Group Blog
All Blog
### งานแต่งงาน ###
















“งานแต่งงาน”

ไปงานแต่งงาน ก็ไปงานต่อภพต่อชาติ

เพราะไปต่อกามตัณหา การแต่งงานก็คือ

 การทำตามความต้องการทางกามารมณ์

คือความอยากในรูปเสียงกลิ่นรส

ของบุคคลนั้นของบุคคลนี้

เมื่อเกิดความอยากแล้ว ก็ต้องไปเอาเขามาเป็นสมบัติ

 เพื่อที่จะได้ตอบสนองกามารมณ์ของตน

ที่จะเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ใช่จะน้อยลงไป

การได้เสพกามนี้ ไม่ได้เป็นการดับ

หรือตัดกามารมณ์ให้น้อยลงไป ให้หมดไป

แต่กลับจะทำให้เกิดกามารมณ์เพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อยๆ

 ก็เลยต้องมีการเสพกามไปเรื่อยๆ

เวลาที่ไม่ได้เสพ เวลานั้นก็จะเกิดความเศร้าสร้อย

หงอยเหงาว้าเหว่

 เช่นเวลาที่ไม่ได้อยู่กับคู่รักคู่ครองของตน

 หรือเวลาที่ต้องตายจากกันไป

 เวลานั้นก็จะมีความเศร้าสร้อยหงอยเหงาว้าเหว่

แล้วก็จะทนอยู่กับความเศร้าสร้อย

หงอยเหงาว้าเหว่ไม่ได้

ก็จะต้องหาคู่ครองคนใหม่

แทนที่จะเห็นโทษของกามารมณ์

ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าสร้อยหงอยเหงาว้าเหว่

กลับไปตอบสนอง ไปแก้ความเศร้าสร้อยหงอยเหงาว้าเหว่

 ด้วยการไปหารูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะในตัวบุคคล

 แล้วก็ได้เสพกามเพื่อที่จะได้ระบายกามารมณ์

ดับความเศร้าสร้อยหงอยเหงา

ว้าเหว่หงุดหงิดไปชั่วคราว

 แต่ก็เป็นการดับเพียงเดี๋ยวเดียว

 เดี๋ยวก็เกิดกามารมณ์ขึ้นมาใหม่อีก

พอตายไปก็ต้องไปเกิดใหม่อีก

เพราะยังมีความอยากในการเสพกามอีกนั่นเอง

ผู้ที่มาเกิดในภพของมนุษย์ ในภพของเทวดา

 ในภพของเดรัจฉาน ของเปรต ของอสุรกาย ของนรกนี้

เป็นผู้ที่อยู่ภายใต้อำนาจของกามตัณหาทั้งนั้น

คือยังต้องการเสพรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ

 ชนิดหยาบและชนิดละเอียด

 ชนิดหยาบก็ของมนุษย์ของเดรัจฉาน

ชนิดละเอียดก็คือของพวกเทวดา กายทิพย์ทั้งหลาย

ทางที่ทำให้ไม่ต้องกลับมาเสพกามอีก

 กลับมาเกิดแก่เจ็บตายในกามภพ ก็คือ

จำเป็นจะต้องพิจารณา หรือเจริญอสุภกรรมฐาน

 ต้องพิจารณาดูความไม่สวยงามของรูป

 ที่ใจไปหลงใหลคลั่งไคล้ อยากจะเสพกามด้วย

เพราะรูปนั้นมีทั้งส่วนที่น่าดู และส่วนที่ไม่น่าดู

ถ้าไปเห็นหรือไปนึกถึงส่วนที่น่าดู ก็จะเกิดกามารมณ์

 เกิดกามตัณหาขึ้นมา ถ้าไปนึกถึงส่วนที่ไม่น่าดู

ก็จะดับกามารมณ์ หรือทำให้กามารมณ์ไม่สามารถ

เกิดขึ้นมาได้ ผู้ที่บำเพ็ญเพื่อการหลุดพ้น

จากบ่วงของกามตัณหา

 จึงจำเป็นที่จะต้องเจริญอสุภกรรมฐาน

พิจารณาส่วนที่ไม่น่าดูน่าชมของร่างกายตลอดเวลา

จนสามารถเห็นได้ทุกเวลานาที โดยเฉพาะเวลาที่เผลอ

 ไปสร้างกามารมณ์ขึ้นมา ไปสร้างกามตัณหาขึ้นมา

ก็จะได้เอาอสุภกรรมฐานมาละลาย

 มาสลายกามารมณ์ ให้ดับไป

ถ้าไม่มีอสุภะคือการพิจารณา

ความไม่สวยงามของร่างกาย

ก็จะไม่มีวันที่จะสามารถดับกามตัณหาได้

จะไม่มีวันที่จะสามารถหลุดพ้นจากกามภพได้

จะต้องเวียนว่ายตายเกิดในกามภพไปเรื่อยๆ

ถ้าเสพกามด้วยการกระทำที่สุจริต คือไม่ได้ทำบาป

เช่นไม่ได้ประพฤติผิดประเวณี

ตายไปก็ไม่ต้องไปรับผลของบาปกรรมที่ทำ

 เช่นไปเกิดเป็นเดรัจฉาน

เดรัจฉานนี้ไม่มีศีลข้อที่ ๓ คือ

ศีล กาเมสุมิจฉา จาราเวรมณี

 เดรัจฉานจะไม่สนใจว่า มีเจ้าของหรือไม่มีเจ้าของ

เวลาที่เกิดกามารมณ์ขึ้นมา

ก็จะเสพกามกับรูปที่ตนชอบ

ไม่ว่าจะเป็นใคร จะเป็นภรรยาหรือเป็นบุตร

เป็นแม่หรือเป็นลูก เขาไม่มีความสนใจ เขาไม่รู้

 จะเป็นภรรยาของใครเป็นลูกของใคร

แต่ถ้าอยากจะกลับมาเป็นมนุษย์

ถ้าไม่อยากจะไปเป็นเหมือนเดรัจฉาน

ก็ต้องมีศีลข้อที่ ๓ ก็คือ

ถ้าอยากจะเสพกามกับผู้หนึ่งผู้ใด

 ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามประเพณี

เช่นมีการไปขออนุญาต ไปสู่ขอจากบิดามารดา

หรือถ้าเป็นภรรยาหรือสามี

ก็ต้องไปขออนุญาตจากภรรยาหรือสามีของบุคคลนั้น

ถึงจะเรียกว่าไม่ได้ทำบาปทำผิดประเพณี

คือมีความเคารพในสิทธิของผู้อื่น

 สิทธิในบุคคลของผู้อื่น

คนที่เขามีภรรยามีสามีมีบุตรมีธิดา

เขาย่อมรักเขาย่อมหวง

การที่เราจะไปเอาเขามาเสพกามนี้

ก็ต้องได้รับการยินยอมจากเขาก่อน

ถึงจะได้ไม่เป็นเหมือนกับพวกเดรัจฉาน

 ยังสามารถเป็นมนุษย์เป็นเทวดาได้

แต่ก็ยังเป็นผู้ที่อยู่ภายใต้บ่วงของกามตัณหา

ของผู้ที่ยังจะต้องกลับมา

เวียนว่ายตายเกิดในกามภพไปเรื่อยๆ

 แต่อย่างน้อยก็จะได้เกิดในสุคติ

 ในส่วนที่ดีส่วนที่มีความสุข

 ก็คือเป็นเทพเป็นเทวดาชั้นต่างๆ

เป็นมนุษย์ระดับต่างๆ ไม่ต้องไปเป็นเดรัจฉาน

นี่คือเรื่องของการแต่งงาน

 ถ้ามองทางธรรมแล้วก็มองด้วยความสลดสังเวชน่ากลัว

เพราะเป็นการสืบต่อสืบทอด ภพชาติให้มียาวขึ้นไป

 ให้มีการแก่การเจ็บการตายเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ

มีใครชอบความแก่ความเจ็บ ความตายกันบ้าง

 แต่เวลาอยากจะเสพกามนี้ ไม่สามารถมีปัญญา

เชื่อมไปถึงการเกิดแก่เจ็บตาย ที่จะต้องตามมาต่อไปได้

โดยเฉพาะพวกที่เสพกามโดยผิดศีลข้อที่ ๓ นี้

ยิ่งไม่เห็นว่าจะต้องไปเป็นเดรัจฉาน

 แทนที่จะได้ไปเป็นมนุษย์ต่อก็จะต้องไปเป็นเดรัจฉาน

อันนี้เป็นเรื่องของทางโลกที่เห็นกลับตาลปัตร

เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นผิดเป็นชอบนั่นเอง

เวลาแต่งงานกันนี้ จัดงานเลี้ยงกันใหญ่โตเอิกเกริก

 ไปร่วมแสดงความยินดีกัน ถ้าไม่ไปแสดงว่าไม่รักกันจริง

 นี่คือเรื่องของทางโลก ถ้าเรื่องของทางธรรม

 ก็ต้องต่อสู้กับความอยากที่จะแต่งงาน

ต้องพยายามพิจารณา อสุภะอยู่เรื่อยๆ

หรือพิจารณาอนิจจังอยู่เรื่อยๆ ว่าเป็นความสุขชั่วคราว

 แล้วก็จะเป็นความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ตามมา

 เวลาสูญเสียคู่รักคู่ครองไป ถ้าได้พิจารณาอสุภะ

 ได้พิจารณาอนิจจัง ก็จะเห็นทุกขังที่จะตามมา

 หรือเห็นการดับ ของความทุกข์ที่จะตามมา

 ถ้าเห็นร่างกายที่น่าดูน่าชมนี้ ไม่น่าดูน่าชม

 มองเข้าไปในส่วนที่ไม่น่าดูน่าชม

เช่นมองเข้าไปใต้ผิวหนัง ถ้ามองอยู่ตรงระดับผิวหนังนี้

ก็จะมองไม่เห็นส่วนที่ไม่สวยไม่งาม

 ที่ถูกผิวหนังและเนื้อปกปิดเอาไว้

 ใต้ผิวหนังก็จะเห็นเนื้อ เห็นเอ็น เห็นกระดูก

เห็นเยื่อในกระดูก เห็นม้าม เห็นหัวใจ เห็นตับ

เห็นผังพืด เห็นปอด เห็นไส้น้อยไส้ใหญ่

อาหารใหม่อาหารเก่า เยื่อในสมองศีรษะ

 แล้วก็เห็นน้ำชนิดต่างๆ น้ำดี น้ำเสลด น้ำเหลือง

 น้ำเลือด น้ำเหงื่อ น้ำมันข้น น้ำตา น้ำมันเหลว

 น้ำลาย น้ำมูก น้ำไขข้อ น้ำมูตร

 นี่คือส่วนประกอบของร่างกายที่เราเห็นกันว่าสวยงาม

 เพราะเราเห็นเพียงส่วนย่อย

เห็นส่วนที่อยู่ภายนอก คือ

เห็นแต่ผม ขน เล็บ ฟันและหนัง

 แม้แต่ส่วนภายนอกนี้

ก็สามารถมองให้เห็นว่ามันไม่สวยงามได้

 ถ้าเรามองในตอนที่แก่หรือตายไป

 หรือตอนที่เจ็บไข้ได้ป่วย เวลาร่างกายแก่

 เวลาร่างกายเจ็บไข้ได้ป่วย เวลาร่างกายตายนี้

ดูยังไงก็ดูไม่สวยงาม เราต้องมองแบบนี้บ้าง

 อย่าไปมองในตอนที่ร่างกายได้รับการตบแต่ง

 ได้รับการเสริมสวยด้วยอุปกรณ์ต่างๆ

ด้วยเครื่องสำอางค์ ด้วยน้ำมันน้ำหอมชนิดต่างๆ

 นี่เป็นการพรางตา เป็นการหลอกตาให้คนที่ไม่ฉลาด

 คนที่ไม่มีปัญญาถูกหลอก หลอกให้เกิดกามารมณ์

หลอกให้หลงใหลคลั่งไคล้

อยากที่จะได้มาเป็นสมบัติของตน

มาเป็นสามีมาเป็นภรรยาของตน มาเป็นคู่ครองของตน

แต่สำหรับผู้ที่มีปัญญาแล้ว จะไม่มองเพียงแต่อาการ ๕

อาการที่อยู่ด้านนอกเท่านั้น จะมองทะลุเข้าไป ด้านในด้วย

 จะมองทั้งปัจจุบันและมองทั้งอนาคต

ตอนเวลาที่แก่ ตอนเวลาที่เจ็บไข้ได้ป่วย

 ตอนเวลาที่ตายไป อันนี้แหละ

คือวิธีที่จะตัดการกลับมาเกิดในกามภพ

ถ้าพิจารณาจนสามารถดับกามตัณหา

ป้องกันไม่ให้กามตัณหาปรากฏขึ้นมาได้

ก็จะไม่มีตัวผลักดันให้จิตใจ

 ต้องกลับมาเกิดในกามภพอีกต่อไป

แต่ก็ยังไม่สิ้นสุดของการกลับมาเวียนว่ายตายเกิด

 เพราะว่ายังจะต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิด

ในรูปภพและอรูปภพต่อไป

เพราะว่าภายในใจนั้นยังมีภวตัณหา วิภาวตัณหาอยู่

ก็คือความยินดีในรูปฌาน อรูปฌาน

 อันนี้ก็เป็นตัวที่จะดึงใจให้ติดอยู่ในรูปภพ อรูปภพ

 คือต้องเกิดไปเป็นรูปพรหมหรืออรูปพรหม

 จนกว่าที่จะสามารถทำลายความยินดีความใคร่

ในรูปฌานอรูปฌาน ถึงจะไม่ติดอยู่ในรูปภพอรูปภพ

 ถึงจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้

นี่คือเรื่องของจิตใจของสัตว์โลกทั้งหลาย

 ถ้ายังมีกามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหาอยู่ภายในใจ

ก็ยังจะมีการเวียนว่ายตายเกิดในไตรภพอยู่ต่อไป

 ไตรภพก็คือกามภพ รูปภพ และอรูปภพ

 ที่มีชื่อเรียกว่าวัฏสงสาร สังสารวัฏนี่เอง

ก็คือการเวียนว่ายตายเกิดในภพทั้ง ๓ นี้

 ด้วยอำนาจของตัณหาทั้ง ๓ คือ

กามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา

 ผู้ที่จะไม่ต้องกลับมาติดอยู่กับการเวียนว่ายตายเกิด

ในสังสารวัฏ ก็จำเป็นจะต้องบำเพ็ญปฏิบัติธรรม

 เพื่อให้ได้ทำลายตัณหาทั้ง ๓ นี้

นี่คือเป้าหมายของพระพุทธศาสนา

 อยู่ที่การสิ้นสุดของการเวียนว่ายตายเกิด

 เพราะถ้าตราบใดยังมีการเวียนว่ายตายเกิดอยู่

ตราบนั้นก็ยังจะต้องมีความทุกข์

ตามมารบกวนจิตใจอยู่เรื่อยๆ.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

................................

กัณฑ์ที่ ๔๗๐ ธรรมะบนเขา

 วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๗

“งานแต่งงาน”









ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 28 เมษายน 2559
Last Update : 28 เมษายน 2559 10:59:07 น.
Counter : 743 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ