Group Blog
All Blog
### ระงับความโกรธ ###










“ระงับความโกรธ”

ถาม : เวลาใครพูดอะไรไม่ถูกใจ ทำอย่างไร

จึงจะระงับความโกรธได้

พระอาจารย์ : ต้องมีสติรู้ทันว่ากำลังโกรธ

 รู้ว่าความโกรธเป็นโทษกับเรา

 มากกว่าคนที่ทำให้เราโกรธ

 คนที่ทำให้เราโกรธเป็นเหมือนกับคนจุดไฟ

แต่ไฟอยู่ในใจเรา อย่าไปสนใจคนที่จุดไฟ

 ต้องรีบหาน้ำมาดับไฟ วิธีที่เร็วที่สุดก็คือปัญญา

 รู้ว่านี่ไฟกำลังไหม้บ้านเรา กำลังไหม้ตัวเรา

 ก็หยุดโกรธเสีย นี่คือปัญญา

 ถ้าไม่มีปัญญา ก็ต้องใช้อุบายอย่างอื่น

เช่น เมตตา ให้อภัย คิดว่าเรื่องก็ผ่านไปแล้ว

 จะไปฟื้นฝอยหาตะเข็บก็ไม่ได้ แก้ความรุ่มร้อน

ความโกรธที่มีอยู่ภายในใจ

 ก็คิดเสียว่าใช้หนี้เก่าไปก็แล้วกัน

แล้วแต่จะใช้อุบายคิด วิธีที่ฉลาดที่เร็วที่สุด

ก็ต้องมองว่า ไฟกำลังไหม้บ้าน

 จะไปตีโพยตีพายทำไม รีบหาน้ำมาดับไฟดีกว่า

ขณะนี้เรากำลังโกรธ รีบระงับความโกรธนี้เถิด

 ถ้าไม่รู้จะทำอย่างไรก็บริกรรมพุทโธๆๆไปเรื่อยๆ

อย่าไปคิดถึงคนที่ทำให้เราโกรธ

 เดี๋ยวความโกรธก็หายไปเอง

ยิ่งไปคิดถึงคนที่ทำให้เราโกรธ

 ทำไมเขาต้องทำให้เราโกรธ เราก็ดีอย่างโน้นดีอย่างนี้

 คิดอย่างนี้ก็ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาใหญ่

อย่าไปคิดถึงมันเลย มันผ่านไปแล้ว

เวลาไฟไหม้ก็อย่าไปนั่งเถียงกันเลยว่า

ใครเป็นคนจุดไฟ เดี๋ยวบ้านก็ไหม้หมด

ต่างคนต่างรีบไปหาน้ำมาดับกันดีกว่า

 เวลาเกิดความโกรธ ต้องบอกตัวเราว่า

ไฟกำลังไหม้ใจเรานะ รีบดับมันเสีย

 ถ้าใช้ปัญญาไม่ได้ก็ใช้อุบายของสมาธิไปก่อน

ด้วยการบริกรรมพุทโธๆๆไปเรื่อยๆ

อย่าไปคิดถึงคนที่ทำให้เราโกรธ

 ความกลัวก็เหมือนกัน พระที่ต้องการแก้ความกลัว

 ท่านจะไม่ชอบอยู่ตามสถานที่ปลอดภัย

เพราะจะไม่มีความกลัว แต่พอไปอยู่ที่เปลี่ยวๆที่น่ากลัว

 ความกลัวจะโผล่ขึ้นมา พอโผล่ขึ้นมา

ท่านก็จะบริกรรมพุทโธๆๆไปเรื่อยๆ

 จิตก็จะอยู่กับพุทโธๆๆไปจนเป็นสมาธิขึ้นมา

พอจิตเป็นสมาธิสงบนิ่งแล้ว

 ความกลัวก็หายไปหมดเลย

เพราะความกลัวก็ออกมาจากจิตนี้แหละ

จิตปรุงแต่งขึ้นมาเอง ความโกรธก็ออกมาจากจิต

 จิตไปปรุงไปแต่งมันขึ้นมาเอง

ถ้าระงับได้ ทำจิตให้สงบได้

ความกลัวก็ดี ความโกรธก็ดี ก็จะหายไปเอง

 นี่เป็นวิธีที่ง่าย วิธีของสมาธิ

 แต่ไม่ถาวรเหมือนกับการใช้ปัญญา

ถ้าใช้ปัญญาก็จะรู้ว่า เราไปหลงมันเอง

ไปยินดียินร้ายกับมันเอง ถ้าไม่ไปยินดียินร้าย

ก็จะทำให้เราโกรธไม่ได้

ถ้าไปหวังว่าเขาจะต้องพูดดีกับเรา

พอเขาพูดไม่ดีเราก็โกรธ หรือเสียใจ

 ถ้าไม่ไปหวังว่าเขาจะต้องดีกับเรา

 เขาจะร้ายกับเราอย่างไร เราก็พร้อมที่จะรับอยู่แล้ว

 เราก็ไม่โกรธ เราก็ไม่เสียใจ

 จึงอย่าไปหวังอะไรจากใครในโลกนี้

อย่าไปหวัง อย่าไปหาความสุขจากภายนอก

ให้หาความสุขในตัวเรานี่แหละ.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

......................

กัณฑ์ที่ ๒๒๗ วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๔๘

 (จุลธรรมนำใจ ๑)

“หัวใจของคำสอน”







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 10 กรกฎาคม 2559
Last Update : 10 กรกฎาคม 2559 12:36:45 น.
Counter : 765 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ