อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม
เป็นอาจารย์สอนธรรมที่หลายคนรู้จักดี
ท่านพิการตั้งแต่คอลงมาเมื่ออายุ ๒๔ ปี
แต่ก็ได้อาศัยธรรม โดยเฉพาะการเจริญสติ
ช่วยให้อยู่กับความพิการได้โดยไม่ทุกข์
ตอนนี้ท่านกำลังป่วยหนัก หมอวินิจฉัยว่า
อยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิตแล้ว เพราะมะเร็งตับลุกลาม
เดิมร่างกายก็พิการอยู่แล้ว ยังต้องทรมานกับมะเร็งตับอีก
หากเป็นคนทั่วไปคงจะทุกข์ทรมานมาก
แต่เวลาอาตมาไปเยี่ยมกลับเห็นท่านยิ้มแย้มแจ่มใส
ร่าเริงเหมือนไม่มีเรื่องอะไรให้อนาทรร้อนใจ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีคนเขียนเอาข้อความของอาจารย์กำพล
มาขึ้นเฟซบุ๊ค ว่า "ผมยอมรับความจริง ยอมรับความเป็นไป
และยอมรับความตาย"
ยอมรับความจริง คือยอมรับว่าเป็นมะเร็งตับ
ซึ่งเป็นโรคที่รักษายาก ไม่บ่นโวยวาย
ยอมรับความเป็นไป คือ เมื่อรู้ว่าโรคนี้ทำให้ร่างกายย่ำแย่ไปเรื่อย ๆ
ก็ไม่ปฏิเสธผลักไส และสุดท้ายยอมรับความตาย
สามยอมนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้อาจารย์กำพลยังยิ้มแย้มแจ่มใสได้
ที่เป็นเช่นนี้ได้เพราะอาจารย์กำพลปฏิบัติธรรมมานาน
การปฏิบัติธรรมทำให้จิตใจของอาจารย์กำพลพ้นจากความพิการ
กายยังพิการอยู่ แต่ใจไม่พิการแล้ว
เพราะเจริญสติตามคำแนะนำของหลวงพ่อคำเขียน
หลวงพ่อแนะนำว่าในเมื่อยกมือสร้างจังหวะไม่ได้
เดินจงกรมก็ไม่ได้ ก็ให้พลิกมือไปมา
แล้วพิจารณาว่าที่พลิกนั้นเป็นรูป ที่คิดเป็นนาม
รู้กายเมื่อมือพลิก รู้ใจเมื่อคิดนึก
อาจารย์กำพลได้ทำตามที่หลวงพ่อแนะนำ ทำไปเรื่อย ๆ
จนในที่สุดเข้าใจเรื่องรูปนาม อาจารย์กำพลบอกว่า
หลงโง่ตั้งนานนึกว่าเราพิการ ที่จริงไม่ใช่ แค่กายพิการเท่านั้น
แต่ใจไม่ได้พิการด้วย พอเห็นความจริงตรงนี้
จิตก็หลุดพ้นจากความพิการ จิตลาออกจากความทุกข์
นี่เรียกว่าเห็นด้วยปัญญา
จำไว้นะว่า เมื่อเจอเหตุร้ายเกิดขึ้น เราไม่จำเป็นต้องทุกข์ระทมก็ได้
เราสามารถผ่านมันไปได้ ถ้าเรามีสติ มีปัญญา มีธรรมะ
ในทางตรงข้าม แม้จะได้โชคลาภ ประสบความสำเร็จ
แต่ถ้าไม่มีสติ มันก็พาไปเข้ารกเข้าพง
ไปเจอความตกต่ำย่ำแย่ได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา
สามารถแยกเป็นสองทางได้เสมอ ดีหรือร้าย สูงส่งหรือตกต่ำ
อยู่ที่เราเลือก แต่จะเลือกได้ก็ต่อเมื่อเรามีสติปัญญา
ขนาดความพิการยังทำอะไรอาจารย์กำพลไม่ได้
เรื่องเล็กน้อยกว่านั้นควรหรือที่เราจะเป็นทุกข์เพราะมัน
พระไพศาล วิสาโล
ขอบคุณที่มา fb. พระไพศาล วิสาโล
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ