Group Blog
All Blog
<<< สัมมาทิฎฐิ >>>










"สัมมาทิฏฐิ"

การมีความเห็นที่ถูกต้อง

 การเห็นที่ถูกต้องก็คือเห็นว่า

เราไม่ได้เป็นร่างกาย

 ร่างกายไม่ได้เป็นเรา เราเป็นใจ

 ร่างกายตาย แต่ใจเรายังไม่ตาย

ใจยังต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป

จะไปสูงไปต่ำก็อยู่ที่บุญที่บาปเราทำไว้

 และจะหยุดการเวียนว่ายตายเกิด

ก็ต้องหยุดด้วยการชำระกิเลสตันหา

ที่มีอยู่ภายในใจของพวกเราให้หมดไป

 การที่จะมีสัมมาทิฏฐิได้ก็ต้องเกิดจาก

การได้ฟังเทศน์ฟังธรรมนี่เอง

 ถ้าไม่ได้ฟังเทศน์ฟังธรรมก็จะมีมิจฉาทิฐิกัน

 ก็จะไปคิดว่าตายแล้วสูญกัน

เพราะไม่เห็นจิตใจ คิดว่าจิตใจอยู่กับร่างกาย

ออกมาจากสมอง นักวิทยาศาสตร์ของโลก

ที่ฉลาดและแสนฉลาดนี้เขาคิดว่าจิตใจนี้มาจากสมอง

อยู่ที่สมองกัน เวลาร่างกายตายไปปุ๊บ

จิตใจก็ตายไปกับร่างกายจิตใจก็ไม่คิดไม่ทำอะไร

 เพราะร่างกายนอนเฉยๆ

 ก็คิดว่าจิตใจไม่ได้คิดไม่ได้ทำอะไร

 แต่ความจริงจิตใจยังคิดอยู่

 แต่สั่งให้ร่างกายทำอะไรไม่ได้แล้ว

 เหมือนกับคนขับรถ พอรถมันเสียแล้ว

จะสั่งให้มันวิ่งเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวามันก็ไม่ยอมวิ่งแล้ว

 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนขับรถตายไปกับรถ

 อันนี้ก็เหมือนกัน คนที่มีมิจฉาทิฐิก็จะคิดว่า

พอร่างกายตายไปแล้วคนสั่งก็ตายไปด้วย

คนขับร่างกายนี้ก็ตายไปด้วย

 แต่คนขับร่างกายนี้ไม่ได้ตายไปกับร่างกายคือใจ

 ผู้รู้ผู้คิดนี้ไม่ได้ตาย

ผู้รู้ผู้คิดนี้ยังต้องไปรับผลบุญผลบาปต่อไป

 ถ้าทำบุญก็จะได้ความสุขได้ทรัพย์ได้สวรรค์

 ถ้าทำบาปก็จะได้ความร้อนได้แต่ความทุกข์

แล้วถ้ายังมีความอยากอยู่ก็ยังต้องกลับมาเกิดใหม่

มามีร่างกายอันใหม่ มาทุกข์กับร่างกายอันใหม่ต่อไป

ถ้าได้ฟังเทศน์ฟังธรรมก็จะได้รู้ว่าเราต้องทำบุญกัน

 เราต้องละบาปกัน เราต้องมาภาวนากัน

 มาชำระใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์

เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องกลับมา

เวียนว่ายตายเกิดกันอีกต่อไป

นี่คือการมีสัมมาทิฏฐิ

ความเห็นที่ถูกต้องนี้เป็นบุญ.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

....................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๐

"บุญ"






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 13 เมษายน 2560
Last Update : 13 เมษายน 2560 9:28:43 น.
Counter : 541 Pageviews.

0 comment
<<< เวลาของ พ่อ...แม่ >>>









เวลาของพ่อ...แม่

หลายคนคิดว่าเวลาของพ่อแม่ยังมีอีกมาก

 จึงละเลยที่จะใช้เวลานั้นเพื่อท่าน

ทั้ง ๆ ที่นั่นคือโอกาสทองที่เหลือน้อยลงทุกที

สุดท้ายเมื่อท่านจากไป ก็มาเสียใจ รู้สึกผิดภายหลัง

มีคนจำนวนไม่น้อยที่เมื่อพบว่าพ่อแม่ป่วยหนัก

อยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิต เขาทำใจไม่ได้

ที่จะให้ท่านตายตามวิถีธรรมชาติ

หรือตามจังหวะของสังขาร

 แต่จะทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อชีวิตท่าน

ให้ยืนยาวมากที่สุด ในขณะที่พี่น้อง

ที่ดูแลท่านมาแต่แรกโดยตลอด รู้ดีว่า

การยื้อชีวิตอย่างนั้นเป็นการทรมานคนไข้

เพราะต้องเจาะคอ ใส่ท่อ ใช้เครื่องช่วยหายใจ

 ปั๊มหัวใจ สารพัดที่คนที่ดูแลพ่อแม่มาตลอด

ตระหนักดีว่า หากท่านจากไปอย่างธรรมชาติ

นั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับท่าน

แต่คนที่ไม่เคยมีเวลาให้กับพ่อแม่เลย

เมื่อจังหวะนี้มาถึง เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ท่าน

จากไปอย่างธรรมชาติ แต่เขาจะยื้อเอาไว้

ให้ได้นานที่สุดในนามของความกตัญญู

 แล้วก็ไม่ตระหนักเลยว่าการทำเช่นนั้น

ทำให้ท่านทุกข์ทรมานอย่างไรบ้าง

 บางทีท่านส่งสายตาวิงวอน เพราะพูดไม่ได้

 แต่ถึงตอนนั้นใคร ๆ ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

เพราะว่าหากถอดท่อหรือปิดเครื่องก็ไม่มั่นใจว่า

 การทำเช่นนั้นจะเป็นปาณาติบาตหรือไม่

 ดังนั้น จึงต้องยื้อไปเรื่อย ๆ

ทั้งนี้เพียงเพื่อตอบสนองความรู้สึกของลูก

ว่าได้ทำดีที่สุดแล้วกับพ่อแม่

ทั้ง ๆ ที่ตอนที่ท่านยังสุขสบายดีอยู่

ลูกกลับไม่มีเวลาให้ท่านเลย

 ครั้นท่านป่วยและพร้อมจะตาย

กลับพยายามยืดชีวิตท่าน กลายเป็นการเพิ่ม

หรือยื้อความทุกข์ทรมานของท่าน

แต่ถ้าเราทำหน้าที่ที่ดีที่สุดกับท่านแล้ว

ในขณะที่ท่านมีสุขภาพดี

เมื่อถึงเวลาที่ท่านจากไปก็ยอมรับได้

ครั้นท่านจากไปก็ไม่รู้สึกผิด

เพราะมั่นใจว่าได้ทำหน้าที่ที่สมควรทำต่อท่านแล้ว.

พระไพศาล วิสาโล






ขอบคุณที่มา fb.ข้อธรรมคำสอน พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 13 เมษายน 2560
Last Update : 13 เมษายน 2560 9:13:39 น.
Counter : 698 Pageviews.

0 comment
<<< บุญ >>>










"บุญ"

ถ้าทำบุญทุกวัน รับรองได้ว่าตายไปนี้

ไม่ต้องมารอรับส่วนบุญของผู้อื่น

ผู้ที่มารอรับส่วนบุญนี้เป็นพวกที่ทำบุญน้อย

หรือไม่ทำเลย บางพวกก็ไม่ยอมทำบุญเลย

 วันเกิดก็ไม่ทำ วันพระวันปีใหม่ก็ไม่ทำ

 วันอะไรก็ไม่ทำทั้งนั้น

 เอาเงินไปกินไปดื่มไปเที่ยวไปเล่นกันดีกว่า

สนุกกว่าสบายกว่า พวกนี้แหละ

เป็นพวกที่จะต้องมาคอยรับส่วนบุญ

 ถ้าเรายังรักเขาอยู่เป็นห่วงเขาอยู่

เวลาเราทำบุญเราก็อุทิศบุญไปได้

 การอุทิศบุญนี้ก็ไม่ต้องใช้น้ำ

ไม่ต้องกรวดน้ำ บุญไม่ใช่น้ำ

 เพราะเอาน้ำมาเป็นตัวอย่างของบุญ

ว่าเวลาเราเทน้ำลงไปนี้

เหมือนกับเราเทบุญลงไป

 ส่งบุญไป บุญเป็นเหมือนกระแสน้ำ

 ความจริงบุญก็คือกระแสของความสุข

ที่เราส่งให้แก่ผู้อื่นนั่นเอง

 เรียกว่าเป็นการอุทิศบุญ ไม่ต้องมีน้ำ

 เพียงตั้งจิตอธิษฐานว่า

ขอแบ่งบุญแบ่งกุศลส่วนนี้ให้แก่

ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วมีชื่อนั้นชื่อนี้ว่าไป

ต้องบอกชื่อถ้าไม่บอก

เขาก็จะไม่สามารถมารับได้

 เพราะไม่รู้ว่าจะให้ใคร

 นี่คือบุญที่เกิดเวลาที่เราทำบุญ

 และเราเป็นห่วงเป็นใยในบุคคล

ที่เรารักเคารพที่ล่วงลับไปแล้ว

 กลัวเขาจะเดือดร้อน กลัวเขาเป็นขอทาน

 ถ้าเขาเป็นขอทานถ้าเราส่งบุญนี้ไป

ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเขาได้

แล้วบุญเสริมอีกข้อหนึ่งก็คือ

การอนุโมทนาบุญ การอนุโมทนาบุญก็คือ

ให้เราร่วมทำบุญเวลาเห็นผู้อื่นเขาทำบุญด้วย

 หรือให้สนับสนุนการทำบุญของผู้อื่น

 อย่าไปขัดขวางการทำบุญ

 เพราะการทำบุญนี้มีแต่คุณมีแต่ประโยชน์

ทั้งกับผู้ทำและแก่ผู้อื่นผู้ที่เกี่ยวข้อง

 แต่บางทีเราไม่ชอบ เราไม่เห็นด้วย

โดยเฉพาะคนที่เรารักชอบทำบุญ

เวลาเขาทำบุญแทนที่เราจะอนุโมทนา

เรากลับไปขัดขวางเขา อันนี้ไม่ถูก

เพราะว่าเป็นการขัดขวาง

การรับประทานอาหารของเขา

 บุญนี้เป็นอาหารของใจ

 เขาทำแล้วเขามีความสุข

 เขาได้พัฒนาจิตใจของเขาให้สูงขึ้น

 ให้ไปสู่พระนิพพานในที่สุด

 เราจึงไม่ควรที่จะไปขัดขวาง.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.........................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๐

"บุญ"








ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 12 เมษายน 2560
Last Update : 12 เมษายน 2560 6:02:17 น.
Counter : 653 Pageviews.

1 comment
<<< ฝึกจิต >>>








ฝึกจิต


จิตที่ฝึกไว้ดีแล้ว สามารถที่จะทำให้เรา

เข้าถึงประโยชน์สูงสุดของความเป็นมนุษย์ได้

 สามารถจะกลายเป็นมิตรที่ดีที่สุดของเรา

มิตรที่ดีที่สุดของเรา

กับศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของเรา

ไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย อยู่กลางใจเรานี้เอง

ถ้าฝึกจิตไว้ไม่ดีหรือไม่ฝึกเลย

 จิตก็จะกลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุด

 แต่ถ้าฝึกไว้ดีก็จะกลายเป็นมิตรที่ประเสริฐที่สุด

 ที่สามาถจะทำให้เราได้พบกับความสุขที่แท้

และอยู่เหนือความทุกข์ทั้งปวงได้.

พระไพศาล วิสาโล






ขอบคุณที่มา fb.พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 11 เมษายน 2560
Last Update : 11 เมษายน 2560 8:32:04 น.
Counter : 664 Pageviews.

0 comment
<<< ให้พิจารณาบ่อยๆ จนไม่ลืม >>>










"ให้พิจารณาบ่อยๆ จนไม่ลืม"

ถาม : วิธีพิจารณากายทำอย่างไรคะ

พระอาจารย์ : ก็มีหลายวิธีหลายลักษณะ

วิธีแรกก็คือให้พิจารณาว่าร่างกายต้องเปลี่ยนแปลง

 ร่างกายเป็นของชั่วคราว

เกิดแล้วต้องแก่ต้องเจ็บต้องตาย

 ให้พิจารณาบ่อยๆ จนไม่ลืม

พวกเรามักจะลืมกัน พอลืมก็โลภกัน

อยากได้กัน โกรธกัน เกลียดกัน

ถ้าไม่ลืมมันจะไม่โกรธใครมันจะไม่โลภกับใคร

เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็ตายแล้วไปโลภอะไร

จะไปเกลียดอะไรกับใคร

 เราลืมกัน เราลืมความตายกัน

 พิจารณากันแล้วก็ลืม ต้องพิจารณาแบบไม่ลืม

 ถ้าไม่ลืมว่าต้องแก่ต้องเจ็บต้องตายแล้ว

 มันจะไม่วุ่นวายไปกับเรื่องของร่างกาย

ผมหงอกมันก็จะไม่ไปวุ่นวาย

 หนังเหี่ยวมันก็ไม่วุ่นวาย

เจ็บไข้ได้ป่วยมันก็ไม่วุ่นวาย จะตายมันก็ไม่วุ่นวาย

 ขณะที่อยู่ก็ไม่วุ่นวายกับใคร ไม่ยุ่งกับใคร

 ไม่อะไรกับใคร ใครจะดีใครจะชั่วมันก็เรื่องของเขา

มันไม่ได้มาเปลี่ยนแปลงความแก่

ความเจ็บความตายของเราอยู่ดี

นี่คือการพิจารณาร่างกายให้รู้ว่ามันไม่เที่ยง

 เอาแค่นี้ก่อน เอาให้ปล่อยวางความแก่

ความเจ็บความตายให้ได้ก่อน.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.....................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๐







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 11 เมษายน 2560
Last Update : 11 เมษายน 2560 8:22:54 น.
Counter : 355 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ