ทำบุญเป็นเห็นความสุข
....................
บุญจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีการดำเนินชีวิต
เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผลแห่งการปฏิบัติจะช่วยพัฒนาชีวิตของเรา
ให้ก้าวไปสู่การค้นพบความสุขที่แท้จริง
เป็นความสุขที่สงบ ประณีตและเป็นอิสระ
ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหรือแสวงหาวัตถุจากภายนอก
เพื่อมาตอบสนองความต้องการที่ไม่รู้จบสิ้นของเราอีกเลย
จะว่าไปแล้วเรื่องของการ ทำบุญ
เป็นสิ่งที่ใกล้ชิดกับคนไทยมาทุกยุคสมัย
โดยเฉพาะเวลาที่มีความทุกข์ หลายคนมักจะได้รับคำแนะนำ
ให้ไปทำบุญ ซึ่งในสายตาของคนรุ่นใหม่
อาจเกิดคำถามขึ้นในใจว่า การทำบุญ
ซึ่งดูคล้ายเป็นเรื่องภายนอกนั้น จะไปเกี่ยวพัน
หรือส่งผลกับทุกข์สุขที่เกิดขึ้นในใจได้อย่างไร?
เคยมีคำกล่าวว่า ต้นไม้จะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อได้แผ่กิ่งก้าน
ให้ความร่มเย็นแก่ผู้คนบนโลก
พืชพรรณจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อผลิดอกออกผล
แม้บางครั้งอาจไม่ช่วยให้อิ่มท้อง
แต่ก็ให้ความชื่นตาชื่นใจแก่ผู้พบเห็น
ส่วนมนุษย์คนหนึ่งจะสมบูรณ์ได้นั้น ก็ต่อเมื่อ
ได้ประกอบผลบุญ อันเป็นประโยชน์
ทั้งต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคม
ความหมายของคำว่า บุญ ในทางพุทธศาสนานั้น
หมายถึง เครื่องชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์
เป็นเครื่องกำจัดสิ่งเศร้าหมองที่เรียกว่ากิเลส
อันเป็นเหตุแห่งความทุกข์
ดังนั้น การทำบุญ จึงหมายถึง การกระทำ
ที่เป็นการช่วย ลด-ละ-เลิก ความโลภ ความเห็นแก่ตัว
ความใจแคบ ความตระหนี่ถี่เหนียว ความหวงแหน
ยึดติดลุ่มหลงในวัตถุสิ่งของ อันเป็นสาเหตุหนึ่ง
ของความทุกข์ให้หมดไปจากใจ
และหากยังไม่แน่ใจว่าการกระทำใดถือว่าเป็นการทำบุญบ้าง
ก็ขอให้พิจารณาดูง่ายๆ ว่า การกระทำอะไรก็ตามแต่
ที่ทำแล้วเข้าข่ายคำว่า สงบเย็นและเป็นประโยชน์
ถือได้ว่าเป็นการทำบุญทั้งสิ้น
ซึ่งหากเราทุกคนมีความเข้าใจความหมายของบุญตามนี้แล้ว
การทำบุญก็จะสามารถประยุกต์เข้าไป
กับการดำเนินชีวิตของเราได้ทุกขณะ
โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงการบริจาคทรัพย์สินเงินทอง
อย่างที่หลายคนเคยเข้าใจแต่อย่างใด
การเริ่มต้นทำบุญอย่างถูกวิธี สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ
ด้วย บุญกริยาวัตถุ 10′ อันเป็น10 วิธีการทำบุญ
ที่ถ้าใครได้ลองปฏิบัติแล้ว วิถีแห่งความสุขในชีวิตที่สงบและยั่งยืน
จะไม่ใช่เรื่องไกลเกินคว้าอีกต่อไป
สำหรับ 10 วิธีที่ว่านี้มีอะไรบ้าง มาติดตามกัน
วิธีที่ 1 ให้ทาน การแบ่งปันผู้อื่นด้วยสิ่งของ
เป็นวิธีในการช่วยขัดเกลาความเห็นแก่ตัว
ความตระหนี่ การยึดติดในวัตถุของเรา
วิธีที่ 2 รักษาศีล ฝึกฝนที่จะลด ละ เลิกความชั่ว
มุ่งทำความดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เบียดเบียนใคร
พัฒนาชีวิตของตนเองสู่ความดีงาม
วิธีที่ 3 เจริญภาวนา การภาวนาจะช่วยพัฒนาจิตและปัญญา
ทำให้จิตสงบ ไม่มีกิเลส มองเห็นสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง
วิธีที่ 4 อ่อนน้อมถ่อมตน แค่ผู้น้อยรู้จักถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
ผู้ใหญ่ให้ความเมตตาแก่ผู้น้อย ให้เกียรติ
เคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง ก็ถือเป็นการทำบุญแล้ว
เพราะนั่นหมายถึงการลดความยึดมั่นถือมั่น
ในความเป็นตัวตนของตนเอง
วิธีที่ 5 ช่วยเหลือสังคม ได้แก่งานจิตอาสาทุกประเภท
การสละแรงกายเพื่อช่วยเหลือทั้งคนใกล้ชิดและสังคม
ล้วนเป็นการทำบุญทั้งหมด
วิธีที่ 6 เปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมทำบุญ
หมายความรวมไปถึงการทำงานที่เปิดโอกาส
ให้คนอื่นได้เข้ามาร่วมทำ
ร่วมแสดงความคิดเห็น และยังหมายถึง
การอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้วด้วย
วิธีที่ 7 ยอมรับและยินดีในการทำความดี
หรือการทำบุญของคนอื่น
เวลาเห็นคนอื่นทำความดีก็ชื่นชมยินดีด้วยใจจริง
ไม่อิจฉา ระแวงสงสัยในความดีของเขา
วิธีที่ 8 ฟังธรรม ข้อนี้ไม่ได้หมายความเพียงแค่การฟังธรรม
จากพระสงฆ์เท่านั้น แค่เพียงการเลือกฟังสิ่งดีๆ
ที่มีประโยชน์ต่อชีวิตจากบุคคลรอบตัว
ก็ถือเป็นการฟังธรรมด้วยเช่นกัน
วิธีที่ 9 แสดงธรรม เช่นเดียวกับข้อ 8
การแสดงธรรมในยุคปัจจุบันนี้
ไม่จำกัดเพียงพระสงฆ์เท่านั้น การที่เรานำเรื่องดีๆ
ที่มีประโยชน์ไปบอกเล่าต่อกับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใด
ก็ถือว่าเป็นการทำบุญในข้อนี้ทั้งสิ้น
วิธีที่ 10 ทำความเห็นให้ถูกต้อง อาจเรียกได้ว่าข้อสุดท้ายนี้
เป็นหัวใจสำคัญที่นำมากำกับการกระทำในทุกหัวข้อเลยก็ว่าได้
หากไม่แน่ใจว่าสิ่งใดถือเป็นความเห็นที่ถูกต้อง
อาจพิจารณาง่ายๆ ว่าสิ่งนั้นเป็นประโยชน์
และเกื้อกูลต่อผู้อื่นหรือไม่
ถ้าใช่ ก็นับเป็นความเห็นที่ถูกต้อง
อันเป็นส่วนหนึ่งของการทำบุญแล้ว
เห็นไหมว่าการทำบุญทั้ง 10 วิธีสามารถทำได้ตลอดเวลา
ถ้าทำได้ตามนี้แล้ว บุญจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีการดำเนินชีวิต
ซึ่งหากเราทำได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงจุดหนึ่ง
ผลแห่งการปฏิบัติก็จะช่วยพัฒนาชีวิตของเรา
ให้ก้าวไปสู่การค้นพบความสุขที่แท้จริง
เป็นความสุขที่สงบ ประณีต และเป็นอิสระ
ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหรือแสวงหาวัตถุจากภายนอก
เพื่อมาตอบสนองความต้องการที่ไม่รู้จบสิ้นของเราอีกเลย
และนี่ก็น่าจะเป็น ผลแห่งบุญอันเป็นคำตอบแท้จริงที่ซ่อนอยู่
ภายใต้คำพร่ำสอนของผู้ใหญ่ที่เน้นย้ำให้ลูกหลานทำบุญ
ในยามประสบความทุกข์ในชีวิต
ที่สืบทอดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัยนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม 10 ปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น
10 ตาเห็นก็คงไม่เท่าลงมือทำ
จะรอช้าอยู่ไย เมื่ออ่านจบแล้ว เริ่มออกเดินทาง
ตามหาความสุขของคุณ
ด้วยเส้นทางของ บุญ 10 วิธี กันได้เลย !
ขอขอบคุณ
ข้อมูล: โครงการฉลาดทำบุญ เครือข่ายพุทธิกา
ภาพ :โครงการฉลาดทำบุญ เครือข่ายพุทธิกา / ธนาคารจิตอาสา
//www.happinessisthailand.com/?p=2437