Group Blog
All Blog
<<< "มหัศจรรย์ของสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงค้นพบ" >>>









"มหัศจรรย์ของสิ่งที่

พระพุทธเจ้าได้ทรงค้นพบ"

ความมหัศจรรย์ต่างๆ

ที่มนุษย์เราสร้างขึ้นมาผลิตขึ้นมา

 ก็ยังไม่มหัศจรรย์เท่ากับ

มหัศจรรย์ของสิ่งที่

พระพุทธเจ้าได้ทรงค้นพบ

นั่นก็คือการสู่ทางดับทุกข์

 ทางสู่การสิ้นสุดของการเกิดแก่เจ็บตาย

ของการเวียนว่ายตายเกิด ในภพต่างๆ

ที่เป็นความทุกข์ทั้งนั้น

 เพราะว่าไม่ว่าจะไปเกิดในภพไหน

ก็จะต้องมีวันตาย

มีวันเราต้องกลับมาเกิดใหม่

 เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

 เวลามาเกิดก็มาค้นมาหาสิ่งแปลกๆ

สิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ เช่นสมัยนี้

เราก็ค้นพบระบบการสื่อสารกัน

การสื่อสารแบบไร้สาย

สามารถติดต่อกันได้ทุกแห่งทุกหนทุกเวลา

แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้เราหลุดพ้น

จากความทุกข์ได้

 มีแต่สิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงค้นพบเท่านั้น

ที่จะทำให้พวกเราพ้นทุกข์กันได้

ไม่ต้องกลับมาเกิด

มาแก่มาเจ็บมาตายกันอยู่เรื่อยๆ

 อย่างที่พวกเรากำลังเป็นกันอยู่ในขณะนี้

 พวกเราอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่า

พวกเรานี้ได้กลับมาเกิดมาแก่

มาเจ็บมาตายกันอย่างโชกโชน

อย่างนับไม่ถ้วน

 เพราะเราลืมไปเวลาเราตายไป

เวลาเรามาเกิดใหม่เราก็ลืมไปแล้ว

ว่าชาติก่อนเราเป็นอะไรมา

 เราตายไปเมื่อไหร่

ตายอย่างไร มารู้ก็เพียงแต่ว่ารู้ว่า

เราได้มาเกิด แล้วพอมาเกิดเราก็ไม่มีเวลา

ที่จะมาคิดมาค้นคว้า

หาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

 เราก็ต้องมาหาสิ่งต่างๆ ที่เราอยากได้กัน

เพื่อให้เรามีความสุขกัน

 แต่การค้นหาสิ่งต่างๆ

 เพื่อให้เราเกิดความสุขนั้น

มันไม่ได้เป็นการค้นหาความสุขเพียงอย่างเดียว

เพราะความสุขที่เราค้นหานั้น

ความสุขที่เราได้กันนี้มันเป็นความสุขชั่วคราว

 มันเป็นความสุขที่จะต้องหมดไป

พอความสุขนั้นหมดไป

 ความทุกข์ก็กลับเข้ามาแทนที่

ก็ทำให้เราต้องหาความสุขใหม่

เพื่อมาดับความทุกข์ที่ปรากฏขึ้นมา

แต่ความสุขใหม่ที่หามาได้เดี๋ยวมันก็หมดไป

พอหมดไปความทุกข์ก็กลับคืนมาอีก

 เราเลยต้องหาความสุขกันอยู่เรื่อยๆ

 หาความสุขผ่านทางร่างกายกัน

เพราะเรารู้จักวิธีหาความสุขวิธีนี้เพียงวิธีเดียว

 เราก็เลยต้องหาความสุขด้วยร่างกาย

 ใช้ร่างกายพาเราไปทำอะไรต่างๆ

พาเราไปดูไปฟังไปลิ้มรสดมกลิ่น

ไปสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ผ่านทางร่างกาย

 ทำให้เกิดความสุขขึ้นมาชั่วคราว

พอร่างกายนี้ตายไป

ความอยากที่ไม่ได้ตายไปกับร่างกาย

ก็พาให้เราไปมีร่างกายอันใหม่ไปเกิดใหม่

แล้วก็ไปหาความสุขผ่านทางร่างกายใหม่

เหมือนกับที่เรากำลังทำกันอยู่ในขณะนี้

 เราก็กำลังหาความสุขทางร่างกาย

ผ่านทางตาหูจมูกลิ้นกาย

เราทำกันอย่างคล่องแคล่ว ทำกันอย่างชำนาญ

ไม่ต้องมีใครสั่งมีใครสอน

เรื่องการหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายนี้

แม้แต่เด็กตัวนิดเดียวมันก็ยังหาเป็น

 เพราะเคยหามาจนติดเป็นนิสัย เป็นสันดาน

 ไม่ต้องมีใครสั่งคอยสอน

ไม่ต้องให้พ่อแม่สั่งให้สอนว่า

ไปหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย

มีแต่ต้องคอยเบรค

 เพราะบางทียังไม่ถึงเวลาอันควร

ที่จะไปหาความสุขทางร่างกาย

ในบางเรื่องบางอย่าง

ก็เลยต้องคอยเบรคคอยห้าม

 ที่เราต้องคอยห้ามลูกไม่ให้ไปหาความสุข

ที่เป็นสำหรับผู้ใหญ่ เช่นการทำความสุข

จากการมีครอบครัว เพราะว่าความเป็นเด็กนี้

ยังไม่มีความสามารถที่จะเลี้ยงดูตนเอง

หรือเลี้ยงดูครอบครัวได้

 เป็นเวลาที่จะต้องศึกษาหาความรู้

หาวิธีหาเงินหาทอง

เพื่อที่จะได้มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตน

พอสามารถที่จะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนได้

 ถึงจะสามารถไปหาความสุขแบบที่ผู้ใหญ่หากัน

 คือไปมีครอบครัวไปมีแฟน

เพราะเมื่อมีแฟนก็ต้องมีลูกมีอะไรตามมา

 ก็ต้องรู้จักวิธีหากินหาอยู่กัน

 ถ้าหากินหาอยู่ไม่ได้ก็จะลำบาก

 แล้วก็อาจจะอดตายกันไป

การหาความสุขแบบของผู้ใหญ่

จึงมักจะต้องห้ามปรามเด็กๆ ไว้

เพราะถ้าไม่ห้ามเดี๋ยวเผื่อเด็กไปมีแฟน

มีครอบครัวกัน มีลูกมีเต้ากันขึ้นมา

ก็จะลำบากต่อพ่อแม่

 เพราะลูกเองก็ยังหากินเองไม่เป็น

แล้วยังมีหลานอีก

ก็ต้องให้พ่อแม่คอยเลี้ยงดูต่อ

ก็จะเป็นภาระมากขึ้นไป

 เป็นความทุกข์เพิ่มมากขึ้น 

นี่คือลักษณะของการหาความสุขต่างๆ

 ผ่านทางร่างกาย

ที่พวกเราหากันมาอย่างชำนาญ

ไม่ต้องมีใครสอนไม่ต้องมีใครบอก

มีแต่ต้องคอยห้ามไม่ให้หาโดยวิธี

ที่จะทำให้เกิดโทษกับตัวเอง

 และให้เกิดโทษกับผู้อื่น

ก็คือหาด้วยการทำบาป

เพราะเวลาเกิดความอยากได้อะไรมากๆ

ก็จะหน้ามืดขึ้นมา ไม่มีสติยับยั้งใจ

ก็จะไปหาความสุขในทางที่ผิดได้

 ไปหาความสุขด้วยการทำบาป

ด้วยการลักทรัพย์

 ด้วยการประพฤติผิดประเวณี

ด้วยการหลอกลวงโกหกหลอกลวง

 ด้วยการดื่มสุรายาเมา

พอไปหาความสุขโดยวิธีทำบาป

ก็มีความทุกข์ตามมามีโทษตามมา

 ก็เลยต้องมีพ่อแม่

คอยสั่งคอยสอนคอยถามลูกๆ

 แต่ถ้าไปเกิดเป็นลูกของพ่อแม่ที่ไม่ฉลาด

ไม่รู้ว่าวิธีหาความสุขแบบทำบาปนั้นเป็นโทษ

 ก็อาจจะไม่มีใครสั่งสอน

แทนที่จะสั่งสอนกลับสนับสนุน

สนับสนุนให้ลูกไปค้าประเวณี

ให้ลูกไปลักทรัพย์

อันนี้เป็นเพราะความไม่ฉลาด

 ความไม่รู้คุณรู้โทษ ไม่รู้เหตุรู้ผล

ของการกระทำของตนว่า สามารถนำคุณมาให้

 สามารถนำโทษมาให้ ขึ้นอยู่กับการกระทำว่า

ทำอย่างไร ถ้าทำโดยวิธีทุจริต

มันก็จะเกิดโทษตามมา

 ถ้าทำโดยวิธีสุจริตก็จะไม่มีโทษตามมา

นี่เป็นวิธีที่พวกเราหาความสุขกันโดยที่ไม่รู้ว่า

จะต้องกลายเป็นความทุกข์

 เพราะความสุขที่เราหากันเป็นความสุขชั่วคราว

 เป็นความสุขที่จะต้องมีวันหมดไป

ความสุขที่เราได้จากลาภยศสรรเสริญ

หรือความสุขที่เราได้จาก

รูปเสียงกลิ่นรสโผสฐัพพะ

 เป็นความสุขที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน

 เป็นความสุขที่เปลี่ยนได้ หมดได้.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

...............................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๐






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 18 มิถุนายน 2560
Last Update : 18 มิถุนายน 2560 16:43:14 น.
Counter : 781 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ