อหิวาต์เทียมคืออะไร ?
อหิวาต์เทียมคือเชื้อ วิบริโอ พาราฮิโมไลติคัส
(Vibrio Parahaemolyticus)
เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง
อยู่ในตระกูลเดียวกับ อหิวาตกโรค
แต่เป็นคนละสายพันธุ์
และมีความรุนแรงน้อยกว่ามาก
ชอบอาศัยอยู่ในน้ำทะเลและน้ำกร่อย
จึงมักพบเชื้อนี้ในอาหารทะเลหลายชนิด
เช่น ปู กุ้ง หอยแมลงภู่ หอยแครงที่ลวกไม่สุก
แล้วก็เป็นคำตอบที่ว่าทำไมหลายคน
รับประทานอาหารทะเลที่ปรุงไม่สุก
แล้วมีอาการอาหารเป็นพิษ
เพราะฤทธิ์ของแบคทีเรียชนิดนี้
จะไปทำให้ทางเดินอาหารอักเสบนั่นเอง
และอย่างที่บอกว่าเชื้ออหิวาต์เทียมนี้
มักพบในอาหารทะเล
ดังนั้นการพบเชื้ออหิวาต์เทียมในเลือดไก่
ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของโลก
จึงสร้างความฉงนให้กับวงการแพทย์มากทีเดียว
และต้องตรวจสอบต่อไปว่า
เชื้ออหิวาต์เทียมไปปนเปื้อนในเลือดไก่ได้อย่างไรกัน ?
โดยคาดว่าต้นตอการปนเปื้อนนี้มาจาก
โรงงานเชือดไก่ในพื้นที่ระบาด
อาการป่วยจากเชื้ออหิวาต์เทียม
รุนแรงแค่ไหน ?
เมื่อติดเชื้ออหิวาต์เทียมแล้ว
คนนั้นจะมีอาการปวดท้อง
คลื่นใส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องร่วง
บางคนก็เป็นไข้หนาวสั่นร่วมด้วย
อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง
หลังรับประทานอาหาร
แต่ก็สามารถหายได้เองภายใน 3 วัน
และมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ
คือน้อยกว่า 1 : 1,000
ไม่ต้องตกใจ เลือดไก่ ข้าวมันไก่ ยังกินได้
แม้จะมีการพบว่า
เชื้ออหิวาต์เทียมปนมากับเลือดไก่
แต่กรมควบคุมโรคก็ยืนยันว่า
ยังสามารถทานข้าวมันไก่และเลือดไก่ได้
เพียงแต่ต้องปรุงเลือดไก่ให้สุกซ้ำ
ด้วยความร้อนตั้งแต่ 75 องศาเซลเซียส
นานเป็นเวลา 15 นาที หรือปรุงให้เดือด
ที่ 100 อาศาเซลเซียส
เพื่อฆ่าเชื้ออหิวาห์เทียมให้ได้ 100%
วิธีดูว่าเลือดไก่ปรุงสุกหรือยังก็คือ
หากเลือดไก่มีสีเข้ม เนื้อแข็ง แสดงว่าสุกแล้ว
จะต่างกับเลือดไก่ที่ยังไม่สุกดี
ซึ่งจะมีสีแดงๆ มีกลิ่นคาว และเนื้อนิ่ม
นอกจากนี้ต้องฝากไปยังร้านข้าวมันไก่ด้วยว่า
ต้องนำเลือดไก่ที่ซื้อมาไปต้มให้สุกซ้ำ
เพื่อฆ่าเชื้ออหิวาต์เทียม
ขณะเดียวกันคนขายอาหาร
ต้องรักษาความสะอาด
และสุขอนามัยในการปรุงอาหารด้วย
โดยการใส่ถุงมือพลาสติกสับไก่
แยกเขียงกับมีดสำหรับหั่นเลือดไก่ต่างหาก
อย่าใช้เขียงและมีดเล่มเดียวกับการหั่นผัก
หรือประกอบอาหารชนิดอื่นๆ
กรณีมือเป็นแผลไม่ควรสับไก่ขาย
ขณะที่ นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา หรือ หมอแมว
เจ้าของเพจ ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว
ก็ได้แชร์ข้อมูลที่น่าสนใจว่า
นอกจากเชื้ออหิวาต์เทียมแล้ว
ในข้าวมันไก่ยังมีเชื้อโรคอื่นๆปนเปื้อนได้อีก
หากปรุงไม่สุก สะอาด เช่น
ในเนื้อไก่ที่ปรุงสุกไม่ดีอาจเจอเชื้อ
Salmonella Campylobacter Vibrio
(ทั้ง 3 ชนิด)และเชื้อ อีโคไล
- ในข้าวอาจเจอเชื้อ S.Aureus B. Cerues
ได้จากการที่นำน้ำต้มไก่ไปหุงข้าว
หรือ เอามือเปล่าไปจับไก่แล้วไปตักข้าว
- ในแตงกวาก็อาจเจอเชื้อโรคได้เช่นกัน
ถ้ามีดและเขียงที่ใช้หั่นแดงกวา
กับเนื้อไก่เป็นเขียงเดียวกัน
อย่างไรก็ตามหากอยากจะทานข้าวมันไก่
คุณหมอแมวก็แนะนำว่าต้องเลือกให้ดี
ป้องกันเชื้อโรคเหล่านี้คือ
1. ร้านไหนมีประวัติว่า
คนกินแล้วท้องเสียบ่อยอย่าไปกิน
2. ข้าวมันไก่เหมาะกับการกินร้อนๆ
ทำเดี๋ยวนั้นกินเดี๋ยวนั้น
เลี่ยงการทานข้าวมันไก่บรรจะกล่อง
3. เลือดไก่ไม่ควรกินถ้าจะกินต้องร้อนๆ
(การทำเลือดไก่เราไม่รู้ว่า
ทำแบบใส่สารทำให้แข็งหรือใช้ความร้อน)
4. ร้านไหนใช้เขียงรวมหั่นไก่ หั่นแตงกวา
การคดตักข้าวทำสลับกับการหั่นไก่ที่ไม่ร้อน
โดยที่ไม่มีการใช้ถุงมือหรือล้างมือ อย่ากิน
5. ร้านไหนเจ้าของร้านบอกว่า
กินๆไปเถอะอย่าอนามัยจัด อย่าไปกิน
(เพราะเชื้อ Salmonella ตกค้างในร่างกายได้
ถ้าเจ้าของร้านไม่สนใจสุขอนามัยยิ่งต้องระวัง)
สรุปก็คือทานข้าวมันไก่ได้
แต่ต้องเลือกทานร้านที่สะอาดปลอดภัย
เพื่อที่จะได้ไม่เกิดอาการป่วยใดๆตามมา
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก kapook.com
ขอบคุณ นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา