Group Blog
All Blog
<<< "ความสุขแบบที่ไม่ต้องมีอะไร" >>>









"ความสุขแบบที่ไม่ต้องมีอะไร"

ถ้าเราใช้พุทโธนี้มันก็จะว่าง จะเย็นจะสบาย

ถ้าท่องที่เป็นเรื่องเป็นราว

มันก็จะทำให้เกิดเรื่องราวภายในใจได้อยู่

 ถ้าท่องในสิ่งที่ไม่มีเรื่อง

 มันก็จะไม่มีเรื่องปรากฏขึ้นมา

 ท่องพุทโธๆ ไปเวลาที่เราไม่ต้องใช้ความคิด

 ชีวิตเรานี้ไม่ได้คิดตลอด

 ไม่ต้องใช้ความคิดตลอดเวลา

แต่เราคิดกันตลอดเวลา คิดกับเรื่องไร้สาระ

 คิดเรื่องเพ้อเจ้อ คิดกับเรื่องของกิเลสตัณหา

 ความโลภ ความอยากต่างๆ

 ที่มันไม่เป็นประโยชน์กับจิตใจ

มีแต่จะทำให้จิตใจเราว้าวุ่นขุ่นมัว

ทำให้จิตใจไม่สุข ไม่อิ่ม ไม่พอ

 ถ้าเรามีพุทโธๆ ไปนี้ ความคิดต่างๆ

มันก็จะเกิดขึ้นมาไม่ได้ แล้วใจเราก็จะว่าง

จะเย็นจะสบายมีความสุข เราหัดมาเจริญพุทโธกัน

 ถ้าใช้คำบริกรรมก็พุทโธ หรือใช้คำอื่นก็ได้

 ธรรมโมก็ได้ สังโฆก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง

คอยกั้นเพื่อไม่ให้เกิดความคิดต่างๆ ขึ้นมา

 ความคิดของเราส่วนใหญ่

มันเป็นความคิดไปในทางที่ทำให้เกิด

อารมณ์ต่างๆ ที่ไม่ดี

อารมณ์ทำให้เกิดอารมณ์ร้อนขึ้นมา

 โลภก็ร้อน โกรธก็ร้อน หลงก็ร้อน

 นานๆ เราจะคิดไปในทางที่ดีสักครั้งหนึ่ง

 ส่วนใหญ่จะคิดไปในทางที่ไม่ดี

ทำให้เราหิว ทำให้เราอยาก ทำให้เรารำคาญ

ทำให้เราหงุดหงิด ทำให้เราว้าเหว่

ทำให้เราเศร้าสร้อยหงอยเหงา

ทำให้เราท้อแท้เบื่อหน่าย

 เกิดจากความคิดของเราทั้งนั้น

 อารมณ์เหล่านี้เราคิดแบบให้มีกำลังใจ

คิดแบบให้เบิกบาน คิดไม่เป็นกัน

ชอบคิดให้เศร้าหมองกัน เราจึงต้องมาหา

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ที่จะสอนให้เราคิดไปในทางที่ดี

หรือถ้าคิดไปในทางที่ไม่ดีก็ให้หยุดมัน

 หยุดมันแล้วก็บังคับให้มันคิดไปในทางที่ดี

คิดไปในทางที่ดีแล้ว

 มันก็จะมีความสดชื่นเบิกบานมีความสุข

ความสุขนี้มันมีอยู่ในใจของเราแล้ว

 เราไม่ต้องไปหาสิ่งต่างๆ มาให้ความสุขกับเรา

 แต่เราไม่รู้กัน เราไม่รู้ว่า

เราสามารถผลิตความสุขให้กับเราได้

โดยที่ไม่ต้องไปหาสิ่งต่างๆ มาให้เรามีความสุข

 เราก็เลยไปหาสิ่งต่างๆ มาให้ความสุขกับเรา

 ที่เป็นความสุขชั่วคราว ที่เป็นความสุขปลอม

เพราะความสุขที่เราได้จากสิ่งต่างๆ

พอได้มาปั๊บเดี๋ยวมันก็หายไปแล้ว

พอหายไปความทุกข์ก็เข้ามา

 ต้องไปหามา มาดับความทุกข์ใหม่

 เพราะสิ่งต่างๆ ที่เราได้มามันเป็นของชั่วคราว

 ได้มาแล้วก็หมดไป อยากจะไปดูอะไร

 อยากจะไปฟังอะไร อยากจะไปเที่ยวที่ไหน

พอไปดูไปฟังไปเที่ยวก็มีความสุขกัน

 แต่พอกลับมาบ้าน มันก็หายไปหมดแล้ว

 กลายเป็นอดีตไปแล้ว

 ปัจจุบันไม่มีอะไรให้ดูให้ฟังให้เที่ยว

ก็รู้สึกเหงาขึ้นใหม่ รู้สึกว้าเหว่

อยากจะออกไปเที่ยวใหม่

อยากจะออกไปดูไปฟังใหม่

นี่ไม่ใช่เป็นวิธีหาความสุข

 เพราะมันเป็นการ ทำให้ใจเรา

ติดกับการหาความสุขแบบนี้

 แล้วพอเราไม่สามารถหาความสุขแบบนี้ได้

 เราก็เศร้า เคยไปเที่ยวได้

พอวันไหนไม่มีเงินไปเที่ยว วันนั้นก็เศร้า

เคยมีเพื่อนพอวันไหนไม่มีเพื่อนก็เหงา

 สู้เรามาหาความสุขแบบที่เราไม่ต้องมีเพื่อน

 ไม่ต้องไปเที่ยวดีกว่า คือมาทำใจเราให้ว่าง

 อย่าให้คิดใช้พุทโธๆไป พอเราไม่คิดถึงเพื่อน

ไม่คิดถึงสถานที่ท่องเที่ยว เราก็ไม่รู้สึกเหงา

 ไม่รู้สึกว้าเหว่ แต่พอคิดปั๊บก็อยากจะเจอเพื่อน

 ก็อยากจะไปเที่ยวพอไม่ได้เจอเพื่อน

ไม่ได้ไปเที่ยวก็ว้าเหว่ เงียบเหงาขึ้นมา

ถ้าเรารู้จักใช้พุทโธๆ นี้

พอเกิดอารมณ์อย่างนี้ขึ้นมาก็พุทโธๆๆๆ ไปเรื่อยๆ

 เดี๋ยวสักพักหนึ่งอารมณ์มันก็หายไป

 เพราะมันหยุดคิดถึง

สิ่งที่ทำให้เกิดอารมณ์ว้าเหว่ขึ้นมา

นี่แหละประโยชน์ของการเจริญสติ

ใช้พุทโธๆ ไป ท่องไปเรื่อยๆ

 ลืมตาขึ้นมาตื่นขึ้นมาก็พุทโธไปเลย

ไปอาบน้ำแต่งเนื้อแต่งตัวอะไรก็พุทโธไป

อย่าปล่อยให้ใจคิดเรื่อยเปื่อย

อย่าให้คิดไปในทางความโลภทางความอยาก

 แล้วจะทำให้ใจเราร้อนขึ้นมา

 พอมีความโลภความอยากนั้นจะทำอะไรต้องรีบทำ

 เพราะมันไม่ทันใจล่ะ แล้วพอไม่ได้ดั่งใจก็โกรธ

เสียใจ ได้มาแล้วเดี๋ยวเดียว

ความสุขที่ได้มาจากการทำตามความอยาก

 ได้มาเดี๋ยวเดียวมันก็หมดไปแล้ว

 เดี๋ยวก็เกิดความอยากในเรื่องอื่นต่อไป

อยากได้เรื่องนี้พอได้เรื่องนี้เสร็จแล้ว

ก็อยากได้สิ่งนั้นต่อ อยากได้สิ่งนั้นแล้ว

ก็อยากจะได้เรื่องนั้นต่อ มันก็จะคว้าไปเรื่อยๆ

สิ่งที่ได้มาแล้วก็หมดความหมายไป

 หามาได้เท่าไหร่ก็ไม่อิ่มไม่พอ

 พอหาไม่ได้ก็ทุกข์ นี่พอเสียสิ่งที่ได้มาไปก็ทุกข์

 สู้มาหาความสุขแบบที่ไม่ต้องมีอะไรดีกว่า

ทำใจให้ว่าง แล้วใจเราจะมีความสุข

อย่าให้คิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้คนนั้นคนนี้

สิ่งนั้นสิ่งนี้ให้อยู่กับพุทโธๆๆ ไป แล้วใจจะเบา

 ใจจะสบาย ใจจะไม่ร้อน ใจจะเย็น

ใจจะอิ่ม จะไม่หิวไม่โหย.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

...................

สนทนาธรรมมะบนเขา

วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๐




 

ขอบคุณที่มา  fb.  พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 09 พฤษภาคม 2560
Last Update : 9 พฤษภาคม 2560 9:45:42 น.
Counter : 859 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ