วันนี้วันตรุษไทย แรม 15 ค่ำ เดือน 4
......................
ตรุษไทย เป็นวันเปลี่ยนปีนักษัตรตามหลักโหราศาสตร์ไทย
โดยคำว่าตรุษนั้น เป็นภาษาทมิฬ แปลว่าตัด หรือการสิ้นไป
วันตรุษจึงถือเป็นวันสิ้นปีของคนไทยมาแต่โบราณ
โดยประเพณีนี้สืบทอดมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย
คู่กับประเพณีสงกรานต์ จึงมักเรียกรวมกันว่า
ประเพณีตรุษสงกรานต์
โดยประเพณีตรุษไทย มีกำหนดคือ วันแรม 14-15 ค่ำ เดือน 4
ถือว่าเป็นวันสิ้นปี และวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 เป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย
ทั้งนี้คนไทยแต่โบราณเชื่อว่าในวันนี้ประตูนรกและสวรรค์
จะเปิดให้บรรพบุรุษออกมารับส่วนบุญได้
จึงมีการจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร
เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับในวันดังกล่าว
ประวัติ
ตามจารีตประเพณีแต่ดั้งเดิมของไทย
ถือเอาวันขึ้น 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่
แต่ต่อมาในสมัยสุโขทัย ได้ถือว่า
วันขึ้น 1 ค่ำ เดือนห้าเป็นวันขึ้นปีใหม่ (ตรุษไทย)
ซึ่งถึอตามปฏิทินทางจันทรคติ ซึ่งได้รับคติมาจากศรีลังกา
ที่รับประเพณีวันตรุษซึ่งเป็นประเพณีเดิมของชนชาติทมิฬ
และมีการปฏิบัติสืบต่อกันมา จนกลายเป็นงานนักขัตฤกษ์ใหญ่
เพื่อสร้างสวัสดิมงคลแก่บ้านเมือง
โดยราชสำนักไทยเรียกประเพณีตรุษนี้ว่า
พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์
โดยมีการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล
และบำเพ็ญกิจโดยเอนกปริยาย เพื่อขับไล่อัปมงคล
และสร้างสิริมงคลแก่พระนครเนื่องในการขึ้นปีใหม่
โดยพระราชพิธีนี้ได้ปฏิบัติสืบมา
และยกเลิกลงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากทรงเห็นว่า
ไทยได้ติดต่อกับประเทศต่าง ๆ มากขึ้น
การใช้ปฏิทินทางจันทรคติไม่เหมาะสมและไม่สะดวก
เพราะไม่ลงรอยกับปฏิทินสากล
จึงประกาศให้ราชอาณาจักรสยามกำหนดวันขึ้นปีใหม่
โดยใช้วันทางสุริยคติตามแบบสากลแทน
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2432 เป็นต้นมา
และถือเอาวันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ด้วย
ประเพณีตรุษไทยในปัจจุบัน
และเนื่องด้วยประเพณีตรุษ
กำหนดวันโดยใช้ปฏิทินทางจันทรคติ
ทำให้ส่วนใหญ่วันตรุษจะกำหนดลงในช่วงเดือนมีนาคม
ซึ่งใกล้กับเทศกาลสงกรานต์
ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยเช่นเดียวกัน
ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่ทราบความสำคัญของวันตรุษไทยนี้
อย่างไรก็ตามวัดตามภาคกลางในประเทศไทย
ยังคงนิยมจัดประเพณีตรุษไทยตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
โดยประเพณีตรุษไทยในปัจจุบัน
ยังคงจัดเป็นสอง หรือสามวัน
ตามแต่ความนิยมของแต่ละท้องถิ่น
ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการทำบุญตักบาตรบำเพ็ญกุศล
เพื่ออุทิศให้บรรพชนผู้ล่วงลับ
โดยมีรูปแบบการบำเพ็ญกุศลเหมือนกับในวันธัมมัสวนะอื่น ๆ
แต่ที่ต่างออกไปคือ พุทธศาสนิกชนที่มาบำเพ็ญกุศล
มักนำขนมไทยคือข้าวเหนียวแดง ข้าวต้มมัด
หรือกาละแม มาถายพระเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ
ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณว่า
ในช่วงเทศกาลวันตรุษไทย ยมบาลจะเปิดประตูนรกและสวรรค์
ให้บรรพชนผู้ล่วงลับออกมารับส่วนกุศลที่ญาติมิตร
บำเพ็ญให้ในช่วงเทศกาลนี้ได้
ขอขอบคุณที่มา fb. นวพร สุปิงคลัด