Group Blog
### ระวังมะเฟืองคร่าชีวิตผู้ป่วยโรคไต ###












หลายเสียงเล่าลือกันถึงเรื่องของพิษที่มีอยู่ใน "มะเฟือง"

ส่งผลทำให้มีอันตรายถึงชีวิตจากภาวะไตวายเฉียบพลัน

เพื่อให้คลายสงสัย รศ.นายแพทย์ ม.ล.ชาครีย์ กิติยากร

อายุรแพทย์ หน่วยโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

 มหาวิทยาลัยมหิดล

ห้ความกระจ่างว่า มะเฟืองเป็นผลไม้เขตร้อน

ที่คนไทยรู้จักมา เนิ่นนาน 

แต่ในจำนวนคนไทย 67 ล้านคน

 มีน้อยคนนักที่จะทราบว่า

พิษของมะเฟืองมีผลต่อสุขภาพของไต

และอาจทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้

"ไต" เป็นอวัยวะหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่ง

ต่อระบบในร่างกายของเรา

มีรูปร่างคล้ายเม็ดถั่วเหลือง มี 2 ข้างอยู่บริเวณบั้นเอว

ไตเป็น ส่วนหนึ่งของระบบทางเดินปัสสาวะ

 ส่วนที่ต่อจากท่อไต (URETER)

ซึ่งจะนำปัสสาวะเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ

และเข้าสู่ท่อปัสสาวะ (URETHRA)

ในเพศชายจะมีต่อมลูกหมากอยู่โดยรอบท่อปัสสาวะ

หน้าที่สำคัญของไต

1. ขับถ่ายของเสียที่เกิดจากการแตกตัว

ของโปรตีนในอาหารออกจากร่างกาย

2. รักษาสมดุลของน้ำ เกลือแร่ กรดและด่าง

ของร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

3. ควบคุมความดันโลหิต

4. สร้างฮอร์โมนกระตุ้นการสร้าง

เม็ดเลือดแดงในไขกระดูก

ความหมายของภาวะไตวาย

คือ ภาวะที่มีการสูญเสียการทำงานของไต

แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้

1. ไตวายเรื้อรัง คือการสูญเสียการทำงานของไต

 ที่เป็นไปอย่างช้าๆ และถาวร

ช่วงเวลาอาจตั้งแต่ 1–2 ปี

จนถึง 10 ปีขึ้นไป จนในที่สุด

เข้าสู่ภาวะสุดท้ายของไตวาย

(END STAGE RENAL FAILURE)

ซึ่งหมายถึง ภาวะที่ต้องการการรักษาแบบทดแทน

 เช่น ฟอกเลือด, เปลี่ยนไต

เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้

2. ไตวายเฉียบพลัน ช่วงเวลาที่เกิดขึ้น

อาจจะเป็นชั่วโมง หรือ เป็นวัน

 ทำให้เกิดการคั่งของของเสีย

ทำให้เกลือแร่ กรด ด่าง

และการควบคุมปริมาณน้ำในร่างกายผิดปกติ

"ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ผู้ป่วยเหล่านี้ส่วนใหญ่

จะมีปริมาณปัสสาวะต่อวันน้อยกว่า 400 ซีซี"

รศ.นายแพทย์ ม.ล.ชาครีย์ กล่าวอีกว่า

สาเหตุของไตวายเฉียบพลัน มีหลายสาเหตุ

ส่วนใหญ่ เกิดจากความผิดปกติ

ของการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย...

การอุดตัน ผู้ป่วยที่ช็อกจากการติดเชื้อ,

เสียเลือดจำนวนมาก

หรือขาดน้ำอย่างรุนแรงจากท้องเสีย

การใช้คำว่า "เฉียบพลัน"

นอกจากบ่งถึงช่วงเวลาระยะสั้นที่เกิดขึ้นแล้ว

 ยังบ่งถึงความเป็นไปได้

ที่ไตจะกลับสู่ภาวะปกติได้

คนไทยรู้จักมะเฟืองมานาน

นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด

หรือคั้นเป็นน้ำผลไม้

หรือรับประทานผลดิบเป็นผัก

 เช่น ในอาหารเวียดนาม

"ใน บ้านเรามีรายงานเกี่ยวกับคนไข้

เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน

หลังการรับประทานผลสด

หรือน้ำมะเฟืองจำนวนมาก

เนื่องจากมะเฟืองเป็นพืชที่มีสาร

ออกซาเลตสะสมอยู่ เป็นจำนวนมาก

ปกติแล้วออกซาเลตสามารถ

ละลายและถูกดูดซึมได้อย่าง อิสระ

แล้วถูกขับออกทางไต

โดยสาเหตุของไตวายเฉียบพลันนั้น

เพราะไตเป็นแหล่งที่มีสารต่างๆหลายชนิด

เมื่อสารออกซาเลตในมะเฟือง

จับตัวกับแคลเซียมที่อยู่ในไต

จะกลายเป็นผลึกนิ่วออกซาเลตผลึกนิ่วจำนวนมาก

ตกตะกอน หรืออุดตันในเนื้อไต

และท่อไต ทำให้ไตวายหรือสูญเสียการทำงานไป"

แต่กระนั้นการเกิดภาวะไตวาย

ไม่ได้เกิดกับผู้ป่วยทุกราย

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับประทาน

 และภาวะพร่องหรือขาดน้ำในผู้ป่วย

หน่วยโรคไต โรงพยาบาลรามาธิบดี

เคยพบกรณีคนไข้ในประเทศไทย

มีอาการไตวายเฉียบพลัน จากการได้รับภาวะพิษ

จากการรับประทานผลมะเฟือง

 และได้ส่งรายงานไปต่างประเทศ

ผู้ป่วยที่มีภาวะพิษต่อไต เกิดขึ้นในหลายชั่วโมงถัดมา

หลังรับประทานผลมะเฟือง

ผู้ป่วยจะมาด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน

 กล่าวคืออาจจะมีปัสสาวะออกน้อยลง,

บวมน้ำ, ความดันโลหิตสูงขึ้น,

 น้ำท่วมปอด, อ่อนเพลีย

หรือบางรายอาจมาด้วยอาการสะอึก

 เนื่องจากของเสียในร่างกายคั่ง

 จากการที่ไตไม่สามารถขับของเสีย

 และน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายได้

และอาจจะต้องได้รับการฟอกเลือดล้างไตในที่สุด

ถ้ามีภาวะไตวายเฉียบพลันเกิดขึ้น

หลังหยุดรับประทานมะเฟือง

ผู้ป่วยเดิมที่มีไตปกติ กว่าไตจะกลับมาทำงานได้

ตามปกติอาจใช้เวลานานประมาณ 3-4 สัปดาห์

แต่หากเป็นผู้ป่วยที่มีโรคไตเดิมอยู่ก่อนแล้ว

การทำงานของไต อาจจะดีขึ้นบ้าง แต่ไม่กลับมาเท่าเดิม

และอาจจะต้องฟอกไตถาวร

ผลการศึกษาปัจจัยการเกิดโรค พบว่า

ขึ้นอยู่กับชนิดมะเฟือง

มะเฟืองเปรี้ยวมีโอกาสเกิดโรค

มากกว่ามะเฟือง ชนิดหวาน

 เนื่องจากมีปริมาณกรดออกซาลิคมากกว่า

"ถ้ารับประทานผลสด หรือผลไม้คั้น

จะมีโอกาสเกิดโรคมากกว่า

แต่ถ้าผ่านการดอง หรือแปรรูป

หรือเจือจางในน้ำเชื่อม

เช่น ในน้ำมะเฟืองสำเร็จรูป

จะทำให้ปริมาณออกซาเลตลดน้อยลง"

ปริมาณที่รับประทาน พบว่าระดับออกซาเลต

ที่เป็นพิษต่อร่างกายมีค่าตั้งแต่

 2-30 กรัมของปริมาณออกซาเลต

ผลมะเฟืองเปรี้ยวมีออกซาเลต ประมาณ 0.8 กรัม

ในขณะที่มะเฟืองหวานมีออกซาเลต 0.2 กรัม

สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคไตอยู่เดิมอาจมีไตวายเฉียบพลัน

จากการรับประทานมะเฟืองเพียงเล็กน้อย

นอกจาก นี้ ระดับความรุนแรงยังขึ้นอยู่กับ

ภาวะพร่องหรือขาดน้ำ

 จากการรายงานผู้ป่วยที่มีภาวะไตวาย

หลังรับประทานมะเฟือง พบว่า

ผู้ป่วยดื่มน้ำมะเฟืองหลังจากการทำงานหนัก

หรือสูญเสียเหงื่อมาก จะยิ่งมีโอกาสเกิดโรคมากขึ้น

 เนื่องจากผลึกแคลเซียมออกซาเลตจะอิ่มตัว

 และตกผลึกง่ายขึ้นในเนื้อไต

ในผู้ที่มีไตเรื้อรังอยู่ก่อน

โดยเฉพาะผู้ที่ไตวายต้องล้างไตแล้ว

 มะเฟืองมีผลต่อระบบประสาทด้วย

มีรายงานในผู้ป่วยกว่า 50 รายทั่วโลก...

มะเฟืองอาจมีสารที่เป็นพิษกับระบบประสาท

ซึ่งผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง

ไปจากการที่สมองบวม

จากการที่มีผลึกนิ่วออกซาเลตไปเกาะสมอง

หรือการที่มะเฟืองมีสารพิษ อื่นที่กระตุ้นสมอง

สารพิษต่อสมองนี้จะสะสมในภาวะไตวาย

ดังนั้นการเกิดพิษลักษณะนี้พบได้น้อยมาก

ในคนปกติ และผู้ป่วย

มักต้องรับประทานผลมะเฟืองเป็นจำนวนมาก

"ผู้ป่วยไตวายอาจ มีอาการทางสมอง

หลังรับประทานมะเฟือง

ทั้งชนิดหวานและชนิดเปรี้ยว เพียงหนึ่งผล

อาการมักเริ่มไม่กี่ชั่วโมง

หลังรับประทานมะเฟือง

โดยผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน สะอึก

 ตามด้วยภาวะซึมหรือชักผู้ป่วย

ส่วนใหญ่จะดีขึ้นหลังหยุดรับประทานมะเฟือง

หลังการล้างไตเพื่อเอาพิษมะเฟืองออกอย่างไรก็ตาม

มีรายงานว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตหลังรับประทานมะเฟือง"

น่าสนใจที่ว่า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ยินข่าว

ผู้ป่วยจากพิษมะเฟือง

เป็นไปได้ ว่าที่ผ่านมามะเฟืองไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก

ผลผลิตมะเฟืองในแต่ละปีก็มีจำนวนไม่มากอย่างผลไม้อื่นๆ

คนส่วนใหญ่จะรับประทานในปริมาณน้อย

 และไม่รับประทานมะเฟืองเปรี้ยว

แต่ ในช่วงหลังๆมานี้ได้มีบทความแพร่ทางสื่อออนไลน์

ชวนให้รับประทานมะเฟืองสด

โดยชี้แนะประโยชน์ทางสุขภาพ

 เช่น ลดน้ำตาลในเลือด

หรือช่วยรักษาโรคอื่นๆ

จึงอาจทำให้มีคนเชื่อหันมาบริโภค

มะเฟืองกันมากขึ้น

ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์

ที่ระบุชัดเจนถึงประโยชน์ของมะเฟือง

ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง

มะเฟืองสดเป็นผลไม้ที่น่าจะเกิดโทษ

กับผู้ที่รับประทานมาก

เกินกว่าที่ร่างกายจะทำลายพิษได้

และขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้บริโภค

ที่มีความเสี่ยง ต่อภาวะไตวาย

 ผู้บริโภคสุขภาพปกติทานได้แต่ในปริมาณไม่มาก

ผู้ป่วยที่มีนิ่วในไตควรหลีกเลี่ยง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่มีไตเสื่อม

หรือมีความเสี่ยงต่อโรคไต

ห้ามทานมะเฟืองทั้งเปรี้ยวและหวานเด็ดขาด

คุณหมอชาครีย์ย้ำทิ้งท้าย

ว่าโรคไตมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต

และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

ผู้รักสุขภาพควรเอาใจใส่

ต่อโภชนาการที่เหมาะสม

และตรวจสุขภาพไตเป็นประจำทุกปี

ขอบคุณข้อมูลจาก

รศ.นายแพทย์ ม.ล.ชาครีย์ กิติยากร

อายุรแพทย์ หน่วยโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

มหาวิทยาลัยมหิดล

#RamaChannel





Create Date : 29 มกราคม 2557
Last Update : 22 มกราคม 2558 13:26:28 น.
Counter : 1160 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ