Group Blog
All Blog
<<< " ผลที่เราต้องการจากการนั่งสมาธิ" >>>











“ผลที่เราต้องการจากการนั่งสมาธิ”

การนั่งสมาธิ นั่งเพื่อให้ได้อุเบกขา ได้ความนิ่ง

 ได้ความสบาย ได้ความเบาอกเบาใจ ได้ความอิ่มใจ

 นี่แหละคือผลที่เราต้องการจากการนั่งสมาธิ

 จะได้ผลก็ต้องนั่งแบบมีสติ ถ้านั่งแบบไม่มีสติ

เดี๋ยวมีผลแปลกๆมาให้เราเห็น เดี๋ยวไอ้นั่นโผล่ขึ้นมา

 เดี๋ยวไอ้นี่โผล่ขึ้นมา แล้วก็ไปคิดว่าเป็นโน่นเป็นนี่

 แล้วก็เป็นบ้าไปกับสิ่งที่เห็น พวกหลงนิมิต

 พวกนั่งสมาธิแล้วเป็นบ้านี่ นั่งแบบไม่มีสติ

พอมีอะไรปรากฏขึ้นมาก็ไปคิดปรุงแต่งว่า

 โอ๊ย พระพุทธเจ้ามาเยี่ยมแล้ว นิพพานมาถึงแล้ว

อะไรต่างๆ ก็คิดปรุงแต่งไป ทั้งๆสิ่งที่ปรากฏ

ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไรสักอย่าง เราไปว่ามันเอง

 ไปบอกมันเอง ไปปรุงแต่งมันเอง

 หรือไอ้สิ่งที่ปรากฏขึ้นมา

 เราก็เป็นคนปรุงแต่งมันขึ้นมา

 แล้วก็ให้มันปรุงแต่งบอกเราว่ามันเป็นโน่นเป็นนี่

 บางคนนั่งแล้วก็บอกว่ามีท้าวมหาพรหมมาเยี่ยม

 มีเทวดาองค์นั้นองค์นี้มาเยี่ยม

 มีบุรุษในอดีตคนนั้นคนนี้มาเยี่ยม นั่งแบบไม่มีสติ

มันจะมีเรื่องราวต่างๆปรากฏมาหลอกให้ใจเราหลง

 หลอกให้วุ่นวายไม่สงบ นั่งแบบนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไร

 เพราะไม่สามารถที่จะมากำจัดความอยาก

ดับความทุกข์ต่างๆ ได้

ถ้าต้องการที่จะมากำจัดความทุกข์

 ดับความอยาก ต้องนั่งแบบมีสติ

 อย่าปล่อยให้ใจผลิตอาการต่างๆขึ้นมาหลอกใจ

 ถ้ามันมีก็อย่าไปสนใจ

ใหม่ๆ สติของเราอาจจะยังไม่มีกำลังมากพอ

ที่จะไปยับยั้งการปรุงแต่งของใจ

ให้มันผลิตอะไรแปลกๆให้เราเห็น อย่าไปสนใจ

ให้กลับมาอยู่ที่พุทโธ พุทโธ พุทโธ

ให้มาอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก

แล้วเดี๋ยวอาการต่างๆเหล่านั้นก็จะหายไป

เพราะกำลังสติเราจะมีมากขึ้นๆ

 เมื่อกำลังสติมีมากขึ้น อาการต่างๆก็จะสงบตัวลง

 แล้วเดี๋ยวใจก็จะรวมเป็นหนึ่ง

 สักแต่ว่ารู้ขึ้นมา เป็นอุเบกขาขึ้นมา

พอมันเป็นอย่างนั้นก็ใช้สติประคับประคอง

ให้มันอยู่ไปนานๆ อย่าปล่อยให้มันคิด

อย่าไปออกทางปัญญา ยังไม่ใช่เวลา

 ปัญญายังอีกไกล ตอนนี้เพิ่งหัดยืน

 อย่าเพิ่งไปคิดถึงการวิ่ง หัดยืนอย่าให้มันล้มก่อน

 เด็กหัดยืนใหม่ๆ ยืนได้ ๒-๓ ก้าว เดี๋ยวก็ล้มลงแล้ว

 ต้องหัดยืนแบบให้มันแข็งก่อน

 ยืนแบบไม่ล้มก่อน แล้วค่อยหัดเดิน

 แล้วค่อยหัดวิ่งต่อไป

ดังนั้น บื้องต้นเวลาทำจิตให้สงบนี้

 อย่าเพิ่งไปทางปัญญา พยายามฝึกสมาธิให้ชำนาญ

 ให้สามารถหยุดความคิดหยุดความอยาก

ได้ทุกเวลาที่เราต้องการก่อน พอหยุดได้แล้ว

 ทีนี้ เวลาไม่ได้อยู่ในสมาธิ เราค่อยมาเจริญปัญญา

 สอนใจว่าทุกอย่างที่เราอยากนี้

เป็นทุกข์เป็นภัยกับจิตใจ

 เพราะมันไม่เที่ยง เพราะเราไปสั่งให้มันเที่ยงไม่ได้

 แต่เราอยากให้มันเที่ยง แต่มันไม่เที่ยง

 พอไปอยากมันก็จะทำให้เราทุกข์ ให้คิดอย่างนี้

สอนใจอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แล้วต่อไปเวลาเกิดความอยาก

 มันก็จะรู้ทันทีว่ากำลังไปหาความทุกข์.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.........................................

สนทนาธรรมบนเขา

วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๑








ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2562 9:07:37 น.
Counter : 318 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ