Group Blog
 
All blogs
 

แหนมเนือง




สวัสดีตอนเที่ยงๆช่วงเวลาอาหารกลางวันพอดีเลยค่ะ วันนี้มีแหนมเนืองมาเสนอค๊า เนื่องจากว่าเราเป็นแฟนอาหารเวียดนามคนนึงเลยก็ว่าได้นะคะโดยเฉพาะแหนมเนืองเนี่ยขอบอกว่าชอบมากกกกกกถึงมากที่สุดเลยค่ะ เพราะเราเป็นคนที่ชอบกินผักด้วยมั้งค่ะ และเราว่าอาหารเวียดนามหลายๆจานก็ดีกับสุขภาพมากๆเลยอะค่ะ ขนาดวันนี้โทรไปคุยกับคุณแม่สุดเลิฟว่าจะทำหม่ำๆซะหน่อยเพราะว่าอยากสุดๆ คุณแม่ยังว่าจะบ้ารึป่าวยะหล่อนอะไรจะอยากกินขนาดน้าน แล้วคุณแม่ก็บอกว่าคุณป้าก็เพิ่งซื้อมาทานกันที่บ้านที่กรุงเทพฯ ยังคุยกันถึงเราเลย กิกิ

สูตรนี้ดัดแปลงมาจาก 2 สูตรคือจากแม่ปูและคุณ Triny ค่ะ ยังไงต้องขอให้เครดิตทั้ง 2 ท่านเลยนะคะ หิวแล้วใช่มั้ยล่ะค่ะ งั้นเรามาเริ่มลงมือทำพร้อมๆกันเลยดีกว่าจ้า


หมูแหนมเนือง
-หมูสับปนมัน 500 กรัม
-พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
-เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
-ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
-ไข่ไก่ 1 ฟอง

น้ำจิ้ม
-น้ำ : น้ำตาล = 1: 1/2
-เกลือ 1/8 ช้อนชา
-ซอสพริกผสมกระเทียมเวียดนาม หรือ Chili Garlic Sauce (ซื้อได้ที่ Golden Mile หรือ Supermarket ทั่วไปค่ะ)
-พริกแดงต้มสุกบดหยาบๆ
-ถั่วลิสงคั่วป่น (แต่ของเราใช้ Almond ป่นเพราะว่าเหลือจากที่อบไว้ทำเค้กกล้วยหอมค่ะ...ไฮโซจิงๆเลยคุณนาย กิกิ )

น้ำจิ้มสูตรแม่ปูเลยค่ะเพราะดูมาหลายๆสูตรค่อนข้างยุ่งยากค่ะ ของแม่ปูง่ายสุดแล้วอะค่ะ (แสดงถึงความขี้เกียจสันหลังยาวมั่กๆ ) แต่ก็ต้องลองชิมกันดูนะคะเพราะต่างคนก็ชอบรสชาดที่ต่างกันออกไป ให้ออกรสหวานนำ เปรี้ยวตาม เค็มน้อยหน่อย ส่วนความเผ็ดก็ตามสบายไปเลยค่ะ จะใส่พริกต้มกี่เม็ดก็ตามสะดวกเลยจ้า แบ่งพริกใส่ไว้ด้านนึง ส่วนอีกด้านก็ไว้ใส่ถั่วป่นค่ะ

ผักและเครื่องเคียง(เท่าที่วันนี้มีความสามารถหามาได้ค่ะ)
-กระเทียม
-มะเฟืองดิบ
-กล้วยน้ำว้าดิบ
-แตงกวา
-มะม่วงเปรี้ยว
-ผักกาดหอม
-โหระพา
-ผักชีหนามหรือผักชีฝรั่ง
-ผักชี

จะมีผักอย่างอื่นอีกก็ได้นะคะ แล้วแต่ว่าชอบอะไรหรือจะหาอะไรได้ก็เอามากินแกล้มด้วยก็ได้ค่ะ นอกนั้นอย่างอื่นก็นำมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆค่ะ วันนี้ขี้เกี๊ยจขี้เกียจค่ะ เครื่องเคียงเราหั่นแบบว่าชิ้นใหญ่มั่กๆๆ เวลาถ่ายรูปก็เห็นชัดเจนดีด้วยใช่มั้ยล่ะค่ะ (แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆอีกแล้วนังคนนี้...)



วิธีทำ

นำหมูสับผสมกับพริกไทยป่น เกลือ น้ำตาล น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว และไข่ได้เลยค่ะ




ใช้ช้อนคนให้แค่พอเข้ากัน แล้วนำไปแช่ไว้ในช่องฟรีซก่อนค่ะ ระหว่างรอเราก็ทำน้ำจิ้มไปพลางๆเลยก็ได้นะคะ




คราวนี้เอาหมูออกมานวดด้วยมือไปเรื่อยจนรู้สึกว่าเมื่อยแขนแล้วเป็นใช้ได้ เฮ้ย!! มะช่ายเพราะนวดแป๊บเดียวก็เมื่อยแล้วง่า ต้องนวดต้องขลึงต้องฟาดไปเรื่อยๆจนมันเหนียวๆหน่อยและไม่ค่อยติดที่ชามเท่าไหร่ ลองสังเกตุดูหมูรูปบนก่อนฟรีซกะหมูรูปนี้สิค่ะ ดูดีๆจะค่อนข้างต่างกันนะคะ แล้วก็เอาเข้าฟรีซอีกหนึ่งรอบค่ะ ระหว่างนี้ก็ล้างผักแช่น้ำไว้และล้างเครื่องเคียงต่างๆไว้แต่อย่าเพิ่งหั่นนะคะ






ขั้นต่อมาอาจจะปั้นเป็นลูกๆแล้วเอาไปเสียบไม้ลูกชิ้นก็ได้ หรือถ้าไม่มีทำแบบเราก็ได้ค่ะ ปั้นเป็นยาวๆหน่อย อิอิ อาจจะดูน่าเกลียดไปซักนิดเพราะเหมือนก้อนทองของคุณนาย Diamond ไปซะหน่อย เหอ เหอ เสร็จแล้วก็เอาไปนึ่งจนเกือบสุกหรือสุกนิดๆๆค่ะ แล้วก็เอาใส่ถาดอบในเตาอบได้เลยค่ะ เราใช้อุณหภูมิ 200 C และอบประมาณ 20 นาทีค่ะ ระหว่างนี้ก็หั่นเครื่องเคียงและจัดผักไปพลางๆนะคะ และก็อย่าลืมดูเตาอบด้วยล่ะ ถ้าให้ดีต้องตั้ง Timer ไว้ทุก 5 นาทีแบบเราก็ได้ค่ะ ต้องทำแบบนี้เพราะเราเป็นคนที่ขี้ลืมมั่กๆ โก๊ะตลอดค่ะ




ก็ได้ออกมาหน้าตาประมาณเนี่ยเลยค่ะ




แล้วก็เอามาหั่นให้ขาดเลย...ฉับ ฉับ ฉับ แบบเนี่ยอะค่ะ




แล้วก็เอาน้ำจิ้มที่ผสมไว้เติมพริกและถั่วลิสงลงไปได้เลยค๊า ของเราขนาดใส่พริกไปแค่เม็ดเดียวตอนกินซู้ดดดดปากตลอดเลยค่ะ ก็มันเผ็ดอะเนอะ ก็เลยต้องเติมน้ำจิ้มเปล่าลงไปอีกหน่อยเพื่อลดความเผ็ดจ้า




อันนี้คือแผ่นแป้งไว้ห่อแหนมเนืองค่ะ ซื้อจาก Golden Mile ค่ะ




เอาล่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านแหนมเนืองของเราพร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า ขอให้ทุกคนประจำตำแหน่ง ถ้าพร้อมแล้วก็มาลุยกันเลยค๊า ขอบคุณที่แวะมาอุดหนุนน๊าค๊า





ปล. อันนี้คือผลพลอยได้จากหมูแหนมเนืองที่ยังไม่ได้ใช้ค่ะ แฟนเราแอ๊บดัดแปลงแบบว่า East meets West มั่กๆเลย เค้าว่าหมูมันอร่อยดีเลยลองเอามาใส่ขนมปังกินดูค่ะ เลยได้เมนูใหม่ก็คราวนี้แหละจ้า... ใครอยากลองกินอะไรแปลกๆดูบ้างก็เชิญตามสบายเลยนะคะ











 

Create Date : 02 เมษายน 2552    
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 0:36:37 น.
Counter : 1679 Pageviews.  

กุ้งอบวุ้นเส้นหรือกุ้งแอบวุ้นเส้นน๊ะ



หลายๆคนที่แวะเข้ามาดูอาจจะคิดว่าเราเขียนอะไรผิดรึป่าวใช่มั้ยค่ะ เราไม่ได้เขียนผิดหรอกนะคะที่เขียนว่า "กุ้งแอบวุ้นเส้น" อะค่ะ เพราะตอนถ่ายรูปลืมคุ้ยเอา prop (กุ้ง) ขึ้นมาไว้ด้านบนค่ะ กว่าจะนึกขึ้นมาได้ก็หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จแล้ว แล้วก็ขึ้นมาทำ blog นี้แหละค่ะ ก็เลยตั้งชื่ออาหารจานนี้ตามรูปอะค่ะเพราะว่าแอบเห็นกุ้งสีส้มๆมันแพลมๆแอบอยู่ใต้วุ้นเส้นจ้า อิอิอิ รูปถ่ายอาจจะดูไม่สวยน่ากินเท่าไหร่นะคะ แต่รสชาดก็ไม่เลวเลยค่ะ หุหุ ชมตัวเองก็เป็นแฮะเรา

นี่เป็นครั้งแรกที่เราทำอาหารและต้องถ่ายรูปไปด้วย เลยอาจจะลืมถ่ายรูปบางขั้นตอน พอนึกขึ้นมาได้ก็รีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายต่อค่ะ มี inspiration มาจาก blog ของแม่ปู เลยอยากลองทำ blog อาหารของตัวเองขึ้นมาบ้าง เราเองปกติก็ไม่ค่อยได้ทำอาหารเท่าไหร่แต่พอมาอยู่ที่ Singapore ก็พอมีเวลาว่างมากขึ้น เลยอยากทำอาหาร-ขนมให้สามีที่รักและครอบครัวลองกินกันดูค่ะ สัญญาว่าจะพัฒนาฝีมือในการถ่ายรูปและทำอาหารไปเรื่อยๆนะคะ ยังไงทุกๆคนช่วยส่งแรงใจเชียร์เราด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าเลยค๊า ยินดีต้อนรับคำติชมจ้า

สูตรนี้ได้มาจากญาติผู้พี่ท่านนึง ไม่ทราบเหมือนกันว่าพี่เค้าเอามาจากไหนนะคะ แต่เป็นสูตรที่มีวิธีทำแบบง่ายหน่อยและใช้อบใน microwave ค่ะ ไม่ต้องใช้มันหมูแบบทั่วไปแต่ใช้ Bacon แทนนะคะ ส่วนเครื่องปรุงรสต่างๆก็มั่วเอาเองนิดหน่อยค่ะไม่ได้เป๊ะๆตามสูตรที่ได้มา ยังไงถ้าใครลองเอาไปทำดูก็ลองชิมรสชาดดูก่อนที่จะเอาไปเข้า microwave นะคะ แต่วันนี้ที่เราทำเราไม่ได้อบใน wave นะจ๊ะ เพราะว่าเราใช้ claypot (หม้อดิน) ทำเราเลยใช้ตั้งบนเตาไฟแทนค่ะ มาถึงวิธีทำกันบ้างสูตรนี้สำหรับ 3 ที่ค๊า

กุ้งอบวุ้นเส้น

-กุ้ง 9 ตัว (ใช้กุ้งแวนนาไม (Vannamei shrimp) นะคะวันนี้)
-Bacon 4-5 แถว
-วุ้นเส้นไม่ฟอกสีแช่น้ำ 300 กรัม
-พริกไทยดำ(เม็ด) 1 1/2 ช้อนชา
-พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
-ขิงแก่หั่นเป็นแว่น 8 แว่น
-ข่าหั่นเป็นแว่น 8 แว่น (วันนี้ไปตลาดได้ข่าแก่มาค่ะ 555 ข่า=Blue ginger)
-รากผักชีบุบ 10 ราก (บุบพอแตก 5 ราก) วันนี้ซื้อผักชีได้รากมาแค่ 3 รากเองค่ะ กลุ้มเลย มีแค่นั้นก็เลยใส่ได้แค่นั้นอะค่ะ
-กระเทียม 10 กลีบใหญ่ (บุบพอแตก 5 กลีบ)
-คึ่นช่ายหั่นท่อนไว้โรยหน้า
-ซีอิ๊วขาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมันหอย 2-3 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
-ซีอิ๊วดำ(หวาน) 1/2 ช้อนชา
-น้ำซุป



วิธีทำ

หั่นเบคอนตามขวางขนาดประมาณ 2 ซ.ม. แล้วเอาอบใน microwave เลยแต่อย่าให้นานมากนะคะ เดี๋ยวน้ำมันจะเหลือนิดเดียวแล้วเบคอนก็แข็งไป คิดว่าประมาณ 1-2 นาทีก็พอ





แล้วจะได้หน้าตาออกประมาณนี้ แต่ของเราอบนานไปหน่อยน้ำมันเลยแห้งไป เราเลยแอบเอาน้ำเติมไปหน่อยนึงจ้า (อย่าบอกใครนะ...คิคิ น้ำท่วมเชียว) เก็บน้ำมันจากเบคอนไว้ผัดกับวุ้นเส้นอีกที





โขลกกระเทียม 5 กลีบ+รากผักชี 5 ราก+พริกไทยป่นรวมกัน แต่ถ้าไม่มีครกใช้เครื่องปั่นแบบ grinder ก็ได้นะคะ





ของเราตอนแรกทำผิดใช้เครื่องปั่นแบบ chopper เลยออกมาเหมือนสับหยาบๆ เราเลยเอาโขลกในครกต่ออีกหน่อยจนเละทั่วกันค่ะ








หลังจากนั้นเอาส่วนผสมที่โขลกไว้มาผัดกับน้ำมันจากเบคอนจนหอม ใส่วุ้นเส้น ใส่น้ำซุปจนท่วมวุ้นเส้น ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ซีอิ๊วดำ อย่าใช้ไฟแรงมากนักเดี๋ยวน้ำหายหมดแล้วเส้นอาจจะไหม้ได้ เสร็จแล้วก็ลองชิมรสดูนะคะ รสชาดออกเค็ม หวานนิดหน่อย ไม่จำเป็นต้องตามสูตรเราเป๊ะนะคะ ลองชิมดูได้ค่ะขาดอะไรก็เติม





หน้าตางี้ตอนผัดเสร็จค่ะ ขั้นตอนระหว่างนั้นลืมถ่ายรูปจ้า





ในภาชนะที่จะเอาเข้า microwave เอาขิงและข่าที่หั่นไว้, กระเทียมและรากผักชีที่เหลือและพริกไทยเม็ดใส่ลงไปก่อน แล้วเอากุ้งวางทับด้านบนเลยนะคะ ตามด้วยวุ้นเส้นที่ผัดมาเมื่อกี้นี้เททับบนกุ้งเลยค่ะ ปิดผาแล้วเอาเข้าอบใน microwave ประมาณ 5-7 นาที ดูให้กุ้งสุกสักพักอะค่ะ เปิดฝามาใส่คึ่นช่าย ปิดฝาแล้วอบต่ออีกประมาณ 30 วินาที เอาออกมาแล้วโรยด้วย Bacon ด้านบนเลยค่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้วรับประทานได้เลยค๊า อาจจะมีจิ๊กโช่วเป็นน้ำจิ้มด้วยก็ได้นะคะหรืออาจจะเป็นน้ำจิ้มทะเลก็ได้ค่ะ














หรือถ้าจะทำตามเราเอาใส่หม้อดินก็ได้นะคะ โดยใส่ทุกอย่างเหมือนกันคือ ชั้นล่างสุดใส่ขิง ข่า กระเทียม รากผักชี โรยด้วยพริกไทยเม็ด ชั้นต่อมาวางกุ้งทับด้านบนเลยค่ะ แล้วตามด้วยวุ้นเส้นที่ผัดมาเมื่อกี้นี้เททับบนกุ้งเลยค่ะ ปิดฝาไว้สัก 3 นาทีแล้วคอยเปิดดูถ้าน้ำแห้งไปก็ต้องคอยเติมและใช้เขี่ยด้านข้างเอา อย่าใช้ไฟแรงมากนะคะ แต่พอเติมน้ำแล้วรสชาดดอาจจะจางลงไปนะคะ เติมรสได้นิดหน่อยค่ะแต่ต้องระวังเวลาคนนะคะ ดูให้กุ้งสุกสักพักก็ใส่คึ่นช่ายแล้วปิดฝาต่ออีกประมาณ 30 วินาที เปิดฝาแล้วโรยด้วย Bacon ด้านบนเลยค่ะ







 

Create Date : 25 มีนาคม 2552    
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 0:37:31 น.
Counter : 626 Pageviews.  

1  2  

PrettyPinky
Location :

Thailand

Singapore

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket
   
Friends' blogs
[Add PrettyPinky's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.