"สัมมาทิฏฐิ"
สัมมาทิฏฐิ ความเห็นที่ถูกต้อง
หรือความเห็นชอบนี้คืออะไร
ความเห็นชอบนี้ก็มีอยู่ ๒ ระดับด้วยกัน
ระดับของนักบุญ และ ระดับของนักบวช
ระดับของนักบุญก็จะเห็นว่าบุญมีจริงบาปมีจริง
ทำบุญแล้วตายไปก็จะได้ไปสวรรค์
ทำบาปแล้วตายไปก็จะได้ไปอบาย
ไปเกิดเป็นเดรัจฉาน เป็นเปรต
เป็นอสุรกาย ไปตกนรก
นี่คือความเห็นของระดับนักบุญ
เห็นว่าตายแล้วไม่สูญ
ตายแล้วยังต้องไปเกิดต่อ
ไปใช้บุญใช้บาปต่อ
แล้วก็กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่
กลับมาสร้างบุญสร้างบาปใหม่
ถ้าไม่อยากจะไปอบาย
ไม่อยากไปนรกก็อย่าไปทำบาป
ถ้าอยากจะไปสวรรค์ก็ให้ทำบุญทำความดี
นี่คือความเห็นระดับของนักบุญ
ส่วนความเห็นระดับนักบวช ก็คือเห็นว่า
การเกิดแก่เจ็บตายนี้เป็นทุกข์
และการเกิดแก่เจ็บตายนี้
มีเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นมา ก็คือตัณหาทั้ง ๓ คือ
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
และการที่จะทำให้การเกิดแก่เจ็บตาย
ความทุกข์นี้ดับไป ก็ต้องละกิเลสทั้ง ๓
คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
และการที่จะละกิเลสตัณหานี้ได้ก็ต้องมี "มรรค"
ต้องมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา
ปัญญาก็คือการเห็นที่ถูกต้องนั่นเอง
คือเห็นว่าสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้
ที่ทำให้เรากลับมาเกิดมาหาอยู่เรื่อยๆ
เช่นรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
ลาภ ยศ สรรเสริญนี้เป็นทุกข์ไม่ใช่เป็นสุข
เป็นทุกข์เพราะว่ามันไม่เที่ยง
มันมีเกิดแล้วเดี๋ยวมันก็มีดับ มันไม่ใช่ของเรา
เราไม่สามารถไปควบคุมบังคับมัน
ให้มันอยู่กับเราเป็นของเราไปได้ตลอด
มันมาแล้วเดี๋ยวมันก็ไป
เวลามันมามันก็ให้ความสุขกับเรา
เวลามันไปมันก็ให้ความทุกข์กับเรา
ถ้าไม่อยากจะทุกข์ไม่อยากจะต้องกลับมา
เวียนว่ายตายเกิด ก็ต้องตัดความอยากทั้ง ๓
ตัดกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
ให้หมดไปจากใจ.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
............................
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๐
มรรค ๘ "ทางแห่งการหลุดพ้น"
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ