Keeping an eye on pop culture. Because I said so.
Group Blog
 
All Blogs
 
รักหรือพึ่งพา

เรื่อง : แหนง-ดู 23/07/07

หลายครั้งระหว่างติดรถเพื่อนร่วมงานกลับบ้านในยามค่ำคืน วิทยุที่เพื่อนเปิดทิ้งไว้มักจะเป็นรายการประเภทเปิดโอกาสให้ผู้ฟังโทรศัพท์เข้ามาเล่าปัญหาของตัวเอง

แม้บางครั้งจะรู้สึกว่า รายการที่ฟังอยู่นั้นเศร้าสร้อยหดหู่เกินไป หลังวันอันหนักเหนื่อย เราควรได้ฟังเพลงหรือเรื่องบันเทิงใจมากกว่า แต่ด้วยสีสันและเรื่องราวของผู้คนเหล่านั้น ทำให้เราตัดใจไม่ฟังไม่ได้สักที เมื่อได้ฟังรายการนี้หนทางกลับบ้านก็ดูจะสั้นลง บ่อยครั้งที่รู้สึกเสียดาย เพราะฟังยังไม่จบเรื่อง แต่ต้องลงจากรถไปก่อน เพื่อนของผู้เขียนมาสารภาพทีหลังว่า บางครั้งแม้ถึงบ้านแล้ว แต่เขายังนั่งอยู่ในรถเพื่อฟังต่อจนจบ

สำหรับคนฟังแล้ว การโทรศัพท์เข้าไปในรายการวิทยุนั้นก็เปรียบเหมือนได้พบจิตแพทย์ ได้ระบายเรื่องราวคั่งค้างข้างในออกมา อาจจะไม่ช่วยแก้ไขอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยที่สุดการตระหนักรู้ตัวว่า ปัญหาเกิดขึ้นและมีอยู่ก็เป็นหนทางสู่การแก้ไขได้ ขณะที่คนฟังรายการก็ได้รู้จักบางส่วนเสี้ยวของสังคม ได้ข้อคิดไปใช้ หรือถ้าจะว่ากันจริงๆ แล้ว ฟังไปเพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นเรื่องราว ซึ่งเป็นธรรมชาติมนุษย์นั่นล่ะ

หลังจากฟังมาแล้วหลายครั้งก็พบว่า เรื่องราวที่ถูกเล่าผ่านรายการวิทยุนั้นมักจะเป็นเรื่องราวของความรัก โดยเฉพาะรักที่ผิดหวัง เราได้ติดตามเรื่องราวความรักของ “ทอม” “ดี้” คู่หนึ่งซึ่งรักกันมากมายมาเนิ่นนานหลายปี แต่สุดท้ายฝ่ายดี้ก็ตัดใจเพราะว่า แม่ขอร้อง เธอทำใจด้วยการย้ายจังหวัดหนีและไม่รับโทรศัพท์เขาอีกต่อไป จากที่เคยปวดร้าวสุดๆ ก็เปลี่ยนเป็นความเคยชินและลืม

อีกวันหนึ่งเราได้ฟังชายหนุ่มคนหนึ่งมาพรรณนาถึงความรักซึ่งไม่ง่าย เมื่อคู่ของเขาติดเชื้อเอชไอวี และวันต่อมาชาย-หญิงคู่หนึ่งโทรศัพท์มาพูดเหมือนๆ กันว่า เมื่อความรักจากไป สิ่งแรกที่พวกเขานึกถึงคือ การฆ่าตัวตาย ด้วยความปวดร้าวอย่างไม่มีอะไรเทียบเทียม

อา นั่นเรียกว่า ความรักจริงๆ หรือเป็นเพียงแค่บางสิ่งที่ใกล้เคียงกัน

แท้จริงแล้ว ที่คิดว่า รักนั้น อาจจะเป็นแค่ภาวะพึ่งพิง โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ

เพราะอยู่คนเดียวก็เหงาใจเศร้าสร้อย มีใครสักคนอาจจะดีกว่า จากที่เคยอยู่ได้ด้วยตัวเอง กลับยกทุกอย่างในชีวิตให้ไปขึ้นอยู่กับใครอีกคนแทน

และไม่ว่าด้วยเหตุใด เมื่อคนนั้นจากไป ชีวิตจึงราวกับพังทลาย ความรู้สึกปลอดภัยมั่นคงจากการพึ่งพิงเขาก็สลายไปด้วย

ตามมาคือ อาการอกหัก ชนิดกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลแล้ว และ “อยากตาย” เพื่อบูชาความรัก (ที่คิดว่าใช่) หลายคนบอก “ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป หากไม่มีเขา (หรือเธอ)”

ฟังดูแล้วรู้สึกน่าเห็นใจ น่าเป็นห่วง ความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะรักจากไป อาจจะเป็นเพียงแค่การลวงหลอกใจตัวเอง เป็นความเข้าใจผิด แต่ถ้าเพียงพวกเขาได้ย้อนกลับไปคิดถึงว่า ก่อนที่จะมีเขา (หรือเธอ) เรามีชีวิตอยู่ได้อย่างไร

ความรักที่แท้ไม่ควรทำให้เกิดเรื่องเศร้าถึงเพียงนี้ แม้จะไม่มีเขา (หรือเธอ) แต่สิ่งที่เกิดนั้นอาจจะเป็นเพียงภาวะพึ่งพิง ภาวะที่ต้องมีใครสักคนเพื่อจะอยู่รอดและดำเนินชีวิตต่อไป แท้จริงแล้วเป็น “ภาระ” หาใช่ “ความรัก” ไม่

ที่เข้าใจว่าเป็นความรักนี้ ทำให้ชีวิต (ทั้งของเราและของเขา) ไม่มีทางเลือกและขาดอิสรภาพ

ในนามของความรัก ไม่ควรจะทำให้ใครถูกลิดรอนเสรี ความรักควรให้ที่ว่างเพื่อทุกคนจะได้ดำรงชีวิตด้วยตัวเอง ในห้วงของความรัก ทุกคนควรมีอิสรภาพ แต่ละคนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ทุกข์ใจ การได้อยู่ด้วยกันหมายถึงว่า เราจะมีความสุขมากขึ้น แต่แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ก็ไม่ควรทุกข์ใจขนาดถึงกับอยู่ไม่ได้

คนหัวใจสลายที่โทรศัพท์เข้ามาในรายการวิทยุนั้น เกือบทุกคนผ่านช่วงเวลา “อยากตายเพราะความรัก” มาแล้วด้วยวิถีของตัวเอง แต่คนที่ไม่รอดมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ใครฟังได้ล่ะจะมีกี่คน

ชีวิตควรจะดำเนินต่อไป แม้จะปราศจากใครบางคน เราไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงคนคนหนึ่งเพื่อที่จะให้ชีวิตมีความสุข เราอาจต้องพึ่งบางคนในบางเรื่อง แต่ไม่มีใครที่เราขาดไม่ได้ แน่ล่ะ เมื่อไม่มีใครบางคนในชีวิต อาจทำให้เกิดความรู้สึกเชิงลบอยู่แล้ว แต่เวลาจะช่วยให้เราผ่านไปได้ @


Create Date : 28 มกราคม 2551
Last Update : 28 มกราคม 2551 2:49:11 น. 0 comments
Counter : 189 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Nd_Bangkok
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Nd_Bangkok's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.