Group Blog
All Blog
### ดอกบัวสอนธรรม ###


















ดอกบัวบานสอนธรรม
.................

“เมื่อเห็นดอกบัวบาน ใจเราก็พลอยเบิกบานไปด้วย

 และถ้าพิจารณาอีกสักนิด ก็จะได้แง่คิดสำหรับชีวิตด้วย

 บัวนั้นถือกำเนิดจากโคลนตม ถ้าไม่มีโคลนตม ก็ไม่มีดอกบัว

ใช่หรือ ไม่ว่าทุกข์กับธรรม แยกจากกันไม่ได้

ไม่มี ทุกข์ ก็ไม่พบธรรม

เมื่อใดที่มี ความทุกข์ ก็ขอให้ตระหนักว่า นั่นคือโอกาส

ที่ดอกบัวจะเบ่งบานกลางใจเรา

บัวเกิดในน้ำ แต่ก็สามารถเจริญเติบโตจนพ้นน้ำ

และชูดอกได้ อย่างสวยสดงดงาม

 คนเราก็ เช่นกัน แม้จะเกิดท่ามกลางกิเลส

แต่ ก็สามารถยกจิตเหนือกิเลสได้


น้ำไม่อาจจับต้องใบบัวฉันใด เราก็พึงรักษาใจ

มิให้อกุศลและ ความทุกข์แปดเปื้อนฉันนั้น

ด้วยคุณสมบัติพิเศษดังกล่าว บัวจึงถูกเลือกให้เป็นสัญลักษณ์

 ของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หลุดพ้นจากกิเลสสิ้นเชิง

ดังนั้นเมื่อเรา เห็นดอกบัว ขอให้ถือดอกบัวเป็นครู

ที่สอนธรรมอันลึกซึ้งแก่เรา”

พระไพศาล วิสาโล











ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมะและธรรมชาติ

ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 30 พฤษภาคม 2558
Last Update : 30 พฤษภาคม 2558 13:18:57 น.
Counter : 6300 Pageviews.

0 comment
### ดูแลใจเราก่อน ###















ดูแลใจเราก่อน

............


“สิ่งภายนอกนั้นเราควบคุมได้ยาก
จริงอยู่ใจเราก็ควบคุมไม่ได้เช่นกัน
แต่เราสามารถดูแลรักษาใจได้มากกว่า
สิ่งนอกตัว ดังนั้นเมื่อใดที่มีความทุกข์ใจ
แทนที่จะเรียกร้องหรือพยายามบงการ
ให้สิ่งภายนอกเป็นไปตามใจเรา
จะไม่ดีกว่าหรือหากเราหันมาจัดการ
กับใจของเรา เริ่มต้นด้วยการคาดหวัง
สิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง
ยอมรับทุกสิ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้ว
และมีสติรู้เท่าทันอารมณ์อกุศลต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นเมื่อมีอะไรมากระทบหรือ
เมื่อเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น
ใครทำอะไรเราก็ไม่เลวร้ายเท่ากับใจ
ที่วางไว้ผิด แต่หากวางใจไว้ถูกแล้ว
ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถยัดเยียดความทุกข์
หรือขโมยความปกติสุขไปจากเราได้ “


พระไพศาล วิสาโล











Create Date : 29 พฤษภาคม 2558
Last Update : 29 พฤษภาคม 2558 10:21:34 น.
Counter : 1207 Pageviews.

0 comment
### แกงร้อนของสมเด็จโต ###















เรื่องเล่าสอนใจ

แกงร้อนของสมเด็จโต

สมเด็จพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )เจ้าอาวาสวัดระฆัง

ท่านเป็นพระที่มักน้อยสันโดษ ทั้งๆที่ท่านสนิทกับในหลวง

 แต่ไม่เคยถือตัวและมีอารมณ์ขัน

ท่านมีวิธีปกครองพระเณรอบรมสั่งสอนลูกศิษย์

ที่ไม่เหมือนใคร เช่นมีเรื่องเล่าว่า

ครั้งหนึ่งสมเด็จโตรู้สึกอึดอัดใจ ก็คือ

ไม่ว่าท่านจะทำกิจการใดๆ ก็ตาม

เมื่อปรึกษาหารือกับภิกษุในวัด

ก็มักจะได้รับคำตอบว่า สิ่งที่ท่านทำนั้นสมควรแล้ว ดีแล้ว

ทุกครั้งไป คือลูกวัดประจบเอาใจ


วันหนึ่งมีผู้นำแกงร้อนวุ้นเส้นชามใหญ่มาถวายท่าน

 สมเด็จโตสั่งให้ศิษย์วัดนำกระทะใบบัวใหญ่

มาตั้งน้ำเต็มกระทะจนกระทั้งเดือนพล่าน

แล้วนำแกงร้อนถ้วนนั้นเทลงในกระทะ

แล้วให้ศิษย์วัดไปเก็บผักบุ้งในลำคลองข้างวัด

 มาล้างทำความสะอาดแล้วหั่น ใส่ลงไปในแกงร้อนนั้น

นำอาหารอีกหลายอย่างที่มีผู้นำมาถวาย

เทใส่รวมลงไปหมด แลดูไม่น่าขบฉันเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเสร็จแล้ว ก็ให้ศิษย์วัดตีกลองเป็นสัญญาณ

ให้ภิกษุสามเณรต่างๆ นำปิ่นโต ถ้วยชามมาแบ่งอาหาร

 โดยท่านกำชับให้บอกภิกษุสามเณรทุกรูปว่า

เป็นแกงร้อนที่ท่านปรุงเอง ภิกษุทั้งวัดระฆัง

จึงได้ฉันแกงร้อนสมเด็จฯ ในมื้อเพลวันนั้นโดยทั่วถึง

ครั้นตกเวลาเย็น ภิกษุทุกรูป

จะต้องมาร่วมทำวัตรค่ำในพระอุโบสถ

 สมเด็จโตไปยืนอยู่ตรงหน้าประตูโบสถ์

คอยถามภิกษุทุกรูปที่เดินผ่านท่านเข้าไปในโบสถ์ว่า

“แกงร้อนของท่านเมื่อตอนเพลเป็นอย่างไรบ้าง? ”

ปรากฏว่าภิกษุทุกรูปตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อยดีมาก

ท่านก็ถามภิกษุทุกรูปเรื่อยมา จนกระทั้งถึงภิกษุชราองค์หนึ่ง

ซึ่งบวชอยู่วัดระฆังมานานหลายสิบพรรษา

เดินผ่านมาสมเด็จฯก็ถามเหมือนเดิมว่า

“ขรัวตา แกงร้อนของฉันเมื่อตอนเพลเป็นอย่างไรบ้าง?

ฉันลงมือทำเองทีเดียวนะ”

ขรัวตา นิ่งสักพักแล้วตอบว่า

“ไม่ไหวครับ พระเดชพระคุณท่าน

กระผมเทให้หมามันยังไม่กินเลย”

สมเด็จฯ ยิ้มด้วยความพอใจ แล้วประนมมือไหว้ขรัวตา

สาธุ สาธุ ขรัวตานี่แหละศีลบริสุทธิ์โดยแท้

 ควรแก่การเคารพ สาธุ ..

คืนวันนั้น หลังจากทำวัตรเย็นแล้ว

สมเด็จโต ก็เทศนาอบรมพระเณรในวัดทุกรูป

อย่าพูดโกหก โดยยกเรื่องแกงร้อนเป็นอุทธาหรณ์

พร้อมกล่าวยกย่อง ขรัวตาที่กล้าพูดความจริงไม่โกหก

นี่คือวิธีการอบรมสั่งสอนลูกวัดของท่าน












ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต ธรรมชาติที่พักใจ




Create Date : 21 พฤษภาคม 2558
Last Update : 21 พฤษภาคม 2558 20:26:05 น.
Counter : 2193 Pageviews.

0 comment
### อย่าให้ตัวกูชูคอ ###


















อย่าให้ตัวกูชูคอ

...........

"ผู้มีปัญญาย่อมไม่เพลิดเพลินหลงใหล

ในคำแซ่ซร้องสรรเสริญของผู้คน เพราะเขารู้ดีว่า

นั่นเป็นเพราะบทบาทหรือหัวโขนที่เขาสวมใส่มากกว่าอะไรอื่น

 ไม่ช้าก็เร็วบทบาทหรือหัวโขนนั้นก็ต้องปลาสนาการไป

ถึงตอนนั้นใครที่หลงใหลเพลิดเพลินย่อมอยู่เป็นทุกข์สถานเดียว

ตำแหน่งหน้าที่หรือยศถาบรรดาศักดิ์อันสูงส่ง

ให้ความสุขแก่เราก็จริง

แต่มันก็สามารถสร้างความทุกข์ให้แก่เราได้ไม่น้อย

โดยเฉพาะเมื่อเรายึดติดหวงแหนมัน

เช่นเดียวกับหัวโขน มันเป็นสิ่งสมมติและเป็นของชั่วคราว

ยิ่งยึดติดถือมั่นในมัน เราก็ยิ่งเป็นทุกข์เมื่อต้องสูญเสียมันไป


เมื่อใดที่พอใจในความเป็นตัวเราโดยไม่แคร์หัวโขนใด ๆ

 เมื่อนั้นจึงจะเป็นสุขอย่างแท้จริง"

พระไพศาล วิสาโล











Create Date : 16 พฤษภาคม 2558
Last Update : 16 พฤษภาคม 2558 10:54:22 น.
Counter : 1397 Pageviews.

1 comment
### มองไม่ดีจากได้กลายเป็นเสีย ###


















มองไม่ดีจากได้กลายเป็นเสีย

“ตราบใดที่เรายังเปรียบเทียบกับ
คนอื่นอยู่เสมอ เราจะหาความสุข
ไม่ได้เลย ไม่ว่าร่ำรวยแค่ไหน ได้โชค
ได้ลาภเพียงใดก็ตาม แต่ทันทีที่เรา
รู้จักพอใจสิ่งที่มี ยินดีสิ่งที่ได้
ความสุขจะบังเกิดขึ้นทันที แทนที่จะเฝ้า
มองสมบัติของคนอื่นว่าดีกว่าอย่างไร
เราลองหันมาชื่นชมสิ่งที่เรามี
เห็นข้อดีหรือประโยชน์ของสิ่งที่มีอยู่
ความพอใจก็จะเกิดขึ้น ความรุ่มร้อน
ก็จะหายไป แทนที่จะเป็นทุกข์เพราะ
สิ่งที่เราไม่มี ทำไมไม่หาความสุข
จากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วในขณะนี้”


พระไพศาล วิสาโล









Create Date : 14 พฤษภาคม 2558
Last Update : 14 พฤษภาคม 2558 21:37:19 น.
Counter : 947 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ