้ ให้ซื้อ
(เช๊คแก๊ปย้อนหลังเมื่อวาน วันก่อนๆด้วย บางตัวอาจถือว่าปิดไปแล้ว)
8.หุ้นที่แรงมากๆพร้อมโวลุ่มและทำหางไว้สูง ให้รอหุ้นนิ่งก่อนค่อยซื้อ พวกนี้ดีมาก
9.งดหุ้นโวลุ่มมาผิดปรกติ แต่ราคาไม่ค่อยไปหรือไปไม่ไกล หุ้นพวกนี้เจ้าของขนมาขายเช่น tta เป็นต้น
10.ซื้อแล้ว ไม่ไป ขายทิ้ง งดซื้อเพิ่ม ซื้อสู้ทุกรายการ
11.ซื้อหุ้นพอใจแล้ว หรือกำไรแล้วกำลังจะขาย ถ้าเงินเหลือ ให้ดูหุ้นใหญ่ ptt scc advanc ให้ซื้อขวาครั้งละ 100-200 เพื่อทำดัชนีบวก ก่อนซื้อดูด้วยว่ามี bid หนากว่า offer หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ซื้อขวาเลย ถ้าไม่ใช่รอก่อน และถ้าไม่อยากถือให้ขายทิ้งตามน้ำเมื่อ bid บางกว่า offer และราคายังอยู่ฝั่ง bid อยู่ แต่ถ้าราคาอยู่ฝั่ง offer อย่าเสือ..กขายสวนลงไปล่ะ
12.ดัชนีขึ้นสูง หุ้นที่ซื้อมี bid หนาและไม่ขึ้นตามดัชนี ทิ้งให้หมด
13.ณะตั้ง bid หลอกเพื่อเจตนาดันราคาหุ้น ห้ามชักออกหากยังขายของไม่หมด ให้วัดดวงไปเลย
14.หุ้นราคานิ่ง ที่มี offer หนาๆ bid บางราคายังไม่ขึ้น เจ้ามือกำลังเขย่าของ เอา offer บังไว้
15.ถ้าทุบแรงๆให้กลัวมากๆ ให้สังเกตดูก่อนว่า เป็นการทุบจากยอดดอยลงมาหรือเปล่า ถ้าใช่หยุดดูอย่างเดียวว่า จะไหลลงมาเทาไร กี่วัน
แต่ถ้าหุ้นยังไม่ขึ้น แต่มีทุบแรงๆบ้าง แต่ราคาร่วงไม่กี่ช่องแล้วมีแรงรับยืนได้ ให้ทยอยซื้อ การแย่งซื้อยกล๊อตหุ้นทีละมากๆ ขณะเจ้ายังเก็บไม่เสร็จ จะทำให้เจ้าเกิดน้ำโหได้
-------------------------------------------------------------------------

แต่สัณญาณฝรั่งกลับตลาดเอเชีย เงินบาทดีขึ้นให้เล่นหุ้นใหญ่ หุ้นพื้นฐานที่ฝรั่งเล่น งดเล่นสั้นแล้วถือยาวๆ
หุ้นเล็กที่เน่าๆหรือขึ้นมาแรงเกินไป ให้ทิ้ง

บทความของ ท่านผู้เฒ่าลี้คิมฮวง บอร์ด คุณ ฮั้วหยวนเจี่ย

__________________________________________________________________________

จะอ่านจะเขียนอย่างไร ก็ดูเหมือนว่า...มันง่ายไปหมด
แต่ในเวลาที่เล่นจริงมันไม่ได้เปนตามที่เราคิดเสมอไป

ในตลาดมีนักลงทุน3กลุ่มหลัก

นักลงทุนรายย่อย
(นักเล่นหุ้นทั่วไป)

นักลงทุนสถาบัน (บรรดากองทุน+พอท์ตโบรกเกอร์+พอท์ตบริษัทประกัน+พอท์ตธนาคารฯลฯ)

นักลงทุนต่างชาติ
กองทุนเพื่อการลงทุนต่างประเทศ เฮดฟันด์ ฯลฯ

และเคยมีคนเล่าอ้างกันมาตลอด ว่า...
คนเล่นหุ้น 10 คน จะมีคนเสียเงินเกี่ยวกับหุ้น13คน
คนเล่นหุ้น 10 คน จะมีคนได้เงินออกจากตลาดหุ้นเพียง 1 คน

คนเล่าอ้างว่า คนเล่น1คน แต่เสียเงิน12คนเพราะ
คนเล่น1คน เมื่อเล่นเสียจนเงินหมด ก็จะไปหยิบยืม ญาติ เพื่อน อื่นๆ
เพื่อเข้ามาเล่นหุ้นแก้ตัวใหม่


คนเล่นหุ้น 10 คน แต่ได้เงินออกจากตลาดคนเดียว


เจ้ามือ


เขียนโดย...ปรัชญา
__________________________________________________________________________

เขียนแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง
เขียนแบบ ไม่มีเนื้อหาสาระ
เขียนแบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ
__________________________________________________________________________


ยามที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ภาวะกระทิง
เซียนหุ้นเต็มตลาด

เซียนหุ้นเต็มเวปบอร์ด

ทั้งกะ ทั้งเก็ง ทั้งเล็ง เป้าหมายแบบสมใจนึก
กระฉับ กระเฉง กระชุ่ม กระชวย


ยามที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง ภาวะหมี
บรรดาเซียนหุ้นก็จะออกจากตลาด

เซียนขาดตลาด

ตลาดก็จะเงียบเหงา หาข่าวหาตัวเล่นลำบาก
คนที่เคยชวนกันเล่น ก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัว
กลับไปใช้เงินที่ทำไว้ได้ ปล่อยนักพนันเฝ้ากระดาน

อ้าวเราก็เป็นนักพนันซิ เฝ้ากระดาน เหอ เหอ

_________________________________________________________________________

คนเรานี้...คิดไปก็น่าขำ

อยากลืม กลับ จำ

อยากจำ กลับ ลืม
______________________________________________________






 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 14 กรกฎาคม 2557 20:34:45 น.   
Counter : 1153 Pageviews.  



P_ปรัชญา
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




หยิ่ง
กับตัวเองบ้าง
ในบางครั้ง

เบื่อ
ชีวิตความผิดหวัง
ในบางหน

เกลียด
ความไม่จริงใจ
ในบางคน

ยอมทน
คนหยามเหยียดได้
ในบางที


[Add P_ปรัชญา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com