ไม่ทำตามความอยาก
การดับทุกข์กับการได้พบกับ
ความสุขที่แท้จริงที่ถาวร ต้องภาวนาเท่านั้น
สมถภาวนา วิปัสสนาภาวนา
สมถภาวนาคือเจริญสติก่อน
ไม่มีสติก็นั่งสมาธิไม่สงบ
ถ้ามีสติแล้วนั่งสมาธิเดี๋ยวเดียวก็สงบ
สงบแล้วก็จะหยุดความอยากได้ชั่วคราว
ได้ความสุขที่ยิ่งใหญ่
แล้วขั้นต่อไปออกจากความสงบ
ก็ต้องคอยเฝ้าดูความอยาก
มันโผล่มาเมื่อไหร่ก็ต้องฆ่ามันทันที
อย่าไปทำตามความอยาก
อยากจะกินกาแฟก็ทุบถ้วยกาแฟทิ้งไปเลย
โยนกาแฟทิ้งลงถังขยะไปเลย ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
อยากจะดื่มแป๊บซี่ก็โยนทิ้งไปเลย ฆ่ามันให้หมด
อยากจะสูบบุหรี่ก็โยนทิ้งไปเลย
อยากจะดื่มสุราก็เทใส่ลงไปในชักโครกเลย
ไวน์เวยแชมปงแชมเปนญ์อะไร
เทใส่ชักโครกให้หมด
ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
แล้วต่อไปมันจะได้ไม่ต้องมาเสียเงินซื้อ
เงินที่เป็นพิษเป็นภัยทั้งกับจิตใจทั้งกับร่างกาย
นี่ต้องใช้ปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาก็จะไม่รู้ว่า
ทุกข์เกิดจากความอยาก
นี่เราได้ปัญญาของพระพุทธเจ้า
มาเป็นต้นทุนแล้วเราไม่ต้องไปหาเอง
เรารู้แล้วว่าปัญหาของเราอยู่ที่ความอยาก
ดังนั้นเวลาเกิดความอยาก
เราต้องหยุดมันอย่างเดียว
เราหยุดได้แล้วเพราะเรามีสมาธิ
เพราะเวลาทำสมาธินี้มันหยุดความอยากได้แล้
ว เรามีเบรคแล้ว พอมีเบรคแล้ว
เวลาจะเบรคความอยากก็ทำได้ทันที
เฉยๆ เท่านั้นเอง อยู่เฉยๆ เป็นอุเบกขา
ไม่ทำตามมันเท่านั้นเอง
คนที่มีสมาธิ จะไม่ทำตามความอยาก
จะไม่เครียดไม่ทุกข์ แต่คนที่ไม่มีสมาธิมันเครียด
เหมือนกับรถที่ไม่มีเบรค มันจะชน
คนขับมันจะเครียดไหม
แต่คนที่เขามีเบรคเขาไม่เครียดเขารู้ว่าไม่ไปชน
ดังนั้นต้องมีสมาธิก่อน เพราะสมาธิเป็นเบรคของใจ
เมื่อมีเบรคใจแล้วเวลาเจอตัณหาก็เบรคเลย
หยุดเลยเท่านั้นเอง ไม่ทำตามเท่านั้นเอง
มันอยากจะกินกาแฟก็ไม่กิน
อยากจะกินกาแฟก็โยนทิ้งไป
อยากจะสูบบุหรี่ก็เอาบุหรี่โยนทิ้งไป
ต่อไปมันก็ไม่มีอะไรจะมาทำให้เราทำตามมันได้
เรามีสมาธิแล้วเราพอแล้วเรามีความสุขแล้ว
แล้วพอไม่มีความอยาก ความสุขที่ได้จากสมาธิ
ก็กลายเป็นความสุขถาวรไป
เป็นปรมังสุขังไปเท่านั้นก็จบ งานของเราก็มีแค่นี้
หยุดความอยากด้วยสติ ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา
ด้วยการสนับสนุนของทานและของศีลนี่เอง
ดังนั้น ก็ขอให้เอาไปปฏิบัติกันนะ
ทางนี้เป็นทางเดียวที่จะพาไปสู่การดับทุกข์ได้
เเละก็ดับได้จริงๆ พราะมีผู้ดับมาแล้ว
พระพุทธเจ้าก็ดับด้วยทางนี้
พระสาวกทั้งหลายก็ดับด้วยทางนี้
พวกเราถ้าใช้ทางนี้ก็ดับได้เหมือนกัน.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
.......................
สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ