Group Blog
All Blog
### น้ำมันพืชสกัดทางธรรมชาติ ###


มหัศจรรย์น้ำมันสกัดทางธรรมชาติ
น้ำมันพืช
ทุกวันนี้มีการใช้น้ำมันพืชกันอย่างแพร่หลาย
ทั้งคุณแม่บ้านมีการใช้น้ำมันพืชแทนการใช้น้ำมันหมู
มีการนำมาผลิตพลังงานทางเลือก
รวมทั้งที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบันก็คือ
การนำมาใช้เพื่อสุขภาพความงาม

น้ำมัน...
พืชอุดมไปสารอาหารทั้งวิตามินเอและอี
ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ และกรดไขมัน
ชนิดที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย 
 ทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
ช่วยในการลดคอเรสตอรอลที่ร่างกายไม่ต้องการ
และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
ที่เป็นตัวควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

ปริมาณของวิตามินและไขมันเหล่านี้
จะมากน้อยแตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันพืช
เช่น น้ำมันดอกคำฝอย
น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง
จะเป็นน้ำมันพืชที่มีไขมันไม่อิ่มตัวมาก
 และมีกรดไลโนลีอิกสูง
จึงเป็นน้ำมันชนิดที่ควรรับประทาน
ส่วนน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวมาก กรดไลโอลีอิกต่ำ
 อย่างน้ำมันปาล์ม และน้ำมันมะพร้าว
 ก็จะไม่เหมาะแก่การบริโภคมากนัก

นอกจากนี้การเลือกใช้น้ำมันยังต้องคำถึงอีกว่า
หากเป็นน้ำมันพืชชนิดที่เป็นไข
 คือ มีไขมันชนิดอิ่มตัวอยู่เป็นจำนวนมาก
ซึ่งเป็นไขมันที่ได้จากไขมันสัตว์, มะพร้าว
 และน้ำมันปาลม์ จะย่อยยาก
 แต่มีข้อดี คือ เหมาะสำหรับใช้ในการทอดอาหาร
เพราะทนต่อความร้อนได้ดี ไม่เหม็นหืน
สามารถทอดอาหารได้นานๆ
ส่วนน้ำมันชนิดที่ไม่เป็นไข
 คือ มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวอยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่สูง
 จะย่อยง่าย ช่วยลดโคเลสเตอรอลในเลือด
แต่ไม่เหมาะในการทอดที่ใช้ระยะเวลานาน
เพราะจะกลายเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
อีกทั้งยังเหม็นหืนอีกด้วย

ปัจจุบันเราสามารถผลิตน้ำมันจากพืชได้หลายชนิด
เช่น มะพร้าว งา รำข้าว เมล็ดทานตะวัน 
เมล็ดองุ่น เมล็ดมังคุด 
 มอนด์ ถั่วลิสง มะกอก และเมล็ดทับทิม
ด้วยกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันไปตามแต่ละชนิด

น้ำมันพืชส่วนใหญ่
เป็นนำมันพืชชนิดผ่านกระบวนการผลิต
แบบที่เรียกว่า น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี (Processed Oil)
ที่สกัดโดยใช้สารเคมีเป็นตัวทำละลาย
ซึ่งทำให้ได้ ไปสกัดเอาน้ำมันจากเนื้อหรือเมล็ดพืชน้ำมัน
แล้วจึงนำไปผ่านกระบวนการกลั่น ซึ่งจะผ่านความร้อนสูง
ทำให้คุณค่าทางอาหารสูญเสียไปมาก
ระหว่างการกลั่นและการสกัด ซึ่งจะแตกต่าง
กับน้ำมันพืชที่สกัดด้วยวิธีทางธรรมชาติ
ที่จะไม่ใช้สารเคมีและความร้อนสูง
เช่น วิธีบีบอัดแบบเย็น (First Cold pressed)
ซึ่งจะรักษาคุณสมบัติเดิมได้มาก
 อุดมไปด้วยสารสำคัญ เหมาะแก่การนำไปบริโภค
หรือนำมาใช้เพื่อบำรุงเส้นผมและผิวพรรณ
นำมาทำยา สบู่ ยาสระผม ผสมกับน้ำมันหอมระเหย 
 รวมทั้งนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางต่างๆ

น้ำมันพืชสกัดด้วยวิธีธรรมชาติ
น้ำมันที่สกัดด้วยวิธีธรรมชาตินั้น
ถือเป็นภูมิปัญญาที่มีมาแต่โบราณ
สำหรับน้ำมันนั้นจะได้มาจากส่วนต่างของพืช
เช่น เมล็ด เนื้อ และเนื้อ
ซึ่งปริมาณน้ำมันที่ได้จากพืชแต่ละชนิด
ก็จะแตกต่างกันออกไป
อย่างมะพร้าวก็จะมีปริมาณน้ำมันมากราวๆ 70 %
ส่วนปาล์มและเมล็ดงาก็ได้ถึง 50%
แต่หากเป็นน้ำมันรำข้าวก็จะได้น้อยลงมาที่ 15% เท่านั้น

การสกัดด้วยวิธีทางธรรมชาติก็จะมีหลายวิธีด้วยกัน เช่น

การหมัก (Fermentation)
ใช้กับการสกัดน้ำมันมะพร้าว
วิธีนี้จะได้น้ำมันออกมา 20-40% น้ำมันที่ได้จะบริสุทธิ์
 คุณภาพดี มีกลิ่นหอมของน้ำมันมะพร้าว
 ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในด้านการผลิตมากนัก
 ทำโดยการใช้น้ำอุ่นๆ นำไปคั้นเอาน้ำกะทิ
จากเนื้อมะพร้าว จากนั้นนำน้ำกะทิที่ได้
ใส่ภาชนะสำหรับหมักปิดฝาทิ้งไว้ 2-3 วัน
น้ำมันก็จะแยกตัวออกจากน้ำ ลอยตัวอยู่ด้านบน
จากนั้นก็ใช้ใช้สายยางดูดออกมา
 แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อบรรจุขวดที่มีฝาปิด

วีธีการเคี่ยว (Rendering)
นำเอาวัตถุดิบ เช่น เนื้อมะพร้าว เนื้อปาล์ม
ใส่กระทะตั้งไฟเคี่ยวด้วยความร้อนปานกลาง
จนน้ำมันแยกตัวออก และน้ำระเหยออกไป
แล้วจึงกรองเอาน้ำมันมาใช้
แต่ด้วยความที่ใช้ความร้อนเป็นเวลานาน
จึงทำให้น้ำมันที่ได้จากวิธีนี้
มีคุณภาพและกลิ่นไม่มีคุณภาพมากนัก

วิธีการบีบอัดเครื่องไฮโดรลิก (Hydraulic Press)
เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับพืชน้ำมัน
ที่มีเปลือกนิ่มไม่แข็งเกินไป
 เช่น ถั่วเหลือง รำข้าว ถั่วลิสง ไปตากหรืออบแห้ง
เพื่อไล่ความชื้นออกจากเนื้อวัตถุ
กระตุ้นน้ำมันบีบออกง่าย
แล้วจึงนำมาบีบด้วยเครื่องแบบไฮโดรลิก
 น้ำมันที่ได้จะมีคุณภาพดี

วิธีบีบอัดโดยเครื่องสกรูเพรส (Screw Press)
เหมาะพืชน้ำมันเปลือกแข็ง เช่น เมล็ดงา เมล็ดทานตะวัน
 มาทำการการบีบอัดด้วยเครื่องสกัดแบบ Screw-press
 จะได้น้ำมันคุณภาพดี มีสี กลิ่น รส ตามธรรมชาติ
เพราะแทบจะไม่ผ่านความร้อนเลย

นอกจากความร้อนที่เกิดขึ้นจากแรงเสียดสี

ระหว่างการบีบเท่านั้น

น้ำมันพืชบีบเย็น ( Cold pressed process )

เป็นการสกัดน้ำมันพืชด้วยวิธีที่มีการควบคุมอุณภูมิ
สารในน้ำมันไม่ถูกทำลายลง
ด้วยกระบวนการใช้ความร้อน 
 จะได้น้ำมันที่มีคุณภาพมากที่สุด
ที่รียกว่า extra virgin oil

การแบ่งประเภทของน้ำมัน
โดยแบ่งตามกระบวนการผลิต คุณภาพของน้ำมัน
รวมทั้งการวัดค่าของ free fatty acid คือ
ค่าที่บ่งบอกถึงปริมาณกรดไขมันอิสระ
ซึ่งค่ายิ่งน้อยโอกาสที่จะทำปฏิกิริยา
กับสารอื่นๆ นั้นจะน้อยตามไปด้วย

1.Extra Virgin Oil ชนิดบริสุทธิ์พิเศษ
ถือเป็นน้ำมันคุณภาพได้มาตรฐานสูงเป็นพิเศษ
ไม่มีการใช้กระบวนการเคมีหรือความร้อน
มีปริมาณ free fatty acid ไม่เกิน 1%
มีความบริสุทธิ์ ยังคงสี กลิ่น และรสตามธรรมชาติ
ของพืชชนิดนั้นๆไว้ดีที่สุด  จึงมีราคาแพง

2. Superfine Virgin Olive Oil
คือ ชนิดบริสุทธิ์ดีมาก มีคุณภาพรองลงมา
ปริมาณ free fatty acid อยู่ที่ไม่เกิน 1.5%

3. Fine Virgin Oil คือ ชนิดบริสุทธิ์ดี
มีปริมาณ free fatty acid อยู่ระหว่าง 1 - 2%

4. Virgin Oil
คือ ชนิดบริสุทธิ์ เป็นน้ำมันที่กระบวนการผลิต
ผ่านความร้อนบ้างมีปริมาณ free fatty acid ไม่เกิน 2%

5. Refined Oil
มีราคาค่อนข้างถูก ใช้ความร้อนสูงสุด
และสารเคมีในการสกัด ทำให้ปลอดรส สี
 และกลิ่นที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
มักใช้เป็นน้ำมันตัวหลักเพื่อผสมกับน้ำมันชนิดอื่น
เช่น เติม Virgin Oil ลงไปส่วนหนึ่ง
เพื่อทำให้ได้น้ำมันมีกลิ่นสีดั้งเดิมอยู่บ้าง
หรือไม่มีการเติม Virgin เพื่อให้ได้น้ำมันที่เหมาะ
กับการปรุงอาหารที่ไม่ต้องการให้อาหาร
มีกลิ่นของน้ำมันไปผสม บางครั้งเรียกน้ำมันชนิดนี้ว่า
 Light Oil หรือ Lite Oil คือ เจือจางแล้ว

6. Pure Oil
น้ำมันบริสุทธิ์ เป็นน้ำมันที่ได้จากการผสมกัน
ระหว่าง refined oil กับ extra virgin oil
 ปริมาณ free fatty acid อยู่ระหว่าง 3.1 - 4%
นอกจากใช้ทำอาหาร ก็นิยมใช้ทาบำรุงผิวพรรณ
แทนโลชั่น หรือทำน้ำมันนวดตัว

7. Pomace
เป็นน้ำมันที่ได้จากการนำเอากากพืช
มาผ่านกระบวนการแยกน้ำมันด้วยสารละลาย
 และน้ำมันที่ได้จากการผสมกัน
ระหว่าง virgin oil และ refined oil

น้ำมันที่มีคุณภาพดี ราคาแพง
มักนำมาใช้เพื่อการบริโภค
เช่น ทำน้ำสลัด หรืออาหารที่ต้องการ
กลิ่นและรสตามธรรมชาติ
ส่วนคุณภาพที่ต่ำก็จะใช้ในการทอดหรือผัด
แต่ไม่ควรเป็นประเภท Deep Fried
ที่ใช้ความร้อนสูงมากๆ
เพราะน้ำมันมะกอกนั้นทนความร้อนไม่ได้สูงนัก

เมื่อถึงคราวต้องเลือกซื้อน้ำมันพืช
คราวนี้ก็อย่าลืมดูคุณสมบัติต่างๆ
ให้เหมาะสมกับการน้ำมาใช้ประโยชน์
............................
ขอบคุณที่มา fb. น้าอ้วนบ้านเกษตรพอเพียงเพจ














Create Date : 23 เมษายน 2557
Last Update : 28 พฤษภาคม 2559 12:06:58 น.
Counter : 1175 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ