Group Blog
All Blog
<<< หัวโขน >>>










"หัวโขน"

ขอให้จำไว้นะว่าพวกเราเป็นตัวละคร

 ร่างกายนี้เป็นเหมือนหุ่นที่เรามาใช้เล่นละครกัน

หรืออย่างที่เขาเล่นโขนนั่น

 ร่างกายเรานี้ก็เป็นเหมือนหัวโขน

เอามาสวมใส่ทับใจเราอีกทีหนึ่ง

 ตัวแท้จริงของเราคือใจ

ทีนี้ใจเราไม่มีรูปร่างหน้าตา

ก็เลยต้องเอาหัวโขนคือร่างกายนี้

มาครอบมาคลุมไว้ จะได้รู้ว่านี่เป็นทศกัณฐ์

 หรือจะเป็นหนุมาน เป็นพระราม

ก็ร่างกายนี้แหละเป็นตัวละคร

ใจเรานี้เป็นตัวชักร่างกายเหมือนกับชักหุ่น

 เป็นผู้ที่สั่งให้ร่างกายนี้ทำอะไรต่างๆ

แล้วพอร่างกายนี้ตายไป เราก็ใช้ร่างกายนี้ไม่ได้

ก็แสดงว่าบทของเราจบ ละครเรื่องนี้จบ

 แต่เราก็ไม่เบื่อ ไปเล่นโรงใหม่ต่อ ย้ายโรง

เดี๋ยวก็ไปเกิดใหม่ แล้วก็ไปเริ่มใหม่

แล้วก็ไปวุ่นวายแบบนี้แหละ

เล่นมาไม่รู้กี่ล้านโรงแล้วไม่รู้กี่ล้านเรื่องแล้ว

ละครชีวิตของพวกเรานี่ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ

 ที่เรียกว่าเวียนว่ายตายเกิด

ก็เวียนว่ายตายเกิดตามโรงละครต่างๆ

ตามโลกต่างๆ โลกอาจจะไม่เป็นโลกกลมๆ

 แบบนี้ก็ได้ โลกกลมๆ ใบอื่นก็น่าจะมีในจักรวาลนี้

 เราอาจจะมาจากโลกอื่นก็ได้

อาจจะมาจากโลกที่เจริญกว่าโลกเราก็ได้

 หรือล้าหลังกว่าโลกเราก็ได้ แต่ว่ามันก็เหมือนกัน

 เพราะว่าไปโลกไหนก็เจอตัวละครเหมือนกัน

ตัวรักตัวชังเหมือนกัน แล้วก็ไปรักไปชัง

ไปกลัวไปหลงกับเขา แล้วก็ดีใจเสียใจ

ไปกับสิ่งที่เราได้ไปสัมผัสรับรู้กัน

เล่นละครไปตามบทตามผู้กำกับสั่งให้เล่น

 เห็นไหมพอเขาตั้งเราเป็น ผอ.

 ทีนี้เราก็คิดว่าเราเป็น ผอ. จริงๆ ใช่ไหม

พอตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสก็คิดว่า

เป็นเจ้าอาวาสขึ้นมาจริงๆ เลย เล่นบทเต็มที่เลย

 แล้วเดี๋ยวเวลาเขาปลดปั๊บ หน้าก็จ๋อยละสิ

 เราไม่ได้เป็นเสียแล้ว ก็เวลาเขาตั้งเรา

ต้องคอยบอกเราว่าเราไม่ได้เป็น

เขาตั้งก็ปล่อยเขาตั้งไป เขาให้เราทำอะไรเราก็ทำไป

ตามหน้าที่ ทำเพื่อเงินเดือนก็พอ

ทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่อย่าไปหลง

กับตำแหน่งว่าเราเป็นโน่นเป็นนี่

 เราทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง

ทำตามหน้าที่ตามเนื้อผ้าไป แล้วก็คอยเตือนว่า

เดี๋ยวสักวันหนึ่งเขาก็ต้องปลดเรา ไม่ปลดก็โยกย้าย

 ไม่โยกย้ายก็เลื่อนตำแหน่ง มันก็มีแค่นี้แหละชีวิต

มันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ขึ้นๆ ลงๆ

 ถ้าไม่ยึดไม่ติด ถ้ารู้ว่าเป็นบทละคร

มันก็เล่นไปอย่างสบาย ไม่ซีเรียสไม่เครียดกับมัน

แต่เราไม่สบายเพราะเวลาเราชอบอะไร

 เราก็อยากได้อยากให้มันอยู่กับเรานานๆ

 แล้วเวลาที่มันไม่อยู่กับเรา เราก็เสียอกเสียใจ

 แล้วบางทีก็พยายามวิ่งเต้นกัน

 ต่อสู้กันเพื่อรักษาสิ่งที่เรารักสิ่งที่เราชอบ

ให้อยู่กับเราไปนานๆ ก็เลยทุกข์กันไง

ที่มันทุกข์ก็ทุกข์เพราะอย่างนี้

ทุกข์เพราะว่าเราต้องดิ้นรนกันต่อสู้กัน

ทั้งๆที่ เป็นของปลอมทั้งนั้น เป็นละคร

 เป็นของโลกละคร ไม่ใช่เป็นของเราอย่างแท้จริง.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.........................

สนทนาธรรมะบนเขา

วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๐






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 25 มีนาคม 2560
Last Update : 25 มีนาคม 2560 13:54:20 น.
Counter : 821 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณคนผ่านทางมาเจอ

  
สวัสดีคะ...

สาธุ..สาธุ..สาธุ..คะ

โหวตให้เลยคะ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:14:07:49 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ