"วิธีของคนฉลาด"
ถ้าเราอยากจะใช้เงิน
ให้เป็นประโยชน์กับจิตใจ
พระพุทธเจ้าสอนให้เราใช้เงิน
ไปกับการทำบุญทำทาน
เพราะการทำบุญทำทานนี้
จะไปสกัดความอยากต่างๆ
เช่นอยากจะไปเที่ยว
เอาเงินที่จะไปเที่ยวนี้ไปทำบุญดีกว่า
อยากจะไปซื้อกระเป๋ารองเท้า
ที่ไม่จำเป็นจะต้องซื้อ
เอาไปทำบุญ แล้วรับรองได้ว่า
ผลลัพธ์นี้จะต่างกันเหมือนฟ้ากับดิน
เหมือนนรกกับสวรรค์เลย
นี่เขาเรียกทำบุญได้ขึ้นสวรรค์
เพราะทำบุญแล้วใจเย็น ใจมีความสุข
ทำตามความโลภทำตามความอยากแล้ว
ใจร้อนขึ้นมา ใจร้อนใจหิว
ได้มากน้อยเพียงไรก็ไม่อิ่มไม่พอ
มีแต่อยากจะได้เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ
นี่วิธีของคนฉลาด คนฉลาดถ้ามีเงินเหลือ
ไม่ต้องเก็บเอาไว้ ก็เอาไปทำบุญ
คนโง่ถ้ามีเงินเหลือบางทีเงินไม่เหลือ
ก็ยังไปใช้ตามความอยากต่างๆ
แล้วก็มาสร้างความรุ่มร้อนให้กับจิตใจ
สร้างความเครียดสร้างความโกรธเกลียด
ความเคียดแค้น อาฆาตพยาบาท
เพราะว่าเวลาไม่ได้ดั่งใจอยาก ก็จะโกรธ
นี่คือสิ่งที่พวกเราจะต้องเข้าใจ
เพราะใจของพวกเรานี้ ไม่ได้เย็น
ไปกับความเจริญของทางด้านวัตถุ
ไม่ได้ร่มเย็นเป็นสุขไปกับความเจริญ
ในลาภยศสรรเสริญ
ในรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ
ใจของพวกเราเย็นด้วยการทำบุญทำทาน
เย็นด้วยการรักษาศีล เย็นด้วยการภาวนา
ถ้าเราอยากจะติดเครื่องปรับอากาศให้กับใจ
เรา ต้องติดด้วยการทำบุญทำทาน
ด้วยการรักษาศีล ด้วยการภาวนา
อย่าไปติดด้วยการไปเที่ยว
ไปหาข้าวของสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้
เพราะมันจะทำให้ใจเราร้อน
อันนี้เป็นความจริงไม่เชื่อลองสังเกตุดู
ดูใจของเรา เวลาที่เราทำบุญรักษาศีลภาวนา
กับเวลาที่เราไปแสวงหาลาภยศสรรเสริญ
แสวงหารูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ
ความรู้สึกมันเป็นอย่างไร มันร้อนหรือมันเย็น
มันสุขหรือมันทุกข์ นี่คือใจของเรา
ใจของพวกเรานี้ไม่ต้องการลาภยศสรรเสริญ
ไม่ต้องการรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ
แต่ต้องการทานศีลภาวนา
ทานศีลภาวนานี่แหละ
จะทำให้ใจเราร่มเย็นเป็นสุข
ทำให้ใจเราปราศจากความทุกข์
ความวุ่นวายใจต่างๆ
ฉะนั้นขอให้เรามาหัดทำทานกันดีกว่า
หัดรักษาศีลกันดีกว่า หัดภาวนากันดีกว่า.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
.................................
สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐
ขอบคุณที่มา fb.พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ