Group Blog
All Blog
### ขนมแป้งสิบ ###













ขนมแป้งสิบ

...........

 ไม่ใช่ปั้นสิบ ไม่ใช่ปั้นขลิบ

 คุณชายคึกฤทธิ์ ปราโมช ยืนยันว่า

"ขนมนี้ เรียกกันว่า ขนมปั้นสิบ ก็มี

จนกระทั่งเคยเห็นเรียกว่าปั้นขลิบ

ซึ่งออกจะเลอะเทอะไม่ได้เรื่อง 

ขนมอย่างนี้ได้ชื่อมาจากภาษาจีนว่า

" ปั๋งชิด" แปลว่า ของกินเล่น แบบขนมจีบซาลาเปา"

จาก พระเครื่องต้น หนังสือ สัพเพเหระคดี

ขนมแป้งสิบ เป็นขนมแป้งนึ่งค่ะ ไม่ใช่ทอด

มีไส้ไก่ ไส้ปลา ความเข้มข้นของไส้

 ที่เน้นไปที่เครื่องเทศ และวัตถุดิบคุณภาพ

รวมถึงยังเป็นขนมที่หารับประทานได้ยากในปัจจุบัน

 ต่อมามีการทอด โดยดัดแปลงมาจาก กะหรี่ปั๊บ

 ที่ชิ้นใหญ่เกินไปทำให้ ทานได้ไม่สะดวก






















ขอบคุณที่มา fb. Anna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ




Create Date : 07 มีนาคม 2558
Last Update : 7 มีนาคม 2558 11:59:42 น.
Counter : 3173 Pageviews.

1 comment
### ขนมบุหลันดั้นเมฆ ###













ขนมบุหลันดั้นเมฆ

..............

ขนมชาววัง ที่น้อยคนรู้จัก

ได้แนวคิดมาจากเพลง บุหลันลอยเลื่อน

อันเป็นเพลงที่รัชการที่ 2 ทรงพระนิพนธ์ขึ้น

 หลังจากทรงพระสุบิน เห็นดวงจันทร์ค่อยๆลอยเคลื่อนเข้ามา

 และมีเพลงอันไพเราะเสนาะหู ขนมนี้ทำเลียนแบบ

 เสมือนดวงจันทร์ลอยอยู่ ท่ามกลางท้องฟ้า

 ขนมมี 2 ส่วน คือ ส่วนตัวขนม ทำจากแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน

น้ำดอกอัญชัน น้ำตาลทราย หยอดลงบนถ้วยตะไล

 เมื่อนำไปนึ่งตรงกลางจะบุ๋มลงไป

ส่วนตัวหน้าขนม ประกอบด้วย ไข่ กะทิ น้ำตาลมะพร้าว

และนำไปนึ่งต่อจนสุก เป็นตัวเมฆ

 ส่วนดวงจันทร์ ใช้ไข่แดงผสมกับนํ้าตาลบดละเอียด

 ตักหยอดกลางถ้วย นึ่งขนมต่อไปจนสุก

ยกลงปล่อยให้เย็น จึงใช้ไม้พายเล็กๆ

 แคะขนมเรียงใส่จาน มีรสชาติสุดอร่อย

 นุ่มลิ้น หอมหวาน

ขนมนี้ในสมัยก่อน จะใช้เป็นขนมเสี่ยงทาย

เกี่ยวกับ หน้าที่การงาน

 ในส่วนของบุหลัน สีเหลือง เวลาหยอดแล้วนำไปนึ่ง

จะขึ้นสวยหรือไม่ ถ้าขึ้นสวยแสดงว่า

สิ่งที่มุ่งหวังจะประสบความสำเร็จ























ขอบคุณที่มา fb. Anna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ








Create Date : 06 มีนาคม 2558
Last Update : 6 มีนาคม 2558 11:38:46 น.
Counter : 3363 Pageviews.

0 comment
### ขนมหม้อแกง ###
















ขนมหม้อแกง

..............

หรือขนมกุมภมาศ เป็นขนมที่เกิดขึ้น

ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์

คือ คุณท้าวทองกลีบม้า หรือมารี กีมาร์

เป็นผู้สอนให้คนไทยทำ

 เรียกชื่อตามภาชนะที่ใช้ใส่ขนม คือ กุมภ แปลว่า หม้อ

 และ มาศ แปลว่า ทอง กุมภมาศ จึงแปลว่า หม้อทอง

 ขนมหม้อทองในสมัยนั้น เป็นขนมที่ทำขึ้นในวัง

 สำหรับถวายพระเจ้าแผ่นดิน หรือพระสงฆ์ ซึ่งถือเป็นของสูง

 โดยนำส่วนผสมไข่ขาว ที่เหลือจากการทำขนม

ซึ่งใช้เฉพาะไข่แดง และกะทิผสมกัน

ใช้ใบตองฉีกเป็นเส้นเล็กๆ ลงไปกวนด้วยมือ

 เติมแป้งข้าวเจ้า ถั่วเขียวบด

กวนให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลโตนด

 เทลงในหม้อทองเหลือง หรือหม้อทอง

นำไปผิงไฟอ่อน

 โดยให้ความร้อนกระจายทั่วทุกส่วนของภาชนะ

 เพื่อขนมจะได้สุกพร้อมกัน


การผิงขนมในสมัยก่อน จะต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญ

 และจะต้องคอยเฝ้าดูการผิงตลอดเวลา

ถ้าผิงนาน ขนมจะแข็งกระด้าง ไม่อร่อย

หรืออาจไหม้ แล้วโรยด้วยหัวหอมเจียว ให้มีกลิ่นชวนกิน

ขนมหม้อทอง ต่อมาได้นำเผยแพร่ แก่ประชาชน

โดยทำถวายพระสงฆ์ ในงานบุญงานกุศล

เรียกชื่อใหม่ว่า ขนมหม้อแกง

การทำขนมหม้อแกง ตามลักษณะต้นตำรับเดิม

 ปัจจุบันยังคงพบเห็นตามงานบุญ งานกุศล ในชนบท

และยังพบเห็นขนมหม้อแกงมีจำหน่ายอยู่

ขนมหม้อแกงเป็นขนมที่นิยมบริโภคของคนไทย

 แหล่งผลิตขนมหม้อแกงที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย

 คือ จังหวัดเพชรบุรี ขนมหม้อแกงที่ดีต้องมีความหอม

 รสชาติหวานมัน เนื้อนุ่มเนียน

 ผิวหน้าเป็นสีน้ำตาลค่อนข้างเรียบ

 ขนมหม้อแกงมีหลายชนิด

เรียกตามส่วนผสมที่ใส่ในขนม

 ได้แก่ หม้อแกงไข่ หม้อแกงถั่ว

หม้อแกงเผือก และหม้อแกงเม็ดบัว

ส่วนผสมของขนมหม้อแกง

ที่ทำให้หม้อแกง มีกลิ่นหอมหวาน

 และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ น้ำตาล

ควรเป็นน้ำตาลโตนด นิยมใช้ไข่เป็ดมากกว่าไข่ไก่

 และกะทิ ช่วยทำให้ขนมหม้อแกงหอมและหวานมัน






 

 

 

ขอบคุณที่มา  fb. Anna Jill

ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ




Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2558 11:02:16 น.
Counter : 2838 Pageviews.

0 comment
### ขนมถั่วทอดแผ่น ###














ขนมถั่วทอดแผ่น

 ...............

ของกินเล่นยามเหงาปากอีกอย่าง ที่ยิ่งเคี้ยวยิ่งมัน

เป็นขนมที่ทำด้วยแป้งแผ่นบาง โรยด้วยถั่วลิสง

 มีรสหวานมันกรอบอร่อย

 เจ้าดังต้องแถวถนนบางลำภู มุ่งหน้าสู้ ป้อมพระสุเมรุ

กี่ยุคกี่สมัยก็ยังขายดีอยู่    

ที่อยู่คู่กับถนนพระอาทิตย์มาอย่างยาวนาน

ความอร่อยของถั่วทอดนั้น อยู่ที่การผสมแป้งด้วย

เมื่อผสมแป้งเสร็จแล้ว ก่อนนำไปทอดก็นำแป้งและถั่วดิบ

 มาผสมรวมกันในภาชนะอีกใบหนึ่งก่อน

กะให้มีปริมาณถั่ว มากกว่าแป้งเล็กน้อย

 ในการทอด จะต้องทอด 2 กระทะ

 โดยกระทะใบแรก จะมีขนาดเล็กกว่า และใช้ไฟแรงกว่า

ใช้สำหรับการขึ้น รูปถั่วทอดให้เป็นวงกลม

ส่วนใบที่สองใช้สำหรับทอด ให้เหลืองกรอบ 

น้ำมันพืชที่ใช้ในการทอดทั้ง 2 กระทะ

ต้องให้เดือดอยู่ตลอดเวลา อาจมีการโรยงา

หรือเพิ่มกลอย เข้าไปด้วย


...........................


















ขอบคุณที่มา fb. Anna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2558 12:42:19 น.
Counter : 4722 Pageviews.

1 comment
### ข้าวเม่าหมี่ ###














ข้าวเม่าหมี่

....

อาหารสมอง อาหารว่าง

 หรืออาหารทานเล่นของไทย

‘ข้าวเม่าหมี่’ ในเรื่องสี่แผ่นดิน

 จะเรียกเป็นอาหารสื่อรักเลย ก็ว่าได้

เนื่องจากในตอนนั้น แม่พลอยและคุณเปรม

 ต้องตามเสด็จไปยัง พระราชวังบางปะอิน

 พวกคุณข้าหลวงต่างพากัน ทำขนมขบเคี้ยว

เตรียมไปเป็นเสบียงกรัง แม่พลอยจึงคิดปรุงข้าวเม่าหมี่

เพราะมีน้ำหนักเบา สะดวกแก่การพกพาในการเดินทาง

 ระหว่างทางได้ปันให้ทางมหาดเล็ก รับประทานกันด้วย

เมื่อคุณเปรมได้ชิมข้าวเม่าหมี่ ก็เกิดติดใจ

ในรสชาติจนอยากหาตัวผู้ทำขึ้นมา

เพียงนำข้าวเม่ามาทอด ให้พองกรอบ

คลุกกับน้ำตาลทราย ตัดรสด้วยเกลือป่นเล็กน้อย

 แล้วค่อยนำเอากุ้งแห้ง เต้าหู้ ถั่วลิสงและหอมแดง

 ที่ทั้งทอดทั้งเจียวกันให้กรอบกรุบ คลุกเคล้าตามลงไป

เป็นอันเสร็จพิธี เป็นอาหารง่าย ๆ

ข้าวเม่าผสมกับเครื่องทอด เช่น กุ้งแห้ง เต้าหู้

คลุกเคล้าด้วยน้ำราดหวานๆ เค็มๆ

ทานเพลินอร่อยกว่า Popcorn ราคาแพง

 วิตามินเหลือหลาย กุ้งแห้งมีแคลเซียมสูง

เต้าหู้ทอดกรอบมีโปรตีนจากพืช

ถั่วลิสงคั่วมีประโยชน์ทั้งนั้น ทานเพลินได้ทั้งวัน

 ที่สำคัญแคลอรี่น้อย


มีวิธีทาน ที่น่าสนุก คือ

วิธีรับประทานด้วยการ เจียนใบตองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า

 ใช้ไม้กลัดไว้ให้เป็นรูปกรวย เวลาจะรับประทาน

 ก็ตักข้าวเม่าหมี่ใส่กรวย แล้วกระดกกรวยใส่ปาก

โดยไม่ต้องกลัวหก เพราะส่วนปลายของกรวยใบตอง

ที่ยื่นเกินออกมา จะทำหน้าที่เป็นสะพาน

ให้ข้าวเม่าหมี่แสนอร่อย

เดินทางเข้าสู่ปากของเราอย่างสะดวกสบาย

.................










ขอขอบคุณข้อมูลจาก fb.  Anna Jill

ขอขอบคุณเจ้าของภาพถ่ายทุกภาพ






Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2558 12:08:58 น.
Counter : 4772 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ