Group Blog
All Blog
<<< "ผู้รู้ ผู้คิด" >>>














"ผู้รู้ ผู้คิด"

ผู้ที่ไม่ตายไปกับร่างกายก็คือเรานี่แหละ

เพราะเราออกมาจากผู้รู้ผู้คิด

ผู้คิดนี่คิด คิดให้มีเราขึ้นมาจึงมีเรา

ถ้าหยุดคิด เรามันก็หายไป

เวลานั่งสมาธิเวลาใจสงบ ใจไม่คิดตัวเราก็หายไป

 เหลือแต่ตัวรู้ ตัวคิดหยุดคิด ก็เลยเหลือแต่ตัวรู้

 เราก็เลยเห็นว่าตัวเรานี้เกิดมาจากตัวคิดนี้เอง

 พอคิดว่าเป็นเรา ก็มีเราขึ้นมา

 พอคิดว่าร่างกายเป็นเรา

ก็เชื่อว่าร่างกายเป็นเราขึ้นมา

 พอคิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกเรา

 ก็เชื่อว่าเป็นลูกเราขึ้นมา

 แล้วถ้าเกิดโรงพยาบาลเขามาบอกว่า

เขาสลับกันจะทำอย่างไร

เรายังเชื่อหรือเปล่าว่าเป็นลูกเราอยู่

ถ้าเราไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล

 แล้วพอดีพยาบาลเขาผิดพลาด

 เขาสลับเอาเด็กไปนอนผิดเตียงนี้

 เอาลูกคนอื่นมานอนเตียงเราเตียงลูกเรา

 เอาลูกเราไปนอนเตียงลูกคนอื่น

 แล้วเขาก็มาบอกว่า นี่เป็นลูกของเรา ก็เชื่อใช่ไหม

 เพราะเด็กมันเหมือนกัน จะไปดูออกหรือว่าเด็กคนนี้

กับเด็กคนนั้นมันต่างกันอย่างไร

 ถ้าเป็นเพศเดียวกันมันก็ดูไม่ออกหรอก

 ก็เลยเชื่อว่าเป็นลูกของเรา

เลี้ยงกันมาก็รักเป็นเหมือนลูกเรา

เพราะเราคิดว่ามันเป็นลูกของเรา มันก็เลยเชื่อ

 แล้วพอโรงพยาบาลเขามาทราบภายหลัง

 เขาก็มาบอกเราว่า ลูกคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณ

 คุณจะทำยังไง คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

 คุณจะเปลี่ยนใจได้ไหม เปลี่ยนความรู้สึก

ที่มีต่อลูกคนนี้ได้หรือเปล่า ก็เหมือนกันแหละ

ร่างกายของเราก็แบบเดียวกัน ร่างกายเรานี้

 เราไปคิดว่ามันเป็นเรา แล้วเราก็เชื่อว่า

มันเป็นเราใช่ไหม วันหนึ่งมาเจอพระพุทธเจ้า

 พระพุทธเจ้ามาบอกว่าไม่ใช่เป็นเรา

 เราจะเชื่อพระพุทธเจ้าหรือเปล่า

พระพุทธเจ้าได้รู้นะ ท่านเห็นของจริง

 ท่านไปค้นประวัติของเราแล้วแหละ

 ท่านค้นแล้วว่าเราไม่ได้เป็นร่างกาย

 เราเป็นตัวคิดตัวรู้ ร่างกายนี้

มันเป็นตัวที่เราไปคิดว่าเป็นเราเท่านั้นเอง

 เป็นตัวเรา เราก็เลยเชื่อว่ามันเป็นตัวเรา

นี่พอคิดแล้วเชื่อปั๊บนี้ มันก็เลยเชื่อว่า

เป็นจริงเป็นจังกันขึ้นมา

 เพราะทุกคนก็เชื่อแบบเดียวกัน

 เกิดมาพ่อแม่ก็บอกว่าร่างกายนี้เป็นตัวเราเป็นของเรา

 ร่างกายของพ่อของแม่ก็คิดว่าเป็นตัวของเขา

 ทุกคนก็เชื่อว่าร่างกายนี้เป็นตัวของเขากันทั้งนั้นแหละ

 แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น

อันนี้แหละเป็นสิ่งที่พวกเราโง่กัน

ถ้าเปรียบเทียบกับพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าฉลาดกว่าเราตรงนี้

ตรงที่มาเห็นว่าร่างกายไม่ใช่เป็นตัวเราของเรา

 เพราะท่านค้นคว้าดูที่ร่างกายของท่าน

ท่านก็เห็นว่ามันไม่ได้เป็นตัวของท่าน

ท่านไปพบตัวของท่านว่าเป็นตัวรู้ตัวคิด

 เวลาท่านนั่งสมาธินี้

 ตัวรู้ตัวคิดแยกออกจากตัวร่างกาย

 ก็เลยรู้ว่า อ๋อเวลาร่างกายนี้เป็นอะไรไป

 ตัวรู้ตัวคิดไม่ได้เป็นอะไรไปกับร่างกาย

 ตัวรู้ตัวคิดนี่แหละ เป็นตัวทำบุญทำบาป

 เป็นตัวสั่งให้ร่างกายทำ.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.............................

สนทนาธรรมะบนเขา

วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๐





ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 23 มิถุนายน 2560
Last Update : 23 มิถุนายน 2560 9:07:39 น.
Counter : 648 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ