"ตอบปัญหาชาวต่างชาติ"
พระอาจารย์ : การเดินจงกรม
เขาอยากจะรู้ว่าเดินแบบไหน
เพราะมีการสอนเดินหลายแบบ
บางแห่งก็ให้ก้าวหนอวางหนอ
บางแห่งก็ให้บริกรรมพุทโธพุทโธไป
บางแห่งก็ให้ดูเท้าไป เท้าซ้าย ขวา
ซ้ายขวาไป ได้ทั้งนั้นแหละ
เป็นวิธีเจริญสติคือคอยควบคุมความคิดเรา
ไม่ปล่อยให้ใจเราไปคิดเรื่องเงินเรื่องทอง
เรื่องข้าวเรื่องของเรื่องคนนั้นเรื่องคนนี้
ดึงมันกลับมาที่เท้าที่พุทโธ
หรือจะเดินไปสวดมนต์ไปก็ได้
การเดินจงกรมนี้เป็นการเปลี่ยนอิริยาบถ
ผ่อนคลายอิริยาบถ ถ้านั่งทั้งวันนี่มันไม่ไหว
ร่างกายมันจะต้องเจ็บตรงนั้นปวดตรงนี้
ก็ต้องเปลี่ยนจากการนั่งมาเดิน
นี่เป็นพวกที่เขาปฏิบัติแบบมืออาชีพ
ปฏิบัติทั้งวันทั้งคืน
เขาต้องมีการสลับเปลี่ยนอิริยาบถ
จากเดินก็มานั่งจากนั่งก็มายืนบ้าง อะไรอย่างนี้
แต่ถ้าพวกเราทำแค่มือสมัครเล่น
เราก็ไม่ต้องเดินจงกรมก็ได้
เพราะว่าเรานั่งมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงชั่วโมงหนึ่ง
นั่งจะดีกว่านั่งจะสงบกว่า
แต่ถ้าเราปฏิบัติทั้งวันอย่างงี้ นั่งทั้งวันไม่ไหว
เราก็ต้องเปลี่ยนอิริยาบถ
แต่การเจริญสติก็ต้องต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะนั่งหรือจะเดินจะยืน
ถ้าพุทโธก็ต้องพุทโธไปทั้งสี่อิริยาบถ
หรือเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของร่างกายก็เฝ้าดูไป
ร่างกายกำลังทำอะไรกำลังตักน้ำกำลังดื่มน้ำ
กำลังล้างหน้า กำลังแปรงฟัน
ก็ให้เฝ้าดูการกระทำของร่างกาย
ไปเพียงอย่างเดียว อย่าปล่อยให้ไปคิดถึง
เรื่องราวต่างๆ แล้วพอไม่ได้ทำอะไรก็มานั่งต่อ
นั่งต่อเสร็จดูลมหายใจต่อก็ได้
ดูลมหายใจเข้าหายใจออก
ไม่ต้องไปบังคับไม่ต้องไปควบคุมลม
ลมมันหายใจของมันตามปกติ
เราเพียงแต่อาศัยการดูลมไว้เป็นการควบคุมใจ
ไม่ให้ไปคิดถึงเรื่องราวต่างๆ เท่านั้นเอง
ถ้าไม่ดูลมจะบริกรรมพุทโธไปก็ได้
จะท่องมนต์ไปก็ได้ ท่องไปภายในใจ
วิธีไหนที่มันเหมาะกับเราในตอนนั้นเราก็ทำไป
เป้าหมายก็คือให้จิตสงบ จิตไม่ปรุงแต่ง.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
......................
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ