Group Blog
### อุทาหรณ์ ก่อนคิดสักยันต์ ###



อุทาหรณ์ก่อนสักยันต์


ก่อนอื่นขอขอบคุณเจ้าของภาพนี้นะคะ 
 ขอยืมภาพมาเป็นอุทาหรณ์ให้กับเด็กๆๆสักหน่อยเท่านั้น 
  เรื่องนี้สำหรับคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วและชอบเราก็ไม่ว่ากัน 
 นานาจิตตัง แต่สำหรับเยาวชนที่ยังมีอายุน้อย
เราขอเตือนสักหน่อยนะ แต่ก็นั่นแหละ
แล้วแต่จะคิดเอาเอง แต่ที่จะบอกนี้
เป็นเรื่องจริงๆ  ทั้งนั้น


ผมชื่อ " แบ็งค์" ครับ ผมอายุ 15 ปี 8 เดือน 14 วัน
ขณะที่่ผมอายุเท่านี้ผมเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง
ประจำจังหวัดครับ ผมเป็นเด็กเรียนปานกลาง 
  พ่อและแม่ผมทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม
ในอำเภอที่ผมอาศัยอยู่ พ่อและแม่หวังในตัวผมมาก
  อยากให้ผมเรียนสูงๆและมีงานทำที่ดี 
  ผมตั้งใจเรียนอย่างมาก สอบผ่านทุกครั้ง
และอยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ได้ไม่ถึงกับน่าเกลียดหรอก
พอจบมัธยมผมก็เข้าเรียนต่ออาชีวะ
ผมเลือกเรียนวิชาช่างไฟฟ้า
ที่นี่ผมได้พบเพื่อนใหม่ๆๆมากมาย
  เพื่อนๆผมแต่ละคน
มักไม่ค่อยจะสนใจการเรียนสักเท่าไหร่
วันๆ ก็โดดเรียนบ้างไปดูหนัง ไปเที่ยวห้าง
  และบางทีก็ไปนั่งดื่มสุรา
เรื่องสูบบุหรี่ ไม่ต้องพูดถึง
 เพื่อนพวกนี้่สูบบุหรี่กันทุกคน
บางคนก็เล่นยา ก็ไอ้ยาบ้านั่นแหละ
แทบทุกคนมีแฟนที่ยังเป็นนักเรียนมัธยมกันทั้งนั้น
  เอ...ผมจะเรียกว่าแฟนหรือเรียกว่าเมียดีล่ะ 
  ก็มันนอนร่วมกันหมดทุกคนแล้วน่ะ
  ซึ่งผมเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาในยุคสมัยนี้ 
 สำหรับผมก็มีบ้างแต่ผมไม่เสพยา
เพราะผมกลัวพ่อแม่รู้จะเสียใจน่ะ
วันหนึ่ง เพื่อนผมชวนกันไปสักยันต์
มีเพื่อนหลายคนที่เคยสักยันต์ไว้แล้ว 
 สำหรับผมก็สนใจมาก
เมื่อเพื่อนชวนผมจึงไปลองสักดู
  แต่ผมไม่กล้าสักใหญ่ๆหรอกนะ
กลัวพ่อแม่ดุเอาผมจึงสักชิ้นเล็กๆ
 เป็นคำภาษาอังกฤษ ว่า LOVE
บนหลังมือข้างซ้ายน่ะ เวลาสักก็เจ็บมาก
 แต่ก็อยากสักเหมือนเพื่อนๆกัน

พ่อแม่ไม่สังเกตุจึงไม่รู้เวลาอยู่ต่อหน้า
ผมก็เอามือขวาทับหลังมือซ้ายไว้ก็มองไม่เห็นแล้ว
ผมมานะอุส่าห์เรียนจนจบอาชีวะ
  แล้วก็เริ่มออกหางานทำ
ผมสมัครงานตามบริษัทต่างๆ หลายบริษัท
สอบผ่านบ้างไม่ผ่านบ้าง
แต่ก็ได้เข้าไปสัมภาษณ์หลายบริษัทเช่นกัน
   เมื่อถึงคราวสัมภาษณ์
คนสัมภาษณ์ก็จะซักถามเรื่องความถนัดของผม
  และเรื่องอื่นๆบ้างประกอบการพิจารณา
และคำถามสุดท้ายที่ซักถามก็คือ
คุณมีรอยสักยันต์ ในตัวบ้างหรือไม่
  แรกๆผมก็ยอมรับว่ามี
แต่มีเพียงที่เดียวเล็กๆหลังมือเท่านั้น 
 คนสัมภาษณ์ผมก็ไม่พูดอะไร

เพียงแต่บอกว่าให้คอยฟังผล
ถ้าได้เขาจะมีหนังสือเรียกตัวไปที่บ้าน
เป็นเช่นนี้หลายบริษัท
แต่ผมก็ไม่ได้รับการเรียกตัวสักที
จนวันหนึ่งผมได้เข้าสัมภาษณ์บริษัท
 ซึ่งคราวนี้ผมได้สัมภาษณ์
กับผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปีเศษ 
 บุคคลิกเธอดีมากผมได้รู้ว่าเธอเป็นกรรมการผู้จัดการ
และเธอจะเป็นผู้สัมภาษณ์ในครั้งสุดท้าย
ก่อนจะรับเข้าทำงาน เธอพูดคุยดีมาก 
 ซักถามผมเรื่องเกี่ยวกับความรู้ความสามารถ
ที่ผมจะต้องนำมาใช้ในการทำงาน
  นอกจากนั้นเธอยังให้คำแนะนำว่า
ให้ตั้งใจทำงานให้ดีจะมีความก้าวหน้า
ในหน้าที่การงานต่อไปได้
จากนั้นเธอก็ถามถึงผมว่า 
 ผมเคยสักยันต์หรือเปล่า
เอาละซิคำถามสุดท้ายก็เหมือนกับทุกๆบริษัท
ที่ผมไปสมัครมานั่นแหละ
   ผมก็บอกไปจะให้ผมโกหกได้อย่างไรเล่าก็มันเห็นชัดๆ
  ไม่สามารถใส่เสื้อคลุมได้ 
 ไอ้ครั้นจะใส่ถุงมือไปสัมภาษณ์ก็กระไรอยู่
ไม่มีใครเขาทำกันหรอกนะ
เธอยิ้ม...และถามผมว่าสักมาตั้งแต่เมื่อไรล่ะ
ผมก็บอกเธอว่าสักเมื่อครั้งยังเรียนหนังสืออยู่
เธอจึงบอกว่าเธอพอใจผมมาก
เพราะผมเป็นคนซื่อถามอะไรก็ไม่โกหก
เธออยากรับผมเข้าทำงาน
   แต่บริษัทไม่ต้องการคนที่มีรอยสักในตัวหรอก
ถึงแม้ปิดบังไว้ ถ้าเมื่อไหร่บริษัทรู้ก็โดนไล่ออกอยู่ดี
เพราะรอยสักนี้บริษัทถือว่า
เราอาจจะเป็นคนเกเรมาก่อน 
 และไม่รู้ว่าขนาดไหน
จึงตัดสินใจไม่รับเข้าทำงานดีกว่า
  เพราะไม่อยากให้เข้ามาเป็นหัวโจกในโรงงาน 
 ซึ่งหลักการณ์นี้มีเกือบทุกบริษัทแหละ
เพราะเขาทำธุรกิจ
เขาไม่ต้องการให้เกิดเหตุใดๆ
ทำให้ธุรกิจเขาดำเนินการไปไม่ได้เขาจะขาดทุน
ดังนั้น นี่คือเหตุผลใหญ่ๆ
ที่เขาจะไม่รับคนมีรอยสักเข้าทำงาน
แต่เธอก็ยังให้โอกาสผมอีก
  เธอบอกว่าเธอต้องการรับผมเข้าทำงานด้วย
แต่มีเงื่อนไขที่ผมต้องไปลบรอยสักหลังมือออกก่อน
  เมื่อลบเสร็จเมื่อไร
ก็มาหาเธอได้ เธอจะรับผมเข้าทำงานทันที 
 ซึ่งผมก็รับคำและไปลบรอยสักออก
  เวลาลบรอยสักน่ะเจ็บกว่าโดนสักสักร้อยเท่าเชียวนะ
ผมต้องอดทนจนน้ำตาไหลเพราะความเจ็บ
  แต่ก็ลบได้โดยยังมีรอยอยู่บ้าง
แต่นานๆเข้าก็จะหายไปเอง ผมต้องเจ็บตัวถึงสองครั้ง
ไม่เกิดอะไรดีกับผมเลยนอกจากความอยากเท่ห์
เมื่อวัยคะนองของผมเท่านั้น
ปัจจุบันนี้ผมได้เข้าไปทำงานกับเธอแล้ว
และอยากเตือนน้องๆทุกคนว่า
หากคิดจะได้งานดีๆทำในอนาคต
และก็อย่าคิดสักสิ่งใดๆลงไปในตัวเองเลย
  เพราะนอกจากจะเจ็บแล้ว อนาคตยังหางานทำยาก
นอกจากงานที่เราจะทำของเราเอง
  และอย่าหวังเลยว่าบริษัทใหญ่ๆ
งานดีๆเขาจะรับเราเข้าทำงาน
   จึงขอให้เอาเรื่องของผมเป็นอุทาหรณ์
ให้น้องๆทุกคนได้รู้ไว้
  แล้วใช้ดุลยพินิจพิจารณาเอาก็แล้วกัน.



✵ ✵ ✵ ✵ ✵ ✵ ✵ ✵ ✵









Create Date : 03 พฤษภาคม 2554
Last Update : 5 กรกฎาคม 2559 14:22:45 น.
Counter : 29996 Pageviews.

12 comments
  
จริงค่ะที่บริษัทก็ไม่รับคนที่มีรอยสักไม่ว่า ญ/ช ถึงขั้นถอดเสื้อดูกันเลยทีเดียว ไม่ไช่คนที่มีรอยสักจะเป็นคนไม่ดี ไม่รู้เค้าเอาอะไรมาวัดคุณภาพของคน แต่เหมือนจะเป็นบรรทัดฐานของสังคมมากกว่า...
โดย: Dalapat วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:56:35 น.
  
มาอ่านช้าแร้วดิสักปายแร้วอ่ะน๊

คือว่าหนูอายุ14สักปายแร้วคงม่ายผิดหรอกเนอะ

เค้าคงม่ายหั้ยผุ้หยิงถอดเสื้อตรวจหรอกมั้ง

คือความคิดหนูเองน๊ค่ะ
โดย: เด็กม.3 IP: 110.49.241.209 วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:13:44:33 น.
  
ขนาดเรียนอยู่ชั้น ม. 3 แล้ว ยังเขียนภาษาไทยไม่ถูกต้องเลย น่าห่วง
ประเทศไทยจริงๆๆ เพราะพวกหนูคืออนาคตของชาติ เมื่ออนาคตของ
ชาติไม่สนใจในภาษาของเราเองแล้ว ต่อไปเราจะไปคุยให้ใครเขาฟัง
ได้ล่ะว่าประเทศไทยมีภาษาของเราเอง ความภูมิใจในไทยจะสูญหาย
ไปในไม่ช้าแน่นอน โปรดร่วมมือร่วมใจกันอนุรักษ์ภาษาไทยเราไว้
เถอะหนูเอ๊ย ประเทศบางประเทศเขายังไม่มีภาษาของเขาใช้เองเลย
ต้องไปพึ่งพิงภาษาต่างประเทศมาใช้ ถ้าพวกเราไม่อนุรักษ์และกลับ
ไม่สนใจความถูกต้องของภาษาไทยเราแล้ว ในอนาคตภาษาไทยที่
เราภาคภูมิใจหนักหนาก็จะสูญสิ้นไปในที่สุด มันเศร้าจริงๆๆๆ
โดย: tangkay วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:15:25:46 น.
  
คำว่า LOVEนะ ไม่ใช่การสักยันต์หรอกนะหนู แล้วอีกอย่างนึง ทำไมไม่สักไว้ที่มันอยู่ในร่มผ้าละครับๆ
โดย: คนชอบสักยันต์ที่เป็นยันต์จริงๆ IP: 223.205.227.160 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:11:57 น.
  
อืมม อ่านแล้วก็ งง นี่เค้าเรียกสักแฟชั่นหรือ Tattoo นี่นา...แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่นำมาเตือนน้องๆกันค่ะ

ปล.สักเหมือนกัน แต่เป็นยันต์มีครูค่ะไม่ใช่แฟชั่น ^^
โดย: พิม IP: 183.88.25.139 วันที่: 5 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:13:15 น.
  
มีงานดี ๆ ทำเแล้วงานค่อยสักก็ได้นิไม่เห็นมีใครว่าเลย
โดย: aa IP: 182.255.14.56 วันที่: 13 มีนาคม 2556 เวลา:15:22:23 น.
  
อย่าว่าแต่เอกชนเลย ขนาดราชการ รึ วิสาหกิจ ก็ไม่รับนะ น่าเห็นใจพวกที่สอบเข้าได้
โดย: ทำดี IP: 49.49.212.51 วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:16:07:53 น.
  
เด่วนี้มันมีน้ำยาลบรอยสักแล้วค่าบบบ

ขวด ประมาน 2 พัน 3 พัน

ใช้แค่ทาค่าบบ จนถึงตอนนี้ ลอยแผลลอยสัก มันหายไปหมดแล้ว

ไม่มีรอยแล้วค่าบบบ สมัยนี้ลบง่ายมากคับ
โดย: mast IP: 49.230.175.253 วันที่: 3 มกราคม 2557 เวลา:22:40:04 น.
  
สักยันต์เต็มตัวนะครับ แต่ใต้ร่มผ้า เปนวิดวะไฟฟ้าระดับหัวหน้า สมัครงานที่ไหนเขาก้อรับ คนมันเก่ง ถ้าไม่มีใครรับน้องมาสมัครเปนลูกน้องพี่ พี่ับเอง บ ไทยยูเนี่ยนฟลอเซ่น
โดย: สักเหมือนกัน IP: 111.84.19.7 วันที่: 18 มกราคม 2557 เวลา:10:16:38 น.
  

แล้วถ้าสักยันลงคาถาจะลบได้หรอ มันจะผิดหรือป่าว มีวิธีแก้ไหม
โดย: หมูน้อย IP: 110.169.247.68 วันที่: 23 มกราคม 2557 เวลา:2:33:44 น.
  
ผมอายุ 14 คับ สักมาแล้ว แต่ ของมี ครู ผมสักลิงลม
สำหรับ คนที่ สัก สักได้แต่ ทางที่ดี อย่า ลงหมิก ลง
น้ำมันดี กว่า เพราะ ทำงานไม่ได ไม่มีที่ไหน อยากได้
คนสัก มาทำงาน หรอก ผมคิดแล้ว เลยสักน้ำมัน
โดย: mix IP: 171.101.86.213 วันที่: 18 เมษายน 2557 เวลา:23:22:01 น.
  
ถ้ารอยสักเล้กๆใช้สีเนื้อสักทับได้ครับทำ2-3รอบไม่้จ็บเหมือน
ลบกับเลเซอร์
โดย: cig rayong IP: 1.47.168.125 วันที่: 1 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:31:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ